การคุมกำเนิด

การคุมกำเนิด มีจุดประสงค์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยเทคนิคและวิธีการต่าง ๆ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบการคุณกำเนิดที่เป็นไปได้ โดยสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้อยู่ ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

การคุมกำเนิด

ทำหมัน การคุมกำเนิดถาวร วิธีทำหมันหญิงและทำหมันชาย

การคุมกำเนิดเป็นการป้องกันตั้งครรภ์หรือการขัดขวางการตั้งครรภ์ คือ การวางแผนครอบครัววิธีหนึ่ง ช่วยในการกำหนดจำนวนบุตรที่ต้องการ วางแผนการเตรียมความพร้อมก่อนการมีลูก โดยการคุมกำเนิดทำได้หลายวิธี แต่หากต้องการให้การคุมกำเนิดนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตร การทำหมัน ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สามารถทำได้ทั้งการทำหมันหญิงและทำหมันชาย [embed-health-tool-ovulation] วิธีคุมกำเนิด การคุมกำเนิดมีอยู่หลายวิธี แต่ที่คุ้นเคยและใช้กันมาก ๆ คือ ถุงยางอนามัย มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดถึง 98% หากใช้อย่างถูกวิธี ซึ่งมีทั้งถุงยางอนามัยชายและถุงยางอนามัยหญิง การใช้ถุงยางอนามัยยังช่วยเรื่องการป้องกันโรคได้อีกด้วย ส่วนการคุมกำเนิดอื่น ๆ ได้แก่ คุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ ใช้การตกไข่และการมีประจำเดือนมาช่วยในการกำหนดวันปลอดภัยที่จะมีเพศสัมพันธ์ โดยนับช่วงเวลา 7 วัน ก่อนประจำเดือนมาวันแรก และ 7 วัน หลังจากวันแรกที่ประจำเดือนมา แต่วิธีนี้อาจเกิดการคลาดเคลื่อนได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ เพราะวันไข่ตกของผู้หญิงแต่ละคนจะไม่เท่ากัน  คุมกำเนิดใช้ฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด หรือการใช้ห่วงอนามัย คุมกำเนิดถาวร ทำหมันหญิงและทำหมันชาย ทำหมันหญิงและทำหมันชาย ทำได้อย่างไร การทำหมันเป็นวิธีคุมกำเนิดสำหรับครอบครัวที่ไม่ต้องการมีบุตรหรือมีบุตรเพียงพอแล้ว สามารถทำได้ทั้งการทำหมันหญิงและทำหมันชาย วิธีทำหมันชาย  การทำหมันชายง่ายกว่าการทำหมันหญิง สามารถทำได้ทั้งในคลินิก หน่วยรถพยาบาลเคลื่อนที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาล โดยมีวิธีการทำหมันชาย ดังนี้ แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดตรงบริเวณถุงอัณฑะเหมือนท่ออสุจิผ่าน  จากนั้นใช้มีดกรีดเป็นแผลเล็กน้อยประมาณ […]

สำรวจ การคุมกำเนิด

การคุมกำเนิด

ฝังยาคุม มีประจําเดือนไหม เพราะอะไร

ฝังยาคุม มีประจําเดือนไหม? อาจเป็นคำถามที่สาว ๆ หลายคนสงสัย การฝังยาคุมเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานประมาณ 3-5 ปี แต่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงโดยทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติในช่วงปีแรก เช่น ประจำเดือนมามาก ประจำเดือนมาน้อย ประจำเดือนมานานขึ้น และหลังจากนั้นประจำเดือนจะมาน้อยลงเรื่อย ๆ และผู้ที่ฝังยาคุมส่วนใหญ่มักไม่มีประจำเดือนตลอดช่วงที่ฝังยาคุม อย่างไรก็ตาม ประจำเดือนจะกลับมาอีกครั้งเมื่อหยุดฝังยาคุมกำเนิด [embed-health-tool-ovulation] ฝังยาคุม เป็นอย่างไร การฝังยาคุมกำเนิด คือการฝังหลอดยาขนาดเล็กประมาณ 3 เซนติเมตร หรือราว ๆ แท่งไม้ขีด ซึ่งบรรจุฮอร์โมนสังเคราะห์ เช่น ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) อีโทโนเจสเตรล (Etonogestrel) เข้าไปในบริเวณใต้ท้องแขนเพื่อทำให้เพศหญิงไม่ตั้งครรภ์ โดยออกฤทธิ์ดังนี้ ยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่มีเซลล์สืบพันธุ์สำหรับผสมกับอสุจิจนเกิดการปฏิสนธิหรือตั้งครรภ์ ทำให้เมือกบริเวณปากมดลูกหนาขึ้น เพื่อป้องกันอสุจิเคลื่อนตัวไปถึงไข่จนเกิดการปฏิสนธิ การฝังยาคุม 1 ครั้ง มักออกฤทธิ์คุมกำเนิดติดต่อกันราว 3-5 ปี และมีประสิทธิภาพคุมกำเนิดประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ การฝังยาคุม ควรฝังในช่วง 5 วันแรกของรอบเดือน เพราะจะทำให้ยาคุมออกฤทธิ์เต็มประสิทธิภาพในทันที หากฝังยาคุมในช่วงอื่น ๆ ของรอบเดือน ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วย […]


การคุมกำเนิด

วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้อง และข้อควรระวังในการใช้ถุงยาง

ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำจากน้ำยางพาราหรือยางสังเคราะห์ หากใช้อย่างถูกวิธีจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคราว 98 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันนี้ มีทั้งถุงยางอนามัยสำหรับเพศชายและเพศหญิง ทั้งนี้ ควรศึกษา วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้อง เพื่อการป้องกันถุงยางรั่ว ฉีกขาด หรือเสื่อมสภาพ [embed-health-tool-ovulation] ถุงยางอนามัย มีกี่รูปแบบ ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์สำหรับสวมหรือสอดที่อวัยวะเพศ เพื่อคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไป ถุงยางอนามัยมักทำจากน้ำยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์ และจำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ถุงยางอนามัยสำหรับเพศชายและสำหรับเพศหญิง ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ ถุงยางอนามัยสำหรับเพศชาย เป็นแบบใช้ภายนอก สำหรับครอบองคชาตเมื่อแข็งตัว เพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลเข้าสู่ช่องคลอด แล้วทำให้เกิดการตั้งครรภ์ รวมถึงป้องกันโรคติดต่างทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ถุงยางอนามัยของผู้หญิง เป็นแบบใช้ภายใน โดยสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หากน้ำอสุจิไหลเข้าสู่ช่องคลอด และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้อง ทำอย่างไร หากใส่ถุงยางอนามัยถูกวิธีอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ แต่หากใส่ผิดวิธีอาจทำให้ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยลดลงเหลือ 75 เปอร์เซ็นต์ วิธีใส่ถุงยางที่ถูกต้อง ทั้งของเพศชายและเพศหญิง มีรายละเอียดดังนี้ วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้องสำหรับเพศชาย ตรวจสอบวันเดือนปีที่หมดอายุ เพราะถุงยางที่หมดอายุอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคลดลง นำถุงยางอนามัยออกจากห่อ ควรค่อย ๆ ฉีกห่ออย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยเสียหาย ตรวจสอบถุงยางอนามัยก่อนใช้งาน […]


การคุมกำเนิด

ถุงยางผู้หญิง ข้อดี ข้อเสีย และวิธีการใช้

ถุงยางผู้หญิง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการคุมกำเนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ภายในช่องคลอด หากใช้อย่างถูกวิธีอาจช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ถึง 95% ดังนั้น จึงควรศึกษาถึงวิธีการใช้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การใช้ถุงยางผู้หญิงอาจส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตัว มีอาการคัน และแสบร้อนช่องคลอด รวมถึงรบกวนการมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้ไปถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้น และอาจทำให้ความพึงพอใจจากการมีเพศสัมพันธ์ลดลงได้ [embed-health-tool-ovulation] ถุงยางผู้หญิง คืออะไร ถุงยางผู้หญิง คือ ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงในรูปแบบใส่ทางช่องคลอด เป็นอุปกรณ์สำหรับการคุมกำเนิดที่ทำจากน้ำยางสังเคราะห์หรือโพลียูรีเทน (Polyurethane) มีลักษณะเป็นวงแหวน 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งเป็นแบบเปิดเพื่อให้อวัยวะเพศชายสามารถสอดเข้าได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นแบบปิด เพื่อกีดขวางไม่ให้อสุจิของผู้ชายเข้าไปผสมกับไข่ในช่องคลอด หากใช้อย่างถูกวิธีอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 95% อีกทั้งการสวมถุงยางผู้หญิงยังอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในเทียม หนองในแท้ โรคหูด โรคเริม การติดเชื้อเอชไอวี โรคซิฟิลิส และการติดเชื้อตับอักเสบ ข้อดีและข้อเสียของการใช้ถุงยางผู้หญิง ข้อดีและข้อเสียของการใช้ถุงยางผู้หญิง อาจมีดังนี้ ข้อดีของถุงยางผู้หญิง มีขนาดเล็กและพกพาสะดวก สามารถใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ หรืออาจใส่ล่วงหน้าได้ถึง 8 ชั่วโมง ก่อนมีเพศสัมพันธ์ สามารถใช้ได้กับองคชาตหลายขนาด ผู้ชายไม่จำเป็นต้องนำอวัยวะเพศออกเมื่อถึงจุดสุดยอด อาจก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยกว่า และมีโอกาสถุงยางแตกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับถุงยางอนามัยผู้ชาย มีอายุการใช้งานยาวนาน บางยี่ห้ออาจอยู่นานถึง 5 ปี ข้อเสียของถุงยางผู้หญิง มีอัตราการป้องกันการตั้งครรภ์ล้มเหลวมากถึง 21% ในขณะที่ถุงยางอนามัยผู้ชายมีอัตราการป้องกันการตั้งครรภ์ล้มเหลว 13% อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ระคายเคืองช่องคลอด อาจทำให้รู้สึกคันและแสบร้อนช่องคลอด […]


การคุมกำเนิด

วิธีกินยาคุมครั้งแรก เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เริ่มต้นอย่างไร ?

วิธีกินยาคุมครั้งแรก ควรศึกษาวิธีการกินให้เหมาะสมกับรูปแบบของยาคุม เช่น หากเป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด ควรรับประทานติดต่อกัน 21 วัน แล้วหยุดพัก 7 วัน แต่หากเป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด สามารถรับประทานติดต่อกันได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุดพัก การรับประทานยาคุมกำเนิดให้ถูกต้องอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของยาคุมกำเนิด และอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ [embed-health-tool-ovulation] ยาคุม คืออะไร ยาคุม คือยาที่ใช้เพื่อช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ มีทั้งแบบฮอร์โมนรวมที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ยาคุมกำเนิดแบบบฮอร์โมนเดี่ยว และยาคุมฉุกเฉิน ยาคุมกำเนิดออกฤทธิ์ช่วยยับยั้งการตกไข่ที่ผลิตออกมาจากรังไข่ และสร้างเมือกบริเวณปากมดลูกให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก หรืออาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ทำให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วไม่สามารถฝังตัวในผนังมดลูก จึงอาจช่วยไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ วิธีกินยาคุมครั้งแรก ทำอย่างไร วิธีกินยาคุมครั้งแรก แบ่งออกตามประเภทของยาคุม ดังนี้ ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive:  COC) เป็นยาคุมชนิดเม็ดที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน ควรรับประทานในวันแรกที่ประจำเดือนมา หรือไม่เกิน 5 วันหลังจากประจำเดือนมา ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมอาจแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ยาคุมฮอร์โมนระดับเดียว (Monophasic pills) เป็นยาคุมกำเนิดที่พบบ่อยที่สุด ใน 1 […]


การคุมกำเนิด

หลังกินยาคุมฉุกเฉิน จะรู้ได้ไงว่าไม่ท้อง

หลังกินยาคุมฉุกเฉิน จะรู้ได้ไงว่าไม่ท้อง อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยวิธีสังเกตอาจเริ่มจากสำรวจตนเองว่ากินยาคุมฉุกเฉินถูกวิธีหรือไม่ นอกจากนี้ ภาวะสุขภาพบางประการ เช่น อาเจียน ท้องเสีย รวมถึงยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคลมชัก ยารักษาเอชไอวี ยารักษาวัณโรค ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินลดลงได้ หากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน แล้วกินยาคุมฉุกเฉิน เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง หากสังเกตพบว่าตนเองมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ประจำเดือนขาด ปัสสาวะบ่อย เหนื่อยล้ามาก ควรตรวจการตั้งท้อง เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการตั้งท้องได้เช่นกัน [embed-health-tool-ovulation] หลังกินยาคุมฉุกเฉิน จะรู้ได้ไงว่าไม่ท้อง หลังกินยาคุมฉุกเฉิน จะรู้ได้ไงว่าไม่ท้อง อาจสังเกตได้จากวิธีการกินยาคุมฉุกเฉินว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีอาจสามารถป้องกันการตั้งท้องได้ประมาณ 75-85% โดยฮอร์โมนในยาคุมฉุกเฉินจะเข้าไปช่วยชะลอหรือหยุดการตกไข่ เพิ่มมูกบริเวณปากมดลูกและทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ส่งผลให้อสุจิเข้ามาผสมกับไข่ได้ยากขึ้น และไข่ไม่สามารถฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูกได้ตามปกติ กินยาคุมฉุกเฉินท้องได้หรือไม่ การกินยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันการตั้งท้องได้ 100% โดยเฉพาะหากกินยาคุมฉุกเฉินช้าหรือกินไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้เกิดการตั้งท้องได้เช่นกัน นอกจากนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินยังอาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดหัว ปวดท้องน้อย มีเลือดออกเล็กน้อย รอบประจำเดือนอาจเปลี่ยนแปลงโดยอาจมาช้าหรือมาเร็วขึ้นกว่าปกติ และในบางกรณีภาวะสุขภาพบางประการอาจลดประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินได้ ดังนี้ มีอาการอาเจียนหรือท้องเสียอย่างรุนแรง ผู้ที่มีอาการอาเจียนหรือท้องเสียนานกว่า 48 ชั่วโมง อาจทำให้ประสิทธิภาพยาคุมฉุกเฉินลดลง […]


การคุมกำเนิด

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ครั้งแรก มีข้อควรระวังอะไรบ้าง

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด เป็นวิธีการคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร และต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการกินยาแทนการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น สำหรับ วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ครั้งแรก ควรเริ่มต้นกินยาในช่วงวันที่ 1-5 ระหว่างที่มีประจำเดือน เพราะยามักออกฤทธิ์ได้เต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยในช่วงแรก แต่ควรสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ เมื่อกินยาคุม 21 เม็ดหมดแผงแล้ว ให้งดเว้นการกินยาเป็นเวลา 7 วัน แล้วจึงเริ่มต้นกินยาคุม 21 เม็ดแผงใหม่ในวันที่ 8 หากลืมกินยาคุม ให้กินยาทันทีเมื่อนึกได้ แม้จะเท่ากับกินยา 2 เม็ดใน 1 วันก็ตาม [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมกำเนิด คืออะไร ยาคุมกำเนิด เป็นยาเม็ดสำหรับให้เพศหญิงกินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ที่มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการตกไข่ และป้องกันเซลล์อสุจิเดินทางไปถึงไข่ โดยออกฤทธิ์กระตุ้นการเพิ่มปริมาณของเมือกบริเวณปากมดลูกทำให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้ ทั้งนี้ ยาคุมกำเนิดมีหลายชนิด แต่ยาคุม 21 เม็ดมักเป็นชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) โดยยาคุม 21 เม็ด สามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้ ยาฮอร์โมนระดับเดียว (Monophasic […]


การคุมกำเนิด

กินยาคุมไม่ตรงเวลา ควรทำอย่างไร เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

กินยาคุมไม่ตรงเวลา อาจเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะหากลืมกินยาคุมหลายเม็ดติดต่อกันก็อาจทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น ดังนั้น เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์จึงควรป้องกันด้วยการสวมใส่ถุงยางอนามัยในขณะมีเพศสัมพันธ์ร่วมด้วยจนกว่าจะเริ่มยาคุมแผงใหม่ หรือปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อลืมกินยาคุม [embed-health-tool-ovulation] กินยาคุมไม่ตรงเวลามีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่ กินยาคุมไม่ตรงเวลาอาจทำให้ตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากยาคุมมีฤทธิ์ในการควบคุมการตกไข่และสร้างสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ เช่น ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกหนาขึ้นส่งผลให้ตัวอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงส่งผลให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวในผนังมดลูกได้ จึงอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น หากกินยาคุมไม่ตรงเวลาก็อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลงและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิดด้วยการสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย กินยาคุมไม่ตรงเวลาควรทำอย่างไร เมื่อกินยาคุมไม่ตรงเวลาควรปฏิบัติตามวิธีต่อไปนี้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ กินยาคุมไม่ตรงเวลา 1 เม็ด ส่วนใหญ่หากกินยาคุมไม่ตรงเวลา 1 เม็ด หรือเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ช้าไป 1 วัน ยาคุมอาจยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้อยู่ แต่เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ควรปฏิบัติดังนี้ ควรกินยาคุมทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ โดยกิน 1 เม็ดที่ลืมและกินอีก 1 เม็ดตามเวลาปกติ ซึ่งในวันนั้นอาจต้องกินพร้อมกัน 2 เม็ด จากนั้นวันต่อมาให้กินครั้งละ 1 เม็ดตามเวลาปกติ หากกินยาคุมไม่ตรงเวลาเพียง 1 เม็ด ไม่จำเป็นต้องคุมวิธีอื่นร่วมด้วย กินยาคุมไม่ตรงเวลา 2 เม็ด หากกินยาคุมไม่ตรงเวลา 2 เม็ด หรือเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ช้าไป 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน ยาคุมกำเนิดอาจมีประสิทธิภาพลดลง จึงควรปฏิบัติตามดังนี้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ กินยาคุมทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ โดยกิน 2 […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน มีหรือไม่ และควรเลือกยาคุมอย่างไร

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน อาจต้องเลือกยี่ห้อที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินในปริมาณที่ต่ำ เพื่อลดผลข้างเคียงของฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดที่สูงเกินไป อาจช่วยลดอาการบวมน้ำและลดความอยากอาหารหลังจากกินยาคุมได้ อย่างไรก็ตาม อาการอ้วนขึ้นหลังกินยาคุมอาจเป็นเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อพูดคุยถึงอาการที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนชนิดของยาคุมให้เหมาะสมกับสุขภาพ [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมทำให้อ้วนได้หรือไม่ การกินยาคุมอาจทำให้อ้วนได้ โดยอาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีปริมาณสูงมาก จึงทำให้ร่างกายเพิ่มการกักเก็บของเหลวมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมน้ำในช่วงแรกที่กินยาคุม ซึ่งเป็นเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน นอกจากนี้ การได้รับฮอร์โมนโปรเจสตินในปริมาณที่สูงอาจเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้กินอาหารมากขึ้นจนส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน ควรเลือกอย่างไร หากรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นหลังจากกินยาคุม ควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอเพื่อเปลี่ยนชนิดของยาคุมให้เหมาะสมกับร่างกาย โดยยาคุมมีด้วยกัน 2 ชนิด ดังนี้ ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดียว ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงชนิดเดียว ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน ส่วนใหญ่แล้ว ยาคุมทั้ง 2 ชนิดแต่ละยี่ห้ออาจใช้ฮอร์โมนต่างชนิดกัน โดยอาจเลือกใช้ยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเป็นชนิดดรอสไพรีโนน (Drospirinone) ซึ่งจะลดการคั่งของน้ำในร่างกายและไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม แต่อาจมีปริมาณของฮอร์โมนที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้มีผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน จึงอาจต้องเลือกยี่ห้อของยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินไม่สูงเกินไป เพื่อลดอาการบวมน้ำและลดความอยากอาหาร ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากฮอร์โมนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงส่วนใหญ่อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ดังนั้น จึงควรรับประทานยาคุมอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อสังเกตอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อเปลี่ยนยาคุม วิธีดูแลตัวเองเมื่อกินยาคุมแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้น หากกินยาคุมแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้นควรดูแลตัวเอง […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

การรับประทาน ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ทันที หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ถุงยางอนามัยแตก ลืมรับประทานยาคุม หรือภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ยิ่งรับประทานยาคุมชนิดนี้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินมีข้อจำกัดในการใช้งานและความเสี่ยงจากการใช้ยา จึงควรทำความเข้าใจวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องและศึกษาผลข้างเคียงอย่างละเอียดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่อสุขภาพ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ทำงานอย่างไร ยาคุมฉุกเฉินออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยโดยช่วยชะลอหรือยับยั้งการตกไข่ ช่วยป้องกันอสุจิเดินทางไปผสมกับไข่ และช่วยขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากไข่ผสมกับอสุจิและปฏิสนธิ ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) เป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินสังเคราะห์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ประมาณ 87% มีทั้งแบบ 1 เม็ด และแบบ 2 เม็ด หากเป็นแบบ 1 เม็ด ขนาดยา 1.5 มิลลิกรัม ให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ส่วนแบบ 2 เม็ด ขนาดยา […]


การคุมกำเนิด

ทำหมันชาย ประโยชน์ และการดูแลตัวเอง

ทำหมันชาย เป็นการคุมกำเนิดอย่างถาวร โดยการตัดหรือปิดท่อนำอสุจิ เพื่อช่วยปิดกั้นไม่ให้ตัวอสุจิสามารถไปปฏิสนธิกับไข่ของผู้หญิง จึงทำให้ไม่สามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ เหมาะสำหรับคู่รักที่ไม่ต้องการมีบุตรในอนาคต อย่างไรก็ตาม การทำหมันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนการทำหมันและการดูแลตัวเองหลังทำหมัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ อาการปวดเรื้อรัง และอาการบวมในถุงอัณฑะ [embed-health-tool-bmi] ทำหมันชาย คืออะไร การทำหมันชาย คือ การคุมกำเนิดแบบถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตรในอนาคตหรือมีบุตรเพียงพอแล้ว โดยการปิดผนึกหรือตัดท่อนำอสุจิเพื่อไม่ให้อสุจิผ่านออกมาผสมกับไข่ของผู้หญิงขณะมีเพศสัมพันธ์ หลังจากการทำหมันยังสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติโดยไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ทางเพศ และจะยังคงหลั่งน้ำอสุจิเมื่อถึงจุดสุดยอดออกมาได้เช่นเดิม แต่จะไม่มีตัวอสุจิหลงเหลืออยู่ จึงไม่สามารถทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม การทำหมันไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในเทียม หนองในแท้ เอชไอวี/เอดส์ ดังนั้น จึงควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดหรือแพร่กระจายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประเภทของการทำหมันชาย มีดังนี้ การทำหมันแบบผ่าตัด เป็นการทำหมันโดยเริ่มด้วยการฉีดยาชาบริเวณผิวหนังถุงอัณฑะ จากนั้นจะใช้มีดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะเหนือท่ออสุจิ เพื่อตัดท่ออสุจิและผูกปลายท่อ และเย็บปิดแผล การทำหมันโดยไม่ใช้มีดผ่าตัด เป็นการใช้เครื่องมือเจาะบริเวณผิวหนังของถุงอัณฑะลงไปถึงท่ออสุจิ จากนั้นจึงตัดท่ออสุจิและผูกปิดผนึกปลายท่อ โดยวิธีทำหมันนี้จะมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยและไม่มีการเย็บปิดแผล แต่อาจใช้ผ้าพันแผลปิดแผลไว้ ประโยชน์ของการทำหมันชาย ประโยชน์ของการทำหมันชาย มีดังนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์มากกว่า 99% มีผลข้างเคียงต่ำ มีค่าใช้จ่ายที่น้อยว่าการทำหมันในผู้หญิง เนื่องจากไม่ต้องดมยาสลบ หรือ ระงับความเจ็บปวดทางช่องไขสันหลัง ไม่ส่งผลกระทบต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) อารมณ์ทางเพศ และการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ผลข้างเคียงของการทำหมันชาย ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการทำหมันชาย มีดังนี้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน