สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร

บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาดูข้อแตกต่างระหว่าง หนองในเทียม และ หนองในแท้ แบบเข้าใจง่าย กันค่ะ จะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันอย่างไร และจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ เลยค่ะ หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร หนองในเทียม และ หนองในแท้มีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ สาเหตุ หนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า คลามัยเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) หนองในแท้ (Gonorrhoea) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า ไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย (Neisseria gonorrhea) ระยะการฟักตัว หนองในเทียม มีระยะการฟักตัวค่อนข้างนาน โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวมากกว่า 1-3 สัปดาห์ หนองในแท้ มีระยะการฟักตัวค่อนข้างสั้น โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวภายใน 1-5 วัน อาการของโรคหนองใน อาการโรคหนองในเทียมในเพศชาย ในระยะแรก ๆ ผู้ป่วยจะรู้สึกคันที่บริเวณท่อปัสสาวะ และมีน้ำสีใส ๆ หรือขุ่น ๆ ไหลออกมาจากปลายองคชาต อาการโรคหนองในแท้ในเพศชาย […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

วันไนท์สแตนด์ (One night stand) ข้อดี ข้อเสียและความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์

วันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) หรือความสัมพันธ์แบบข้ามคืน เป็นความสัมพันธ์ระยะสั้นแบบไม่ผูกมัด โดยทั้ง 2 ฝ่ายต้องตกลงและยินยอมที่จะมีความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ก่อนเริ่มความสัมพันธ์ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งวันไนท์สแตนด์อาจมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้น [embed-health-tool-ovulation] วันไนท์สแตนด์ คืออะไร วันไนท์สแตนด์ คือ ความสัมพันธ์ทางเพศระยะสั้นชั่วข้ามคืนแบบไม่เป็นทางการและไม่ผูกมัดกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อน หรือกับคนที่รู้จักกันเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องได้รับการยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกันเพียงคืนเดียวแล้วแยกย้าย ข้อดีของวันไนท์สแตนด์ วันไนท์สแตนด์ที่ได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่ายและจบลงด้วยดี อาจมีข้อดีดังนี้ อาจช่วยสร้างความสุขทางอารมณ์ เนื่องจากความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์เป็นความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด จึงอาจทำให้ผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ไม่รู้สึกกดดัน และไม่คาดหวังในเรื่องเพศเหมือนกับความสัมพันธ์ในรูปแบบของคู่รักหรือความสัมพันธ์แบบระยะยาว ซึ่งอาจทำให้การมีเพศสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างมีความสุข และเมื่อวันไนท์สแตนด์จบลงทั้ง 2 ฝ่ายก็จะแยกย้ายกันไปโดยไม่ผูกมัดต่อกัน ได้ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ ผู้ที่ไม่ต้องการความสัมพันธ์ระยะยาวหรือไม่ต้องการมีความสัมพันธ์แบบคู่รัก การมีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์จึงอาจเป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศได้ มีอิสระ วันไนท์สแตนด์เป็นความสัมพันธ์ทางเพศแบบคืนเดียวแล้วแยกย้าย จึงทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีอิสระที่จะไปมีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์กับใครอีกก็ได้โดยที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ บางคนอาจชื่นชอบความตื่นเต้นและต้องการมีเพศสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ ความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ได้พบเจอกับผู้คนที่อาจมีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความตื่นเต้นในการมีเพศสัมพันธ์ได้ ข้อเสียของวันไนท์สแตนด์ วันไนท์สแตนด์เป็นความสัมพันธ์ทางเพศที่ต้องเปลี่ยนคู่นอนหลายคน จึงอาจมีข้อเสียและทำให้เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้ ความวิตกกังวล ความเครียดและความรู้สึกผิด เป็นความรู้สึกที่มักเกิดขึ้นในผู้ที่เริ่มความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์เป็นครั้งแรก และหากความสัมพันธ์จบลงไม่ดีหรือไม่เป็นที่พอใจ ก็อาจทำให้เป็นภาพจำเรื่องเพศที่ไม่ดีและถูกเก็บไว้ในจิตใจในระยะยาวได้เช่นกัน อาจมีโอกาสตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยและไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์อาจเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ อาจมีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ […]


สุขภาพทางเพศ

ฝังมุก อันตรายไหม มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

ฝังมุก เป็นการผ่าตัดเพื่อฝังวัสดุที่มีลักษณะกลมเกลี้ยงเข้าไปใต้หนังหุ้มองคชาต ซึ่งเป็นความชื่นชอบและรสนิยมทางเพศส่วนบุคคล โดยการฝังมุกไม่มีประโยชน์ในการรักษาทางการแพทย์ แต่อาจมีข้อดีในการช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายและอาจช่วยให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การฝังมุกอาจมีข้อควรระวังบางประการที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มทำ เพื่อสุขภาพทางเพศของตัวเองและของคู่นอน [embed-health-tool-ovulation] ฝังมุก คืออะไร ฝังมุก คือ การฝังวัสดุที่มีลักษณะกลมเกลี้ยง ขนาดประมาณ 4-10 มิลลิเมตร เช่น ไข่มุกแท้ ซิลิโคน โลหะ แก้ว เข้าไปในหนังหุ้มองคชาตอย่างถาวร เป็นวิธีการประดับด้วยลูกปัดมุก โดยการฝังมุกนี้มีมายาวนานกว่า 1,000 ปี และได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งจุดกำเนิดอาจเป็นเหตุผลทางศาสนาหรือเป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม ฝังมุก มีข้อดีอย่างไร การฝังมุกเป็นรสนิยมทางเพศในแต่ละบุคคล ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพในแง่ทางการแพทย์ โดยการฝังมุกอาจมีข้อดีบางประการต่อความรู้สึกในขณะมีเพศสัมพันธ์หรือข้อดีอื่น ๆ ดังนี้ อาจมีข้อดีในแง่ของความสวยงาม เนื่องจากมีการใช้วัสดุในการฝังที่แตกต่างกัน เช่น ไข่มุกแท้ ไข่มุกแก้ว ซิลิโคน โลหะ แก้ว สแตนเลส เทฟลอน (Teflon) ไทเทเนียม (Titanium) ทอง ไนโอเบียม (Niobium) แพลทินัม (Platinum) โพลีเมอร์ (Polymers) ซึ่งเป็นความชอบของแต่ละบุคคล อาจช่วยเพิ่มความมั่นใจในขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ อาจช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน มีหรือไม่ และควรเลือกยาคุมอย่างไร

ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน อาจต้องเลือกยี่ห้อที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินในปริมาณที่ต่ำ เพื่อลดผลข้างเคียงของฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดที่สูงเกินไป อาจช่วยลดอาการบวมน้ำและลดความอยากอาหารหลังจากกินยาคุมได้ อย่างไรก็ตาม อาการอ้วนขึ้นหลังกินยาคุมอาจเป็นเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อพูดคุยถึงอาการที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนชนิดของยาคุมให้เหมาะสมกับสุขภาพ [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมทำให้อ้วนได้หรือไม่ การกินยาคุมอาจทำให้อ้วนได้ โดยอาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีปริมาณสูงมาก จึงทำให้ร่างกายเพิ่มการกักเก็บของเหลวมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมน้ำในช่วงแรกที่กินยาคุม ซึ่งเป็นเพียงผลข้างเคียงชั่วคราว และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน นอกจากนี้ การได้รับฮอร์โมนโปรเจสตินในปริมาณที่สูงอาจเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้กินอาหารมากขึ้นจนส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน ควรเลือกอย่างไร หากรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นหลังจากกินยาคุม ควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอเพื่อเปลี่ยนชนิดของยาคุมให้เหมาะสมกับร่างกาย โดยยาคุมมีด้วยกัน 2 ชนิด ดังนี้ ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดียว ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงชนิดเดียว ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน ส่วนใหญ่แล้ว ยาคุมทั้ง 2 ชนิดแต่ละยี่ห้ออาจใช้ฮอร์โมนต่างชนิดกัน โดยอาจเลือกใช้ยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเป็นชนิดดรอสไพรีโนน (Drospirinone) ซึ่งจะลดการคั่งของน้ำในร่างกายและไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม แต่อาจมีปริมาณของฮอร์โมนที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้มีผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน จึงอาจต้องเลือกยี่ห้อของยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินไม่สูงเกินไป เพื่อลดอาการบวมน้ำและลดความอยากอาหาร ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากฮอร์โมนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงส่วนใหญ่อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ดังนั้น จึงควรรับประทานยาคุมอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อสังเกตอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อเปลี่ยนยาคุม วิธีดูแลตัวเองเมื่อกินยาคุมแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้น หากกินยาคุมแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้นควรดูแลตัวเอง […]


สุขภาพทางเพศ

กามโรค คือกลุ่มโรคอะไรบ้าง รักษาและป้องกันอย่างไร

กามโรค คือ กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ติดต่อผ่านการร่วมเพศ ไม่ว่าทางอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือปาก โรคที่จัดเป็นกามโรค เช่น หนองใน  หนองในเทียม ซิฟิลิส พยาธิในช่องคลอด โดยทั่วไป อาการของกามโรค คือ มีของเหลวหรือสารคัดหลั่งที่มีลักษณะผิดปกติไหลออกมาจากอวัยวะเพศ อวัยวะเพศแสบขัดเมื่อปัสสาวะ หรืออวัยวะเพศมีอาการคัน ทั้งนี้ กามโรคอาจป้องกันได้โดยสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ และเลือกมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนเพียงคนเดียวหรือคู่นอนที่มั่นใจว่าปลอดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ [embed-health-tool-ovulation] กามโรค คืออะไร กามโรค เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases) โดยเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ซึ่งแพร่กระจายหรือติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางอวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก กามโรคบางชนิดอาจติดต่อกันได้ผ่านการกอดหรือจูบ โดยเฉพาะหากร่างกายมีบาดแผล กามโรคที่พบได้บ่อย ประกอบด้วยโรคต่าง ๆ ดังนี้ หนองในแท้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย โกโนเรียอี (Neisseria Gonorrhoeae) เมื่อเป็นโรคหนองใน ผู้ป่วยชายจะรู้สึกแสบขัดขณะปัสสาวะและมักมีหนองไหลออกจากอวัยวะเพศหรือทวารหนัก ในเพศหญิงมักมีตกขาวมากผิดปกติหรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือพบเลือดออกทางช่องคลอดก่อนมีรอบเดือน ทั้งนี้ ผู้ป่วยหนองในร้อยละ 10 มักไม่มีอาการ และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโรคลุกลามและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้ […]


สุขภาพทางเพศ

อาการประจําเดือนใกล้มา สังเกตได้อย่างไร

อาการประจําเดือนใกล้มา อาจสังเกตได้จากอาการอารมณ์แปรปรวน ปวดท้องเกร็ง หรือเจ็บเต้านม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำได้ การศึกษาเกี่ยวกับอาการประจำเดือนใกล้มา และวิธีบรรเทาอาการ จึงอาจช่วยให้สามารถรับมือกับสุขภาพของร่างกายเมื่อมีประจำเดือนได้ดีมากขึ้น [embed-health-tool-ovulation] ประจำเดือน คืออะไร ประจำเดือน คือ เลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกที่ไหลออกทางช่องคลอด ซึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่มีหน้าที่ในการควบคุมการตกไข่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมา และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิของอสุจิและไข่ เกิดเป็นการตั้งครรภ์ แต่หากไม่มีการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนทั้งสองจะลดลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกและไหลออกมาเป็นประจำเดือน ซึ่งในช่วงของการตกไข่นั้น บางคนอาจมีอาการก่อนประจำเดือน ที่เป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ทราบว่าประจำเดือนใกล้มาแล้ว อาการประจําเดือนใกล้มา มีอะไรบ้าง อาการประจําเดือนใกล้มา อาจสังเกตได้ดังนี้ เจ็บเต้านม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และโปรแลคติน (Prolactin) ในช่วงหลังตกไข่ไปจนถึงช่วงที่ประจำเดือนมา อาจส่งผลให้เกิดอาการเต้านมขยาย และเจ็บเต้านมเมื่อสัมผัสหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า ปวดศีรษะ อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้มีอาการปวดศีรษะหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นไมเกรนก่อนประจำเดือนมา นอนไม่หลับหรือหลับยาก เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน อาจทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย อีกทั้งยังส่งผลให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว นอนหลับยาก อารมณ์แปรปรวน ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจส่งผลให้เกิดอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวหงุดหงิด เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวโกรธ กลับไปกลับมา บางคนอาจมีอาการวิตกกังวลและซึมเศร้าร่วมด้วย ปวดท้องเกร็ง […]


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

หูดหงอนไก่ ชาย เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร

หูดหงอนไก่ ชาย เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ทำให้เกิดตุ่มหรือหูดบริเวณอวัยวะเพศ เช่น ปลายองคชาต ถุงอัณฑะ รอบทวารหนัก ปัจจัยเสี่ยงโรคนี้ ได้แก่ การสัมผัสกับผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศที่ติดเชื้อ และการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ผู้ที่ไม่สวมถุงยางอนามัยจึงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสและเกิดเป็นโรคหูดหงอนไก่ได้ง่ายกว่า หากพบว่ามีติ่งเนื้อคล้ายหูดที่ขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ควรไปพบคุณหมอ เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม [embed-health-tool-due-date] หูดหงอนไก่คืออะไร หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โรคนี้ทำให้เกิดหูดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ในผู้หญิงอาจเกิดหูดหงอนไก่ได้ทั้งภายในและภายนอกช่องคลอด เช่น ปากมดลูก รอบทวารหนัก ส่วนผู้ชายอาจเกิดหูดที่ปลายองคชาต บนถุงอัณฑะ และรอบทวารหนัก หูดหงอนไก่ที่ขึ้นรอบอวัยวะเพศอาจมีรูปร่างแบนราบและมีผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ โดย ทั่วไป หูดหงอนไก่จะมีขนาดโตขึ้นและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว หูดหงอนไก่ในผู้ชาย เกิดจากอะไร โรคหูดหงอนไก่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา (Human papillomavirus) หรือเชื้อเอชพีวี (HPV) มักทำให้เกิดการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะเพศซึ่งอุ่นและชื้น เมื่อติดเชื้อแล้วอาจใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือนกว่าอาการของโรคจะเริ่มปรากฏ หูดจะเริ่มขึ้นเป็นหย่อม ๆ บริเวณอวัยวะเพศ ทำให้เกิดอาการคันและระคายเคือง แต่ในบางกรณีที่พบได้ไม่บ่อย อาจเกิดหูดภายในช่องปากและลำคอ ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อบางรายก็อาจไม่แสดงอาการ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันและจำนวนเชื้อที่ได้รับ จึงอาจไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อและแพร่เชื้อไปยังคู่นอนของตัวเองได้ ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นโรคหูดหงอนไก่ได้ มีดังนี้ มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคนโดยไม่ได้ป้องกัน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นอยู่แล้ว เช่น ซิฟิลิส […]


สุขภาพทางเพศ

มี เพศ สัมพันธ์ ตอน ท้อง สามารถทำได้หรือไม่

ผู้หญิงตั้งครรภ์สามารถ มี เพศ สัมพันธ์ ตอน ท้อง ได้ตลอดช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงช่วงใกล้คลอดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม หากมีภาวะแทรกซ้อนบางประการ เช่น เคยคลอดก่อนกำหนด เคยแท้งลูก มีภาวะแท้งคุกคาม ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ตอนท้องเนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์ได้ [embed-health-tool-due-date] มี เพศ สัมพันธ์ ตอน ท้อง สามารถทำได้หรือไม่ การมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่และการขยับร่างกายขณะร่วมรักในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ตามปกติ ส่วนใหญ่จะไม่ส่งผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เนื่องจากมีหน้าท้อง ผนังกล้ามเนื้อมดลูก และน้ำคร่ำคอยปกป้องทารกในครรภ์ไว้อย่างดี เด็กจึงยังเจริญเติบโตได้อย่างปลอดภัย ความต้องการทางเพศของผู้หญิง ตั้งครรภ์ เป็นอย่างไร ความต้องการทางเพศของผู้หญิงตั้งครรภ์มีความแตกต่างกันในแต่ละคน ซึ่งอาจเป็นผลจากระดับฮอร์โมนในร่างกาย ผู้หญิงตั้งครรภ์บางคนอาจไม่รู้สึกมีความต้องการทางเพศ ในขณะที่บางคนกลับมีความต้องการเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ อาจทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์และคู่นอนมีความต้องการทางเพศน้อยลง หรือมีความต้องการไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะพูดคุยเรื่องเหล่านี้อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา เพื่อให้เข้าใจตรงกันมากที่สุด รูปแบบความใคร่ของผู้หญิงในช่วงตั้งครรภ์ที่พบได้บ่อย มีดังนี้ ไตรมาสแรก หรือเดือนที่ 1-3 คนท้องอาจมีอารมณ์ทางเพศน้อยเนื่องจากมีอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อาการคัดตึงเต้านม แต่ก็จะกลับมามีความต้องการตามปกติได้ในเวลาไม่นาน ช่วงไตรมาสที่ 2 หรือเดือนที่ 4-6 คนท้องอาจมีอารมณ์ทางเพศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีระดับฮอร์โมนในร่างกายและระดับการไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ถึงจุดสุดยอดได้ดีขึ้นด้วย ช่วงไตรมาสที่ 3 หรือช่วงเดือนที่ 7-9 […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

การรับประทาน ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ทันที หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ถุงยางอนามัยแตก ลืมรับประทานยาคุม หรือภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ยิ่งรับประทานยาคุมชนิดนี้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินมีข้อจำกัดในการใช้งานและความเสี่ยงจากการใช้ยา จึงควรทำความเข้าใจวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องและศึกษาผลข้างเคียงอย่างละเอียดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่อสุขภาพ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ทำงานอย่างไร ยาคุมฉุกเฉินออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยโดยช่วยชะลอหรือยับยั้งการตกไข่ ช่วยป้องกันอสุจิเดินทางไปผสมกับไข่ และช่วยขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากไข่ผสมกับอสุจิและปฏิสนธิ ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) เป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินสังเคราะห์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ประมาณ 87% มีทั้งแบบ 1 เม็ด และแบบ 2 เม็ด หากเป็นแบบ 1 เม็ด ขนาดยา 1.5 มิลลิกรัม ให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ส่วนแบบ 2 เม็ด ขนาดยา […]


สุขภาพทางเพศ

สกินชิพ คือ อะไร ช่วยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างไร

สกินชิพ คือ การแสดงความรู้สึกของความผูกพันและความรู้สึกอันดีระหว่างคนสองคน ผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นการจูบ การโอบกอด การจับมือ การสัมผัสตัว โดยเฉพาะระหว่างสมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนรัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการสัมผัสนั้นจะสำคัญต่อมนุษย์ในการสื่อสารอารมณ์และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่ก็ควรอยู่บนพื้นฐานของการยินยอมของทั้งสองฝ่าย เพื่อช่วยในการรักษาความสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดความสบายใจและรู้สึกปลอดภัยต่อกันได้อย่างราบรื่น [embed-health-tool-ovulation] สกินชิพ คือ อะไร สกินชิพ (Skinship) มาจากคำว่า Skin และ Kinship เป็นคำศัพท์ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น คำว่าสกินชิพ หรือที่เรียกตามสำเนียงญี่ปุ่นว่า ซูคินชิบปุ (Sukinshippu) ใช้สื่อความหมายถึงการสัมผัสใกล้ชิดต่อกันระหว่างคุณแม่และลูกน้อย ในลักษณะเนื้อแนบเนื้อ (Skin-to-skin) จากนั้นความหมายเพี้ยนไปจนเปลี่ยนบริบทมาเป็นคำศัพท์ที่แสดงถึงการสัมผัสทางกายระหว่างคู่รัก เพื่อน หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกัน ต่อมาคำว่าสกินชิพได้แพร่ไปยังประเทศอื่น ๆ และใช้กันแพร่หลายมากขึ้น โดยทั่วไป คำว่าสกินชิพ หมายถึงการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลอื่นด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น สัมผัสตัว จับมือ จูบ โอบกอด เพื่อแสดงความรู้สึกอันดีที่มีต่อผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหรือผู้ที่ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมต่อกัน ประโยชน์ของการสกินชิพกับคนที่รัก การสกินชิพหรือการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลอันเป็นที่รัก อาจมีประโยชน์ ดังนี้ ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด การกอดกันของคู่รักมีส่วนช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดตัวหลักที่ทำหน้าที่ควบคุมการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกาย ส่งผลให้รู้สึกเครียดหรือวิตกวังกลกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ ฮอร์โมนนี้อาจลดลงได้ด้วยการสกินชิพหรือสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลที่ทำให้รู้สึกสบายใจเป็นประจำ […]


สุขภาพทางเพศ

หัวหน่าว คือ อะไร และปัญหาสุขภาพของหัวหน่าวมีอะไรบ้าง

หัวหน่าว คือ เนินที่อยู่เหนืออวัยวะเพศ ตำแหน่งของหัวหน่าวของผู้ชายอยู่เหนือองคชาต ส่วนผู้หญิงจะอยู่เหนือช่องคลอดซึ่งเป็นบริเวณที่กระดูกเชิงกรานเชื่อมต่อกัน รอยต่อกระดูกหัวหน่าวหรือช่องเชิงกรานของผู้หญิงเป็นช่องที่ทารกจะผ่านออกมาตอนคลอด บางครั้งหัวหน่าวอาจบาดเจ็บจนทำให้รู้สึกปวดหรือเจ็บเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่าง หากรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบริเวณหัวหน่าวผิดปกติ ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยสาเหตุและรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] หัวหน่าว คือ อะไร หัวหน่าว คือ เนินที่อยู่ระหว่างท้องน้อยและอวัยวะเพศ หัวหน่าวฝั่งซ้ายและขวาเชื่อมต่อกันด้วยกระดูกอ่อน ช่วยในการรองรับน้ำหนักของร่างกายส่วนบนและถ่ายเทน้ำหนักมายังขาและเท้าทั้งสองข้าง ทั้งยังช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น การเดิน การกระโดด โดยโครงสร้างของหัวหน่าวจะแตกต่างไปตามเพศ ผู้หญิงจะมีกระดูกเชิงกรานกว้างกว่าและหัวหน่าวอยู่ใกล้กับคลิตอริส ส่วนผู้ชายจะมีกระดูกเชิงกรานรูปทรงคล้ายหัวใจและแคบกว่า และหัวหน่าวจะอยู่บริเวณเอ็นยึดองคชาตที่ติดอยู่กับกระดูกเชิงกราน หน้าที่ของหัวหน่าว หัวหน่าวเป็นส่วนที่เชื่อมกระดูกเชิงกรานฝั่งซ้ายและขวาเข้าด้วยกัน ช่วยกระจายน้ำหนักของร่างกายส่วนบนไปยังขาและเท้า ข้อต่อหัวหน่าวเป็นข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ สามารถแยกได้มากสุด 2 มิลลิเมตรและหมุนได้เล็กน้อย เพื่อช่วยให้กระดูกเชิงกรานรองรับแรงกระแทกขณะเดินหรือวิ่งได้ นอกจากนี้ ระหว่างการคลอดบุตร เส้นเอ็นและข้อต่อบริเวณหัวหน่าวจะยืดหยุ่นเป็นพิเศษ เพื่อให้กระดูกเชิงกรานสามารถขยายตัวและมีขนาดใหญ่มากพอให้ทารกผ่านออกมาได้ในตอนคลอด ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับหัวหน่าว ความผิดปกติของกระดูกหัวหน่าว (Symphysis pubis dysfunction) เกิดจากเนื้อเยื่อเอ็นของกระดูกเชิงกรานหย่อนหยานหรือหลวม ทำให้หัวหน่าวขยับและเคลื่อนตัวได้มากกว่าปกติ และเกิดอาการปวดบริเวณหัวหน่าว ปัจจัยที่ทำให้กระดูกหัวหน่าวผิดปกติ อาจมีดังนี้ การตั้งครรภ์และคลอดบุตร อาการแนวประสานของกระดูกหัวหน่าวผิดปกติมักเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์และคลอดบุตร เป็นผลมาจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ทำให้เอ็นยึดข้อต่อคลายตัว เพื่อให้ข้อต่อยืดหยุ่นเพียงพอให้กระดูกเชิงกรานขยายระหว่างการคลอด แต่กระดูกอาจแยกหรือเอ็นยึดข้อต่อคลายตัวของมากเกินไป จนทำให้รู้สึกปวดบริเวณหัวหน่าวได้ ทั้งนี้ อาการนี้มักหายไปเองหลังคลอด การเล่นกีฬา อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาที่ขยับร่างกายส่วนล่างอย่างรุนแรงเป็นระยะเวลานานอาจทำให้กระดูกเชิงกรานอักเสบหรืออยู่ผิดตำแหน่ง โดยเฉพาะกีฬาอย่างฟุตบอล ตะกร้อ ที่ต้องอาศัยการเตะ การหมุนตัว หรือการขยับเปลี่ยนทิศทางของร่างกายอย่างรวดเร็ว จนทำให้มีอาการปวดและส่งผลให้การเคลื่อนไหวติดขัด จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งยังอาจทำให้ไม่สามารถกลับไปเล่นกีฬาประเภทเดิมได้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน