backup og meta

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน (Acute Bronchiolitis)

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน (Acute Bronchiolitis)

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย ซึ่งเป็นอาการอักเสบของท่อหายใจที่เล็กที่สุดในปอดเรียกว่าหลอดลมฝอย

คำจำกัดความ

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน คืออะไร

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน (Bronchiolitis) คือการติดเชื้อในปอดชนิดหนึ่ง ที่พบได้มากในทารกและเด็กเล็ก โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน จะทำให้เกิดอาการอักเสบ และอาการอุดตันในทางเดินหายใจขนาดเล็กที่อยู่ในปอด เช่น หลอดลมฝอย โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน พบบ่อยแค่ไหน

หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันนั้นมักจะเกิดกับเด็กเล็กและทารก และพบได้มากในช่วงฤดูหนาว โรคนี้สามารถจัดการได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

อาการ

อาการของ โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

ในช่วงแรก ๆ อาการของ โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน อาจจะคล้ายคลึงกับโรคหวัด เช่น

หลังจากนั้น อาจจะเริ่มมีอาการหายใจไม่ออก หายใจลำบาก หรือหายใจออกแล้วมีเสียงดังวี้ด ๆ นอกจากนี้ ทารกส่วนใหญ่ก็มักจะมีอาการติดเชื้อในหูชั้นกลางอีกด้วย

ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด

เมื่อไหร่ที่ลูกของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการกิน การดื่ม และการหายใจ ก็ควรพาเด็กไปพบหมอเพื่อทำการตรวจ โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 สัปดาห์ หรือเด็กที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ในการเกิด โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน เช่น เด็กที่คลอดก่อนกำหนด หรือเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือปอด

หากเด็กมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

  • หายใจแล้วมีเสียงวี้ด ๆ
  • หายใจหอบ หายใจตื้น หรือหายใจเร็วถี่ ๆ
  • ไม่ยอมดื่มนมหรือดื่มน้ำ หรือมีอาการหายใจเร็วเกินไปจนไม่สามารถกินหรือดื่มได้
  • ผิวหนังเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงคล้ำ โดยเฉพาะในบริเวณนิ้วมือและริมฝีปาก

สาเหตุ

สาเหตุของหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในบริเวณหลอดลมฝอย ที่เป็นทางเดินหายใจขนาดเล็กที่สุดในปอด การติดเชื้อนี้จะทำให้หลอดลมฝอยมีอาการบวมและอักเสบ จนทำให้เกิดการสะสมของเสมหะ ทำให้หายใจลำบาก

โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน สามารถเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อทั่วไป รวมไปถึงไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัด แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน มักจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่มักจะเกิดกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ไวรัส RSV นี้จะแพร่ระบาดในช่วงฤดูหนาว และสามารถติดซ้ำได้

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงของหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน มักจะเกิดกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี โดยเฉพาะเด็กทารกที่อายุต่ำกว่า 3 เดือนจะมีความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันและปอดของเด็กนั้นยังไม่เจริญเติบโตอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ก็อาจจะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น

การวินิจฉัยและการรักษาโรค

ข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

แพทย์มักจะวินิจฉัย โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน ได้ด้วยการตรวจร่างกายด้วยการฟังในบริเวณปอด และดูอาการโดยรวมของเด็ก

หากเด็กมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง หรืออาจจะมีปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ แพทย์อาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • เอกซเรย์หน้าอก เพื่อหาสัญญาณของปอดอักเสบ
  • ตรวจหาเชื้อไวรัส โดยการเก็บตัวอย่างเสมหะและน้ำมูกไปตรวจในห้องแล็บ
  • ตรวจเลือด เพื่อตรวจหาจำนวนเม็ดเลือดขาว เพราะหากมีเซลล์เม็ดเลือดขาวมากขึ้น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ ยังตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณของออกซิเจนในเลือดว่าลดลงหรือไม่

การรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

โดยปกติแล้ว โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน มักจะอยู่เพียงแค่ 2-3 สัปดาห์ เด็กส่วนใหญ่มักจะหายจากโรคนี้ได้เอง เพียงแค่ดูแลรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยคอยดูแลรักษาตามอาการ และคอยระวังระดับของน้ำและออกซิเจนในร่างกาย นอกจากนี้ ก็อาจจะมีการใช้ยาต้านเชื้อไวรัส เพื่อรักษาอาการติดเชื้อ

เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่ของโรคนี้มักจะเกิดจากเชื้อไวรัส การใช้ยาปฏิชีวนะจึงไม่มีผลในการรักษามากนัก แต่อาจจะใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ปอดอักเสบ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือการเยียวยาตนเองที่ช่วยรับมือ โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการเยียวยาตนเอง เพื่อช่วยในการรับมือกับโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน มีดังนี้

  • ลดการพบปะกับผู้ที่เป็นไข้หรือไข้หวัด หากมีทารกแรกเกิด โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนด ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่มีอาการหวัดในช่วง 2 เดือนแรก
  • ทำความสะอาดสิ่งของและบริเวณต่าง ๆ ที่มักมีคนสัมผัส เช่น ของเล่น ลูกบิดประตู สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่มีสมาชิกซึ่งกำลังป่วย
  • ปิดปากและจมูกขณะไอหรือจาม ด้วยกระดาษทิชชู่ ทิ้งกระดาษทิชชู่และล้างมือ หรือใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ทำความสะอาด
  • ใช้แก้วน้ำของตนเอง ไม่ใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัวที่กำลังป่วย
  • ล้างมือบ่อย ๆ และพกเจลล้างมือแอลกอฮอล์ติดตัวเมื่อออกจากบ้าน
  • การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจพบไม่บ่อยนักในเด็กที่กินนมแม่

หากมีคำถามเกี่ยวกับโรค ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเข้าใจในวิธีการรักษาที่ดีที่สุด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Bronchiolitis. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bronchiolitis/symptoms-causes/syc-20351565. Accessed May 8, 2018.

Acute bronchiolitis in infants, a review. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4230018/. Accessed May 8, 2018.

Acute bronchiolitis. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2078613/. Accessed May 8, 2018.

Bronchiolitis. https://emedicine.medscape.com/article/961963-overview. Accessed May 8, 2018.

Bronchiolitis. https://www.nhs.uk/conditions/bronchiolitis/. Accessed May 18, 2021

Bronchiolitis. https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/8272-bronchiolitis. Accessed May 18, 2021

What Is Bronchiolitis?. https://www.webmd.com/lung/what-is-bronchiolitis. Accessed May 18, 2021

เวอร์ชันปัจจุบัน

18/05/2021

เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

สัญญาณโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หนึ่งในโรคปอดเรื้อรังที่รุนแรงถึงชีวิต

หลอดลมโป่งพอง (Bronchiectasis)


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์ · แก้ไขล่าสุด 18/05/2021

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา