สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สูตรมะปรางลอยแก้ว เมนูคลายร้อนยอดนิยมจากผลไม้ไทยที่ให้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ ยิ่งรับประทานคู่กับน้ำแข็งใสช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น มะปรางยังเป็นผลไม้ที่ประกอบด้วยสารอาหารและวิตามินนานาชนิด เช่น วิตามินซีช่วยบำรุงผิว ไฟเบอร์ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร เมนูนี้จึงนับว่าอร่อยและได้ประโยชน์ไปพร้อม ๆ กัน [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของมะปรางต่อสุขภาพ มะปรางมีสารอาหารที่ให้คุณค่าสารอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้ บำรุงสุขภาพผิว มะปรางอุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน ช่วยบำรุงผิว และยังอุดมด้วยสารเบตาแคโรทีน (Beta-Carotene) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร มะปรางอุดมด้วยไฟเบอร์และเนื้อมีน้ำในปริมาณมาก ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร เช่น บรรเทาอาการท้องผูก เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอาหาร นอกจากนี้ มะปราง ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทางเดินอาหารได้อีกด้วย เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ร่างกายมนุษย์ต้องอาศัยน้ำ 55% และเลือดประมาณ 82% และในมะปรางเป็นผลไม้ที่ฉ่ำน้ำ เมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกายจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำ และมีส่วนช่วยให้เลือดไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บำรุงสุขภาพหัวใจ มะปรางอุดมไปด้วยไฟเบอร์ การรับประทานผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ จึงนับเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยควบคุมน้ำหนัก มะปราง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนัก เพราะมีไฟเบอร์ในปริมาณสูง เมื่อร่างกายได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอ จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องเป็นเวลานาน ลดความอยากอาหาร จึงอาจช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยบำรุงและฟื้นฟูร่างกาย มะปราง เป็นแหล่งโปรตีนและวิตามินซีที่ดี ซึ่งช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรง ส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง  บำรุงสมอง สมองมนุษย์ประกอบด้วยน้ำ 70% มะปรางเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำ เมื่อรับประทานมะปรางจะช่วยบำรุงสมอง บำรุงสายตา เบตาแคโรทีนเป็นหนึ่งในสารประกอบที่พบได้ในมะปรางสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ โดยมีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงรักษาสุขภาพตา    สูตรมะปรางลอยแก้ว มะปรางลอยแก้ว มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังต่อไปนี้ ส่วนผสมสำหรับ สูตรมะปรางลอยแก้ว มะปรางสุก 20 ลูก น้ำตาลทราย […]

สูตรมัฟฟินแอปเปิลเจ เป็นเมนูสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่ต้องการขนมหรือของว่างที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยสูตรมัฟฟินแอปเปิลเจนี้ เลือกใช้นมถั่วเหลืองแทนนมวัว และไม่มีส่วนผสมจากไข่ แต่ยังคงคุณค่าสารอาหารและวิตามินนานาชนิดจากแอปเปิล เช่น วิตามินซี ไฟเบอร์ สารต้านอนมูลอิสระ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของแอปเปิลต่อสุขภาพ   แอปเปิล เป็นหนึ่งในผลไม้สำหรับคนนรักสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ดังนี้ อาจช่วยควบคุมน้ำหนัก แอปเปิลเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และมีปริมาณน้ำสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น การรับประทานแอปเปิลจึงช่วยให้รู้สึกอิ่มและอยู่ท้องได้นาน ทำให้ลดความอยากอาหารและต้องการรับประทานอาหารในมื้อต่อไปได้น้อยลง อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ แอปเปิลอุดมไปด้วยปริมาณไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดที่มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ นอกจากนี้ แอปเปิลยังมีโพลีฟีนอล (polyphenols) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และยังมีคุณสมบัติในการลดความดันโลหิตอีกด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ อาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพกระดูก แอปเปิลประกอบไปด้วยวิตามินซีและโพแทสเซียม รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบของร่างกาย และยังมีส่วนช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก การรับประทานแอปเปิลเป็นประจำจึงช่วยชะลออาการกระดูกเสื่อมได้ สูตรมัฟฟินแอปเปิลเจ ส่วนผสมและวิธีทำเมนูมัฟฟินแอปเปิลเจ มีดังนี้ แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย แป้งสาลี1 ถ้วย ผงฟู 2 ช้อนชา เกลือ1/2 ช้อนชา ผงอบเชย 1 ช้อนชา ผงลูกจันทร์เทศ 1/4 ช้อนชา น้ำเชื่อมเมเปิ้ล 1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย แอปเปิลบด 2 ถ้วย น้ำมันคาโนลา […]

สูตรสลัดแตงกวา เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่กี่ชนิด แต่ให้รสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพ เพราะแตงกวาเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเค แมกนีเซียม ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid)  ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้การขับถ่ายสะดวก ต้านการอักเสบ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของแตงกวา แตงกวาประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้ อาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะขาดน้ำ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ อาจก่อให้เกิดการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หมดสติ หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนั้น การรับประทานผักและผลไม้ที่มีความฉ่ำน้ำอย่างแตงกว่า นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับน้ำให้แก่ร่างกาย ลดความเสี่ยงของภาวะขาดน้ำได้ อาจช่วยในการควบคุมน้ำหนัก แตงกวาเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูง โดยการรับประทานแตงกวาประมาณ 300 กรัม จะได้ไฟเบอร์ 2 กรัม ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยให้ร่างกายอิ่มง่ายและอิ่มได้นาน ลดความอยากอาหารมื้อต่อไป รวมถึงความฉ่ำน้ำของแตงกวายังช่วยเสริมให้รู้สึกอิ่มท้องมากขึ้นด้วย นอกจากนั้น แตงกวายังเป็นผักที่ให้แคลอรี่น้อย โดยการรับประทานแตงกวาประมาณ 300 กรัม จะได้เพียง 45 แคลอรี่เท่านั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก อาจช่วยให้ระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากแตงกวาเป็นผักฉ่ำน้ำจึงอาจช่วยเสริมให้ระบบทางเดินอาหารมีน้ำเพียงพอหล่อลื่นสำหรับลำเลียงอาหารหรือของเสีย ป้องกันอาการท้องผูก อีกทั้งไฟเบอร์ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารของลำไส้ […]

สูตรน้ำลูกหว้า เมนูจากลูกหว้า (Java plum) ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีลักษณะเป็นรูปไข่ สีม่วงอมดำรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นอกจากช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว น้ำลูกหว้ายังมีสรรพคุณทางยาสูง ช่วยบำรุงสุขภาพและอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคบางชนิดเนื่องจากประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น  [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของลูกหว้า  ลูกหว้า เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร มีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้  อาจช่วยป้องกันและบรรเทาโรคเบาหวาน ลูกหว้ามีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน  อาจช่วยต้านการอักเสบภายในร่างกาย   ลูกหว้าอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ลูกหว้า อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ ลูกหว้ายังอุดมด้วยกรดแกลลิก (Gallic Acid) ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus : HIV)  อาจช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ลูกหว้ามีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง บรรเทาอาการท้องอืด โรคบิด โรคกระเพาะอาหาร   อาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลูกหว้ามีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด ส่งเสริมสุขภาพทางเพศ ขับปัสสาวะ บำรุงสุขภาพหัวใจ ป้องกันโรคไขข้ออักเสบ   อาจช่วยบำรุงสุขภาพผิวและผม ในลูกหว้าอุดมไปด้วยธาตุสังกะสี ซึ่งมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเสริมสร้างผิวและผม  รวมทั้งบำรุงเซลล์เลือดให้แข็งแรง ควบคุมความสมดุลความเป็นกรดและด่างในร่างกาย การรับประทานน้ำลูกหว้าจึงนับว่ามีประโยชน์ต่อทั้งผิว ผม และเซลล์เม็ดเลือด สูตรน้ำลูกหว้า  น้ำลูกหว้า มีส่วนผสมและวิธีทำ  ดังต่อไปนี้  ส่วนผสม […]

สูตรน้ำมะขามป้อม เมนูจากมะขามป้อม (Indian Gooseberry) ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ทางการแพทย์อายุรเวชมานานนับพันปี มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียตะวันออกกลาง และบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ น้ำมะขามป้อมจึงถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของมะขามป้อม มะขามป้อม อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ นานาชนิดซึ่งมีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยต่อต้านริ้วรอย มะขามป้อม อุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความชรา เช่น ป้องกันการสลายคอลลาเจน (Collagen) ในผิวหนัง ส่งเสริมการเจริญเติบโดของเส้นผม ป้องกันผมร่วง   อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง มะขามป้อมมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก หากรับประทานมะขามป้อมหรือดื่มน้ำมะขามป้อมเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ สารอาหารในมะข้ามป้อม มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของหัวใจ และอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด การรับประทานผงมะขามป้อมติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน อาจมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ ยังอาจช่วยป้องกันและบรรเทาอาการโรคเบาหวานประเภทที่ 2 มะขามป้อมจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อาจป้องกันความเสียหายของตับ สารสกัดในมะขามป้อม สามารถป้องกันความเสียหายของตับที่เกิดจากอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งเป็นพิษต่อตับได้  สูตรน้ำมะขามป้อม  น้ำมะขามป้อม มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังต่อไปนี้ ส่วนผสม มะขามป้อม 4-5 ลูก น้ำ ½ ถ้วย น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำมะขามป้อมสด 4-5 ลูก มาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ […]

สูตรกระเจี๊ยบเขียวผัด เมนูอาหารจากกระเจี๊ยบซึ่งเป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารนานาชนิด เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน วิตามินซี วิตามินเค ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน เช่น มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงครรภ์ เมนูกระเจี๊ยบเขียวผัดเน้นรสชาติจากธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งมากนักจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเมนูสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบเขียว มีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้ อาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่มีปริมาณแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่อุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์รวมทั้งวิตามินซี ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อาจช่วยบำรุงหัวใจ กระเจี๊ยบเขียวมีสารที่เรียกว่า โพลีฟีนอล (Polyphenols) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และไอโซเคอร์ซิติน (Isoquercetin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง โดยสารชนิดนี้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดและความเสียหายที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น นอกจากนี้สารโพลีฟีนอลยังมีส่วนช่วยป้องกันการอักเสบที่เกิดขึ้นกับร่างกายอีกด้วย อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) และกลายไปเป็นโรคเบาหวานได้ การบริโภคกระเจี๊ยบเขียวหรือสารสกัดจากกระเจี๊ยบเขียวมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวมีส่วนช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความเสถียรมากขึ้น อาจช่วยบำรุงครรภ์ กระเจี๊ยบเขียวอุดมไปด้วยสารอาหารโฟเลต (Folate) หรือวิตามินบี 9 ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความบกพร่องของท่อประสาท จึงช่วยบำรุงและเสริมสร้างพัฒนาการของสมองและกระดูกสันหลังของทารกในครรภ์ได้ สูตรกระเจี๊ยบเขียวผัด กระเจี๊ยบเขียวผัด มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังนี้ น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 5 กลีบ เห็ดหอม 3 ดอก […]

เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน หน่อไม้อ่อนก็เริ่มผุดขึ้นมาให้เรานำไปปรุงอาหารและรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยอย่าง “แกงหน่อไม้ใบย่านาง” เมนูอาหารสูตรพื้นบ้านของภาคเหนือ ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมกันอย่างมาก แม้ว่าเมนูนี้อาจจะมีสีสันและหน้าตาที่ไม่ค่อยน่ารับประทาน แต่ก็มีรสชาติอร่อย แถมยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย วันนี้ Hello คุณหมอ เลยจะมาแนะนำ สูตรแกงหน่อไม้ใบย่านาง ที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรากันค่ะ แกงหน่อไม้ใบย่านาง แกงสมุนไพรมากประโยชน์สุขภาพ แกงหน่อไม้ หรือที่ทางภาคอีสานเรียกกันว่า “แกงเปรอะ” คือแกงที่นิยมรับประทานกันในช่วงหน้าฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่หน่อไม้จะแตกหน่อออกมามาก ทำให้สามารถหาหน่อไม้สดมาทำอาหารได้ง่าย ซึ่งในแกงหน่อไม้ที่เรารับประทานกันนั้น มักจะนิยมใส่น้ำใบย่านาง ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาเย็น มาช่วยดับฤทธิ์ร้อนของหน่อไม้ตามหลักของแพทย์แผนไทยโบราณ ส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถพบได้ในแกงหน่อไม้ใบย่านาง มีดังต่อไปนี้ หน่อไม้ หน่อไม้คือหน่ออ่อนของต้นไผ่ที่แตกหน่อผุดขึ้นมาจากดิน จะพบได้มากในช่วงหน้าฝน หน่อไม้นั้นจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไขมันไม่ดี (LDL) ที่อยู่ในกระแสเลือด ทำให้สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน หรือโรคความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร สำหรับผู้ที่มีอาการเบื่ออาหาร หรือผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือลดน้ำตาล ใบย่านาง มีงานวิจัยที่พบว่า น้ำใบย่านางนั้นจะมีสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic compound) อยู่มาก ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระนี้มีคุณสมบัติช่วยป้องกันภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative stress)  ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมโทรมของเซลล์ในร่างกาย ช่วยต้านอักเสบ […]

สูตรยำมังคุดกุ้งสดเมนูจากผลไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ จากลักษณะของภายนอกที่มีกลีบบนหัวคล้าย ๆ กับมงกุฎของราชินี มังคุดเป็นผลไม้เนื้อขาว รสชาติหวานอมเปรี้ยว รับประทานแล้วช่วยให้รู้สึกสดชื่น  และยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน เช่น ต่อต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ลดเลือนริ้วรอย [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของมังคุด  มังคุม อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้ อาจช่วยต้านโรคเรื้อรัง มังคุดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี โฟเลต (Folate) ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยต่อต้านความเสียหายของเซลล์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ ซึ่งหากร่างกายมีปริมาณสารอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังได้ นอกจากนี้ยังมีสารแซนโทน (Xanthones) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ต่อต้านริ้วรอย และต้านโรคเบาหวาน อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ มังคุดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม (Potassium) ทองแดง แมกนีเซียม (Magnesium) และแมงกานีส ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต โดยเฉพาะโพแทสเซียม เป็นสารที่มีส่วนในการกำจัดโซเดียมที่รับประทานมากเกินไป นอกจากนี้ การรับประทานมังคุดยังมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ให้มีความปรกติและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอีกด้วย อาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มังคุดมีวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมากที่มีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เช่น วิตามินซี วิตามินบี แมงกานีส ดังนั้น การรับประทานมังคุดอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สูตรยำมังคุดกุ้งสด ยำมังคุดกุ้งสด มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังนี้ ส่วนผสม เนื้อมังคุด 250 […]

สูตรสลัดถั่วเขียว เป็นเมนูจากธัญพืชที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยในการนำมาทำสลัด นอกจากเมนูเดิม ๆ อย่างถั่วเขียวต้มน้ำตาล ขนมหวานไส้ถั่วเขียว ถั่วกวน หรือเต้าส่วน แต่ถั่วเขียวสามารถนำมาทำสลัดได้ นอกจากจะอร่อยง่าย ๆ แล้วยังให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และต้องการพลังงาน [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของถั่วเขียว ถั่วเขียว เป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ นานาชนิด ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยเพิ่มพลังงาน ถั่วเขียวหรือถั่วชนิดต่าง ๆ มีปริมาณโปรตีนที่สูงและมีประโยชน์ไม่แพ้โปรตีนในเนื้อสัตว์  โดยการรับประทานถั่วเขียน 1 ถ้วยหรือประมาณ 202 กรัม จะได้โปรตีนประมาณ 14 กรัม สำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ หรือวีแกน หรือผู้ที่ไม่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้ อาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนโปรตีน ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายได้โปรตีนที่เพียงพอต่อการสร้างพลังงาน การรับประทานธัญพืชตระกูลถั่ว อย่างเมนูสลัดถั่วเขียว จะช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่จำเป็นต่อการบำรุงสุขภาพและเสริมพลังงานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย อาจช่วยป้องกันการอักเสบของร่างกาย ถั่วเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญหลายชนิด เช่น ไวเท็กซิน (Vitexin) ไอโซไวเท็กซิน (Isovitexin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มของโพลีฟีนอล (Polyphenols) มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วย นอกจากนั้น การรับประทานอาหารที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง ยังอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้ อาจช่วยบำรุงสมอง ถั่วเขียวมีวิตามินบีที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1 […]

สูตรน้ำขิง เป็นเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ นอกจากนั้น ขิงเป็นพืชสมุนไพรมีสรรพคุณทางยาสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลายประการ เช่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่อาจต้องระมัดระวังการดื่มน้ำขิงในปริมาณมากอาจทำให้เป็นร้อนในได้เพราะขิงเป็นพืชสมุนไพรฤทธิ์ร้อน [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของขิง   ขิง ประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ นานาชนิด ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้  อาจช่วยต้านการอักเสบ ขิง อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการบวม อาจใช้สำหรับบรรเทาอาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคข้อเข่าเสื่อม  รวมทั้งอาจช่วยป้องกันหรือชะลอภาวะไตวายได้  อาจช่วยควบคุมน้ำหนัก ขิง มีส่วนช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก หากรับประทานขิงร้อนหลังรับประทานอาหาร อาจช่วยให้รู้สึกอิ่มนานยิ่งขึ้น และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล  อาจช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ขิง มีสรรพคุณทางยาที่อาจช่วยชะลอการเติบโตของมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก  อาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน เพศหญิงที่ดื่มน้ำขิงในระหว่างมีประจำเดือน จะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้เนื่องจากขิงเป็นพืชสมุนไพรออกฤทธิ์ร้อนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ สูตรน้ำขิง  น้ำขิง มีส่วนผสมและวิธีการทำง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ดังต่อไปนี้ ส่วนผสม ขิงดิบขูด 1 ช้อนชา หรือใช้ขิงผง ½ ช้อนชา น้ำ 4 ถ้วยตวง วิธีทำ นำ […]