พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

การเติบโตและพัฒนาการ

ลูกเล่นกีฬา พ่อแม่จะป้องกันอย่างไรให้ลูกห่างไกลจากอาการบาดเจ็บ

ลูกเล่นกีฬา เป็นการออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นอกจากนั้น การเล่นกีฬายังเป็นการช่วยส่งเสริมมิตรภาพระหว่างเด็ก ๆ และส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมอีกด้วย แต่เมื่อลูกเล่นกีฬาทำให้มีโอกาสเสี่ยงเกิดอาการบาดเจ็บ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจหาวิธีป้องกันและการดูแลเมื่อลูกบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา [embed-health-tool-bmi] ลูกเล่นกีฬา ต้องเจอความเสี่ยงกับอะไรบ้าง การเล่นกีฬาแทบทุกประเภทมักเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บ ยิ่งกีฬาที่เล่นมีความเสี่ยงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากเท่านั้น โดยการบาดเจ็บจากกีฬาที่มักจะพบบ่อยที่สุดก็คือ อาการเคล็ดขัดยอก บาดเจ็บที่เส้นเอ็นข้อเท้า บาดเจ็บกล้ามเนื้อ และบาดเจ็บที่กระดูก ซึ่งอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นบนเอ็นข้อต่อและกระดูกนั้น ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังมีการเจริญเติบโต กระดูกมักค่อนข้างเปราะบาง ดังนั้น เมื่อเกิดอาการบาดเจ็บหรือมีอาการบวมที่ข้อต่าง ๆ ควรได้รับการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการให้เคลื่อนไหวร่างกายบริเวณนั้นให้น้อยที่สุด จากนั้นนำเด็กส่งโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญตรวจรักษา วิธีป้องกันลูกบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเล่นกีฬา แต่กลัวว่าลูกจะบาดเจ็บ อาจหาวิธีป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนี้ อย่าแสดงความสามารถพิเศษในการเล่นกีฬาเร็วเกินไป เด็ก ๆ มักต้องการแสดงความสามารถพิเศษในการเล่นกีฬาออกมาเพื่อให้คนรอบข้างชื่นม อย่างเช่น ยิมนาสติก  ฟุตบอล แต่หากฝืนร่างกายมากจนเกินไป อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นได้ และมักจะมาพร้อมกับความเครียดด้วย  ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ปกครองก็คือ ให้ลูกค่อย ๆ ฝึกเล่นกีฬาที่ชอบ และอาจให้ลูกหยุดเล่นกีฬาที่ถนัดอย่างน้อย 3 เดือนในแต่ละปี การหยุดพักเล่นกีฬาไม่เพียงแต่จะเป็นการป้องกันการบาดเจ็บแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเหนื่อยหน่ายทางจิตใจของเด็ก ๆ อีกด้วย โดยอาจหากิจกรรมอื่น ๆ ที่ชื่นชอบรองลงมาเพื่อทดแทนการเล่นกีฬาชนิดนั้น ๆ ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม การเลือกอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่มีขนาดเหมาะสมและพอดีกับตัวเด็ก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก […]


วัยรุ่น

เมื่อเด็ก ติดสื่อลามก จะส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กอย่างไร

ในปัจจุบันสื่อลามกถือว่าแพร่หลายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในโลกโซเชียล เรียกได้ว่าหาดูและเข้าถึงได้ง่ายมากๆ แต่ในทางกลับกันการเข้าถึงสื่อลามกได้ง่ายนั้น ก็มีผลเสียงอย่างร้ายแรงต่อเด็กๆ เพราะเมื่อเด็ก ติดสื่อลามก จะทำให้มุมมองพฤติกรรมทางเพศของพวกเขาเปลี่ยนไป และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตในสังคมได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] รู้หรือไม่ว่าเด็ก ติดสื่อลามาก ได้จากทางไหนบ้าง? ความจริงแล้วเด็กสามารถติดสื่อลามกได้จาก 2 ทางหลังๆ คือ ความบังเอิญ และการได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้จากสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน โดยความบังเอิญนั้นมักจะเกิดขึ้นจากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตที่ผิดพลาด หรือเพราะสื่อลามกนั้นมันอาจถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ การค้นหาที่ผิดพลาดมักเกิดขึ้นได้จากการที่พยายามหาเรื่องเกี่ยวกับบุคคล ภาพยนตร์ หรืออื่นๆ แล้วผลลัพธ์ที่ค้นหาเริ่มทำให้พบลิงก์ที่ต่อไปยังสื่อลามกต่างๆ นั่นเอง อีกหนึ่งสิ่งก็คือ เด็กอาจจะบังเอิญเห็นภาพลามกที่มีอยู่ในอีเมลล์ ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องปกติของการได้รับอีเมล์ที่เป็นสแปม ถึงแม้จะมีป้ายกำกับบอกเอาไว้ แต่ก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะคลิกเข้าไปในอีเมล์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร จากการสำรวจความคิดเห็นของไซแมนเทค (Symantec) ในปี 2003 ระบุเอาไว้ว่า จากเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี 1,000 คน มีถึง 1 ใน 5 ที่เปิดอีเมล์ขยะที่ถูกส่งมายังอีเมล์ของพวกเขา นอกจากนั้นแล้วหากสมาชิกในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น คู่สมรส เด็ก หรือเพื่อน มีประวัติการค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวกับความลามกอนาจาร มันจะทำให้ลูกของคุณนั้นสามารถเข้าถึงสื่อลามกได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อใช้อุปกรณ์ของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณดาวน์โหลดเนื้อหาลามกอนาจารต่างๆ เอาไว้ในคอมพิวเตอร์ นั่นก็ยิ่งจะมีโอกาสเสี่ยงสูงที่เด็กๆ จะสามารถพบเจอได้ และอย่างที่ทราบกันดีว่าเด็กๆ นั้นมักจะมองคุณเป็นแบบอย่างเสมอ […]


ปัญหาสุขภาพเด็กแบบอื่น

โรคโมยาโมยา ในเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ ไม่สามารถประมาทได้

ถึงแม้ โรคโมยาโมยา จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก และยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ก็สามารถส่งผลอันตรายร้ายแรงแก่ลูกน้อย ดังนั้น จึงควรเรียนรู้วิธีการสังเกตอาการ ควรถึงวิธีการรักษาอย่างเหมาะ เพื่อสุขภาพของลูกน้อย [embed-health-tool-vaccination-tool] รู้จักกับ โรคโมยาโมยา ที่คุณพ่อคุณแม่ศึกษาไว้ โรคโมยาโมยา (Moyamoya disease) ในภาษาญี่ปุ่นนั้นแปลได้ว่า กลุ่มควัน สาเหตุที่เรียกเช่นนี้ เป็นเพราะผนังหลอดเลือดแดงภายในสมองหนาขึ้นจนเกิดการอุดตัน ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนที่จำเป็นไปเลี้ยงสมองลดลง แต่ก็ยังคงมีเส้นเลือดกลุ่มอื่นๆ ที่คอยสนับสนุนโดยการลำเลียงเลือดเข้าไปช่วย จนเกิดเป็นกลุ่มก้อนบริเวณรอบๆ คล้ายกลุ่มควันลอยตัว ส่วนใหญ่โรคโมยาโมยาพบได้มากทางด้านแถบเอเชียตะวันออก และสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับเด็ก 5-10 ขวบขึ้นไป โรคนี้จะไม่ได้แสดงอาการในทันที แต่ค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ ตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 หลอดเลือดแดงคาโรทิด (carotid arteries) เริ่มมีการจำกัดการลำเลียงเลือด ขั้นที่ 2 หลอดเลือดมีผนังที่ขยายใหญ่ขึ้นจนเกิดการอุดตันขึ้น ขั้นที่ 3 มีแรงกดจากผนังที่หนาขึ้นจนทำให้การไหลเวียนเลือดของสมองส่วนหน้าและส่วนกลางลดลง ขั้นที่ 4 การอุดตันหลอดเลือดลุกลามไปยังสมองส่วนหลัง ขั้นที่ 5 สมองทุกส่วนเกิดการขาดเลือดและก๊าซออกซิเจนไปเลี้ยง ขั้นที่ 6 เป็นการอุดตันของหลอดเลือดแดงคาโรคทิดทั้งภายในและภายนอกโดยสมบูรณ์ หากคุณพ่อคุณแม่ชะล่าใจ หรือประมาทแม้แต่เล็กน้อย อาจทำให้ลูกรักของคุณสูญเสียการทำงานของร่างกายอย่างถาวร ยากที่จะคืนสภาพกลับมาเป็นดังเดิม  อาการที่บ่งบอกว่าลูกน้อยของคุณควรเข้าปรึกษาแพทย์ […]


สุขภาพเด็ก

โรคปอมเป คืออะไร จะสังเกตอาการและรักษาได้อย่างไร

ถึงแม้ โรคปอมเป จะเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากกับทารก หรือลูกน้อยของคุณ แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถประมาทได้ เพราะโรคนี้มีความรุนแรงสูง เสี่ยงต่อสุขภาพร่างกายของเด็กแรกเกิดอย่างมาก วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาคุณพ่อคุณแม่ทุกคน มาทำความรู้จักลักษณะอาการเพื่อให้ลูกรักได้รับการรักษาอย่างเท่าทัน ทำความรู้จักกับ โรคปอมเป ก่อนจะสายเกินแก้ โรคปอมเป (Pompe Disease) เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อของทารกอ่อนแรง ซึ่งเกิดจากการขาดเอนไซม์ในการย่อยสลายโมเลกุลขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า ไกลโคเจน (glycogen) นอกจากจะไปทำลายระบบกล้ามเนื้อแล้ว ยังสามารถทำให้ระบบหายใจบกพร่อง และสร้างความเสียหายไปยังตับได้อีกด้วย ประเภทของโรคปอมเปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท หรือตามช่วงอายุ ดังนี้ ชนิดที่เริ่มเป็นตอนแรกเกิด (Classic infantile-onset) ชนิดที่เริ่มตั้งแต่ในวัยทารก (Non-classic infantile-onset) ซึ่งอาจยังไม่แสดงอาการมากนัก แต่จะค่อยๆ ปรากฎขึ้นเมื่อทารกมีอายุได้ 1 ปี ชนิดที่เริ่มเป็นในวัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่ (Late-onset) ชนิดนี้มีความรุนแรงน้อยลงกว่า 2 ชนิดแรก และอาจเริ่มมีอาการหลังอายุ 1 ปี หรือช่วงวัยรุ่น จนไปถึงวัยผู้ใหญ่ได้ อาการที่บ่งบอกว่าลูกน้อยคุณควรเข้ารับการรักษา อย่างเร่งด่วน คุณพ่อคุณแม่สามารถเช็กอาการของลูกได้ตั้งแต่กำเนิด หากพบความผิดปกติ ควรรีบขอคำแนะนำแนวทางการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์โดยทันที อาการแรกเริ่มของทารกนั้นมี ดังต่อไปนี้ กล้ามเนื้ออ่อนแรง พบข้อบกพร่องเกี่ยวกับหัวใจในเด็ก […]


เด็กทารก

ลูกฟันขึ้น สัญญาณ และวิธีการดูแลที่ควรรู้

ลูกฟันขึ้น เป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของลูก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเจริญเติบโต ฟันจะช่วยให้ลูกสามารถเคี้ยว ยิ้ม และพูดคุยได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่มีส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุน และคอยดูแลสุขภาพในช่องปากของลูก โดยเฉพาะกับการจัดการอาการปวดเหงือกในช่วงที่ฟันเริ่มขึ้น ลูกฟันขึ้น จะเริ่มเมื่อไหร่ ฟันน้ำนมของทารก จะอยู่ภายในกรามของทารกตั้งแต่แรกเกิด แล้วจะค่อยๆ งอกขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งฟันนั้นดันทะลุเหงือกขึ้นมา แล้วกลายเป็นฟันน้ำนมที่เราคุ้นเคย ตามปกติแล้ว เราจะเริ่มมองเห็นฟันซี่แรกของลูก เมื่อลูกมีอายุประมาณ 6 เดือน แต่ก็อาจจะมีเด็กทางคนที่ฟันไม่ขึ้น จนกว่าจะมีอายุประมาณ 1 ปี โดยฟันที่จะเริ่มขึ้นมาก่อน มักจะเป็นฟันหน้าส่วนล่าง แล้วตามด้วยฟันหน้าส่วนบน และฟันซี่อื่นๆ ไปจนถึงฟันกรามในลำดับสุดท้าย ฟันมักจะขึ้นจนครบหมดปาก เมื่อเด็กมีอายุประมาณ 3 ปี ฟันเหล่านี้คือฟันน้ำนม ที่มักจะมีอายุประมาณ 10-12 ปี ก่อนที่จะหลุดออกไป แล้วมีฟันแท้มาแทนที่ในภายหลัง ลูกฟันขึ้นจะมีอาการอย่างไรบ้าง ฟันของลูกที่เริ่มงอกขึ้นมานั้น อาจนำมาซึ่งความรู้สึกไม่สบาย หมั่นเขี้ยว และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหงือกและช่องปาก โดยอาการที่สามารถพบเห็นได้บ่อยมีดังต่อไปนี้ มีน้ำลายเยอะ สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็น คือการที่ลูกมักจะมีน้ำลายเยอะขึ้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากการที่เหงือกได้รับการกระตุ้น ทำให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายออกมาเป็นจำนวนมาก ชอบกัด การที่ฟันดันเหงือกขึ้นมาจะทำให้เด็กรู้สึกคันฟัน หมั่นเขี้ยว รำคาญ และเกิดความต้องการที่จะกัดของต่างๆ ที่อยู่ใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม เตียง ขวดนม […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

วันเด็กแห่งชาติ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกเที่ยวและดูแลอย่างไร

วันเด็กแห่งชาติ เป็นวันที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนานและความรู้ แต่สำหรับเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเตรียมตัวมากเป็นพิเศษ เนื่องจาก ลูกอาจจะยังไม่สามารถควบคุมตัวเองและอารมณ์ได้ดีเท่ากับผู้ใหญ่ นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่พลุกพล่าน ดังนั้น ความปลอดภัยในการพาลูกเที่ยวก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] 5 ข้อดีของการพาลูกเที่ยวงาน วันเด็กแห่งชาติ การพาลูกเที่ยวในวันเด็กแห่งชาติอาจมีข้อดีทั้งต่อตัวลูกและคุณพ่อคุณแม่ ดังนี้ เสริมสร้างความผูกพันในครอบครัว ลูกได้ทำกิจกรรมที่ต่างออกไปจากเดิม ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ได้พบเจอ เสริมสร้างพัฒนาการต่าง ๆ ของเด็ก เช่น การร่วมกิจกรรม การเจอเพื่อนใหม่ การเข้าสังคม รวมถึงการพบเจอกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากบ้านและโรงเรียน การต่อคิวทำกิจกรรมเป็นหนึ่งวิธีฝึกวินัยที่เป็นรูปธรรมให้เด็กได้เรียนรู้และได้เห็นนอกเหนือจากในห้องเรียน เด็กอาจจะได้พบสิ่งที่ตัวเองสนใจจริง ๆ จากการเที่ยวเป็นการต่อยอดให้กับตัวเองในอนาคต  ป้องกันเด็กหลง ในช่วงเทศกาลวันเด็กแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม งานวันเด็กที่มีเด็ก ๆ จากทั่วทุกสารทิศมาร่วมกิจกรรม ย่อมมีมิจฉาชีพเข้ามาแอบแฝง ดังนั้น ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่และลูกกำลังสนุกกับการทำกิจกรรม ควรมีวิธีในการป้องกัน ดังนี้ ทราบรูปพรรณของลูก ส่วนสูง น้ำหนัก ตำหนิ สีเสื้อผ้าที่สวมใส่ ถ่ายรูปล่าสุดพร้อมชุดที่สวมใส่ของลูกก่อนออกจากบ้าน ทำป้ายชื่อ เบอร์ติดต่อครอบครัวติดตัวเด็กไว้ สอนลูกว่า หากพลัดหลง ต้องนัดเจอกันจุดไหน และให้ใครช่วยเหลือ […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

วิธีฝึกให้ ลูกคิดบวก มีอะไรบ้าง

การคิดบวกต่อประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้รู้จักรับมือและแก้ไขปัญหาได้ การคิดบวกนี้สามารถปลูกฝังได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาเทคนิคการสอนให้ ลูกคิดบวก เพื่อเตรียมตัวให้ลูกสามารถเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยทัศคติที่ดีเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ [embed-health-tool-bmi] ลูกคิดบวก ดียังไง การสอนให้ลูกคิดบวก หมายถึง การชี้แนะและเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือในทางที่สร้างสรรค์ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ ยอมรับ และคิดหาวิธีจัดการกับสถานการณ์นั้น ๆ โดยไม่ย่อท้อหรือหมดกำลังใจไปก่อน นอกจากนั้น การสอนให้ลูกคิดบวกยังมีประโยชน์ ดังนี้ รับมือกับความเป็นจริงได้ดีกว่า การสอนให้ลูกคิดบวกเป็นการเตรียมพร้อมให้ลูกเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม โดยจะทำให้ลูกมองสิ่งต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจ มองเห็นหรือพยายามทางหาออกเมื่อเกิดปัญหา และสามารถแก้ไขได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ เมื่อมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต จะช่วยให้ลูกมีทักษะการจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรับตัว พร้อมรับมือกับแรงกดดันและความตึงเครียดจากการใช้ชีวิตเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ได้ง่ายขึ้น ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิดได้ง่ายนัก เมื่อฝึกให้ลูกมองโลกในแง่บวก ลูกจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่จะถูกชักจูงไปในทางเสียหาย เช่น การใช้ยาเสพติด การเล่นการพนัน ทำให้ชีวิตมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ มีอนาคตที่สดใส และมีความสุขได้ง่าย ตัวอย่างแนวคิดที่สะท้อนการคิดบวก ผู้ที่คิดบวกมักมีแนวคิดและทัศนคติในการมองโลก ดังนี้ มองเห็นข้อดีของสถานการณ์ต่าง ๆ พยายามที่จะหาทางออกให้ปัญหามากกว่าจมอยู่กับปัญหา รู้สึกซาบซึ้งกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มีความสุขในสิ่งที่ตนเองมี รับผิดชอบในการกระทำของตนเอง เข้าใจความต้องการของผู้อื่นด้วยการเปิดใจรับฟังความคิดเห็น […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

Mom Shaming คืออะไร ช่วยทำให้กลายเป็นแม่ที่ดีได้จริงหรือ

Mom Shaming หรือการวิพากษ์วิจารณ์แม่ เป็นเทรนด์หนึ่งที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป ตั้งแต่จากคนใกล้ตัว เพื่อนบ้าน ไปจนถึงภายในโลกออนไลน์ ที่มักจะตัดสินคุณแม่ที่เลี้ยงลูกแบบผิด ๆ ว่าเป็นแม่ที่ไม่ดี และวิพากษ์วิจารณ์ ต่อว่า หรือประณามคุณแม่เหล่านั้น แต่ยังคงมีข้อสงสัยหนึ่งว่าในการประณามแม่นั้น จะช่วยให้แม่ที่ไม่ดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลายเป็นแม่ที่ดีได้จริงหรือ Mom Shaming คืออะไร การประณามแม่ (Mom Shaming) หมายถึงการรังแก หรือวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะการเลี้ยงลูกของแม่คนนั้นอย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นการต่อว่าต่อหน้าตรงๆ พูดคุยในกลุ่มสนทนา หรือการโพสประจารณ์บนโลกออนไลน์ ทำให้คุณแม่คนนั้นรู้สึกผิดหรือสงสัยในตัวเอง ในปัจจุบันเราสามารถเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกได้จากแหล่งความรู้ต่างๆ ทั้งหนังสือ เว็บไซต์ หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูก จึงอาจทำให้หลายคนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ทำตัวเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” และเผยแพร่คำแนะนำของตัวเองให้กับผู้อื่น หรือตักเตือนผู้ที่อาจจะเลี้ยงลูกในลักษณะที่ “ไม่ถูกต้อง” ตามความเข้าใจของพวกเขา โดยที่คำแนะนำเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องถูกต้องเสมอไป ลักษณะที่พบอาจมีดังต่อไปนี้ ติเรื่องการไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เราอาจจะทราบกันอยู่แล้วว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นมีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อตัวแม่และตัวเด็ก จึงทำให้หลายๆ คนสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และอาจจะติเตียนผู้ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผง แต่ในความเป็นจริงนั้น คุณแม่บางคนอาจจะมีเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถเลือกที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือมีเหตุผลที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมผง การติเตียนและวิจารณ์ตัวเลือกของผู้อื่นจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก ตั้งคำถามเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกผู้อื่น หลายคนมักจะชอบที่จะเป็นกังวล และสงสัยเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกผู้อื่นอยู่เสมอ เช่น ทำไมลูกของเธอถึงยังไม่คลานล่ะ ลูกพูดได้รึยัง ลูกยังไม่เดินอีกเหรอ คำถามเหล่านี้จะกลายเป็นการสร้างความกดดันต่อตัวแม่เด็ก […]


โรคผิวหนังในเด็ก

ลูกผิวแห้ง ปัญหากวนใจ ที่คุณแม่ไม่อาจละเลย

ลูกผิวแห้ง อาจเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็ก โดยสาเหตุที่ทำให้ลูกผิวแห้งอาจขึ้นตามธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แต่ในบางครั้ง อาการผิวแห้งที่เกิดขึ้นก็อาจมีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคทางพันธุกรรม ดังนั้น การดูแลทำความสะอาดผิว รวมถึงการบำรุงผิวอย่างถูกต้อง อาจช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งและทำให้สุขภาพผิวของลูกแข็งแรง ลูกผิวแห้ง เป็นอันตรายอะไรหรือไม่ อาการผิวแห้งของลูกอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลใจ หรือไม่แน่ใจว่าอาการผิวแห้งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณของภาวะที่เป็นอันตรายหรือไม่ โดยปกติแล้ว อาการผิวแห้งของเด็กมักจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติตั้งแต่แรกเกิด หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อาการเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นประจำ และสามารถจัดการได้ง่าย ๆ เพียงแค่บำรุงผิวให้ถูกต้อง ในบางครั้ง อาการผิวแห้งของลูกอาจมีสาเหตุมาจากโรคผิวหนังอักเสบหรือโรคทางพันธุกรรม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อทำการวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษาโรคอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ คุณหมอยังอาจตรวจสอบดูว่ามีสัญญาณของการติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น มีหนอง มีอาการบวมตามรอยแตกแห้งของผิวด้วยหรือไม่ สาเหตุที่ทำให้ลูกผิวแห้ง ผิวของทารกและเด็กเล็กมีความบอบบางเป็นอย่างมาก ทำให้ไวต่อสิ่งระคายเคือง และความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมต่าง ๆ จนอาจนำไปสู่ปัญหาผิวแห้งได้ โดยสาเหตุที่อาจทำให้ลูกผิวแห้งอาจมีดังนี้ สภาพอากาศ อากาศที่เย็นและแห้งอาจทำลายชั้นไขมันที่ปกป้องผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดเป็นผิวแห้ง แตก และกระด้าง นอกจากนี้ อากาศที่ร้อนจัดก็อาจทำให้ผิวของเด็กเกิดอาการแห้งได้เช่นกัน เนื่องจากแสงแดดในช่วงหน้าร้อน อากาศในห้องปรับอากาศ และการสูญเสียเหงื่อที่มากจนเกินไป อาจทำให้เด็กขาดน้ำ และส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้ง เป็นตั้งแต่แรกเกิด เด็กทารกหลายคนอาจจะมีผิวแห้งและลอกทันทีตั้งแต่หลังคลอด โดยเฉพาะทารกที่อยู่ในครรภ์มากกว่า 40 สัปดาห์ขึ้นไป และอาการอาจดีขึ้นเองเมื่อโตขึ้น อาบน้ำบ่อยเกินไป การอาบน้ำให้ลูกบ่อยเกินไปอาจเป็นการทำลายน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวหนัง ทำให้ผิวหนังไม่สามารถกักเก็บความชุ่นชื้นไว้ได้ และเกิดเป็นอาการผิวแห้ง หรืออาจจะทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้ว […]


โรคติดเชื้อในเด็ก

Mycoplasma คืออะไร

Mycoplasma คือ เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการหลอดลมอักเสบและการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน สามารถติดต่อสู่กันได้ด้วยการแพร่กระจายระหว่างคนสู่คนผ่านของเหลวในร่างกาย รวมทั้งเสมหะที่มาจากการไอ นอกจากนี้ยังอาจแพร่กระจายผ่านละอองในอากาศด้วยการจาม หรือพูดคุย การติดเชื้อ Mycoplasma มักพบได้บ่อยในเด็กวัยเรียน ทั้งยังอาจเป็นสาเหตุของโรคปอดบวม แต่การติดเชื้อเหล่านี้อาจหาได้ยากในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี Mycoplasma คือ ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการติดเชื้อ Mycoplasma ประมาณ 2 ล้านครั้ง/ปี โดยไมโคพลาสมานั้น เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการหลอดลมอักเสบและการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน สามารถติดต่อสู่กันได้ด้วยการแพร่กระจายระหว่างคนสู่คนผ่านของเหลวในร่างกาย รวมทั้งเสมหะที่มาจากการไอ นอกจากนี้ยังอาจแพร่กระจายผ่านละอองในอากาศด้วยการจาม หรือพูดคุย Mycoplasma อาจแพร่กระจายได้ง่ายที่สุดในหมู่คนที่อยู่ใกล้ชิดกับคนอื่น ซึ่งรวมไปถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ค่ายทหาร ค่ายพัก โรงเรียน รวมไปถึงในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เชื้อ Mycoplasma ยังสามารถแพร่กระจายไปทั่วชุมชนได้อีกด้วย การติดเชื้อ Mycoplasma มักพบได้บ่อยในเด็กวัยเรียน ทั้งยังอาจเป็นสาเหตุของโรคปอดบวม แต่การติดเชื้อเหล่านี้อาจหาได้ยากในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี อาการที่เกิดขึ้นเมื่อเด็กได้รับเชื้อ Mycoplasma โดยปกติแล้ว ความเจ็บป่วยที่เกิดจากเชื้อ Mycoplasma อาจไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่เมื่อผ่านไป 1-4 สัปดาห์อาการอาจจะเริ่มแย่ลง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้หลายประเภท สำหรับโรคที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก ก็คือ หลอดลมอักเสบ (Tracheobronchitis) หรือที่รู้จักทั่วไปว่า […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน