โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โรคอ้วน และโรคเบาหวาน สัมพันธ์กันอย่างไร?

ของอร่อย ใครๆ ก็ชอบ สำหรับบางคน แค่ได้กินของอร่อยๆ ก็ทำให้มีความสุขไปได้ทั้งวัน ยิ่งเป็นเมืองไทย ของอร่อยมีอยู่ได้ทุกที อยากเลือกทานอาหารสัญชาติไหน จะคาว หวาน หรือเครื่องดื่ม มีให้เลือกเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม แม้ของกินเหล่านั้นจะรสชาติดีถูกปากมากแค่ไหน การกินในปริมาณที่เกินพอดี ก็ไม่ส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาวแต่อย่างใด พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมบวกกับพฤติกรรมเนือยนิ่ง อาจนำไปสู่การเกิดภาวะน้ำหนักเกิน และอาจกลายมาเป็นโรคอ้วนในที่สุด โดยโรคอ้วนอาจนำไปสู่โรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต รู้จัก “โรคเบาหวาน” โรคเบาหวาน คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าที่ควรจะเป็น โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด ดังนี้ เบาหวานชนิดที่1 เกิดจากการขาดอินซูลิน เบาหวานชนิดที่2 เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน จะเห็นได้ว่า ตัวแปรสำคัญของกระบวนการนี้ คือ “อินซูลิน” ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เปรียบเสมือนกุญแจในการนำน้ำตาลในกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกาย หากร่างกายขาดอินซูลินก็จะส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงตามไปด้วย  โดยสำหรับประเทศไทย หากตรวจพบเกิน 2 ครั้งว่าเกณฑ์ตัวเลขระดับน้ำตาลอยู่ที่ 126 มก./ดล.1 ระดับ HbA1c (ค่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือดโดยเฉลี่ย) มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5% และผลตรวจความทนทานต่อน้ำตาลกลูโคส (Oral Glucose […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

อาหารที่ทำให้ฟันผุ มีอะไรบ้าง

อาหารที่ทำให้ฟันผุ อาจเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาล เมื่อแป้งหรือน้ำตาลไปสัมผัสกับคราบพลัค ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ก็อาจทำให้กรดก่อตัวขึ้น ซึ่งกรดเหล่านี้ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผุ นอกจากอาหารแล้วเชื้อแบคทีเรียในคราบพลัตยังอาจกระตุ้นต่อการตอบสนองของการอักเสบ ส่งผลทำให้ฟันผุ ทั้งยังอาจทำให้เหงือ กระดูก และโครงสร้างที่รองรับส่วนอื่น ๆ ของฟันเสียหายได้เช่นกัน 8 อาหารที่ทำให้ฟันผุ น้ำแข็ง น้ำแข็งไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน เพราะไม่ได้มีส่วนผสมใดที่เป็นภัยต่อสุขภาพช่องปาก แต่การเคี้ยวน้ำแข็ง หรือวัตถุที่มีความแข็ง อาจเสี่ยงที่จะทำให้เกิดฟันผุ และทำลายสารเคลือบฟันได้ อาหารที่มีส่วนผสมของกรด กรด คือ สารที่อยู่ในอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว เครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว หรือกรดสังเคราะห์ที่อาจพบได้ในอาหารบางประเภท อาจตัวทำลายสารเคลือบฟันโดยการกัดเซาะสารเคลือบฟันแต่ละซี่ และถ้ากรดทำร้ายสารเคลือบฟันไปเรื่อย ๆ ก็เสี่ยงที่จะมีอาการฟันผุ นอกจากจะมีผลต่อฟันแล้ว อาหารและเครื่องดื่มที่มีกรด ยังอาจมีผลทำให้เกิดแผลในปาก หรือในกรณีที่มีแผลในช่องปากอยู่แล้ว อาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิมได้ อาหารที่มีลักษณะเหนียว อาหารแห้งต่าง ๆ เช่น ผลไม้อบแห้ง มีรสชาติที่อร่อยถูกใจ แต่ส่วนมากมักมีลักษณะที่แห้ง แข็ง และเหนียว ซึ่งอาหารที่มีเนื้อสัมผัสเหนียว ทำให้ต้องมีการบดหรือเคี้ยวเป็นเวลานานก่อนที่จะกลืนลงหลอดอาหาร เพราะเหตุนี้ อาหารที่เหนียวจึงอยู่ในปากนานกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ ซึ่งนั่นเสี่ยงที่จะทำให้มีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

แป้งทนย่อย กับประโยชน์ทางสุขภาพดีๆ ที่คุณควรรู้จัก

แป้งทนย่อย (Resistant Starch) เป็นแป้งที่มีความทนทานในการย่อย ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มมากขึ้น แต่หลายๆ คนอาจจะกำลังส่งสัยหรือไม่เคยได้ยินชื่อแป้งทนย่อยมาก่อน วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแป้งทนย่อยมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ แป้งทนย่อย (Resistant Starch) คืออะไร แป้งทนบ่อย (Resistant Starch) เป็นแป้งที่สามารถแบ่งออกได้ 5 ชนิด ซึ่งแป้งทนย่อยแต่ละประเภทนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไปตามโครงสร้างทางกายภาพ หรือแตกต่างกันตามความทนการต้านทานการย่อย แป้งทนย่อยประเภทที่ 1 มักพบได้ในธัญพืช เมล็ดพืช และพืชตระกูลถั่ว มีความทนการย่อยเพราะมีผนังเซลล์ (Cell Wall) ทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แป้งทนย่อยประเภทที่ 2 พบได้มากในอาหารประเภทแป้งบางชนิดและอาหารดิบ ซึ่งจะมีโครงสร้างที่เฉพาะทำให้ทนทานต่อการย่อย เช่น มันฝรั่งดิบ กล้วยที่ยังไม่สุก จะมีแป้งประเภทที่ 2 สูงกว่ากล้วยที่สุกเต็มที่แล้ว แป้งทนย่อยประเภทที่ 3 เกิดขึ้นในอาหารประเภทแป้งที่มีความทนทานสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการให้ความร้อน จากนั้นก็ทำให้อาหารนั้นเย็นลง เช่นการปล่อยให้ข้าวหรือมันฝรั่งเย็น หลังจากการปรุงอาหาร จะทำให้แป้งบางส่วนกลายเป็นแป้งที่มีความทนทานสูง ซึ่งเป็นปรากฏการที่เรียกว่า รีโทรเกรเดชัน (Retrogradation) ซึ่งเป็นปรากฎการณ์การคืนตัวของแป้ง แป้งทนย่อยประเภทที่ 4 แป้งทนย่อยประเภทนี้เป็นแป้งที่ผ่านกระบวนการแปรรูปและดัดแปลงมาแล้ว แป้งทนย่อยประเภทที่ 5 เป็นแป้งที่มีการทำพันธะกับไขมันชนิดหนึ่ง และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง และทำให้ทนทานต่อการย่อยอาหารมากขึ้น ประโยชน์ของ […]


ข้อมูลโภชนาการ

น้ำตาลในผลไม้ ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่

น้ำตาลในผลไม้ ประกอบไปด้วย น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลฟรักโทส และน้ำตาลซูโครส ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้ว่าการรับประทานน้ำตาลในผลไม้นั้นอาจจะดีต่อสุขภาพมากกว่าการรับประทานน้ำตาลสังเคราหะ์ที่ได้จากของหวาน และอาหารอื่น ๆ แต่การรับประทานมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งอาจทำให้คอเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง และน้ำตาลในเลือดสูงได้ [embed-health-tool-bmr] น้ำตาลในผลไม้ มีอะไรบ้าง ผลไม้ต่าง ๆ มีส่วนประกอบของน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ น้ำตาลฟรักโทส (Fructose) หรือที่รู้จักกันว่าน้ำตาลผลไม้ เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่สามารถพบได้ในผลไม้ น้ำผึ้ง และผักหัวต่าง ๆ มีความหวานมากที่สุดในน้ำตาลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ น้ำตาลฟรักโทสจะถูกเผาผลาญโดยตับ และกลายเป็นพลังงานให้กับร่างกาย โดยไม่ต้องพึ่งพาอินซูลิน ทำให้ส่งผลกระทบน้อยมากต่อระดับน้ำตาลในเลือด น้ำตาลกลูโคส (glucose) น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่พบได้ในอาหารทั่วไป โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง และผลไม้ที่มีแป้งเยอะ เช่น กล้วย แอปเปิ้ล น้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย น้ำตาลซูโครส (sucrose) เป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ที่เกิดจากการผสมของน้ำตาลฟรักโทสและน้ำตาลกลูโคส มักจะนิยมเรียกกันว่าน้ำตาลทราย แต่จริง ๆ แล้วสามารถพบได้ตามธรรมชาติ เช่น ส้ม สับปะรด ความเสี่ยงของการรับประทานน้ำตาลในผลไม้ งานวิจัยมีการเชื่อมโยงน้ำตาลฟรักโทส ที่มีการกลั่น หรือผ่านขบวนการผลิตจากโรงงานว่า มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเพิ่มความเสี่ยงของภาวะสุขภาพ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เพิ่มวิตามินอี ให้ร่างกายง่าย ๆ ด้วยอาหารใกล้ตัวที่มีวิตามินอีสูง

วิตามินอี (Vitamin E) เป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในไขมัน ทำหน้าที่ในการปกป้องไม่ให้เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายถูกทำลาย ช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคเรื้อรังชนิดต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ และยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณอีกด้วย ซึ่งโชคดีมาก ที่เราสามารถจะพบวิตามินอีได้ในอาหารที่เรารับประทานกันอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพามารู้จักกับอาหารให้วิตามินอีสูงที่คุณสามารถจะ เพิ่มวิตามินอี ได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริม หรือยาบำรุง เพิ่มวิตามินอี ด้วยอาหารใกล้ตัวที่มีวิตามินอีสูงมาก น้ำมันจากพืช น้ำมันที่สกัดจากพืชให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงมีระดับของวิตามินอีที่สูงมาก ๆ ด้วย ได้แก่ น้ำมันจมูกข้าวสาลี มีปริมาณวิตามินอีสูงสุดถึง 139 มิลลิกรัม (หากรับประทานในปริมาณ 100 มิลลิกรัม) น้ำมันเฮเซลนัท มีปริมาณวิตามินอีสูงสุดถึง 47 มิลลิกรัม (หากรับประทานในปริมาณ 100 มิลลิกรัม) น้ำมันเมล็ดทานตะวัน มีปริมาณวิตามินอีสูงสุดถึง 41 มิลลิกรัม (หากรับประทานในปริมาณ 100 มิลลิกรัม) น้ำมันอัลมอนด์ มีปริมาณวิตามินอีสูงสุดถึง 39 มิลลิกรัม […]


โภชนาการพิเศษ

วิธีเลือกขนมปังสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

คนที่เป็น โรคเบาหวาน นั้น ก่อนที่จะรับประทานอะไร อาจจำเป็นจะต้องอ่านฉลาก เพื่อสร้างความมั่นใจว่า อาหารเหล่านั้นจะไม่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้อาการเบาหวานของคุณแย่ลงกว่าเดิม เพราะเนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานจำเป็นต้องมีการควบคุมปริมาณของน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตให้อยู่ในความสมดุลอยู่เสมอ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงได้มีคำแนะนำในการ วิธีเลือกขนมปังสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน สำหรับคนที่กำลังประสบกับ โรคเบาหวาน หรือบุคคลที่มีคนใกล้ชิดป่วยเป็นโรคนี้ และมักชื่นชอบกินขนมปังมาฝากทุกท่านกันค่ะ ขนมปังกับคนเป็นโรคเบาหวาน สัมพันธ์กันอย่างไร ขนมปังมีความเกี่ยวข้องกับผู้ที่ป่วยเป็น โรคเบาหวาน เนื่องจากขนมปังนั้นเป็นแหล่งของสารอาหารที่ชื่อว่า คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) โดยปกติแล้ว คาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ในแต่ละวัน เราจึงจำเป็นต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้ได้ในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่จะดูดซึมเอาสารอาหารไปใช้ ในขณะที่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั้น เมื่อรับประทานอาหารประเภทแป้ง ข้าว หรือขนมปัง ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตเข้าไป กลับทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เนื่องจากร่างกายของเราจะย่อยคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาลกลูโคส ดังนั้น หากไม่ควบคุมการรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้เหมาะสม หรือกินคาร์โบไฮเดรตมากจนเกินไป ก็เสี่ยงที่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีอาการที่ทรุดลงได้ ขนมปังแบบไหนดีต่อสุขภาพผู้ป่วย โรคเบาหวาน ใคร ๆ ก็ชอบกินขนมปัง แต่กับคนเป็นโรคเบาหวานนั้น จะรับประทานขนมปังแบบสุ่มสี่สุ่มห้าคงจะไม่ได้ เพราะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของระดับคาร์โบไฮเดรต มาดูกันว่าขนมปังแบบไหนถึงจะเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน ขนมปังที่มีส่วนผสมของแป้งสเปลท์ (Spelt) เมล็ดเจีย และแป้งอัลมอนด์ ขนมปังชนิดนี้จะให้โปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันที่มีประโยชน์ แต่ควรระวังเรื่องของแคลอรี่ เพราะขนมปังชนิดนี้เพียง 1 ชิ้น อาจให้พลังงานชิ้นละ 100 […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารทำลายกระดูก ที่คุณควรระวัง หากอยากให้กระดูกแข็งแรง

ยิ่งอายุมากขึ้น สุขภาพกระดูกก็จะยิ่งอ่อนแอลง คุณจึงควรออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ควบคู่กับการกินอาหารที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก และหลีกเลี่ยงหรือลดอาหารที่อาจส่งผลกระทบต่อกระดูกของคุณ หากคุณอยากรู้ว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่ขึ้นชื่อว่าเป็น อาหารทำลายกระดูก Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้คุณแล้ว อาหารทำลายกระดูก ที่ควรบริโภคอย่างระมัดระวัง อาหารโซเดียมสูง ยิ่งคุณกินเกลือหรือโซเดียมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กระดูกสูญเสียแคลเซียมมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากเกลือและโซเดียมจะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากเกินไป อีกทั้งยังมีงานศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่กินอาหารเค็มจัด มีความหนาแน่นของแร่ธาตุในกระดูกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงวัยเดียวกันที่ไม่ได้กินเค็ม ทั้งยังมีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าด้วย หากคุณไม่อยากให้กระดูกมีปัญหาเพราะเกลือและโซเดียม ก็ไม่ควรได้รับโซเดียมเกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับเกลือประมาณ 6 กรัม (1 ช้อนชา) น้ำตาล น้ำตาลไม่ได้เป็นแค่อาหารทำลายกระดูก แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณอีกมากมายหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพผิว สุขภาพจิต ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า น้ำตาลส่งผลกระทบต่อมวลกระดูก หากคุณกินน้ำตาลหรือขนมหวานมากๆ ก็จะทำให้มวลกระดูกลดต่ำลง เสี่ยงต่อปัญหากระดูกบาง กระดูกบาดเจ็บ หรือโรคกระดูกพรุนในอนาคต น้ำอัดลม น้ำอัดลม และเครื่องดื่มอัดแก๊สชนิดอื่นๆ หลายยี่ห้อมีกรดฟอสฟอริก ที่ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาพร้อมกับปัสสาวะมากขึ้น ร่างกายจึงเสี่ยงเกิดภาวะสูญเสียแคลเซียม หรือมีแคลเซียมไม่เพียงพอ ส่งผลให้กระดูกมีปัญหา เช่น กระดูกพรุน กระดูกเปราะง่าย คาเฟอีน อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ ช็อกโกแลต เครื่องดื่มชูกำลัง จะทำให้กระดูกสูญเสียแคลเซียม และอ่อนแอลงได้ การบริโภคคาเฟอีนปริมาณ 100 มิลลิกรัม จะทำให้คุณสูญูเสียแคลเซียม […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ป่วยเป็น โรคสมาธิสั้น ควรเลือกกินอาหารอย่างไร ถึงจะดีต่อร่างกาย

ไม่ว่าใครต่างก็คงจะรับรู้ถึงความสำคัญของการเลือกรับประทานอาหารที่มีต่อร่างกาย การเลือกรับประทานอาหารได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอาการของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น ผู้ป่วยโรค สมาธิสั้น ควร เลือกกินอาหาร อย่างไร หาคำตอบได้จากบทความนี้ การ เลือกกินอาหาร สำคัญกับโรค สมาธิสั้น อย่างไร แม้ว่าอาหารอาจจะไม่สามารถช่วยรักษาให้หายจากการเป็นโรคสมาธิสั้น แต่ก็เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น สามารถควบคุมอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอาจช่วยลดอาการของโรคสมาธิสั้นได้อีกด้วย มีอาหารไม่น้อยที่สามารถส่งผลกระทบต่อระดับพลังงานและการมีสมาธิได้ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถควบคุมอาการของโรคได้ดีขึ้น ลดอาการอยู่ไม่สุข และช่วยเพิ่มระดับของสมาธิและการโฟกัสในเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นต้องการ ในขณะเดียวกัน การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมอาการของโรคสมาธิสั้น ทำให้อาการรุนแรงขึ้น ยากต่อการควบคุมมากยิ่งขึ้น และอาจรบกวนการทำงานของยาสำหรับโรคสมาธิสั้น ทำให้ผลข้างเคียงของยาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อาหารที่ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นควรเลือกกิน อาหารโปรตีนสูง อาหารที่มีโปรตีนสูง อาจช่วยในเรื่องของการพัฒนาสมาธิ และช่วยทำให้ยาสำหรับโรคสมาธิสั้นออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของโปรตีนได้ เช่น พืชตระกูลถั่ว เนื้อไก่ ไข่ เนื้อแดง ปลาแซลมอน โยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือชีส คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หมายถึงคาร์โบไฮเดรตที่มีสารชนิดอื่นประกอบอยู่ในโมเลกุลด้วย เช่น ไขมัน หรือโปรตีน น้ำตาลที่ได้จากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนั้นจะย่อยสลายได้ช้ากว่าน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในระดับที่คงที่ ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นมีสมาธิที่ดีขึ้น มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น และสามารถโฟกัสกับการทำงานได้นานยิ่งขึ้น อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนได้แก่ ข้าวไม่ผ่านการขัดสี ข้าวโอ๊ต พืชตระกูลถั่ว ผักหัว […]


ข้อมูลโภชนาการ

วาซาบิ พืชรสชาติเผ็ดฉุน แต่คุณประโยชน์เพียบ

หลายๆ คนก็คงจะเคยได้สัมผัสกับรสชาติเผ็ดฉุนขึ้นจมูกของ วาซาบิ กันมาบางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานวาซาบิกับซูชิหรือเคยได้รับรสชาติวาซาบิจากขนมขบเขี้ยวที่ออกรสชาติวาซาบิมาให้ได้ชิมกัน แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า วาซาบิสีเขียวอ่อนนั้นมีประโยชน์มากมาย วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวาซาบิมาฝากกันค่ะ วาซาบิ คืออะไร วาซาบิ (Wasabi) เป็นพืชชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพืชผักตระกูลกะหล่ำ ที่มักจะเติบโตตามธรรมชาติในลำธาร หุบเขา และแม่น้ำบนภูเขาในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเติบโตได้ในบางพื้นที่ของประเทศจีน เกาหลี นิวซีแลนด์และอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีความร่มรื่นและชื้น วาซาบิที่มีชื่อเสียงในการใช้เป็นส่วนผสมของอาหารญี่ปุ่นหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ หรือว่าบะหมี่ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นวาซาบิที่ขูดมาแล้วหรือว่าวาซาบิผง จริงๆ รสชาติเผ็ดฉุนที่เราได้จากวาซาบินั้นมาจากราก ซึ่งอุดมไปด้วยใยอาหาร (Fiber) และมีวิตามินแร่ธาตุมากมาย อาทิ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี เหล็ก แมกนีเซียม โซเดียม วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต วาซาบิ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร วาซาบิที่เรารู้จักกันดีในเรื่องของรสชาติที่มีความฉุนขึ้นจมูก จนบางครั้งก็ทำให้ผู้ที่รับประทานน้ำหูน้ำตาไหลนั้น มีประโยชน์มากมาย ในวาซาบิยังมีสารประกอบบางชนิดที่เป็นประโยชน์ เช่น Isothiocyanates (ITCs) ซึ่งเป็นสารป้องกันมะเร็งที่มักจะมีในพืชตระกูลกะหล่ำ นอกจากรสชาติที่ฉุนขึ้นจมูกและกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว วาซาบิยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ตั้งแต่มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ไปจนถึงคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ และยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ความเจ็บป่วยจากอาหาร โรคอาหารเป็นพิษหรือโรคที่เกิดจากอาหาร เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อหรือเกิดความระคายเคือง ต่อระบบย่อยอาหารที่เกิดจากอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียและปรสิต […]


ข้อมูลโภชนาการ

สาหร่ายทะเล แหล่งสารอาหารชั้นดี ที่ทะเลมอบให้

สาหร่ายทะเล หนึ่งในเมนูโปรดของใครหลายๆ คน นอกจากความอร่อยแล้วสาหร่ายทะเลยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย วันนี้ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวสาหร่ายทะเลมาฝากทุกคน ค่ะ สาหร่ายทะเล คืออะไร คำว่า สาหร่าย เป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกผักที่อยู่ในทะเล โดยจะมีการจำแนกตามลักษณะ รูปร่าง และสี สาหร่ายทะเล เป็นพืชชนิดหนึ่งที่เติบโตอยู่ในทะเล พวกมันถือเป็นแหล่งอาหารสำหรับ ชีวิตในท้องทะเลต่างๆ สาหร่ายทะเลมีสีที่หลากหลาย ตั้งแต่ สีแดง สีเขียว สีน้ำตาล และสีดำ โดยทั่วไปแล้วสาหร่ายมักจะมีการเติบโตตามแนวชายฝั่ง บริเวณโขดหินของชายฝั่งทั่วโลก แต่ส่วนใหญ่แล้วสาหร่ายที่สามารถรับประทานได้นั้นจะอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีและจีน สาหร่ายเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างมาก และเป็นอาหารที่สามารถนำไปปรุงในอาหารได้อย่างหลากหลายเช่นใช้ทำซูชิโรล ใส่ในซุปซุปและสตูว์ เพิ่มลงในสลัด หรือจะรับประทานเป็นอาหารว่างก็ได้เช่นกัน สาหร่ายทะเลชนิดต่างๆ สาหร่ายทะเลหรือสาหร่ายที่เติบโตใกล้กับแหล่งน้ำเค็มนั้นมีหลายประเภท สาหร่ายเหล่านี้มักจะมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย การรับประทานสาหร่าย หรือเพิ่มสาหร่ายลงในอาหารมีส่วนช่วยในการทำงานของต่อมไทรอยด์ ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหารและช่วยในการลดน้ำหนัก ประเภทของสาหร่ายทะเลต่างๆ เช่น โนริ (Nori) สาหร่ายเคลป์ (Kelp) สาหร่ายวากาเมะ (Wakame Seaweed) สาหร่ายคอมบุ (Kombu) โดส (Dulse) สาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว เช่น […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ข้าวเหนียวลืมผัว (Luem Pua Glutinous Rice) อร่อยจนลืมผัวแถมยังดีต่อสุขภาพ

หลายคนที่ได้ยินชื่อ “ข้าวเหนียวลืมผัว” หรือ “ข้าวลืมผัว” เชื่อว่าทุกคนจะต้องชะงักแล้วรู้สึกสงสัยกับชื่อที่แปลกสะดุดหู อาจจะคิดว่าเป็นข้าวสายพันธุ์ใหม่หรือตั้งชื่อขึ้นมาเล่นๆ ด้วยคุณสมบัติพิเศษอะไรหรือไม่ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาไปทำความรู้จักกับพันธุ์ข้าวชื่อแปลก แต่รับรองว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ทำความรู้จักข้าวเหนียวลืมผัวกันเถอะ ข้าวเหนียวลืมผัว หรือ ข้าวลืมผัว (Luem Pua Glutinous Rice)  ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ “ข้าวเหนียวดำลืมผัว” ด้วยลักษณะของเมล็ดข้าวที่มีสีดำคล้ำสังเกตเห็นได้ชัดเจน โดยเป็นข้าวเหนียวนาปีชนิดสายพันธุ์โบราณของกลุ่มชาวม้งในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งปลูกบนไร่สูงจากระดับน้ำทะเล 650 เมตร ในบริเวณรอยต่อระหว่างอำเภอนครไทยกับอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ข้าวเหนียวลืมผัว กินแล้วลืมผัวจริงหรือ สำหรับที่มาของชื่อข้าวเหนียวลืมผัวนั้นได้ไอเดียมาจากเรื่องเล่าสืบต่อ ๆ กันมา ซึ่งเกี่ยวกับสามีภรรยาชาวม้งคู่หนึ่ง โดยภรรยาหุงข้าวรอสามีขณะที่ออกไปทำธุระนอกบ้าน แต่ระหว่างที่รอสามีกลับบ้านก็ได้หยิบข้าวสุกมารับประทาน ด้วยความที่ข้าวนั้นส่งกลิ่นหอมยั่วใจ มีรสชาติอร่อย และยังเคี้ยวเพลินจนภรรยารับประทานหมดไม่รู้ตัว จึงทำให้ไม่เหลือเก็บไว้ให้สามีนั่นเอง แต่ที่กล่าวว่ากินแล้วจะลืมผัวหรือไม่ก็ต้องลองรับประทานกันดูด้วยตัวเอง อร่อยและดี คุณค่าทางโภชนาการสูง ในข้าวเหนียวลืมผัวจะอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย อันได้แก่ วิตามิน เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และอื่น ๆ แร่ธาตุ เช่น แคลเซียม เหล็ก และแมงกานีส เป็นต้น กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เช่น โอเมกา […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน