พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

สาเหตุอะไรที่ทำให้ วัยรุ่นสูบบุหรี่ พิษร้ายทำลายสุขภาพในระยะยาว

วัยรุ่นสูบบุหรี่ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองไม่ควรละเลย เพราะบุหรี่เป็นสิ่งอันตรายที่สามารถส่งผลเสียระยะยาวต่อร่างกายของวัยรุ่นได้ ในปัจจุบัน มีวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่สูบบุหรี่และมีแนวโน้มว่าจำนวนของวัยรุ่นที่สูบบุหรี่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย สาเหตุหนึ่งเพราะเรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ หรือบางก็คนใช้เป็นเครื่องมือระบายความเครียด เพื่อจัดการกับปัญหาวัยรุ่นสูบหรี่ บทความนี้อาจช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ และอันตรายของบุหรี่มากขึ้น เราไปหาคำตอบเรื่องนี้กันเลย สาเหตุที่ทำให้ วัยรุ่นสูบบุหรี่ สาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นสูบบุหรี่มีด้วยกันหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง สภาพแวดล้อมทางสังคมและทางกายภาพ การโฆษณาจากสื่อโทรทัศน์อาจทำให้วัยรุ่นหนุ่มสาวรู้สึกอยากลองสูบบุหรี่ แนวโน้มการสูบบุหรี่จะเพิ่มขึ้น หากพวกเขาเห็นเพื่อนในวัยเดียวกันสูบบุหรี่ หากคนในครอบครัวสูบบุหรี่ ก็มีแนวโน้มว่าบุตรหลานอาจรู้สึกอยากลองสูบบุหรี่ตามไปด้วย ปัจจัยทางชีวภาพและพันธุกรรม วัยรุ่นบางคนอาจมีความรู้สึกไวต่อสารนิโคติน จึงทำให้รู้สึกอยากนิโคตินได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างอาจทำให้การเลิกบุหรี่ในวัยรุ่นยากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์สูบบุหรี่อาจส่งผลต่อลูก และอาจส่งผลให้เด็กสูบบุหรี่เป็นประจำในอนาคต สุขภาพจิต ปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่น เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียด อาจทำให้วัยรุ่นต้องการสูบบุหรี่ ความรู้สึกส่วนตัว วัยรุ่นบางคนเริ่มสูบบุหรี่เพราะต้องการระบายความเครียดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่าบุหรี่เป็นเพียงทางออกเดียวในการกำจัดความเครียด อิทธิพลอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อวันรุ่น ความเครียดจากเศรษฐกิจตกต่ำ หรือรายได้ลดลง ไม่รู้ว่าจะเลิกบุหรี่อย่างไร ครอบครัวไม่สนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในการเลิกบุหรี่ วัยรุ่นยังสามารถเข้าถึงการซื้อบุหรี่ได้ อาจมีพฤติกรรมเกเร ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง มองว่าตัวเองต่ำต้อย เห็นจากโฆษณาผลิตภัณฑ์บุหรี่ในร้านค้า โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ภาพยนตร์ นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ วัยรุ่นสูบบุหรี่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในบุหรี่มีสารเคมีหลายชนิดที่เป็นสารพิษและส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น นิโคติน ไซยาไนด์ ผู้ที่เริ่มสูบบุหรี่ครั้งแรกมักมีอาการเจ็บหรือแสบร้อนในลำคอและปอด บางคนถึงกับอาเจียนได้ และเมื่อสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

โรคติดเชื้อในเด็ก

โรต้า (rotavirus) อาการ และการรักษา

โรต้า (rotavirus) หรือไวรัสโรตา เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะอาหารและลำไส้ ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน การติดเชื้อไวรัสโรตามักไม่เป็นอันตรายสำหรับผู้ใหญ่ แต่อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กได้ หากพ่อแม่สังเกตพบว่าลูกมีอาการท้องเสียนานกว่า 24 ชั่วโมง มีไข้สูง และอาเจียนบ่อยครั้ง ควรรีบพาไปรักษาในทันที โรต้า (rotavirus) คืออะไร โรต้า (rotavirus) หรือไวรัสโรตา เป็นเชื้อไวรัส ที่ทำให้เกิดภาวะกระเพาะและลำไส้อักเสบ ซึ่งโดยปกติจะมีอาการเกิดขึ้นหลังได้รับเชื้อภายในสองวัน อาการที่พบเห็นได้บ่อยในระยะแรก คือ อาเจียน ตามด้วยอาการถ่ายเหลวเป็นเวลาสามถึงเจ็ดวัน  นอกจากนี้ เชื้อไวรัสชนิดนี้ยังทำให้เกิดอาการปวดท้องด้วย ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีถ้าหากติดเชื้อไวรัสไวรัสโรตา ก็อาจจะไม่มีอาการใดๆ เกิดขึ้นเลย หรืออาจมีแค่อาการเบา ๆ เท่านั้น แต่สำหรับเด็กอายุน้อย การติดเชื้อไวรัสโรตาอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ที่อาจเป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เชื้อไวรัสโรตาสามารถติดต่อได้ผ่านทางการนำเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายทางปาก เช่น การสัมผัสกับสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรตาแล้วนำมือนั้นเข้าปาก การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรตา อาการของการติดเชื้อโรต้า (rotavirus) อาการและสัญญาณต่างๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นโรคไวรัสโรตา ท้องเสียหรือขับถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาเจียน มีไข้ ปวดท้อง อาการท้องเสียรุนแรง ภาวะขาดน้ำ มีภาวะเกลือแร่ไม่สมดุล มีภาวะเลือดเป็นกรด เด็ก ๆ โดยเฉพาะในเด็กทารกจะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ง่าย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายยังอ่อนแออยู่ […]


สุขภาพเด็ก

การติด เชื้อราในเด็ก วิธีสังเกตและการรักษา

เชื้อราในเด็ก โดยเฉพาะเด็กทารก หรือเด็กวัยเตาะแตะ อาจเกิดได้ค่อนข้างบ่อย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนาเต็มที่ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อราได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นจากการใส่ผ้าอ้อมนานเกินไป เช็ดผิวหลังอาบน้ำไม่แห้งสนิท ทั้งนี้ อาการมักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เช่น การติดเชื้อราที่ผิวหนัง อาจทำให้มีผื่นแดงลามเป็นวงเล็ก ๆ คันผิวหนัง หากติดเชื้อราในช่องปาก อาจทำให้มีฝ้าขาวที่ลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขอนามัยและสุขภาพของเด็กให้ดี อาจช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อราในเด็กได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] เชื้อราในเด็ก ที่พบได้บ่อย เชื้อราในเด็ก ที่พบบ่อย ได้แก่  เชื้อราแคนดิด้า (Candida) ซึ่งจัดเป็นยีสต์ชนิดหนึ่ง โดยเชื้อราชนิดนี้ส่วนใหญ่แล้วมักพบได้โดยทั่วไปในช่องปาก ผิวหนัง สะดือ ลำไส้ อวัยวะเพศ โดยปกติ ปริมาณเชื้อราที่พบในร่างกายนั้นมักมีอยู่เป็นจำนวนน้อยและมักไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม หากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปและเอื้อให้เชื้อราเจริญเติบโต เช่น  ใส่ผ้าอ้อมเป็นเวลานาน เช็ดตัวไม่แห้งสนิท ไม่แปรงฟัน อาจทำให้เชื้อราเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วจนก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่น เชื้อราในช่องปาก เชื้อราในเด็ก สังเกตอาการได้อย่างไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่อาจลองสังเกตตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลูกว่ามีสัญญาณเตือนของการติดเชื้อราหรือไม่ ดังนี้ ช่องปาก • มีฝ้าขาวในบริเวณช่องปาก • มีรอยด่างขาวเหมือนเปื้อนน้ำนมแต่ไม่สามารถเช็ดออกได้ • มีแผลในปากเกิดขึ้นได้ ซึ่งมีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก มักทำให้ทารกรู้สึกเจ็บและไม่ยอมดูดนม  • เกิดรอยแตกที่มุมปาก ขาหนีบ • อาการของผื่นผ้าอ้อมรุนแรงขึ้นและเกิดผื่นแดงแพร่กระจายไปยังขาหนีบ • ลูกเกาเนื่องจากเกิดอาการคันและระคายเคืองบริเวณผิวหนังที่อยู่รอบผื่นผ้าอ้อม วิธีดูแลรักษาเชื้อราในเด็ก วิธีการดูแลเชื้อราในเด็กมักเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของทารก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องต่าง […]


โภชนาการสำหรับทารก

ประโยชน์ขององุ่น แหล่งสารอาหารที่ดีสำหรับลูกน้อย

องุ่น เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน เป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัย ประโยชน์ขององุ่นมีมากมาย อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ อาจช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ย่อยง่าย เป็นยาระบายอ่อน ๆ และอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบประสาทและความจำ นอกจากนี้ เด็กยังสามารถรับประทานได้ง่าย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่สามารถหยิบกินได้ทันที ช่วยให้ลูกน้อยได้ฝึกการเคลื่อนไหวและฝึกกล้ามเนื้อมืออีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการขององุ่น องุ่น 100 กรัม มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 81.3 กรัม ให้พลังงาน 67 กิโลแคลอรี่ และมีวิตามินและแร่ธาตุ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 17.15 กรัม น้ำตาล 16.25 กรัม แคลเซียม 14 กรัม โปรตีน 0.63 กรัมไขมัน 0.35 กรัม ไฟเบอร์ 0.9 กรัม โพแทสเซียม 191 มิลลิกรัม วิตามินบี 60 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 5 มิลลิกรัม วิตามินซี 4 มิลลิกรัม เหล็ก 0.29 […]


เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ลูกกัดหัวนม ขณะกินนมแม่ เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขยังไงได้บ้าง

ลูกกัดหัวนมแม่ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งให้ลูกกินนมแม่ครั้งแรก ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ให้นมในท่าที่ไม่ถูกต้อง ลูกห่วงเล่น น้ำนมไหลน้อย ฟันลูกเพิ่งงอก หากลูกกัดหัวนมคุณแม่ไม่ควรร้องเสียงดังหรือมีปฏิกิริยาที่รุนแรง เพราะอาจทำให้ลูกตกใจและไม่ยอมกินนมได้ แต่ควรรับมืออย่างเหมาะสม เช่น ฝึกอุ้มให้นมลูกอย่างถูกต้อง เบี่ยงเบนความสนใจลูก ให้ลูกกัดตุ๊กตายาง เพื่อฝึกให้ลูกเกิดกัดหัวนมของคุณแม่ [embed-health-tool-bmi] สาเหตุที่ลูกกัดหัวนม ขณะกินนมแม่ ปัญหาลูกกัดหัวนม ขณะกินนมแม่ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ การให้ลูกกินนมด้วยท่าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งนี่ถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะในเด็กวัยแบเบาะ หรือเด็กอ่อน เด็กทารกที่เริ่มเข้าสู่วัยเตาะแตะ หรือเด็กวัยเตาะแตะ มักถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย แค่ได้ยินเสียงอะไรแว่ว ๆ หรือเห็นอะไรแว็บ ๆ  พวกเขาก็พร้อมจะหุบขากรรไกรและหันไปมองทันที โดยลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังดูดนมแม่อยู่ เลยเผลองับหัวนมของคุณแม่เข้า เด็กทารกบางคนชอบ กัดหัวนมแม่ ตอนกินนมเสร็จแล้ว ลูกอาจหลับผล็อยไปขณะกำลังกินนมแม่ ทำให้เขากัดหัวนมของคุณแม่โดยไม่ตั้งใจ ฉะนั้น หากสังเกตได้ว่าขากรรไกรของลูกเริ่มเคลื่อนไหวช้า หรือลูกดูดนมเบาลง ควรเอาลูกออกจากเต้า ก่อนที่ลูกจะหลับแล้วเผลอกัดหัวนม ลูกอาจมีอาการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด หูติดเชื้อ ทำให้กลืนลำบาก และดูดนมแม่ไม่สะดวก เลยอาจกัดหัวนมได้โดยไม่ตั้งใจ ฟันน้ำนมของลูกอาจจะเพิ่งขึ้น […]


เด็กทารก

จุกนมปลอม กับข้อดีข้อเสียที่ควรรู้เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัย

จุกนมปลอม นับเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยหลอกล่อให้เด็กหายงอแง หรือนอนหลับง่ายขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วนำมาเริ่มต้นใช้สำหรับทารกหลังคลอดแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ สำหรับสร้างความผ่อนคลาย เหมาะสำหรับทารกที่นอนหลับยากหรือร้องไห้อยากดูดนมแต่เพิ่งรับประทานนมไป จุกนมปลอมเหมาะสำหรับลูกรักหรือไม่ มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาถึงผลดีและผลเสียของการใช้จุกนมปลอม เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัยสำหรับลูกน้อย [embed-health-tool-vaccination-tool] คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกดูดจุกนมปลอมหรือเปล่า หากลูกหงุดหงิดงอแง จะกอดจะปลอบอย่างไรก็ยังไม่หยุดร้อง หรือลูกมีปัญหาหลับยาก เปิดเพลงกล่อมแล้วก็ยังไม่ยอมหลับ จุกนมปลอมนับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้เด็กผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้น หรือหากลูกรักกินนมจนอิ่มแล้ว แต่ยังรู้สึกอยากดูดนมอยู่ ก็สามารถให้ลูกดูดจุกนมหลอกแทนได้ ทั้งยังใช้เป็นเครื่องเบี่ยงเบนความสนใจ เวลาลูกต้องไปพบคุณหมอ หรือช่วยบรรเทาอาการหูอื้อ หากต้องโดยสารเครื่องบินได้ด้วย ควรให้ลูกเริ่มดูดจุกนมปลอมตอนไหน ช่วงเวลาในการเริ่มให้ลูกเริ่มดูดจุกนมปลอมนั้นแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่ควรรอให้ตัวเองและลูกน้อยเคยชินกับการดูดนมจากเต้าแม่เสียก่อน นั่นคืออย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกสับสน หรือปฏิเสธการดูดนมจากเต้า แล้วหันไปดูดแต่จุกนมปลอม ยิ่งหากคลอดก่อนกำหนด อาจต้องรอนานกว่า 4 สัปดาห์จึงค่อยเริ่มให้ลูกดูดจุกนมปลอม เพราะกล้ามเนื้อของเด็กคลอดก่อนกำหนดจะไม่แข็งแรงเท่าเด็กที่คลอดตามกำหนด จึงทำให้เขาดูดอะไรได้ลำบาก จึงอาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติจึงจะคุ้นกับการดูดนมแม่ หรือดูดจุกนมปลอม จุกนมปลอมไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคน หากลูกมีปัญหาน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ โดยเฉพาะหากเป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ไม่ควรให้ลูกดูดจุกนมปลอม ยิ่งถ้าคุณแม่มีปัญหาไม่สามารถปั๊มนมมาเก็บไว้ใส่ขวดนมให้ลูกกินได้ ต้องให้ลูกดูดนมจากเต้าเท่านั้น เพราะอาจทำให้ลูกกินจากเต้าได้ยากขึ้น จนลูกขาดสารอาหาร และมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ นอกจากนี้ ถ้าลูกมีปัญหาหูอักเสบบ่อยควรหลีกเลี่ยงการดูดจุกนมปลอม ปล่อยลูกหลับคาจุกนมปลอมเลยได้ไหม แม้ลูกจะหลับไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจให้ลูกดูดจุกนมหลอกต่อไปได้ เพราะนอกจากจุกนมหลอกจะช่วยให้ลูกหลับได้ง่ายและหลับได้นานขึ้นแล้ว จุกนมปลอมอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการนอน […]


การเติบโตและพัฒนาการ

หาเพื่อนให้ลูก วัยเตาะแตะ คุณพ่อคุณแม่ทำได้อย่างไรบ้าง

การ หาเพื่อนให้ลูก โดยเฉพาะลูกในวัยเตาะแตะหรือวัยเด็กเล็ก อาจเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มองว่ายาก เพราะเด็กวัยนี้มักอยู่แต่ที่บ้าน ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน จึงไม่อาจไม่ค่อยมีโอกาสได้พบปะเพื่อนวัยเดียวกันเท่าใดนัก แต่ความจริงแล้ว การมีวิธีหาเพื่อนให้ลูก ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในวัยเตาะแตะ เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ให้กับลูก โดยเฉพาะพัฒนาการด้านสังคม วิธี หาเพื่อนให้ลูก วัยเตาะแตะ อย่าเร่งรีบเกินไป คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจกลัวว่าลูกจะไม่มีเพื่อน เลยเร่งรีบหาเพื่อนให้ลูกจนเกินไป เลยไม่ได้ประเมินให้ดีก่อนว่า ลูกคุณกับเด็กเหล่านั้น สามารถเข้ากันได้ไหม เหมาะจะเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า ทางที่ดี คุณควรให้เจ้าตัวเล็กได้ลองใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับเด็กคนอื่นไปก่อน ไม่ว่าจะด้วยการเล่นหรือการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ เพื่อนให้เจ้าตัวน้อยและว่าที่เพื่อนใหม่ของเขารู้สึกผ่อนคลาย และไม่กดดันจนเกินไป หาเพื่อนให้ลูก ควรเริ่มจากใกล้ๆ บ้านก่อน การหาเพื่อนให้ลูกที่สะดวกกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มากที่สุด ก็คือการหาเพื่อนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าคุณจะพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโด ลองหาเวลาพาเพื่อนออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ส่วนกลาง เดินเล่นในหมู่บ้าน เดินเล่นในสวน หรือให้ลูกเล่นนอกบ้านบ้าง เพื่อให้ลูกได้เริ่มเรียนรู้ในการเข้าสังคม และอาจเพิ่มโอกาสให้เขาได้เจอเพื่อนรุ่นเดียวกันมากขึ้น นอกจากจะหาเพื่อนให้ลูกจากบริเวณใกล้บ้านแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยังสามารถช่วยลูกหาเพื่อนได้ ตามสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือทำกิจกรรมสันทนาการสำหรับครอบครัว เช่น สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในโซนเด็กเล่น ฝึกให้ลูกมีพฤติกรรมดี ความประทับใจแรกถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการสานสัมพันธ์ หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกมีเพื่อนได้เร็วขึ้น หรืออยากให้เด็กคนอื่นอยากเล่นกับลูกของเรา คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเริ่มด้วยการสอนให้ลูกมีพฤติกรรมดี รู้จักอยู่ร่วมกับคนอื่น เช่น รู้จักแบ่งของเล่น แบ่งขนมให้เพื่อน […]


เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ความเชื่อเกี่ยวกับการให้นมแม่ และข้อเท็จจริงที่ควรรู้

ความเชื่อเกี่ยวกับการให้นมแม่ มีหลายเรื่องที่ยังเกิดความเข้าใจผิด เช่น ขนาดหน้าอกส่งผลต่อปริมาณน้ำนม แม่เป็นซึมเศร้าและรับประทานยาต้านเศร้าจะส่งผลต่อทารก น้ำนมแม่นั้นมีประโยชน์ต่อทารกอย่างมหาศาล คุณแม่ไม่ควรเก็บความเชื่อที่ผิด ๆ มาทำให้เกิดความกังวล ในขณะเดียวกันผู้ที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ก็อาจรู้สึกผิดจนรู้สึกไม่มีความสุขในการเลี้ยงลูก ทั้งนี้ เงื่อนไขของแต่ละคนในการเลี้ยงดูลูกนั้นแตกต่างกันไป ควรทำความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการให้นมแม่ ความเชื่อเกี่ยวกับการให้นมแม่ ที่ควรเข้าใจให้ถูกต้อง ความเชื่อที่ 1 : เด็กควรหย่านมแม่ก่อนอายุครบ 1 ขวบ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการหย่านมของเด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (The American Academy of Pediatrics) แนะนำว่าควรให้ทารกแรกเกิดกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน และเมื่อเริ่มให้ลูกกินอาหารหยาบแล้ว ก็ควรให้เด็กกินนมต่ออีกอย่างน้อย 12 เดือน และหากลูกยังอยากกินนมแม่อยู่ ก็สามารถให้กินได้ ความเชื่อที่ 2 : ให้ลูกดูดนมแล้วหน้าอกจะหย่อนยาน การตั้งครรภ์สามารถทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เส้นเอ็นบริเวณหน้าอกหย่อนและยืดตัว ยิ่งบวกกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ก็ยิ่งทำให้หน้าอกใหญ่และมีน้ำหนักมากกว่าเดิม หน้าอกเลยอาจดูหย่อนยานไปบ้าง และในช่วงหลังคลอดระยะแรก เต้านมก็อาจบวม หรือที่เรียกว่าอาการเต้านมคัด ซึ่งเป็นผลจากร่างกายผลิตน้ำนมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของเต้านมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์จนถึงช่วงให้นมนี้ ก็ไม่ได้คงอยู่ตลอดไป เพราะเมื่อลูกหย่านมแม่ หน้าอกจะนิ่มขึ้นและกลับสู่ขนาดปกติก่อนตั้งครรภ์ แต่หากหน้าอกจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นั่นก็อาจเป็นผลจากน้ำหนักตัว อายุ แรงโน้มถ่วง ความเชื่อที่ […]


เด็กทารก

น้ำมันมัสตาร์ด อีกหนึ่งตัวช่วยลับดูแลผิวและสุขภาพลูกน้อย

น้ำมันมัสตาร์ด เป็นหนึ่งในน้ำมันที่ใช้สำหรับการดูแลผิว แต่อาจเป็นน้ำมันที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นชินนัก เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน จึงมีความเชื่อว่า หากดูแลผิวด้วยน้ำมัน ก็จะยิ่งทำให้ผิวมันเหนอะหนะ ไม่สบายเนื้อตัว แต่ความจริงแล้ว สำหรับผิวเด็ก โดยเฉพาะเด็กทารก การดูแลผิวด้วยน้ำมันถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะนอกจากจะแก้ปัญหาผิวทารก เช่น ผิวแห้งแตก ได้แล้ว ยังมีประโยชน์สุขภาพอื่นๆ อีกด้วย คุณพ่อคุณแม่ควรทำความรู้จักกับน้ำมันมัสตาร์ด เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลผิวและสุขภาพของลูกน้อย [embed-health-tool-vaccination-tool] น้ำมันมัสตาร์ด คืออะไร น้ำมันมัสตาร์ดได้จากการนำเมล็ดมัสตาร์ด หรือที่เรียกว่าเมล็ดผักกาดไปสกัด เพื่อแยกส่วนน้ำมันออกมา เมล็ดมัสตาร์ดมีทั้งสีดำ สีขาว และสีเทา เมื่อสกัดแล้วจะได้เป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว รสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นค่อนข้างฉุน เมล็ดมัสตาร์ดนอกจากจะนำมาสกัดเป็นน้ำมันมัสตาร์ดได้แล้ว ยังนิยมนำมากลั่นด้วยไอน้ำ จนได้เป็นน้ำมันหอมระเหยมัสตาร์ดอีกด้วย ซึ่งทั้งน้ำมันมัสตาร์ดและน้ำมันหอมระเหยมัสตาร์ดสามารถนำมาใช้ดูแลผิวได้ น้ำมันมัสตาร์ด ดูแลผิวและสุขภาพเด็กได้ยังไงบ้าง คุณพ่อคุณแม่ในหลายประเทศนิยมนำน้ำมันมัสตาร์ด และน้ำมันหอมระเหยมัสตาร์ดมาใช้เป็นน้ำมันนวดและดูแลผิวให้กับทารกน้อย เนื่องจากมีประโยชน์สุขภาพ ดังนี้ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น การทาผิวเด็กด้วยน้ำมันมัสตาร์ด จะช่วยรักษาความร้อนและอุณหภูมิในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น จึงเหมาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศหนาว ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เมื่อคุณพ่อคุณแม่นวดตัวทารกด้วยน้ำมันมัสตาร์ด รูขุมขนของทารกจะเปิดและมีเหงื่อออก ถือเป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายทางหนึ่ง เหมาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน ๆ มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น การนวดตัวทารกน้อยด้วยน้ำมันมัสตาร์ดอุ่นเป็นประจำทุกวัน วันละสองครั้ง จะช่วยให้กระดูกที่ยังนิ่มและบอบบางของทารกแข็งแรงขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นด้วย เมื่อกระดูกและข้อต่อได้ขยับเขยื้อน ทารกน้อยก็จะแข็งแรงและเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวกขึ้น ช่วยต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย น้ำมันมัสตาร์ดและน้ำมันหอมระเหยมัสตาร์ดมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย โดยอาจช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อย เช่น อีโคไล ซาลโมเนลลา สแตฟฟิลโลคอคคัส […]


การเติบโตและพัฒนาการ

แปรงฟันให้ลูก และวิธีดูแลช่องปากที่ถูกต้อง

การแปรงฟัน ควรฝึกฝนตั้งแต่เด็กให้เป็นนิสัย โดยคุณพ่อคุณแม่ควร แปรงฟันให้ลูก ตั้งแต่เริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นเป็นซี่แรก นอกจากสอนวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง ควรสอดแทรกวิธีอื่น ๆ สำหรับดูแลสุขภาพช่องปาก เช่น การบ้วนปาก การกลั้วคอ เพื่อสร้างพื้นฐานการมีสุขภาพปากที่ดีและฟันที่แข็งแรงต่อไป [embed-health-tool-vaccination-tool] ทำไมจึงต้อง แปรงฟันให้ลูก การแปรงฟันมีประโยชน์อย่างมาก ทั้งช่วยขจัดคราบหินปูน คราบฟัน เศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน รวมถึงกลิ่นปากได้ด้วย ซึ่งคราบและเศษอาหารเหล่านี้ คือต้นตอของปัญหาสุขภาพปากและฟัน ทั้งยังเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย ฉะนั้น ตุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกฝนและแปรงฟันให้ลูกอย่างน้อยวันละสองครั้ง หากลูกน้อยยังไม่มีฟันน้ำนมขึ้น อาจใช้สำลี หรือผ้าชุบน้ำอุ่น หรือผลิตภัณฑ์เข็ดทำความสะอาดภายในช่องปากสำหรับเด็ก เช็ดบริเวณเหงือก ลิ้น และกระพุ้งแก้ม เตรียมความพร้อมในการ แปรงฟันให้ลูก วัยเด็กเป็นวัยที่ฟันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยังเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพฟันหากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะปัญหาที่พบได้บ่อยคือ ฟันผุ ทั้งนี้ อาจป้องกันปัญหาสุขภาพเหงือกและฟันให้ลูกน้อยได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ ฟันยังไม่ขึ้น ในช่วงที่ลูกน้อยยังไม่มีฟันน้ำนมงอกขึ้นมานั้น คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นทำความสะอาดเหงือกและลิ้นเพื่อเช็ดคราบน้ำนมที่อาจหมักหมมจนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก อาจใช้สำลี หรือผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดที่ลิ้นและเหงือกเบา ๆ หรือใช้ปลอกนิ้วยางในการทำความสะอาดเหงือก และยังเป็นการช่วยนวดเหงือกไปในตัวด้วย ฟันเพิ่งขึ้น เด็กที่มีอายุ 6 เดือนจนถึง 2 ปี เริ่มมีฟันน้ำนมงอกขึ้นมาแล้ว จึงอาจทำให้ลูกน้อยมีอาการเจ็บบริเวณเหงือกได้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บ คันเหงือก ด้วยการหาของเล่นที่เป็นยางมาให้กัดเล่น ฟันผุต้องระวัง สำหรับเด็กที่มีฟันน้ำนมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลภายในช่องปากของลูกและหมั่นแปรงฟันให้ลูกด้วย […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

สอนลูกออมเงิน เพื่อให้ลูกใช้เงินเป็น รู้จักเห็นคุณค่าของเงิน

สอนลูกออมเงิน เป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิต คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังนิสัยรักการออม เห็นคุณค่าของเงิน และรู้จักใช้เงินอย่างชาญฉลาดให้ลูกตั้งแต่เขายังเด็ก เมื่อโตขึ้น พวกเขาจะได้มีวินัยในการใช้เงิน ไม่มีปัญหาหนี้สิน สามารถรับผิดชอบชีวิตตนเองได้โดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน [embed-health-tool-bmi] สอนลูกออมเงิน ด้วยวิธีไหนเพื่อให้ได้ผล แบ่งกระปุกออมสินไว้หลาย ๆ ใบ จุดเริ่มต้นในการสอนลูกออมเงินอย่างง่าย ๆ ได้แก่ การใช้กระปุกออมสิน แต่แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกหยอดเงินใส่กระปุกออมสินเพียงหนึ่งใบเพื่อเอาเงินส่วนนั้นไปเข้าบัญชีธนาคาร ควรเตรียมกระปุกออมสินไว้หลาย ๆ ใบ โดยจะใช้เป็นกระปุกออมสินสำเร็จรูปที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป หรือจะใช้เป็นกระปุกออมสินชนิดทำเองเพื่อให้ลูกได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งกระปุกออมสินก็ได้เช่นกัน เพราะนอกจากลูกจะได้สนุกกับการทำงานฝีมือแล้ว ยังจะกระตุ้นให้ลูกน้อยอยากออมเงินมากขึ้นด้วย หากยังไม่รู้ว่าจะต้องมีกระปุกออมสินกี่ใบ เอาไว้เก็บเงินในกรณีในบ้าง อาจเริ่มจากกระปุกออมสินเล็ก ๆ 4 ใบ แบ่งเป็น กระปุกเงินค่าขนม ไว้สำหรับซื้อของที่ต้องการในแต่ละวัน กระปุกเงินออม ไว้สำหรับซื้อของชิ้นใหญ่ที่อยากได้ ซึ่งต้องใช้เวลาเก็บเงินนาน กระปุกเงินลงทุน ไว้สำหรับใช้ในอนาคต กระปุกเงินซื้อของขวัญ ไว้สำหรับซื้อของขวัญให้ผู้อื่นในเทศกาลต่าง ๆ หรือไว้บริจาคช่วยเหลือผู้อื่นตามความเหมาะสม กำหนดยอดเงินออม เมื่อแบ่งกระปุกออมสินตามเป้าหมายที่ต้องการได้แล้ว กำหนดยอดเงินออมด้วยว่าต้องการยอดเงินในแต่ละกระปุกเดือนละกี่บาท เช่น หากเดือนหน้าลูกต้องการจักรยานคันใหม่ ราคา 3,000 บาท คุณพ่อคุณแม่อาจกำหนดให้ลูกเก็บเงินหยอดกระปุกให้ได้ 1,000 บาท แล้วจึงช่วยจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ เมื่อได้ยอดเงินเก็บที่ต้องการแล้ว ลูกจะได้รู้ว่าเขาควรจะเก็บเงินให้ได้วันละกี่บาท ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถช่วยให้ลูกบรรลุเป้าหมายในการออมเงินได้ง่ายขึ้น ด้วยการเตรียมสมุดสะสมสติกเกอร์ไว้ในลูก เมื่อเขาหยอดเงินในกระปุกในแต่ละวันแล้ว […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน