สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

รักษาสิวอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมเรตินอยเจนใหม่

“สิว” ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด ยิ่งคนที่เคยเผชิญปัญหานี้ บอกเลยมีทั้งความกังวลใจ และความไม่มั่นใจ ถึงแม้สิวจะหายไป แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบตามมา ทั้งรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยดำ รอยแดง และสำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว โดยเฉพาะในวัยรุ่น สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ กังวลทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น รู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง หรือบางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้หลายคนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น การปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษาสิวตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวที่เกิดจากหลุมสิว ยกตัวอย่างเช่น สิวที่หลัง ซึ่งมักถูกมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้เป็นไปได้ยาก และในปัจจุบันก็สามารถดูแลได้เพียงทำให้หลุมสิวดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้อง และเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงและรอยโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่าปัญหาสิวไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นในหลายส่วนของร่างกาย 64.6-89.3% ของคนที่เป็นสิวในระดับปานกลางมักจะต้องเจอกับสิวที่ใบหน้าและสิวที่หลัง จากการสำรวจพบว่ามีคนไทยที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-25 ปี มากถึง 85% ที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นสิวทั้งที่หน้าและสิวที่หลัง การรักษาสิวอย่างตรงจุด จึงจำเป็นที่จะต้องครอบคลุมทั้ง 2 บริเวณ และจะต้องช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวอีกด้วย วิธีรักษาสิวมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งสามารถทำได้เองทุกวัน ยาในกลุ่มเรตินอยจัดเป็นยารักษาสิวประสิทธิภาพดี ช่วยลดการอักเสบทั้งสิวเก่า และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น ทำให้ยาทาในกลุ่มเรตินอยได้ถูกระบุให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวโดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

โรคผิวหนังอักเสบ

ประเภทของผิวหนังอักเสบ มีอะไรบ้าง

ผิวหนังอักเสบ (Dermatitis) คืออาการผื่นแดงที่เกิดร่วมกับอาการคัน เจ็บปวด และระคายเคือง ซึ่งอาจแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท เช่น ผื่นแพ้จากการสัมผัส ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม ผิวหนังอักเสบรูปเหรียญบาท ซึ่งอาจมีอาการและการรักษาที่แตกต่างกันไป ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับ ประเภทของผิวหนังอักเสบ เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] ผิวหนังอักเสบคืออะไร ผิวหนังอักเสบ หรือผื่นแดง คือ อาการของผิวหนังบริเวณใดบริเวณหนึ่งบวม หากเป็นผิวหนังอักเสบในระยะแรกเริ่ม หรือเป็นระยะของอาการผิวหนังอักเสบชนิดอ่อน อาจรู้สึกคัน ผิวแห้ง และผิวมีสีแดงชัดเจน ส่วนผิวหนังอักเสบที่มีอาการรุนแรง จะมีรอยแตก รู้สึกเจ็บปวด เป็นแผล และผิวหนังหลุดลอกได้ ผื่นบางชนิดอาจเกิดขึ้นหลังผู้ป่วยมีอาการผิวหนังอักเสบ ในขณะที่ผื่นบางชนิดอาจปรากฏต่อเมื่อเกิดอาการหลายวันไปแล้ว บางชนิดสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว บางชนิดอาจปรากฏอยู่บนผิวหนังเป็นเวลานาน สาเหตุของ ผิวหนังอักเสบ มีหลายประการ และคุณหมอมักวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามสภาพผิวและภาวะสุขภาพของคนไข้แต่ละราย สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณหมอจะตรวจเพื่อหาสาเหตุและประเภทของผิวหนังอักเสบว่าเป็นผื่นชนิดไหนก่อนทำการรักษา ถึงแม้การรักษาส่วนใหญ่นั้นจะคล้ายคลึงกันก็ตาม ประเภทของผิวหนังอักเสบ มีอะไรบ้าง ผื่นแพ้จากการสัมผัส (Contact dermatitis) ผื่นแพ้จากการสัมผัส คือสภาพผิวหนังของผู้ป่วยมีอาการแดง บวม แห้ง หรือแสบร้อนหลังจากสัมผัสกับสารบางอย่าง ผื่นแพ้จากการสัมผัส ถือเป็น ประเภทผิวหนังอักเสบ ชนิดหนึ่ง อาการมักจะปรากฏขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วันหลังการสัมผัสสารนั้น ๆ ผื่นแพ้จากการสัมผัสที่พบได้ทั่วไปมีอยู่ 2 ชนิด คือ […]


การดูแลเล็บ

โรคเชื้อราที่เล็บเท้า อาการ สาเหตุ วิธีรักษาและป้องกัน

โรคเชื้อราที่เล็บเท้า คือ การติดเชื้อราที่เล็บเท้าผ่านรอยแตกของเล็บ หรือบาดแผลบนผิวหนัง ส่งผลให้เล็บเท้าเปลี่ยนสีหรือหนาขึ้น รวมทั้งอาจสร้างความเจ็บปวดได้อีกด้วย เนื่องจากบริเวณนิ้วเท้ามักจะอุ่นและชื้น เชื้อราจึงสามารถเติบโตได้ดี  หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การติดเชื้อจะแพร่กระจายไปสู่เล็บเท้านิ้วอื่น ๆ รวมถึงแพร่กระจายสู่ผิวหนัง หรือแม้แต่เล็บนิ้วมือได้อีกด้วย [embed-health-tool-bmr] คำจำกัดความ โรคเชื้อราที่เล็บเท้า คืออะไร โรคเชื้อราที่เล็บเท้า มีอีกชื่อหนึ่งว่า Onychomycosis คือ การติดเชื้อราที่เล็บเท้า โดยสามารถติดเชื้อได้ผ่านรอยแตกของเล็บ หรือบาดแผลบนผิวหนัง อาจทำให้เล็บเท้าเปลี่ยนสีหรือหนาขึ้น รวมทั้งอาจสร้างความเจ็บปวดได้อีกด้วย เนื่องจากบริเวณนิ้วเท้ามักจะอุ่นและชื้น เชื้อราจึงสามารถเติบโตได้ดี เชื้อรานั้นมีอยู่หลายชนิด และบางครั้ง เชื้อราจะส่งผลให้เกิดอาการต่างในแต่ละส่วนของเล็บที่มีการติดเชื้อ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การติดเชื้อจะแพร่กระจายไปสู่เล็บเท้านิ้วอื่น ๆ รวมถึงแพร่กระจายสู่ผิวหนัง หรือแม้แต่เล็บนิ้วมือได้อีกด้วย โรคเชื้อราที่เล็บเท้าพบได้บ่อยเพียงใด โรคเชื้อราที่เล็บเท้าพบได้ทั่วไป โปรดปรึกษาคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการ อาการของโรคเชื้อราที่เล็บเท้า อาการที่เห็นชัดเจนที่สุด คือ เล็บเท้ามีการเปลี่ยนสี ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีน้ำตาล หรือสีเหลือง เชื้อราอาจแพร่กระจายทั่วบริเวณเล็บและทำให้เนื้อเล็บหนาขึ้น หรือเกิดรอยแตกขึ้นได้ โดยทั่วไปแล้ว เล็บที่ติดเชื้อจะหนามากกว่าปกติ หรืออาจมีรูปทรงบิดงอหรือผิดรูป อีกทั้งยังแตกหักได้ง่ายมาก เล็บเท้าที่ติดเชื้อราอาจเป็นสีเหลือง บางครั้งก็ปรากฏเป็นจุดสีขาวบนเล็บ และค่อย ๆ มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เมื่อเชื้อราก่อตัวอยู่ใต้เล็บเท้า ก็อาจทำให้เล็บหลวมเหมือนจะหลุด หรือแม้แต่ทำให้เล็บแตกจากโคนเล็บ นอกจากนี้ เชื้อรายังสามารถแพร่กระจายสู่ผิวหนังที่อยู่รอบเล็บเท้าได้อีกด้วย อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการบางประการที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาคุณหมอ ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ […]


สิว

สิวเชื้อรา สาเหตุ และการป้องกัน

สิวเชื้อรา หรือที่เรียกกันว่า สิวยีสต์ คือ โรคที่เรียกว่า รูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา (Malassezia Folliculitis หรือ Pityrosporum Folliculitis) เกิดจากราประเภทยีสต์ในกลุ่มมาลาสซีเซีย (Malassezia) ที่มีอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติเจริญเติบโตมากผิดปกติ จนทำให้รูขุมขนอักเสบ เกิดเป็นตุ่มนูน หรือตุ่มหนองขึ้นเป็นกระจุก บางครั้งอาจขึ้นเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายสิวหัวขาว ทำให้รู้สึกเจ็บ แสบ และคัน อาจพบได้บ่อยบริเวณผิวหนังที่มีความมัน เช่น ใบหน้า ไรผม หน้าอก แผ่นหลัง [embed-health-tool-bmr] สิวเชื้อรา แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่ สิวเชื้อรา หรือที่เรียกกันว่า สิวยีสต์ แท้จริงแล้วคือโรคที่เรียกว่า รูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา เกิดจากราประเภทยีสต์ในกลุ่มมาลาสซีเซีย ที่มีอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติเจริญเติบโตมากผิดปกติ จนทำให้รูขุมขนอักเสบ เกิดเป็นตุ่มนูน หรือตุ่มหนองขึ้นเป็นกระจุก บางครั้งอาจขึ้นเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายสิวหัวขาว ทำให้รู้สึกเจ็บ แสบ และคัน อาจพบได้บ่อยบริเวณผิวหนังที่มีความมัน เช่น ใบหน้า ไรผม หน้าอก แผ่นหลัง แต่ก็สามารถพบที่ต้นแขน หลังมือ หรือน่องได้เช่นกัน ลักษณะของรูขุมขนอักเสบจากเชื้อรานี้ดูคล้ายสิว หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นสิว […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ป้องกันสุขภาพเส้นผม จากแสงแดด ทำได้อย่างไรบ้าง

รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดอาจส่งผลต่อเส้นผมคล้ายกับสารฟอกขาว ซึ่งส่งผลทำให้ผมเปลี่ยนสี ผมแห้ง ผมแตกปลาย ดังนั้น การ ป้องกันสุขภาพเส้นผม จากแสงแดด อาจช่วยป้องกันเส้นผมจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดได้ โดยการป้องกันเส้นผมจากแสงแดดอาจทำได้หลายวิธี เช่น สวมหมวก หรือใช้ร่มตอนอยู่กลางแจ้ง ใช้แชมพูที่เพิ่มความชุ่มชื้นและใช้ครีมนวดผม ซึ่งวิธีเหล่านี้อาจช่วยให้สุขภาพผมดีขึ้นได้ แสงแดดทำร้ายเส้นผมได้อย่างไรบ้าง แสงแดดอาจทำร้ายเส้นผมได้ เนื่องจาก รังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์อาจส่งผลต่อเส้นผมคล้ายกับสารฟอกขาว โดยอาจมีปฏิกิริยากับเมลานินในเส้นผม รวมถึงกำจัดเม็ดสีในปฏิกิริยาเคมีที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ นอกจากนี้ รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดยังอาจสร้างความเสียหายให้กับผิวนอกของเส้นผม (Cuticle) และโปรตีนที่เรียกว่า เคราติน (Keratin) อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีสีผมเข้มเนื่องจากมีเมลานิน หรือเม็ดสีในเส้นผมมากอาจได้รับผลกระทบจากรังสียูวีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มีสีผมอ่อนกว่า โดยสัญญาณที่บอกว่าผมเสียเนื่องจากแสงแดด อาจมีดังนี้ ผมเปลี่ยนสี ผมแห้ง ผมแตกปลาย ผมเปราะบาง ผมหยิกเป็นลอน ผมจัดทรงยาก วิธี ป้องกันสุขภาพเส้นผม จากแสงแดด สำหรับวิธีป้องกันสุขภาพเส้นผมจากแสงแดด อาจทำได้ดังนี้ ออกจากบ้านตอนเช้าหรือตอนเย็น แสงแดดอาจร้อนมากในช่วงเที่ยงและช่วงบ่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในเวลาดังกล่าว โดยอาจออกจากบ้านตอนเช้าหรือตอนเย็นแทน เพื่อป้องกันสุขภาพเส้นผมและผิวจากแสงแดด สวมหมวกหรือใช้ร่ม ตอนอยู่กลางแจ้ง เนื่องจากไม่มีครีมกันแดดสำหรับเส้นผม จึงอาจป้องกันเส้นผมจากแสงแดดด้วยการสวมหมวกหรือใช้ร่ม ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่แค่จะป้องกันเส้นผม แต่ยังอาจช่วยป้องกันหนังศีรษะและหูซึ่งเป็นบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังด้วย ควรทำความสะอาดผมด้วยน้ำสะอาดหลังจากว่ายน้ำ เพื่อกำจัดเกลือหรือคลอรีนที่อาจตกค้างบนเส้นผม เล็มผม ควรกำจัดเส้นผมแตกปลาย โดยไม่ต้องกังวลว่าผมจะสั้นเกินไป […]


สุขภาพผิว

รักษาตาปลา และหนังหนา ด้วย 6 วิธีที่นิยมใช้

ตาปลา (Corns) และ หนังหนา (calluses) คือภาวะที่ผิวหนังแข็ง หนา หรือด้านขึ้น เกิดจากผิวหนังพยายามป้องกันตัวจากแรงเสียดสีหรือแรงกดทับ พบได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่เท้า นิ้วเท้า มือ และนิ้วมือ สองภาวะนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรง โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา และอาจหายไปเองได้เมื่อจำกัดสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังถูกกดทับหรือเสียดสี แต่หากทำให้รู้สึกเจ็บปวด หรือส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด อาจต้องรักษาตาปลาและหนังหนาด้วยวิธีที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmr] วิธีรักษาตาปลาและหนังหนา 1. ค่อยๆ กำจัดตาปลาและหนังหนา สำหรับตาปลาและหนังหนาที่ไม่หนามาก อาจรักษาเองได้ด้วยการแช่บริเวณเป็นตาปลาและหนังหนาในน้ำอุ่นประมาณ 10 นาที จากนั้นใช้หินขัดผิวหนังส่วนที่ตายและแข็งออก ค่อยๆ ขัดวนเบา ๆ แต่ระวังอย่าขัดผิวหนังออกมากเกินไป เพราะอาจทำให้เลือดออกและติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม หากมีตาปลาและหนังหนามากหรือมีขนาดใหญ่ สามารถเข้าพบคุณหมอได้ โดยคุณหมออาจตัดผิวหนังที่หนาและตาปลาขนาดใหญ่ออกด้วยมีดผ่าตัด การเข้ารับการรักษาตาปลาและหนังหนาวิธีนี้โดยคุณหมอ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ 2. ใช้แผ่นแปะตาปลา สามารถหาซื้อแผ่นแปะตาปลาได้ตามร้านขายยาทั่วไป แผ่นแปะตาปลามีรูปร่างเป็นวงกลมคล้ายโดนัท ช่วยป้องกันผิวหนังจากการติดเชื้อขณะที่รอแผลสมาน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นตาปลาและหนังหนาสัมผัสกับเสื้อผ้า รองเท้า หรือถุงมือโดยตรงด้วย 3. รับประทานยาปฏิชีวนะ คุณหมออาจให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องการการติดเชื้อ ควรรับประทานยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำในการใช้ยาของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการดื้อยาปฏิชีวนะ 4. ทามอยเจอร์ไรเซอร์ การทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวทุกวันอาจช่วยให้ตาปลาและผิวหนังหนานุ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอก่อน คุณหมอจะได้แนะนำครีมหรือโลชั่นที่เหมาะสม 5. สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม พยายามหารองเท้าที่ขนาดพอดีกับเท้า รองรับเท้าได้ดี ไม่กัดเท้าและสวมใส่สบาย […]


การดูแลเล็บ

เลือดออกใต้เล็บ สาเหตุ และการรักษา

เลือดออกใต้เล็บ หรือ เลือดคั่งใต้เล็บ ส่วนใหญ่อาจเกิดจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในส่วนของเล็บ ทำให้ความดันใต้เล็บเพิ่มมากขึ้น และเกิดเป็นอาการเลือดออกใต้เล็บได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเจ็บปวด และมีเลือดออกเล็กน้อย แต่หากอาการเจ็บป่วยมีความรุนแรง รวมถึงเลือดไม่หยุดไหล ควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อทำการรักษา [embed-health-tool-heart-rate] สาเหตุของเลือดออกใต้เล็บ  เลือดออกใต้เล็บ หรือ เลือดคั่งใต้เล็บ (Subungual Hematoma) ส่วนใหญ่เกิดจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในส่วนของเล็บ ทำให้ความดันใต้เล็บเพิ่มมากขึ้น และเกิดเป็นอาการเลือดออกใต้เล็บได้ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเลือดออกใต้เล็บ อาจมีดังต่อไปนี้ การโดนค้อนทุบบริเวณนิ้วมือ โดนของหนักตกใส่นิ้วเท้า ปิดประตูรถทับนิ้วมือหรือปิดประตูบ้านทับนิ้วเท้า นิ้วเท้ากระทบกับพื้นผิวที่แข็ง เช่น พื้นบ้าน พื้นถนน เป็นนักกีฬา เช่น นักวิ่ง อุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ การใส่รองเท้าที่ไม่พอดีหรือคับเกินไป ในบางกรณี เลือดออกใต้เล็บอาจมีสาเหตุมาจากสิ่งอื่น ๆ เช่น เนื้องอก ซึ่งเนื้องอกใต้เล็บเท้าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้นได้เช่นกัน เมื่อไหร่ที่คุณควรพบคุณหมอ หากเลือดออกใต้เล็บทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและมีเพียงเลือดออกเล็กน้อย ก็อาจไม่จำเป็นต้องทำการรักษา แต่หากมีอาการเจ็บปวดมาก เลือดไม่หยุดไหล หรือเลือดออกใต้เล็บเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างทั่วเล็บ ควรรีบติดต่อคุณหมอทันที วิธีรักษาอาการเลือดออกใต้เล็บ หากเลือดออกใต้เล็บทำให้มีอาการปวดมาก คุณหมออาจแนะนำให้ทำการระบายเลือดออก เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด โดยใช้การผ่าตัดเพื่อลดแรงดัน (Decompression) ในบริเวณที่มีอาการ โดยอาจมีขั้นตอนดังนี้ คุณหมออาจจะทำให้บริเวณที่มีเลือดคั่งมีอาการชาด้วยการบล็อกเส้นประสาท […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

จุดด่างดำ คือ อะไร และมีวิธีการรักษาได้อย่างไร

จุดด่างดำ คือ ปัญหาผิวที่อาจทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและอาจทำให้เสียความมั่นใจได้ โดยปัญหาเหล่านี้อาจพบได้บ่อยในผู้หญิงชาวเอเชีย เนื่องจาก ชาวเอเชียมีผิวที่บอบบางและอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแผลได้ง่าย ดังนั้น การดูแลผิวให้ถูกวิธีอาจช่วยให้ปัญหาจุดจ่างดำ ฝ้า กระ ดีขึ้นได้ [embed-health-tool-bmr] จุดด่างดำ คืออะไร ผิวของชาวเอเชียโดยทั่วไปมีแนวโน้มเกิดปัญหาด้านผิวหนังได้มาก เพราะผิวของชาวเอเชียอาจมีความบอบบางและมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแผลได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดจุดด่างดำ (Skin Pigmentation) บนผิวหนัง ดังนั้น เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวสำหรับผู้หญิงชาวเอเชียอาจมีส่วนผสมหลักที่ทำให้ผิวกระจ่างใส การมีใบหน้าหมองคล้ำหรือมีเม็ดกระสีน้ำตาล บริเวณแก้ม คาง หรือหน้าผาก อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ผิวที่กำลังมีเม็ดสีที่เข้มขึ้น นอกจากนี้ จุดด่างดำยังอาจเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือเพิ่งคลอดลูกอีกด้วย สาเหตุที่ผู้หญิงเอเชียมีแน้วโน้มเป็นจุดด่างดำ สาเหตุที่ผู้หญิงชาวเอเชียมีจุดด่างดำ อาจเกิดจากการกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ภายในผิว ซึ่ง เมลานิน คือ เม็ดสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ปกป้องผิวหนังจากอันตรายของรังสียูวี เมื่อร่างกายผลิตเมลานินเพิ่มขึ้น ก็อาจส่งผลทำให้ผิวมีสีที่เข้มขึ้น และหากเมลานินที่ถูกผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลก็อาจทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้ นอกจากนี้ สภาพอากาศในทวีปเอเชียก็อาจมีส่วนทำให้ผิวเกิดปัญหากระ ฝ้า และจุดด่างดำได้มากขึ้นเช่นกัน วิธีรักษา จุดด่างดำ คือ  แม้ว่าในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีรักษาจุดด่างดำ ฝ้า กระ ให้หายขาดได้ แต่อาจลดการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เทรทิโนอิน […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ริ้วรอย ก่อนวัย ชะลอได้ด้วย 7 สารสำคัญเหล่านี้

ริ้วรอย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามวัยที่สูงขึ้น โดยเกิดจากการลดจำนวนของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เซลล์ผิวในชั้นหนังแท้ ซึ่งมีหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน อิลาสติน และคอลลาเจน ทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวอ่อนแอ และเกิดริ้วรอยขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้ว ริ้วรอย นั้นไม่สามารถหายไปได้อย่างถาวร แต่ริ้วรอยสามารถชะลอหรือลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผิวได้ในระดับหนึ่ง โดยใช้วิธีการรักษาหลายอย่างร่วมกัน ในปัจจุบันมีผลการศึกษาทางวิชาการ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เกี่ยวกับสารสำคัญที่มีคุณสมบัติและมีบทบาทในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างชั้นผิว ซึ่งจะนำไปสู่การชะลอริ้วรอย ฟื้นฟูให้ผิวแลดูสุขภาพดีขึ้น 7 สารสำคัญที่ช่วยชะลอ ริ้วรอย ไฮยาลูรอนิกแอซิด หรือ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารสำคัญที่ร่างกายเราสามารถสร้างขึ้นเองได้ในชั้นผิวหนังแท้ โดยเป็นส่วนประกอบสำคัญของแมทริกซ์นอกเซลล์ (Extracellular Metrix) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยให้ผิวคงรูปได้ดี เพราะฉะนั้น ในคนที่ยังสามารถผลิตไฮยาลูรอนได้ในปริมาณมากอยู่ ผิวก็จะแลดูฉ่ำน้ำ เด้งกระชับ อย่างไรก็ตาม ร่างกายจะผลิตไฮยาลูรอนด้น้อยลงเรื่อย ๆ ตามวัยที่สูงขึ้น ซึ่งโดยค่าเฉลี่ยสำหรับคนทั่วไป ผิวของคนเราจะเริ่มเสื่อมตามวัยเมื่ออายุเกิน 20 ปี และปริมาณไฮยาลูรอนที่ร่างกายผลิตจะเริ่มลดลงตามไปด้วย ดังนั้น จึงมักมีการเสริมไฮยาลูรอน ผ่านการทา การฉีด หรือ การรับประทาน ทั้งนี้ การใช้ไฮยาลูรอนเพื่อความงามและบำรุงผิวพรรณนั้นมีหลายวิธี แต่ละวิธีก็ให้ผลที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของวิธีทาที่เราใช้กับครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูรอนก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุลของสารไฮยาลูรอนด้วยว่า มีขนาดพอเหมาะที่จะซึมซาบสู่ผิว และให้ความชุ่มชื้นได้ดีเพียงใด วิตามินบี […]


สุขภาพผิว

ตาปลา ประเภท และสัญญาณบ่งบอกอันตราย

ตาปลา หมายถึงตุ่มนูนเล็ก ๆ ที่เกิดจากแรงเสียดสีหรือแรงกด พบได้มากในบริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้า ตาปลาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือตาปลาแบบแข็งและตาปลาแบบนิ่ม โดยปกติมักไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ แต่หากอาการตาปลาเริ่มมีอาการอักเสบ เป็นหนอง หรือส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด ควรเข้ารับการรักษาจากคุณหมออย่างรวดเร็ว [embed-health-tool-bmr] ตาปลา คืออะไร ตาปลาเป็นอาการที่เกิดจากเนื้อเยื่อชั้นบนของผิวหนังมีการหนาตัวและนูนขึ้นมาเป็นตุ่มเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากแรงกดหรือแรงเสียดสีเป็นเวลานาน ๆ มักเกิดขึ้นตรงบริเวณที่มีปุ่มกระดูกนูน โดยเฉพาะที่บริเวณฝ่าเท้าและนิ้วเท้า ตาปลาพบได้บ่อยในคนทั่วไป โดยพบได้ในคนทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบได้ในผู้สูงอายุมากกว่าวัยอื่น ส่วนใหญ่ ไม่พบภาวะแทรกซ้อนจากอาการนี้แต่อย่างใด ยกเว้นในกรณีของผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าเกิดอาการตาปลาแล้วไม่รักษาให้ดี อาจเกิดการอักเสบรุนแรงได้ สัญญาณของอาการตาปลา สัญญาณของตาปลา สามารถสังเกตได้จากอาการ ดังต่อไปนี้ ผิวเป็นปื้นหนาและสากด้าน ผิวแห้งบริเวณที่เริ่มมีอาการ ตุ่มนูนตรงกลางของบริเวณที่มีอาการ อาการเจ็บและรู้สึกระคายเคืองตรงบริเวณที่มีอาการตาปลา ประเภทของตาปลา ตาปลาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้ ตาปลา (Corns) ลักษณะของตาปลานั้นคล้ายกับ อาการหนังหนา (Calluses) พบได้บ่อยบริเวณส่วนบนและด้านข้างของเท้า ซึ่งอาจไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ตาปลาสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ชนิดย่อย ๆ คือ ตาปลาแบบแข็ง (Hard corns) […]


การดูแลเล็บ

เคล็ดลับการ ป้องกันเชื้อราที่เล็บเท้า อย่างง่ายๆ และได้ผล

เชื้อราที่เล็บเท้า (Toenail fungus) เป็นการติดเชื้อราบริเวณเล็บเท้า ซึ่งไม่สามารถหายไปเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาซึ่งมักใช้เวลานาน และหากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษา อาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลตนเองเพื่อ ป้องกันเชื้อราที่เล็บเท้า วิธี ป้องกันเชื้อราที่เล็บเท้า ทำได้อย่างไรบ้าง การดูแลตนเองเพื่อป้องกันเชื้อราที่เล็บเท้า สามารถทำได้ด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำ ดังนี้ ล้างเท้าและเช็ดให้แห้ง หมั่นดูแลให้เท้าแห้งและสะอาด ควรล้างเท้าทุกวันด้วยสบู่และน้ำอุ่นขณะอาบน้ำ หรือเมื่อถึงบ้านหลังจากไปข้างนอกมา แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด อย่าลืมเช็ดบริเวณซอกนิ้วเท้าด้วย หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในที่สาธารณะ การติดเชื้อราที่เล็บเท้านั้นสามารถติดต่อกันได้ การเดินเท้าเปล่าในที่สาธารณะอาจทำให้ติดเชื้อราได้ ดังนั้น ควรสวมรองเท้าทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน สวมถุงเท้าเพื่อช่วยซึมซับเหงื่อ เลือกถุงเท้าที่ทำจากผ้าไนลอน โพลิโพรพิลีน หรือ ผ้าขนสัตว์ ซึ่งจะช่วยซึมซับความชื้นขณะใส่รองเท้าได้อย่างดี และควรเปลี่ยนถุงเท้าทุกวันเพื่อให้เท้าแห้งและสะอาดอยู่เสมอ หากเป็นคนเหงื่อออกมากควรเปลี่ยนถุงเท้าบ่อย ๆ อาจใช้ถุงเท้ามากกว่าหนึ่งคู่ต่อวันหากมีเหงื่อออกที่เท้า เลือกรองเท้าที่เหมาะสม เชื้อราชอบอยู่ในที่อากาศร้อนชื้น ซึ่งในรองเท้าถือเป็นที่ชื่นชอบของเชื้อรา ดังนั้น ควรเลือกรองเท้าที่ใส่พอดีและมีที่เหลือพอสำหรับนิ้วเท้า ใส่ใจเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตรองเท้า รองเท้าหนังนั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดี หรืออาจเลือกรองเท้าที่เปิดนิ้วเท้าอย่างรองเท้าแตะมาสวมใส่ก็ได้ ใช้แป้งต้านเชื้อรา เมื่อล้างทำความสะอาดเท้าแล้วควรเช็ดเท้าให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา อาจเลือกโรยแป้งต้านเชื้อราบริเวณเท้า โดยสามารถหาซื้อแป้งชนิดนี้ได้ที่แผนกอุปกรณ์กีฬา หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดตัวและถุงเท้าร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากเชื้อราที่เล็บนั้นสามารถแพร่จากคนสู่คน การใช้ผ้าเช็ดตัวและถุงเท้าร่วมกันนั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ หากเป็นไปได้ ไม่ควรใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ตัดเล็บเท้าให้ถูกวิธี หมั่นดูและเล็บเท้าให้แห้งและตัดให้สั้นอยู่เสมอ การตัดเล็บเท้าให้ตรงสามารถป้องกันการเกิดเล็บขบที่เท้าได้ (คืออาการที่เกิดขึ้นเมื่อเล็บด้านข้างงอกเข้าไปที่บริเวณขอบของผิวหนัง เป็นสาเหตุให้เจ็บและปวดบวมได้) อย่าตัดเล็บสั้นจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการตัดขอบเล็บและผิวหนังบริเวณใกล้เคียง รักษาความสะอาดของอุปกรณ์ตัดเล็บ ทำความสะอาดกรรไกรตัดเล็บหลังจากใช้ทุกครั้ง โดยแนะนำให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ และควรหลีกเลี่ยงการใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น เลิกทาเล็บ การทาเล็บอาจทำให้เล็บสวยงาม แต่ในขณะเดียวกันอาจทำให้เล็บเท้าดูดซับความเปียกชื้นและกลายเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของเชื้อรา เลือกร้านทำเล็บที่สะอาด หากต้องการไปทำเล็บที่ร้าน ควรเลือกร้านที่มีใบรับรอง หรืออาจเตรียมอุปกรณ์ตัดเล็บส่วนตัวไปเอง แต่หากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ของทางร้าน ต้องมั่นใจว่าเครื่องมือที่ใช้นั้นสะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว หมั่นตรวจดูเท้าอย่างสม่ำเสมอ หมั่นสังเกตเท้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณนิ้วเท้า […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน