การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอันตรายต่าง ๆ ภายนอก การดูแลและทำความสะอาดผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย มาเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับ การดูแลและทำความสะอาดผิว พร้อมกันกับ Hello คุณหมอ สิคะ

เรื่องเด่นประจำหมวด

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น มีประโยชน์ต่อผิวหน้า อย่างไร

เชื่อว่าหลายคนมักนำน้ำเย็นมาล้างหน้า เพราะเชื่อว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นสามารถลดความมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวต่าง ๆ เช่น สิวอักเสบสิวอุดตัน สิวผด บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกันค่ะว่า การ ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น มีประโยชน์ต่อผิวหน้าอย่างไรบ้าง เรามาศึกษาข้อมูลนี้ไปพร้อมกัน ๆ เลยค่ะ [embed-health-tool-bmi] ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น มีประโยชน์ต่อผิวหน้า อย่างไร การล้างหน้าด้วยน้ำเย็น มีประโยชน์ต่อผิวหน้ามากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้า เพราะน้ำเย็นมีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน เต่งตึง นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวหน้ารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน ควรสังเกตผิวหน้าของตนเองว่าเหมาะกับการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือไม่ หากมีอาการผิวแห้ง หรือเกิดการระคายเคือง ควรหยุดล้างหน้าด้วยน้ำเย็น หากหยุดล้างหน้าด้วยน้ำเย็นแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำปรึกษาแพทย์ผิวหน้าหรือแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำแนะนำการรักษา คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเย็น  หลายคนที่ชอบล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ลองมาดูประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเย็น กันดูบ้างนะคะ รับรองว่ามีดีไม่แพ้การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเลยทีเดียว น้ำเย็นช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ อ่อนกว่าวัย ลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า น้ำเย็นช่วยลดความหมองคล้ำของผิว และช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น เปล่งปลั่ง กระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น  น้ำเย็นมีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน โดยอาจใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเพื่อเปิดรูขุมขนและใช้นำเย็นล้างหน้าอีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขน น้ำเย็นช่วยปกป้องรูขุมขนของผิวคุณจากการถูกทำร้ายด้วยแสงแดด เนื่องจากน้ำเย็นจะกระชับรูขุมขนที่เปิดออกเมื่อผิวหนังสัมผัสกับรังสีที่เป็นตรายจากดวงอาทิตย์ การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นก่อนแต่งหน้าช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานมากยิ่งขึ้น  เคล็ดไม่ (ลับ) ในการล้างหน้าด้วยน้ำเย็น น้ำเย็นที่ใช้ล้างหน้าไม่ควรเป็นน้ำที่เย็นจัดจนเกินไป เพราะอาจะทำให้ผิวหน้าเสียสมดุล เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ หากคุณมีอาการแพ้หลังจากการหลังหน้าด้วยน้ำเย็น ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อรับคำแนะนำการรักษา

สำรวจ การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

เลเซอร์กระ ผลข้างเคียง และวิธีดูแลตนเอง

เลเซอร์กระ เป็นวิธีการกำจัดกระ ซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ สีออกน้ำตาลหรือแดงบนผิวหนัง ซึ่งมักเกิดขึ้นบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย เช่น ใบหน้า โหนกแก้ม คอ หน้าอก แขน กระ อาจไม่จัดเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่หากมีกระจำนวนมากขึ้นตามใบหน้าและตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ก็อาจทำให้สูญเสียความมั่นใจ ซึ่งสามารถกำจัดกระด้วยวิธีทางการแพทย์ต่าง ๆ เช่น เลเซอร์กระ ซึ่งเป็นการยิงเลเซอร์แบบเฉพาะจุดบริเวณผิวหนัง เพื่อขจัดเซลล์เม็ดสีจากตำแหน่งเดิม ซึ่งอาจช่วยให้กระดูจางลง [embed-health-tool-bmi] กระ คืออะไร กระ เป็นจุดเล็ก ๆ สีออกน้ำตาลปรากฏบนผิวหนังบริเวณใบหน้า แขน หลังมือ ลำคอ หรือหน้าอก มีสาเหตุจากการที่ร่างกายสร้างเม็ดสีผิวหรือเมลานิน (Melanin) มากเกินไป ทั้งจากการถูกกระตุ้นโดยปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด หรือเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม กระสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้ กระทั่วไปหรือกระตื้น เป็นกระชนิดที่พบบ่อย มีสีแดงหรือน้ำตาล เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตรหรือใหญ่กว่า และอาจมีเส้นขอบไม่ชัดเจน โดยปกติ มักพบบริเวณใบหน้า คอ อก และแขน […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ยาทาหูด มีอะไรบ้างและใช้อย่างไร

ยาทาหูด สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป อาจมีทั้งรูปแบบเจล ครีมหรือขี้ผึ้ง ส่วนใหญ่เป็นยาที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยละลายหูด ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มขึ้น เมื่อทาแล้วไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดหรือแสบร้อน แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาหลายสัปดาห์ในการรักษาถึงจะหายขาด อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยาทาหูดตามคำแนะนำของคุณหมอ เพื่อกำจัดเชื้อไวรัสที่ตกค้างและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ [embed-health-tool-bmr] ยาทาหูด มีอะไรบ้าง ในบางครั้งหูดอาจสามารถหายได้เองภายใน 6 เดือน หรือภายใน 2-3 ปีโดยไม่ต้องรักษา แต่หากหูดไม่หายไปเองหรืออาจทำให้มีอาการไม่สบายตัว เช่น คัน เจ็บปวด แสบร้อน จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจำเป็นต้องใช้ ยารักษาหูด เพื่อช่วยบรรเทาอาการและทำให้หูดหายเร็วขึ้น ยาทาหูดส่วนใหญ่อาจหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ซึ่งมีทั้งรูปแบบเจล ครีมหรือขี้ผึ้ง โดยมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก กรดแลคติก (Lactic Acid) กรดไตรคลอโรอะซิติก (Trichloroacetic Acid หรือ TCA) กรดฟีนอล (phenol) และ 5-FU ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนนุ่มขึ้นและละลายหูดออก และกลุ่มยาทาหูดบริเวณอวัยวะเพศ ได้แก่ ทิงเจอร์โพโดฟิลลิน 25% (Tincture Podophyllin 25%) ใช้ทาบริเวณที่เป็นหูด จากนั้นใช้น้ำและสบู่ล้างยาออกหลังจากทายาประมาณ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ขี้ไคล เกิดจากอะไร ควรดูแลอย่างไรให้ผิวสะอาด

ขี้ไคล เป็นเซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดที่ตายแล้วและหลุดลอกออกตามวงจรการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของร่างกาย แต่ในบางครั้งขี้ไคลอาจหลุดออกช้าจนเป็นแหล่งหมักหมมของสิ่งสกปรกและอาจก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้ จึงอาจต้องเร่งกระบวนการขจัดขี้ไคลด้วยการขัดผิว เพื่อให้ผิวกระจ่างใสและช่วยให้ผิวสะอาดมากขึ้น [embed-health-tool-bmr] ขี้ไคล เกิดจากอะไร ขี้ไคล คือ เซลล์ผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้าที่ลอกหลุดออกตามกาลเวลาเมื่อเซลล์ผิวหนังตายแล้ว โดยผิวหนังชั้นนอกมีหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวหนังจากการทำร้ายของสภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด มลภาวะ เชื้อโรคต่าง ๆ และยังช่วยรักษาอุณภูมิในร่างกาย รักษาความชุ่มชื้น ป้องกันไม่ให้น้ำในร่างกายออกมาด้านนอกของผิวหนัง วงจรการผลัดเซลล์ผิวหนังให้กลายเป็นขี้ไคลจะเกิดขึ้นเป็นลำดับขั้นอย่างต่อเนื่อง โดยผิวเก่าชั้นบนสุดจะหลุดลอกออกและถูกแทนที่ด้วยเซลล์ผิวใหม่ ในคนวัยหนุ่มสาว วงจรการผลัดเซลล์ผิวนี้จะใช้เวลาประมาณ 28 วัน  แต่เมื่ออายุมากขึ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง อาจใช้เวลาประมาณ 45 วัน จึงจะผลัดเซลล์ผิวเสร็จสมบูรณ์ วิธีขจัดขี้ไคลให้เหมาะกับสภาพผิว ขี้ไคล นอกจากจะหลุดออกตามกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่สามารถช่วยกระตุ้นให้ขี้ไคลหลุดออกได้ง่ายขึ้น ซึ่งการขจัดขี้ไคลส่งผลดีต่อสุขภาพผิว อาจช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสและอาจช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม อาจต้องเลือกวิธีการขจัดขี้ไคลให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน ดังนี้ ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายเป็นสภาพผิวที่บอบบาง จึงควรขัดผิวอย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง แห้ง แดงและอักเสบได้ง่าย ดังนั้น ควรขัดขี้ไคลด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) และกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หลังจากขัดผิวแล้วควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 เพื่อปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด และทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากกรดไกลโคลิกอาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดดมากขึ้น ผิวมัน ผิวมันเป็นสภาพผิวที่มีการขับน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้มีสิ่งตกค้าง เช่น สิ่งสกปรก […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ฉีดฟิลเลอร์ ประโยชน์และข้อควรระวัง

ฉีดฟิลเลอร์ เป็นการเสริมความงามประเภทหนึ่ง โดยคุณหมอจะฉีดสารบางชนิดเข้าสู่ใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย ช่วยเติมเต็มตามจุดต่าง ๆ เช่น ใต้ตา คาง ริมฝีปาก เพื่อให้ดูอวบอิ่มรับกับใบหน้า หรืออาจช่วยเติมให้ใบหน้าดูสมมาตรมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ฉีดฟิลเลอร์ คือ การเสริมความงามที่มีการใช้สารบางชนิดฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง เช่น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) โพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) กรดโพลิแลกติก (Polylactic Acid) โพลีเมทิลเมทาคริเลต ไมโครสเฟียร์ (Polymethyl Methacrylate Microspheres หรือ PMMA) เพื่อเติมเต็มร่องลึก ร่องริ้วรอยและฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบมากขึ้น ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ เมื่ออายุมากขึ้นไขมันใต้ผิวหนังจะเริ่มสูญเสียไปตามธรรมชาติ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าทำงานใกล้กับผิวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดร่องลึก รอยตีนกาหรือรอยเหี่ยวย่นที่มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น การฉีดฟิลเลอร์จึงอาจมีประโยชน์มากกับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าและต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอิ่มฟูมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์สามารถใช้ฉีดผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ได้ เช่น ริมฝีปาก เพื่อช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มมากขึ้น ใต้ตา เพื่อช่วยให้ร่องใต้ตาที่ลึกดูตื้นขึ้น คาง เพื่อช่วยเสริมให้คางที่สั้นดูยาวขึ้น แผลเป็น เพื่อช่วยปรับปรุงลักษณะของแผลเป็นให้ดูตื้นขึ้น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ยาแก้คันผิวหนัง มีอะไรบ้าง

ยาแก้คันผิวหนัง เป็นยาที่ออกฤทธิ์เพื่อช่วยบรรเทาหรือรักษาอาการคัน โดยลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง รักษาการติดเชื้อ ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง ลดปัญหาผิวแห้งแตก ซึ่งการใช้ยาแต่ละชนิดอาจขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของอาการคันผิวหนัง ความรุนแรงและการพิจารณาของคุณหมอ อาการคันผิวหนัง เกิดจากอะไร อาการคันผิวหนัง เป็นความรู้สึกไม่สบายผิวและระคายเคืองผิวจนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกคันและอยากเกาผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ผิวแห้งแตก การอักเสบ การติดเชื้อ ปัญหาสุขภาพ อาการแพ้ โดยอาการคันผิวหนังอาจมีลักษณะผิวแดง หยาบกร้าน เป็นตุ่ม แผลพุพอง อย่างไรก็ตาม อาการคันผิวหนังที่เกิดขึ้นอาจขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักด้วยเช่นกัน และการเกาบริเวณที่มีอาการคันซ้ำ ๆ อาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ ผิวลอก เกิดบาดแผล หนาขึ้น มีเลือดออกหรืออาจติดเชื้อได้ ยาแก้คันผิวหนัง มีอะไรบ้าง การรักษาอาการคันผิวหนังด้วยยาแก้คันผิวหนังอาจขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักในการเกิดอาการคัน ระดับความรุนแรง และอาจขึ้นอยู่การพิจารณาของคุณหมอ ดังนี้ ครีม โลชั่นหรือขี้ผึ้งคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) เบตาเมทาโซน ไดโพรพิโอเนต (Betamethasone Dipropionate) เบตาเมทาโซน วาเลเรต (Betamethasone Valerate) โคลเบตาซอล โพรพิโอเนต (Clobetasol Propionate) เดสออกซิเมทาโซน (Desoximetasone) ไฮโดรคอร์ติโซน อะซิเตท […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เลเซอร์หน้าใส ประโยชน์ และผลข้างเคียง

เลเซอร์หน้าใส เป็นการแก้ปัญหาผิวหน้าอย่างสิว จุดด่างดำ แผลเป็น และริ้วรอยแห่งวัยต่าง ๆ ด้วยการฉายแสงเลเซอร์ลงบนใบหน้า เพื่อกำจัดสิว ผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ให้ผิวหน้าเรียบเนียนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การทำเลเซอร์หน้าใสอาจมีผลข้างเคียง ได้แก่ ใบหน้าบวม สีผิวเข้มขึ้นหรือจางลงเฉพาะจุด หรือเกิดการติดเชื้อ แม้เลเซอร์หน้าใสจะเป็นที่นิยม แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หน้าใส ได้แก่ ผู้ที่มีผิวเข้ม หญิงตั้งครรภ์ หญิงในระยะให้นมบุตร และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ [embed-health-tool-bmi] เลเซอร์หน้าใส คืออะไร เลเซอร์หน้าใส เป็นการฉายเลเซอร์ลงบนใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้า เช่น จุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น แผลเป็น สิว ทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสหรือลดเลือนริ้วรอยให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย ในกรณีของสิว การฉายแสงเลเซอร์จะช่วยลดการอักเสบหรือบวมแดงโดยทำให้สิวค่อย ๆ ยุบตัวลง นอกจากนี้ แสงเลเซอร์ยังมีคุณสมบัติกำจัดไขมันที่อุดตันในรูขุมขนรวมถึงฆ่าเชื้อแบคทีเรียพี แอคเน่  (P. Acne หรือ Propionibacterium Acne) ที่เป็นต้นเหตุของสิว อย่างไรก็ตาม การทำเลเซอร์หน้าใสอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โดยผู้ที่ไม่ควรรักษาผิวหน้าด้วยเลเซอร์หน้าใส ได้แก่ ผู้ที่มีผิวสีเข้มมาก เนื่องจากมักพบการเปลี่ยนแปลงของสีผิวแบบถาวรหลังจากการฉายแสงเลเซอร์ โดยกรณีนี้ พบบ่อยกว่าผู้ที่มีผิวสีอ่อนกว่า ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ที่เคยเป็นโรคเริม หรือมีแนวโน้มเป็นโรคเริมหลังจากการรักษา […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ริ้วรอยใต้ตา สาเหตุและการรักษา

ริ้วรอยใต้ตา เป็นริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นจากความเสื่อมสภาพของผิวตามอายุ การหดตัวของกล้ามเนื้อรอบดวงตาซ้ำ ๆ เนื่องจากการขยับใบหน้าบ่อยครั้ง การยิ้มบ่อย การขยี้ตาบ่อย หรืออาจเกิดจากโครงสร้างเนื้อเยื่อผิวถูกทำลายจากรังสียูวีในแสงแดดและการสูบบุหรี่ ซึ่งการปกป้องและดูแลรักษาผิวอย่างถูกต้องเหมาะสมอาจช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใต้ดวงตาก่อนวัยได้ ประเภทของริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาอาจแบ่งได้เป็นหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้ ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า (Dynamic Wrinkle) เป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการหดตัวซ้ำ ๆ ของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง มักเกิดขึ้นบริเวณหว่างคิ้ว ใต้ตา หน้าผาก โดยเฉพาะเวลายิ้มหรือขมวดคิ้วจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ ขยับและหดตัวบ่อยครั้ง ริ้วรอยที่เกิดขึ้นอย่าวถาวร (Static Wrinkle) เป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นอย่างคงที่แม้จะไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการพัฒนาของริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นเวลานาน ส่งผลทำให้ริ้วรอยเกิดขึ้นอย่างถาวร นอกจากนี้ การสัมผัสกับแสงแดด ควันบุหรี่ และการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ก็อาจเร่งให้เกิดริ้วรอยชนิดนี้ได้เช่นกัน ริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามอายุ (Wrinkle Folds) เป็นริ้วรอยที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของผิวหนัง เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นโครงสร้างเนื้อเยื่อผิวย่อมเสื่อมสภาพลงทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดเป็นริ้วรอย สาเหตุของการเกิด ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ อายุ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นโครงสร้างเนื้อเยื่อผิว ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวอาจลดลงตามธรรมชาติ จึงส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิวหนังและเกิดริ้วรอยใต้ตา การขยับใบหน้าซ้ำ ๆ การเคลื่อนไหวใบหน้าหรือแสดงอารมณ์บนใบหน้าบ่อยครั้งจนทำให้ผิวเกิดรอยย่น เช่น การยิ้ม ขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณผิวหนังเกิดการหดตัวซ้ำ ๆ จนเกิดเป็นร่องและริ้วรอยใต้ตาในที่สุด […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

แพ้ครีมทาผิว รักษาอย่างไร ป้องกันได้หรือไม่

แพ้ครีมทาผิว เป็นปฏิกิริยาของผิวหนังหลังจากสัมผัสกับสารเคมีบางอย่างที่เป็นส่วนผสมในครีมทาผิว อาการที่พบโดยส่วนมาก ได้แก่ เกิดผื่นแดง คัน ผิวบวมนูน หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ครีมทาผิวทันทีและงดการใช้ครีมอื่น ๆ ทุกชนิดเช่นกัน นอกจากนั้น ควรเข้าพบคุณหมอ โดยส่คุณหมอมักรักษาด้วยการจ่ายยาลดการอักเสบ หรือยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้ อาการแพ้ครีมทาผิวอาจป้องกันได้โดยการเลือกซื้อครีมให้เหมาะกับสภาพผิว รวมทั้งอาจเข้ารับการทดสอบอาการแพ้ก่อนตัดสินใจซื้อครีม เพื่อจะได้ทราบว่าควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนสารชนิดใดบ้าง [embed-health-tool-bmi] แพ้ครีมทาผิว เกิดจากอะไร การแพ้ครีมทาผิว เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อสารต่าง ๆ ในครีมทาผิวที่ทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือเป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่น น้ำหอม สารเคมี น้ำมันหอมระเหย กรดต่าง ๆ เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) กรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous Acid) กรดกลุ่มอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) สารกันบูด เช่น สารกลุ่มพาราเบน (Parabens) สารสกัดจากสัตว์ เช่น ลาโนลิน (Lanolin) ที่สกัดจากขนแกะ ในทางการแพทย์ แพ้ครีมทาผิวจัดเป็นอาการของโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โรคผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) ซึ่งพบได้ทั่วไป โดยแบ่งได้เป็น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ลดรอยแตกลาย มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

รอยแตกลาย หมายถึง รอยแยกหรือรอยแผลเป็นของผิวหนังที่เกิดจากการยืดหรือหดของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว สามารถพบได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น แก้มก้น หน้าท้อง หน้าอก สะโพก ท้องแขน ต้นขา วิธี ลดรอยแตกลาย อาจทำได้ด้วยการทาครีมที่มีส่วนประกอบของเรตินอยด์ หรือกรดไฮยาลูรอนิค เป็นส่วนผสม รวมทั้งการกรอผิวและบำบัดด้วยแสงเลเซอร์ [embed-health-tool-bmi] รอยแตกลาย คืออะไร รอยแตกลายคือรอยแผลเป็นบนผิวหนังรูปแบบหนึ่ง มักพบบริเวณหน้าอก หน้าท้อง สะโพก แก้มก้น ต้นขา ท้องแขน น่อง บริเวณข้อต่อหรือรอยพับ โดยมีลักษณะเป็นเส้นสีขาวจาง ๆ หรือเส้นสีชมพูเข้มบนผิวหนัง ไม่มีอาการเจ็บหรือระคายเคืองร่วมด้วยแต่อย่างใด รอยแตกลายเกิดจากการยืดหรือหดตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็วที่ส่งผลให้โครงสร้างของโปรตีน คอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในผิวหนัง เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จนเกิดเป็นรอยแตกลาย ทั้งนี้ สาเหตุของการเกิดรอยแตกลายมีหลายประการ เช่น การตั้งครรภ์ ร่างกายเจริญเติบโตและรูปร่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น การผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอก ความอ้วน การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การใช้ครีมที่มียาแก้อักเสบคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เป็นส่วนผสมติดต่อกันเป็นเวลานาน พันธุกรรม ลดรอยแตกลาย มีวิธีไหนบ้าง รอยแตกลายไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังหรือสุขภาพ ในบางรายอาจจางหายไปเองโดยไม่ต้องรักษา ในขณะที่บางราย […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้าเป็นหลุม สาเหตุ การรักษาและการป้องกัน

หน้าเป็นหลุม เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นหลังจากสิวอักเสบหายไป เนื่องจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลายลึกลงไปและเป็นบริเวณกว้างจนคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังอาจไม่สามารถฟื้นฟูได้ทัน และเกิดเป็นหลุมสิวขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าหยาบกระด้าง ไม่เรียบเนียน ดังนั้น การป้องกันปัญหาสิวและการรักษาหลุมสิวอย่างถูกวิธีจึงอาจช่วยปรับปรุงสุขภาพผิวให้ดีขึ้นได้ สาเหตุของหน้าเป็นหลุม หน้าเป็นหลุม มักมีสาเหตุมาจากการอักเสบของสิวที่เกิดขึ้นลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง ส่งผลให้เนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังสลายหายไปจนกลายเป็นหลุมลึก เมื่อสิวหายจากการอักเสบหากหลุมลึกใต้ชั้นผิวหนังมีขนาดเล็ก คอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังจะค่อย ๆ สร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนที่เนื้อเยื่อที่หายไป แต่ในบางกรณีที่หลุมลึกมีขนาดใหญ่หรือเนื้อเยื่อรอบข้างอักเสบมาก และถูกทำลายอย่างรุนแรงจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ทันก็อาจส่งผลให้เกิดเป็นหลุมสิวลึกและมีขนาดใหญ่ได้ สำหรับปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดหลุมสิว อาจมีดังนี้ สิวอักเสบ มีอาการบวม แดงและเจ็บปวด สิวประเภทนี้มักอักเสบลึกลงไปในผิวหนังและทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังมาก การไม่รักษาสิวอักเสบ การปล่อยให้สิวอักเสบคงอยู่เป็นเวลานานอาจยิ่งเพิ่มการทำลายเซลล์เนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังมากขึ้น การกดหรือบีบสิว อาจเพิ่มการอักเสบให้กับสิวและผิวหนังมากขึ้น การรักษาหน้าเป็นหลุม การรักษาหลุมสิวของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะผิว ความรุนแรงของหลุมสิวและประเภทของแผลเป็นจากสิว ซึ่งวิธีที่ใช้รักษาหลุมสิวได้ อาจมีดังนี้ การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงและช่วยเติมเต็มบริเวณที่เป็นหลุม ซึ่งช่วยให้รอยแผลเป็นและหลุมสิวดูจางลง แต่ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์อาจคงอยู่เพียงชั่วคราว จึงจำเป็นต้องทำการรักษาซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง การฉีดสเตียรอยด์ เป็นการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในแผลเป็นนูน ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงลักษณะของหลุมสิว และอาจทำให้รอยนูนดูจางลง การผลัดผิวด้วยเลเซอร์ เป็นการยิงเลเซอร์ลงบนผิวหนังที่เป็นแผลเป็นหรือหลุม เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าและให้ผิวใหม่พัฒนาขึ้นมาแทนที่ ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงในผู้ที่มีสีผิวคล้ำหรือเคยมีประวัติเป็นคีลอยด์ การขัดผิวเพื่อกำจัดแผลเป็น (Dermabrasion) เป็นการรักษาที่มักใช้สำหรับรอยแผลเป็นที่รุนแรงมาก โดยคุณหมอจะเอาผิวหนังชั้นบนออกด้วยการขัดด้วยแปรงหมุนเร็ว ทำให้หลุมสิวแลดูจางลง แต่อาจมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เช่น รอยแผลเป็นใหม่ สีผิวเปลี่ยนแปลง การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว (Chemical […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน