พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

วัยรุ่น

วัยรุ่นอายุเท่าไหร่ และปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสำคัญ

วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกายและจิตใจ แต่บางคนอาจมีการเจริญเติบโตทางร่างกายและมีพัฒนาการที่ช้าหรือเร็วกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ จึงอาจทำให้พ่อแม่หรือคนภายนอกเกิดความสงสัยว่า วัยรุ่นอายุเท่าไหร่ ซึ่งปกติวัยรุ่นจะมีอายุอยู่ในช่วง 10-20 ปี ซึ่งเป็นวัยที่คุณพ่อคุณแม่อาจจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้วัยรุ่นดำเนินชีวิตและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-vaccination-tool] วัยรุ่นอายุเท่าไหร่ วัยรุ่นเป็นช่วงวัยเปลี่ยนผ่านระหว่างวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ จึงเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม โดยช่วงวัยรุ่นจะมีอายุตั้งแต่ 10-20 ปี ซึ่งร่างกายของเพศหญิงและเพศชายจะเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้นและค่อย ๆ มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละส่วน เช่น หน้าอกและอัณฑะขยายใหญ่ขึ้น เสียงแตกหนุ่ม มีขนขึ้นที่รักแร้และอวัยวะเพศ สำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ วัยรุ่นจะเริ่มให้ความสนใจในบางเรื่องมากขึ้น เช่น อัตลักษณ์ทางเพศ ความสนใจเรื่องรูปร่างหน้าตา การเข้าสังคม ความต้องการเป็นอิสระจากครอบครัว สนใจเรื่องความสัมพันธ์แบบคู่รัก ซึ่งในบางครั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก็อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตในวัยรุ่นได้เช่นกัน ปัญหาสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตในวัยรุ่น ปัญหาสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่อาจพบได้บ่อยในวัยรุ่น มีดังนี้ ปัญหาภาพลักษณ์ทางร่างกาย วัยรุ่นเป็นวัยที่เริ่มให้ความสำคัญกับอัตลักษณ์ทางเพศและรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างมาก จึงอาจทำให้วัยรุ่นบางคนพยายามทำพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น อดอาหารเพื่อให้ผอม กินยาลดความอ้วน ใช้สารสเตียรอยด์เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เช่น ความไม่เข้าใจในครอบครัว พ่อแม่แยกทาง ความรุนแรงในครอบครัว การถูกล่วงละเมิดทางเพศ สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและสุขภาพร่างกายของวัยรุ่น ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นปมปัญหาภายในจิตใจในระยะยาวได้ การถูกกลั่นแกล้ง วัยรุ่นเป็นวัยที่ให้ความสำคัญกับการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก จึงอาจมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดการกลั่นแกล้ง หรือ […]


สุขภาพเด็ก

เด็กปวดฟัน สาเหตุ การรักษาและการป้องกัน

เด็กปวดฟัน เป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กอาจยังไม่รู้ถึงวิธีการดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปากอย่างเหมาะสม จนทำให้เกิดปัญหาทันตกรรมต่าง ๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันแตก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการปวดฟัน ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปากของลูกจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันอาการปวดฟันและปัญหาทันตกรรมอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เด็กปวดฟัน เกิดจากสาเหตุอะไร เด็กปวดฟัน ส่วนใหญ่อาจเกิดจากปัญหาฟันผุหรือปัญหาการบาดเจ็บของฟันอื่น ๆ ที่ทำให้เนื้อในฟันเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ดังนี้ ฟันผุ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในเด็ก ซึ่งมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก และการรักษาสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี จนทำให้แบคทีเรียในช่องปากทำลายเคลือบฟันไปจนถึงชั้นเนื้อฟัน เกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ อักเสบ และติดเชื้อ ส่งผลทำให้เด็กปวดฟันในที่สุด ฝีหนองที่รากฟัน (Dental Abscess) มีลักษณะเป็นตุ่มหนองที่เหงือกในบริเวณที่ฟันมีการติดเชื้อ อาจทำให้ปวดฟันและมีไข้ เคลือบฟันแตก เกิดจากการกัดของที่มีความแข็งมากจนทำให้ฟันแตกหัก เกิดการอักเสบ และไวต่อของร้อนหรือเย็น จนทำให้เด็กเกิดอาการปวดฟันขึ้น โรคเหงือก เป็นปัญหาเหงือกอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลทำให้เหงือกบวมแดง มีเลือดออก และเจ็บปวดได้ อาหารติดฟัน อาหารที่เข้าไปติดระหว่างซอกฟันอาจทำให้เกิดอาการปวดฟันและติดเชื้อ ดังนั้น การหมั่นกำจัดเศษอาหารด้วยไหมขัดฟันอาจช่วยป้องกันได้ สัญญาณของปัญหาฟันผุและอาการของเด็กปวดฟัน สัญญาณของปัญหาฟันผุที่เกิดขึ้นในเด็กอาจสังเกตได้จากสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ เกิดแถบสีขาวขุ่นบนผิวฟันใกล้กับแนวเหงือก เกิดแถบสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีดำที่ผิวฟัน […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

หมวกกันน็อคเด็ก สำคัญอย่างไร และวิธีเลือกซื้อหมวกกันน็อคเด็ก

หมวกกันน็อคเด็ก เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งในขณะที่เด็กนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์และขณะปั่นจักรยาน เล่นสเก็ตบอร์ด หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อหมวกกันน็อคเด็กที่ได้มาตรฐานมอก. มีขนาดพอดีกับศีรษะของเด็ก ควรสอนให้เด็กเรียนรู้วิธีสวมหมวกกันน็อคที่ถูกต้อง และฝึกให้เด็กสวมหมวกกันน็อคเป็นประจำจนเป็นนิสัย เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่และทำกิจกรรมของเด็ก หมวกกันน็อคเด็ก สำคัญอย่างไร หมวกกันน็อคเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายบริเวณศีรษะและสมองของผู้สวมใส่จากการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ รถจักรยาน รถจักรยานไฟฟ้า เป็นต้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะต้องสวมหมวกกันน็อคตลอดการเดินทางเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและเพื่อปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามที่กฏหมายกำหนด นอกจากหมวกกันน็อคเด็กจะช่วยป้องกันศีรษะและใบหน้าของเด็กขณะเดินทางแล้ว ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บสำหรับเด็กที่ปั่นจักรยานหรือเล่นกีฬาผาดโผน เช่น สเก็ตบอร์ด ได้อีกด้วย จึงควรให้เด็กสวมหมวกกันน็อคอยู่เสมอไม่ว่าจะในขณะซ้อนท้ายจักรยานยนต์และจักรยาน ปั่นจักรยานด้วยตัวเอง หรือทำกิจกรรมและเล่นกีฬาที่ค่อนข้างผาดโผน วิธีเลือกซื้อ หมวกกันน็อคเด็ก วิธีเลือกซื้อหมวกกันน็อคสำหรับเด็ก มีดังนี้ เลือกหมวกกันน็อคที่พอดีกับศีรษะ ควรให้เด็กลองสวมหมวกกันน็อคก่อนซื้อ เพื่อดูว่าขนาดของหมวกกันน็อคพอเหมาะกับขนาดศีรษะของเด็กหรือไม่ หมวกกันน็อคที่เหมาะสมจะต้องมีขนาดพอดีกับศีรษะ กระชับ แต่สวมใส่สบาย เมื่อคาดสายรัดคางแล้วไม่คับหรือหลวมจนหมวกเบี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่งหรือเลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลัง และไม่ควรรัดแน่นจนเกินไปจนปวดศีรษะ เลือกหมวกกันน็อคที่มีสภาพสมบูรณ์ ก่อนซื้อหมวกกันน็อคให้เด็ก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าหมวกกันน็อคมีสภาพสมบูรณ์และเป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานมอก. หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และควรตรวจสอบให้ดีว่าหมวกกันน็อคเด็กไม่มีรอยแตก ร้าว บุบ หรือถลอก กระจกหน้าและสายรัดคางต้องแข็งแรง และควรหลีกเลี่ยงการใช้หมวกกันน็อคมือสอง โดยเฉพาะหมวกกันน็อคที่เคยประสบอุบัติเหตุ เพราะอาจเสื่อมสภาพและไม่สามารถใช้ป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เลือกหมวกกันน็อคที่เหมาะสมกับกิจกรรม ควรเลือกซื้อหมวกกันน็อคให้ตรงกับประเภทกิจกรรมของเด็ก หากเล่นโรลเลอร์สเก็ต อินไลน์สเก็ต สเก็ตบอร์ด และสกู๊ตเตอร์แบบที่ไม่ผาดโผนนัก สามารถใช้หมวกกันน็อคจักรยานได้ แต่หากกิจกรรมผาดโผนหรือเสี่ยงอันตรายขึ้น อาจเลือกซื้อหมวกกันน็อคที่ป้องกันได้เต็มรูปแบบมากกว่า […]


วัคซีน

ลูกฉีดวัคซีนแล้วเป็นไข้ ควรดูแลอย่างไร

บางครั้งหลังพาลูกไปฉีดวัคซีนตามกำหนด คุณพ่อคุณแม่อาจพบว่าลูกมีอาการไม่สบาย เช่น มีไข้ขึ้น เกิดผื่น หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีดยา อ่อนเพลีย ซึ่งมักเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของเด็กและอาจเกิดขึ้นได้จากการรับประทานยารักษาโรคอื่น ๆ เช่นกัน หาก ลูกฉีดวัคซีนแล้วเป็นไข้ คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเบื้องต้นได้ด้วยการเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ  รับประทานยาลดไข้ เป็นต้น วิธีเหล่านี้อาจช่วยให้อาการไข้ของลูกหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน แต่หากดูแลเบื้องต้นแล้วอาการไข้หรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอื่น ๆ ยังไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอ [embed-health-tool-vaccination-tool] ลูกฉีดวัคซีนแล้วเป็นไข้ เกิดจากอะไร การฉีดวัคซีนจำเป็นสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยสร้างเกราะป้องกันโรคให้กับเด็ก ช่วยให้เด็กสามารถเติบโตอย่างแข็งแรงและพัฒนาการที่สมวัย คุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็กไปฉีดวัคซีนพื้นฐานตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 12 ปี ทั้งนี้ หลังฉีดวัคซีน เด็กอาจมีอาการไม่สบายอย่างมีไข้ อ่อนเพลีย ผิวหนังบริเวณที่ฉีดวัคซีนปวด บวม แดง ซึ่งมักไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เองภายในเวลาไม่นาน สาเหตุที่ทำให้ลูกฉีดวัคซีนแล้วเป็นไข้ เนื่องจากในวัคซีนมีเชื้อไวรัสหรือเชื้อที่ทำให้เกิดโรคเป็นส่วนประกอบ เช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบ เชื้อโปลิโอ เชื้อแบคทีเรียไอกรน ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์และไม่มีประสิทธิภาพมากพอจะทำให้ติดเชื้อจนเกิดโรคจริง ๆ เมื่อวัคซีนที่มีเชื้อก่อโรคนี้ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันชนิดแอนตีบอดีต่อเชื้อดังกล่าว หากในอนาคตร่างกายได้รับเชื้อโรคชนิดที่เคยฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็จะมีภูมิคุ้มกันและต่อต้านเชื้อโรคนั้น ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจากเชื้อดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลข้างเคียงจากวัคซีนที่พบได้ในเด็ก ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังเด็กได้รับวัคซีน อาจมีดังนี้ มีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย มีผื่นแดง ปวดข้อตามร่างกาย […]


โรคติดเชื้อในเด็ก

SSSS หรือ โรค 4S คืออะไร สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

โรค 4S หรือ SSSS (Staphylococcal Scalded Skin Syndrome) คือ โรคติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิลโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcal Aureas) ที่ผิวหนังอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่พบในเด็กทารกและเด็กเล็ก แต่ก็อาจพบในผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานต่ำได้เช่นกัน อาการเริ่มต้นอาจพบว่าเด็กร้องไห้งอแง อ่อนเพลีย และมีไข้ ตามมาด้วยมีผื่นแดง จากนั้นไม่กี่วัน ผื่นแดงจะกลายเป็นตุ่มน้ำและที่หลุดลอกออกเป็นแผ่น ๆ เห็นผิวด้านล่างเป็นสีแดง อาจรุนแรงจนเกิดอาการช็อกได้ หากพบว่าเด็กมีอาการผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณของโรค 4s ดังที่กล่าวไปข้างต้น หรือมีอาการผิดปกติทางผิวหนังอื่น ๆ ควรรีบพาไปพบคุณหมอโดยเร็ว เพราะหากทิ้งไว้ไม่รักษา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] SSSS คืออะไร โรค 4S หรือ SSSS (Staphylococcal scalded skin syndrome) คือ โรคติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิลโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcal aureas) ที่ผิวหนังอย่างรุนแรง มักพบในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กทารก สแตฟฟิลโลคอคคัส ออเรียส เป็นเชื้อแบคทีเรียก่อโรคบนผิวหนังและเนื้อเยื่อ เมื่อแบคทีเรียชนิดนี้ปล่อยสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด […]


ช่วงเวลาสำคัญและพัฒนาการวัยรุ่น

6 ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น

วัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งการส่งเสริมพัฒนาการของวัยรุ่นอย่างตรงจุด อาจเป็นวิธีที่จะช่วยให้วัยรุ่นสามารถเจริญเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พ่อแม่จึงควรรู้ถึง ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น ทั้ง 6 ปัจจัย คือ ปัจจัยทางชีวภาพ สภาพจิตใจและอารมณ์ โภชนาการ การเลี้ยงดูของครอบครัว ภาวะสุขภาพ และสภาพแวดล้อม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจมีทั้งปัจจัยตามธรรมชาติที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และปัจจัยที่สามารถส่งเสริม จัดการให้สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของวัยรุ่นที่ก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต [embed-health-tool-ovulation] การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น มีความสำคัญอย่างไร การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่นที่เหมาะสมตามวัย อาจมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เนื่องจากวัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่ต้องมีการปรับตัวต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก จึงอาจทำให้มีความอ่อนไหวง่ายทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต บ่อยครั้งที่ปัจจัยต่าง ๆ อาจกระตุ้นให้วัยรุ่นเกิดความเครียด กดดัน และวิตกกังวล จนอาจก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสมของวัยรุ่น 6 ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น ในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา อาจมีดังนี้ ปัจจัยทางชีวภาพ ปัจจัยทางชีวภาพเป็นปัจจัยภายในที่ได้รับมาตั้งแต่กำเนิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน เพศ ลักษณะรูปร่าง พื้นฐานอารมณ์ สภาพร่างกาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจมีผลอย่างมากต่อการเจริญเติบโตทางร่างกายของวัยรุ่น เช่น ส่วนสูง รูปร่าง สีผม สีตา สีผิว และอาจมีผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญา อารมณ์ และสังคม […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

วิธีลงโทษลูกแฝด และการสร้างวินัยเพื่อปรับนิสัยลูก

ลูกแฝดมีการเจริญเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่ในครรภ์ และอยู่ใกล้ชิดกันแทบจะตลอดเวลา จนอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง ทะเลาะกัน หรือแย่งของเล่นกันอยู่เรื่อย ๆ พ่อแม่จึงควรมีวิธีอบรมสั่งสอนและ วิธีลงโทษลูกแฝด หรือว่ากล่าวตักเตือน เพื่อให้ลูกได้รู้จักเรียนรู้ถึงสิ่งที่ผิดและสิ่งที่ถูก และวิธีแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ การลงโทษลูกแฝดยังอาจเป็นวิธีที่ช่วยฝึกทักษะให้ฝาแฝดได้รู้จักการประนีประนอม การพูดคุยและต่อรองกันด้วยเหตุผล เพื่อหยุดปัญหาการทะเลาะกัน รวมถึงยังอาจช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างฝาแฝดอีกด้วย ทำไมลูกแฝดถึงอาจทะเลาะกันบ่อยครั้ง ฝาแฝดอาจมีปัญหากันได้เหมือนกับความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่อื่น ๆ แต่อาจมีปัญหากันบ่อยกว่าพี่น้องปกติ เนื่องจากฝาแฝดมีความใกล้ชิดกันมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงอาจเป็นการตอบสนองต่อการแข่งขันเพื่อแย่งชิงกันตั้งแต่กำเนิด โดยฝาแฝดแต่ละคนอาจแสดงพฤติกรรมในการทะเลาะที่แตกต่างกัน เช่น ตี โวยวาย หยิก ดึงผม ร้องไห้ โดยจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Psychology of Rivalry เมื่อ พ.ศ. 2561 ศึกษาเกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างฝาแฝดในวัยเด็ก พบว่า ฝาแฝดชอบความใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน เนื่องจากฝาแฝดอาจมีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตั้งแต่ในครรภ์จนถึงวัยชรา จึงส่งผลให้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น แต่ในทางกลับกัน ตั้งแต่ยังเป็นทารก ฝาแฝดอาจมีการแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงความรักหรือเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ จากพ่อแม่ จึงอาจทำให้ฝาแฝดทะเลาะกัน ดังนั้น จึงอาจแยกประเด็นของการมีปัญหากันระหว่างฝาแฝดออกเป็น 2 ประเด็น คือ การแข่งขันกันระหว่างฝาแฝด กับการแย่งชิงความรักและความสนใจจากพ่อแม่ การแข่งขันกันระหว่างฝาแฝด และการพึ่งพาอาศัยกันในความสัมพันธ์ของฝาแฝด การทะเลาะกันของฝาแฝดเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการ เมื่อฝาแฝดได้รับการอบรมสั่งสอนจนเกิดการเรียนรู้ […]


ลูกวัยเตาะแตะและเด็กก่อนวัยเรียน

ของเล่น เลือกอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกน้อย

ของเล่น เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กในด้านสติปัญญา การใช้ภาษา ช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกาย ความสุขทางอารมณ์ และการเข้าสังคม ซึ่งพ่อแม่ควรเลือกของเล่นที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของเด็ก เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะเล่น รวมถึงควรเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ของเล่น มีประโยชน์อย่างไร ของเล่น เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของเด็ก เช่น สติปัญญา ร่างกาย สังคม อารมณ์ โดยการเล่นของเล่นยังอาจช่วยส่งเสริมจินตนาการ ความสนุก ฝึกให้เด็กได้ขยับร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยให้เด็กได้เรียนรู้เนื้อสัมผัส และได้พัฒนาการมองเห็นด้วยการมองสีสันบนของเล่น โดยพ่อแม่ควรเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัย เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเล่นของเล่นยังทำให้พ่อแม่ได้มีส่วนร่วมและใช้เวลากับเด็กมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ความปลอดภัยของของเล่นเด็ก ของเล่นบางประเภทที่ไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กำกับ อาจมีความเสี่ยงที่จะมีสารปนเปื้อนอย่างตะกั่วและแคดเมียม (Cadmium) ซึ่งเป็นโลหะหนักในระดับที่เป็นพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ เช่น การพัฒนาทางสมองล่าช้า ไตและกระดูกเสียหาย โรคมะเร็ง วิธีเลือกของเล่นสำหรับเด็ก วิธีที่พ่อแม่จะเลือกของเล่นให้กับเด็กได้อย่างปลอดภัย อาจมีดังนี้ ตรวจสอบฉลาก ของเล่นที่ปลอดภัยและผ่านมาตรฐานจะมีเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กำกับอยู่ และบนฉลากจะบอกช่วงอายุของเด็กที่สามารถเล่นของเล่นชิ้นนั้น ๆ ได้ เลือกของเล่นให้เหมาะกับวัยของเด็ก […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

เด็กดื้อ มีสาเหตุมาจากอะไร พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร

เด็กดื้อ เป็นอาการที่เด็กแสดงออกมาเมื่อต้องการเรียกร้องความสนใจ รู้สึกโกรธ ผิดหวัง เหนื่อยล้า ต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือต้องการปฏิเสธพ่อแม่ ด้วยการร้องไห้ งอแง โวยวาย กรีดร้อง ขว้างปาข้าวของ หรือแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ เช่น สะบัดแขนขา ลงไปนอนกลิ้งกับพื้น กระทืบเท้า ดังนั้น พ่อแม่ควรเรียนรู้ถึงวิธีการรับมือกับเด็กดื้อ เพื่อแก้ไขปัญหาและพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงอาจช่วยให้เด็กได้ฝึกทักษะในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง สาเหตุของเด็กดื้อ เด็กดื้อ อาจมีสาเหตุมาจากการที่เด็กต้องการเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ รู้สึกเหนื่อย โกรธ ผิดหวัง หิว ต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือต้องการปฏิเสธบางสิ่งบางอย่าง เช่น การเก็บของเล่น การทำการบ้าน โดยเด็กจะแสดงพฤติกรรมต่อต้าน เช่น ร้องไห้ โวยวาย กรีดร้อง ขว้างปาข้าวของ ลงไปนอนกลิ้งกับพื้น กระทืบเท้า สะบัดแขนขา เพื่อแสดงถึงความต้องการเป็นอิสระ แต่ก็ยังต้องการความสนใจจากพ่อแม่อยู่ อาการเด็กดื้อพบได้บ่อยในเด็กเล็กอายุระหว่าง 1-4 ปี เนื่องจากเด็กในช่วงวัยนี้อาจยังไม่ได้พัฒนาทักษะในการรับมือกับอารมณ์รุนแรงหรือความผิดหวังได้มากเท่าที่ควร และยังไม่สามารถสื่อสารความต้องการออกมาได้ชัดเจน ส่งผลให้เด็กขาดทักษะในการสื่อสารด้วยเหตุผลเพื่ออธิบายความรู้สึกหรือความต้องการ จึงแสดงออกทางอารมณ์ออกมาด้วยพฤติกรรมที่รุนแรง ปัจจัยที่อาจส่งผลทำให้เด็กดื้อ ปัจจัยที่สามารถเป็นตัวกระตุ้นทำให้เด็กดื้อและเอาแต่ใจ อาจมีดังนี้ อายุ ความดื้อและการสื่อสารด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผลเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของเด็กเล็ก เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นและได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างถูกต้องเหมาะสม ความดื้อของเด็กก็จะลดลง […]


สุขภาพจิตวัยรุ่น

วัยรุ่น กับพัฒนาการทางจิตใจที่ควรให้ความสำคัญ

วัยรุ่น เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบประสาท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ที่อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจทำให้วัยรุ่นรู้สึกอยากรู้ อยากลอง กดดัน หรืออาจมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับภาพลักษณ์ อัตลักษณ์ของตนเอง ความสนใจในเรื่องเพศ หรือต้องการความเป็นอิสระมากขึ้น ดังนั้น พ่อแม่จึงควรให้ความสำคัญและทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ดูแลและส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของวัยรุ่นได้อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] วัยรุ่น คืออะไร วัยรุ่น คือ ช่วงวัยที่มีอายุระหว่าง 10-21 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ วัยรุ่นจึงต้องมีการปรับตัวต่อสิ่งเร้าทั้งภายในและภายนอก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบประสาทที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ อารมณ์ และสังคม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด จึงทำให้วัยรุ่นเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น ต้องการอิสระ มีความสนใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง แสวงหาอัตลักษณ์ของตนเอง รวมถึงมีความสนใจในเรื่องเพศ สนใจที่จะเข้าสังคม และต้องการการยอมรับในสังคมมากขึ้น ความสำคัญของพัฒนาการทางจิตใจของวัยรุ่น ช่วงวัยรุ่นแบ่งออกเป็นวัยรุ่นตอนต้น วัยรุ่นตอนกลาง และวัยรุ่นตอนปลาย ซึ่งในแต่ละช่วงวัยจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ และสังคม ไปพร้อม ๆ กัน ดังนี้ วัยรุ่นตอนต้น อายุ 10-13 ปี ในช่วงนี้ร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เช่น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน