การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอันตรายต่าง ๆ ภายนอก การดูแลและทำความสะอาดผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย มาเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับ การดูแลและทำความสะอาดผิว พร้อมกันกับ Hello คุณหมอ สิคะ

เรื่องเด่นประจำหมวด

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่?

หลายคนเชื่อว่าการ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าที่สุด เพราะน้ำเปล่าเป็นสารธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีเจือปน มีความอ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย และผิวผู้ที่เป็นสิว หลายคนจึงเชื่อว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเหมาะสมที่สุดสำหรับผิวหน้า แต่ความเชื่อนี้จะจริงหรือเท็จประการใด บทความนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบให้คุณค่ะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่? การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า อาจไม่ได้เหมาะสมสำหรับผิวหน้าเสมอไป เพราะตลอดทั้งวันเราเจอทั้งมลภาวะต่าง ๆ และฝุ่นละออง ยิ่งคุณผู้หญิงที่แต่งหน้าด้วยล่ะก็ การใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถดูดสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางค์บนผิวหน้าออกได้อย่างสะอาดหมดจรด และอาจเสี่ยงต่อการเกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขนอีกด้วย ดังนั้นอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าควบคู่ด้วย แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผิวหน้า และเหมาะสมกับลักษณะของผิวหน้าคุณ อย่างไรก็ตาม ผิวหน้าของแต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวอาจเหมาะสำหรับบางคน ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คุณลองสังเกตใบหน้าของตนเองว่าหากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เหมาะกับผิวหน้าของคุณหรือไม่ หากไม่เหมาะสมให้ปรับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อความสมดุลของผิว 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า น้ำเปล่า มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหน้ามากกว่าที่คุณคิด โดย 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า มีดังต่อไปนี้ สะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาดผิวหน้า  ลดการเสียดสีกับผิวหน้า ช่วยลดการระคายเคืองกับบริเวณผิวหนัง ปลอดภัยต่อผิวหน้า เพราะมีน้ำมีความอ่อนโยนปราศจากสารเคมี เกิดการระคายเคืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า  ลดความเสี่ยงในการลอกคราบน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ช่วยปกป้องเกราะป้องกันผิว ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนง่าย ๆ ในการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ในตอนเช้าให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสะอาด และซับหน้าด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ซับเบา ๆ ให้แห้งที่ผิวหน้า จะช่วยลดการเสียดสีและลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง  ในช่วงตอนกลางคืน […]

สำรวจ การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

เลเซอร์ หนวด ประโยชน์ และข้อควรระวัง

เลเซอร์ หนวด เป็นการใช้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงในการกำจัดหนวดและเคราบนใบหน้า แทนการใช้มีดโกนหนวดหรือเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า เพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียน ซึ่งอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนวดขึ้นเร็วทำให้จำเป็นต้องโกนหนวดบ่อย ๆ จนก่อให้เกิดการระคายเคืองและบาดผิว [embed-health-tool-ovulation] ประโยชน์ของการเลเซอร์หนวด การเลเซอร์หนวดคือการใช้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อช่วยกำจัดขนที่ขึ้นบริเวณต่าง ๆ ทั่วไปบนใบหน้า ทั้ง คาง เหนือริมฝีปาก รวมถึงบริเวณขากรรไกรหรือที่เรียกว่าเครา เมื่อยิงเลเซอร์เข้าสู่ขน รากขนจะทำการดูดซับแสงเลเซอร์และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนที่ทำลายรากขนและเนื้อเยื่อที่ผลิตขน ส่งผลให้ขนหลุดออก และช่วยชะลอการเจริญเติบโตของขนเส้นใหม่ อย่างไรก็ตาม การเลเซอร์หนวดแต่ละครั้งขนอาจขึ้นใหม่ภายใน 3-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ที่จำเป็นต้องทำสม่ำเสมอและหลายครั้งโดยควรห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผิวระคายเคืองผิว ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงอาจมีค่าใช้จ่ายมาก  การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์หนวด การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์หนวด มีดังนี้ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานบริการเลเซอร์หนวดและคุณหมอที่ให้บริการเพื่อความปลอดภัย แจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญทราบหากผิวหนังบริเวณที่ต้องการเลเซอร์หนวดมีแผลเป็น หรือกำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาสิว ที่อาจทำให้ผิวไวต่อแสง หลีกเลี่ยงการโกนหนวดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนเลเซอร์ หนวดเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลจากมีดโกน และทำให้ไม่สามารถเลเซอร์กำจัดหนวดได้ ควรใช้วิธีการเล็มหนวดและเคราให้สั้นที่สุดด้วยกรรไกรแทน หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ก่อนถึงวันนัดหมายเลเซอร์หนวด หรือควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด ขั้นตอนการเลเซอร์หนวด ขั้นตอนการเลเซอร์หนวด มีดังนี้ ผู้เชี่ยวชาญอาจให้สวมแว่นตาที่มืดสนิทเพื่อปกป้องดวงตาจากแสงเลเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญอาจทายาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ และรอเวลาประมาณ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกอย่างไร

ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ควรเป็นครีมที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้หรือสารที่ทำให้ระคายเคือง เช่น น้ำหอม สีสังเคราะห์ กรดต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรมีสารประกอบไม่เกิน 10 ชนิด ทั้งนี้ หากใช้ครีมบำรุงผิวหน้าแล้วเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาคุณหมอผิวหนังหรือเภสัชกร [embed-health-tool-ovulation] ครีมบํารุงผิวหน้า มีความสำคัญอย่างไร ครีมบำรุงผิวหน้า เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทาหน้า มักมีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว รวมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยและจุดด่างดำให้จางลงได้ โดยทั่วไป ครีมบำรุงผิวหน้าแบ่งเป็นครีมกลางวันและครีมกลางคืน โดยครีมกลางวันมักมีเนื้อครีมบางเบา มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เพื่อช่วยบำรุงให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น และมักมีส่วนผสมของสารกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด สำหรับครีมกลางคืน เนื้อครีมจะหนาหรือหนักกว่า และมีส่วนผสมอย่างเรตินอล (Retinoid) กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acid) หรือกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวหนังขณะนอนหลับ ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย เลือกอย่างไร ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้าที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ ปราศจากสารที่อาจทำให้แพ้ เช่น น้ำหอม สีสังเคราะห์ สารกันเสียอย่างพาราเบน (Paraben) รวมถึงกรดบางชนิด เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดไกโคลิค (Glycolic Acid) กรดเรทิโนอิก (Retinoic Acid) กรดซาลิไซลิก (Salicylic […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมลดรอยแตกลาย ควรเลือกอย่างไร และวิธีลดรอยแตกลายที่ควรรู้

การใช้ ครีมลดรอยแตกลาย อาจช่วยให้รอยแตกลายบนผิวหนังแลดูจางลงและกลืนไปกับผิวหนังโดยรอบอย่างเป็นธรรมชาติ หากทาครีมลดรอยแตกลายตั้งแต่เริ่มเกิดรอยแตกหรือในช่วงที่รอยยังเป็นสีออกแดงหรือม่วง อาจช่วยให้รอยจางลงได้ดีกว่าปล่อยไว้นานหรือรอยแตกลายเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว ทั้งนี้ การเลือกครีมลดรอยแตกลายให้เหมาะสมและทาครีมหลังอาบน้ำติดต่อกันทุกวัน ร่วมกับใช้วิธีลดรอยแตกลายอื่น ๆ เช่น การเลเซอร์ การฉายแสง การทำไมโครนีดดิง (Microneedling) การใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency หรือ RF) อาจช่วยให้รอยแตกลายดูจางลงได้มากขึ้น [embed-health-tool-bmi] รอยแตกลาย เกิดจากอะไร รอยแตกลายบนผิวหนัง หรือที่เรียกว่า ผิวแตกลาย คือ ผิวหนังที่มีลักษณะเป็นเส้นริ้ว บางครั้งอาจเป็นร่องลึกที่สัมผัสแล้วเป็นคลื่นหรือรู้สึกได้ว่าผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดจากเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นกลางขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวแยกออกจากกันและกลายเป็นรอยแตกลาย มักเกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง หน้าอก หน้าอก ต้นแขน ขา ก้น สะโพก หลัง รอยแตกลายในระยะแรกจะมีสีเข้ม มักออกแดง ชมพู หรือม่วง และทำให้รู้สึกคันเล็กน้อย เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งสีจะจางลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นริ้วสีขาวหรือเทาแบบถาวรคล้ายแผลเป็น รอยแตกลายที่เกิดขึ้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่วนใหญ่ไม่สามารถลบเลือนให้หายสนิทได้ แต่ก็สามารถทำให้ดูจางจนเนียนไปกับผิวหนังปกติได้ด้วยการทาครีมลดรอยแตกลายหรือรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ ทั้งนี้ รอยแตกลายจะดูจางลงมากหรือน้อยอาจขึ้นอยู่กับอายุของรอยแตกลายด้วย โดยทั่วไป รอยแตกลายที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ มีโอกาสจางลงได้มากกว่ารอยแตกลายที่เกิดขึ้นนานแล้ว ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดรอยแตกลาย ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดรอยแตกลาย อาจมีดังนี้ อายุ ในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายจะเจริญเติบโตและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังยืดออกเร็วเกินไป […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผื่นโควิดคันไหม อาการทางผิวหนังของโรคโควิด 19

โควิค 19 เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ยังคงระบาดอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีแนวทางการรักษาที่ดีมากขึ้น แต่ก็ยังอาจทำให้เกิดผลกระทบในด้านต่าง ๆ เช่น ผื่นโควิด ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อโควิด 19 และอาจเกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อโควิด 19 อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่า ผื่นโควิดคันไหม สาเหตุของการเกิดผื่นคืออะไร ลักษณะของผื่นเป็นอย่างไร ซึ่งการรู้ถึงอาการ สาเหตุ และลักษณะของผื่นโควิด อาจช่วยให้ดูแลผิวได้อย่างเหมาะสมและอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ [embed-health-tool-bmi] อาการทางผิวหนังของโควิด 19 อาการทางผิวหนังอาจเป็นสัญญาณแรกของโควิด 19 หรืออาจเป็นอาการลองโควิด (Long Covid) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังการติดเชื้อโควิด 19 ที่อาจทำให้ผู้ป่วยบางคนมีอาการผื่นขึ้นตามผิวหนัง โดยผื่นอาจแสดงลักษณะอาการหลายรูปแบบ ดังนี้ ผดผื่นแดงขนาดเล็ก (Morbilliform Rash) เป็นลักษณะผื่นที่อาจพบได้บ่อยในผู้ป่วยโควิด 19 คล้ายไข้ออกผื่น พบผื่นแบบนี้ได้บ่อยที่สุด ที่มีอาการไม่รุนแรง ส่งผลให้เกิดผดผื่นสีแดงขนาดเล็กคล้ายผดร้อน และอาจเกิดขึ้นได้ทั่วบริเวณผิวหนังบนร่างกายโดยเฉพาะแขนและขา ผื่นนิ้วเท้าจากโควิด (Covid Toes) มักพบในเด็กเล็กที่ติดเชื้อโควิด มีลักษณะเป็นผื่นแดง นูน บวมและคัน ลักษณะคล้ายปฏิกิริยาทางผิวหนังเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิหนาวเย็น แสดงถึงอาการผิดปกติของเส้นเลือด มักเกิดขึ้นบริเวณเท้าและนิ้วเท้า ลมพิษ (Urticaria) มักเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวแห้งคัน สาเหตุ อาการ วิธีรักษาและการดูแลตัวเอง

ผิวแห้งคัน เป็นภาวะทางผิวหนังที่พบได้ทั่วไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความร้อน สภาพอากาศ โรคผิวหนังบางชนิด อายุ การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ โดยทั่วไป การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เช่น ใช้ครีมบำรุงผิวหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ทายาบรรเทาอาการคัน อาจช่วยรักษาอาการผิวแห้งคันให้หายเป็นปกติได้ในเวลาไม่นาน แต่หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] ผิวแห้งคัน เกิดจากอะไร ผิวแห้งคันมักเกิดจากปัจจัยภายนอก ดังนี้ ความร้อน การใช้เครื่องทำความร้อนอาจลดความชื้นภายในบ้านและทำให้ผิวแห้งกร้านและคันได้ อายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ผิวจะแห้งขึ้น เนื่องจากชั้นผิวเก็บกักน้ำได้น้อยลง อาจส่งผลให้เกิดภาวะผิวหนังอักเสบ ทำให้คัน ระคายเคือง หรือแห้งแตกจนเลือดออกได้ ภาวะสุขภาพผิว เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคหิด ลมพิษ อาจทำให้ผิวหนังแห้ง คัน และอักเสบได้ สภาพอากาศ ในช่วงฤดูหนาวที่ความชื้นในอากาศและอุณหภูมิลดลง หรือในฤดูร้อนที่อากาศแห้งมาก ๆ อาจทำให้ผิวแห้งลอกและมีอาการคันได้ การว่ายน้ำในสระ สระว่ายน้ำที่มีคลอรีนซึ่งเป็นสารช่วยรักษาความสะอาดของน้ำในสระ อาจทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลงได้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ที่ขจัดความมันและลดความชุ่มชื้นของผิว […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมลดฝ้า กระ ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง

ฝ้า กระ เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนัง จนทำให้เกิดฝ้าเป็นปื้นสีดำหรือสีน้ำตาลขนาดใหญ่ และกระที่เป็นจุดกลมเล็ก ๆ สีน้ำตาลกระจายบนผิวหนัง ซึ่งอาจรักษาเพื่อบรรเทาอาการได้ด้วยการใช้ ครีมลดฝ้า กระ ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ช่วยผลัดเซลล์ผิว และชะลอการสร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนัง เพื่อให้ผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น [embed-health-tool-bmi] ฝ้า และ กระ แตกต่างกันอย่างไร ความแตกต่างระหว่างฝ้าและกระ อาจมีดังนี้ ฝ้า เป็นความผิดปกติของเม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนังจนทำให้เกิดจุดด่างดำเป็นปื้นขนาดใหญ่สีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสัมผัสรังสียูวีในแสงแดดมากเกินไป นอกจากนี้ ยังอาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การกินยาบางชนิด และการแพ้เครื่องสำอาง กระ เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นเมื่อมีการรวมตัวของเม็ดสีผิวใต้ผิวหนังมากเกินไป จนเกิดเป็นจุดสีน้ำตาลกระจายบนผิวหนัง พบได้บ่อยในช่วงวัยเด็กและผู้ที่มีผิวขาว โดยกระอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กระตามกรรมพันธุ์ (Ephelides) จะเกิดขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย และกระแดด (Solar Lentigines) ซึ่งที่พัฒนาเมื่ออายุมากขึ้นประมาณ 50 ปีขึ้นไป หรือเรียกว่า จุดด่างอายุ (Age Spots) ดังนั้น ความแตกต่างของฝ้าและกระ อาจแยกได้จากสาเหตุของการเกิดฝ้าและกระ รวมถึงลักษณะของฝ้าและกระ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า คือ เม็ดสีผิวผิดปกติ สว่นใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับรังสียูวีในแสงแดดมากเกินไป และมีลักษณะเป็นปื้นสีดำหรือสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ในขณะที่สาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดกระ คือ การสืบทอดทางพันธุกรรม และกระจะมีลักษณะเป็นจุดกลมเล็ก […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้าหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร และวิธีทำให้ผิวกลับมาเต่งตึงอย่างไร

หน้าหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น และมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร อาจเกิดจากผิวขาดการบำรุงสม่ำเสมอ รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด การสูบบุหรี่ หรือเซลล์ผิวเสื่อมสภาพตามช่วงอายุ อย่างไรก็ตาม หากอยากฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดี กระชับเต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัย ควรศึกษาวิธีการดูแลผิวหน้า หรือขอคำปรึกษาจากคุณหมอโดยตรง [embed-health-tool-bmr] หน้าหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร หน้าหย่อนคล้อย ที่อาจส่งผลให้มีริ้วรอยก่อนวัย อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้ อายุมากขึ้น อาจทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพและอาจทำให้การผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น รวมถึงการผลิตน้ำมันบนใบหน้าลดลง ส่งผลให้ผิวหน้าแห้งกร้าน มีริ้วรอยและผิวหน้าหย่อนคล้อย รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด อาจทำลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในชั้นผิวหนัง เช่น คอลลาเจน อีลาสติน (Elastin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น และช่วยยึดเซลล์ผิวให้เรียงตัวกัน จึงส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความแข็งแรง ขาดความยืดหยุ่น จนทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยก่อนวัย ขาดการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เพราะอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ ที่อาจช่วยป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพเนื่องจากอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยลดการเกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย การแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไป เช่น ยิ้ม หัวเราะ เครียด เนื่องจากอาจต้องใช้กล้ามเนื้อบนผิวหน้ามากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อผิวหน้าเสื่อมสภาพและสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว นำไปสู่การเกิดร่องลึกใต้ผิวหนัง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ดูแลผิวหน้า ลดความมันและป้องกันสิว ทำอย่างไร

การดูแลผิวหน้า อาจช่วยแก้ปัญหาสุขภาพผิวต่าง ๆ เช่น ผิวหน้าโทรม ริ้วรอยก่อนวัยอันควร รวมถึงช่วยลดความมันที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วยดังนั้น จึงควรศึกษาวิธี ดูแลผิวหน้า อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น การล้างหน้า การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเหมาะสม การทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงการบีบสิว และควรทายารักษาสิวตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อช่วยดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพดีและลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพผิวต่าง ๆ ได้ [embed-health-tool-bmr] การดูแลผิวหน้า สำคัญอย่างไร การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสม อาจช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี กระจ่างใส ช่วยลดริ้วรอย ป้องกันการเกิดสิวและรอยสิว อีกทั้งยังอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผิวสามารถดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนวดผิวเบา ๆ ขณะทาครีมบำรุงหรือล้างหน้า อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดอาการบวม และอาจช่วยขับสารพิษออกจากผิวหนัง การไม่ดูแลผิวหรือไม่เข้ารับการรักษาเมื่อเกิดปัญหาผิว อาจส่งผลให้ผิวโทรม ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย สิวขึ้น และอาจเสี่ยงต่อการเป็นสิวอักเสบเรื้อรังที่อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น หลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน รวมถึงอาจเสี่ยงเป็นโรคเซ็บเดิร์มที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราเนื่องจากน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้ากระตุ้นให้เชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไป โดยสังเกตได้จากอาการผิวลอกเป็นขุย ตกสะเก็ด ผิวแดง โดยเฉพาะบริเวณข้างจมูก เปลือกตา ผิวรอบหนังศีรษะและแก้ม วิธีดูแลผิวหน้า วิธีดูแลผิวหน้า อาจทำได้ดังนี้ ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เพื่อช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก ป้องกันรูขุมขนอุดตันที่อาจนำไปสู่การเกิดสิว […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้าใส ไร้สิวและจุดด่างดำ มีวิธีการดูแลอย่างไร

การดูแลผิวให้ หน้าใส ไร้สิวและจุดด่างดำ รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดี อาจทำได้หลายวิธี เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกจากบ้าน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิว และการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ช่วยป้องกันสิวอักเสบรุนแรง และเพิ่มความมั่นใจเมื่อพบเจอผู้คนมากขึ้น [embed-health-tool-ovulation] หน้าใส คืออะไร หน้าใส คือ ผิวหน้าที่มีสุขภาพผิวดี ไม่หมองคล้ำ ผิวดูอิ่มน้ำ ไร้สิวและจุดด่างดำ ซึ่งเป็นผิวที่ใครหลาย ๆ คนอาจต้องการ เพราะอาจช่วยให้แต่งหน้าติดทนหรือแต่งหน้าน้อยลง ลดปัญหาการเกิดสิวรุนแรง และช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อออกไปพบเจอผู้คนมากมาย วิธีดูแลผิวให้หน้าใส วิธีดูแลผิวให้หน้าใส อาจทำได้ดังนี้ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืช ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ซึ่งอาจช่วยทำให้ผิวดูสุขภาพดี หน้าใส และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง เพราะอาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น นำไปสู่การเกิดสิว และรอยแผลเป็นหลังสิวหาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการอดนอนอาจทำให้ผิวใต้ตาดำคล้ำ ผิวดูโทรม อีกทั้งยังอาจทำให้ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันลดลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคผิวหนังและการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำน้อยอาจส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำและผิวแห้งกร้านได้ จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และอาจช่วยให้หน้าใส หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในช่วงเวลาแดดจัด และควรทาครีมกันแดดที่มี […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวเป็นขุย สาเหตุ การรักษา และการป้องกัน

ผิวเป็นขุย คือ อาการผิวหนังชั้นนอกสุดลอกออกเป็นขุยสีขาว ปกติแล้วมักเกิดจากภาวะผิวแห้ง อย่างไรก็ตาม หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการคันรุนแรง ผื่นแดงเป็นวงกว้าง ตุ่มหนอง แผลพุพอง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคกลาก โรคน้ำกัดเท้า โรคงูสวัด ดังนั้น จึงควรเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงหรือเกิดการลุกลามไปทั่วทั้งร่างกาย [embed-health-tool-bmr] สาเหตุที่ทำให้ผิวเป็นขุย สาเหตุที่ทำให้ผิวเป็นขุย อาจมีดังนี้ อายุที่มากขึ้น อาจส่งผลให้ร่างกายเสื่อมสภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวลดลง ส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวลอก และผิวเป็นขุย สภาพอากาศ เช่น อากาศหนาวเย็น มีลมแรง อาจทำให้ความชุ่มชื้นในผิวลดลง ส่งผลให้เกิดอาการผิวเป็นขุย โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น แพ้สบู่ แพ้ยาสระผม แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผงซักฟอก แพ้ฝุ่น แพ้เครื่องสำอาง รวมถึงการแพ้อาหารหรือวัตถุต่าง ๆ เช่น แพ้โลหะ แพ้อาหารทะเล แพ้ผักและผลไม้บางชนิด ที่อาจส่งผลให้เกิดผื่นแดง มีอาการคัน ผิวแห้ง และผิวเป็นขุย โรคผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน