ข้อมูลโภชนาการ

สิ่งที่เรารับประทานเข้าไป มีผลโดยตรงต่อความรู้สึกและประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละวัน การเรียนรู้เกี่ยวกับ ข้อมูลโภชนาการ จะช่วยให้เรารู้จักระมัดระวังมากขึ้นก่อนการรับประทานอาหาร และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

ข้อมูลโภชนาการ

หัวปลี สารอาหารสำคัญ สรรพคุณทางยา และประโยชน์ของหัวปลี

หัวปลี เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปลีกล้วย คนไทยมักจะนำหัวปลีมาประกอบเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ช่วยเสริมรสชาติให้กับเมนูอาหาร ทั้งยังอุดมด้วยคุณประโยชน์มากมาก และมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย [embed-health-tool-bmi] สารอาหารสำคัญใน หัวปลี ปลีกล้วยหรือหัวปลี มีสารอาหารสำคัญ ดังนี้ แคลเซียม  ธาตุเหล็ก  ฟอสฟอรัส  แมกนีเซียม  โปรตีน  วิตามินซี  เบตาแคโรทีน ประโยชน์จากหัวปลี หัวปลีเป็นส่วนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทุกเพศทุกวัย เช่น  ปลีกล้วยมีสารซาโปนิน (Saponins) และแทนนิน(Tannins) ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ในทางการแพทย์แผนไทย  อุดมด้วยแคลเซียม ที่มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า ดีต่อกระดูกและฟัน อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ หัวปลีเป็นผักฤทธิ์เย็น ดีต่อสุขภาพในช่วงหน้าร้อน ปรับสมดุลร่างกายให้เย็นขึ้น ช่วยแก้อาการร้อนในได้ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ดีต่อผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย มีสารแมกนิเซียมที่ช่วยปรับสมดุลของสภาวะทางอารมณ์ ช่วยบรรเทาอาการเศร้า  มีสารเอทานอล ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคได้ ประโยชน์ที่สำคัญของหัวปลียังดีต่อแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอด ดังนี้  ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอด มีสรรพคุณทางยา กระตุ้นต่อมน้ำนม ให้ร่างกายแม่ตั้งครรภ์สร้างน้ำนมหลังคลอด จึงควรรับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดเพื่อช่วยขับน้ำนม ตัวอย่างเมนูจากหัวปลี หัวปลีมีรสฝาด สามารถกินสด ๆ ได้ […]

สำรวจ ข้อมูลโภชนาการ

ข้อมูลโภชนาการ

แมคคาเดเมีย ถั่วมหัศจรรย์ สารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพ

แมคคาเดเมีย ถั่วรสชาติหวานมัน ที่ได้รับความนิยมในการรับประทานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ไม่ว่าจะนำมารับประทานเป็นของว่าง สอดใส้ในช็อกโกแลต หรือทำเป็นไอศกรีม แมคคาเดเมียนั้นนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของรสชาติที่แสนอร่อยแล้ว ยังเป็นถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และดีต่อสุขภาพอย่างมากอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ “แมคคาเดเมีย ถั่วมหัศจรรย์ มากประโยชน์ต่อสุขภาพ” แมคคาเดเมีย ราชาแห่งถั่ว ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia) นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งถั่ว เนื่องจากเป็นถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และโดยเฉพาะ ไขมันดี ในถั่วแมคคาเดเมีย 1 ออนซ์ จะให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้  พลังงาน  204 แคลอรี่


ข้อมูลโภชนาการ

คาเคานิบส์ (Cacao) ซูเปอร์ฟู้ดเพิ่มพลังงาน เผาผลาญไขมัน สายเฮลท์ตี้ต้องลอง

หากคุณกำลังอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก หรืออยากดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น แต่ก็เป็นช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ ที่ปลื้มช็อกโกแลตใส่นม ใส่น้ำตาล หรือของหวานอื่น ๆ จากช็อกโกแลต ซึ่งเป็นของหวานที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ เราเลยอยากแนะนำให้คุณลองกินเมล็ดโกโก้ในรูปแบบที่เรียกว่า คาเคานิบส์ (Cacao Nibs) ดู เพราะแม้จะเม็ดเล็กจิ๋ว แต่ก็มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากมาย แถมยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักของคุณด้วย [embed-health-tool-bmi] ทำความรู้จักกับ คาเคานิบส์ คาเคานิบส์ คืออะไร คาเคานิบส์ (Cacao Nibs) คือเมล็ดโกโก้ที่ผ่านกระบวนการบดเย็นหรือบดด้วยอุณหภูมิต่ำจนกลายเป็นเมล็ดโกโก้ชิ้นเล็ก ๆ รสชาติขมจัด การบดด้วยวิธีดังกล่าวจะช่วยคงคุณค่าของเมล็ดโกโก้เอาไว้ให้ได้มากที่สุด คาเคานิบส์ที่วางขายในท้องตลาดส่วนใหญ่จะผ่านการอบก่อนนำไปบด แต่ถ้าไม่ได้อบ จะเรียกว่า คาเคานิบส์ดิบ (Raw Cacao Nibs) คุณค่าทางโภชนาการของ คาเคานิบส์ แม้คาเคานิบส์จะมีรสขม ซึ่งบางครั้งอาจขมกว่าดาร์กช็อกโกแลตที่เปอร์เซ็นต์สูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่ความขมของคาเคานิบส์นี้ก็มาพร้อมสารอาหารนานาชนิด โดยคาเคานิบส์ 28 กรัม ให้พลังงาน 175 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารมากมาย เช่น โปรตีน : 3 กรัม ไฟเบอร์ : 5 กรัม ไขมัน : 15 […]


ข้อมูลโภชนาการ

ผักโขม สุดยอดผักใบเขียว ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์

ผักโขม ที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ผักขม” เมื่อฟังชื่อผ่าน ๆ อาจทำให้คุณรู้สึกว่าผักนี้มีรสชาติที่ไม่น่ารับประทานเสียเท่าไหร่นัก แต่จริง ๆ แล้วนั้น รสชาติของมันอาจอร่อยกว่าที่คุณคิด พร้อมทั้งยังมีสารอาหารที่เข้าไปช่วยปรับปรุงสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอพาทุกคนมารู้จักกับ ผักโขม สุดยอดผักใบเขียว ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดรับผักใบเขียวอีกชนิดมาประกอบอยู่คู่ในเมนูอาหารของคุณ คุณค่าทางสารอาหารของ ผักโขม สุดยอดผักใบเขียว ผักโขม (Spinach) คือ ผักใบเขียวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่าน หรือเปอร์เซีย ที่มีชื่อเรียกอย่างทางการว่าสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ผักโขมเป็นผักที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของผักกาด ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ให้คุณประโยชน์แก่ร่างกาย โดยเพียงแค่รับประทาน 1 ถ้วย หรือในปริมาณ 100 กรัม ต่อวันก็อาจทำให้คุณได้รับสารอาหารนานาชนิด ดังนี้ พลังงาน 23 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 3.6 กรัม โปรตีน 2.9 กรัม ไฟเบอร์ 2.2 กรัม น้ำตาล 0.4 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม น้ำ 91% แคลเซียม 250 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี […]


ข้อมูลโภชนาการ

เพกติน (Pectin) สารอาหารจากพืชที่ให้ประโยชน์สูงไม่แพ้ไฟเบอร์

หากจะพูดถึงสารอาหารที่พบได้ในผักและผลไม้ แน่นอนว่าเรามักจะคุ้นเคยกันอยู่หลายอย่าง ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่โดดเด่นอย่าง ไฟเบอร์ แต่คุณผู้อ่านเคยได้ยินเรื่องราวของสารอาหารที่พบได้ในผักและผลไม้เกือบทุกชนิด ที่เรียกว่า เพกติน บ้างหรือไม่ ถ้ายังไม่เคยล่ะก็ วันนี้ Hello คุณหมอ มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับเพกติน สารอาหารจากพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาฝากค่ะ เพกติน คืออะไร สารเพกติน (Pectin) คือ กลุ่มของโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) ซึ่งเป็น คาร์โบไฮเดรต(แบบเชิงซ้อน) ที่มีความหลากหลายและซับซ้อน เราสามารถพบโพลีแซคคาไรด์ได้ในผนังเซลล์ของพืช หรืออาจกล่าวได้ว่าเพกตินคือไฟเบอร์ในผักและผลไม้ที่ถูกนำมาสกัดเป็นยาสำหรับใช้รักษาโรค โดยเพกตินนอกจากจะอยู่ในอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ในชีวิตประจำวันแล้ว ก็ยังมีเพกตินในรูปแบบผงสำหรับใช้รับประทานด้วย เพกตินมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและระดับคอเลอสเตอรอลในเลือด การที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง และยังมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงอีกด้วย นั่นจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของอาการทางสุขภาพแบบเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งการรับประทานเพกตินจะมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยที่เพกตินจะไปจับตัวเข้ากับคอเลสเตอรอลในระบบทางเดินอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลถูกดูดซึมไปยังเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย  เพกตินอาจดีต่อการลดน้ำหนัก เพกตินคือไฟเบอร์จากพืช ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่าไฟเบอร์นั้นมีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักอย่างยิ่ง เพราะทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ลดความอยากอาหารในมื้อต่อไป ทั้งยังช่วยในการย่อยอาหาร และมีส่วนในเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายด้วย นอกจากนี้เพกตินยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและมีแคลอรี่ต่ำ ซึ่งอาหารประเภทนี้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ดีต่อลำไส้ เพกตินเป็นสารอาหารที่จะถูกย่อยโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ และจะถูกย่อยให้กลายเป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งนั่นอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย ดีต่อระบบทางเดินอาหาร เพกตินเป็นไฟเบอร์ที่สามารถละลายในน้ำได้ดีจึงมีคุณสมบัติที่ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และยังมีส่วนช่วยให้อุจาระนิ่ม ซึ่งดีต่อการขับถ่ายและลดความเสี่ยงของอาการท้องผูก ยิ่งไปกว่านั้นคือ เพกตินมีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ซึ่งช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพดีและส่งผลให้ระบบทางเดินอาหารสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคในระบบทางเดินอาหาร แหล่งอาหารที่มีสารเพกติน แม้ว่าเราจะสามารถซื้อเพกตินในรูปแบบผงมารับประทานกันได้อย่างสะดวก แต่โดยทั่วไปแล้วเราสามารถได้รับเพกตินจากการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันกันอยู่แล้ว เพราะเพกตินนั้นมีอยู่ในผักและผลไม้เกือบจะทุกชนิด โดยกลุ่มอาหารที่ให้เพกตินสูงที่สุดคือเปลือกของผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว […]


ข้อมูลโภชนาการ

น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง เลือกแบบไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ

คุณผู้อ่านทุกท่านคงจะคุ้นเคยทั้ง น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากสีสันที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างน้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดงบางประการที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ และวันนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ น้ำตาลทรายมีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่ น้ำตาลทราย คือ น้ำตาลซูโครส (Sucrose) ที่มีผลึกสีขาวหรือสีน้ำตาล มีขนาดเล็ก ซึ่งเราอาจคุ้นเคยทั้งสองสี คือ สีขาวและสีน้ำตาล หรือที่อาจจะเรียกติดปากกันว่าน้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง ซึ่งทำหน้าที่ให้ความหวานในเมนูอาหารต่าง ๆ ที่เรารับประทานกันในชีวิตประจำวัน  โดยมากแล้วเมื่อนึกถึง น้ำตาลเราก็มักจะมองเห็นข้อเสียของการรับประทานน้ำตาลเต็มไปหมด ทั้งเป็นสาเหตุของโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น น้ำตาลก็ยังพอมีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่บ้าง แม้จะไม่มากมายเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าไม่ควรมองข้ามเสียทีเดียว เช่น  ในบางครั้งร่างกายก็จำเป็นต้องได้รับ น้ำตาลเพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย เนื่องจากกลูโคส (Glucose) เป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานของร่างกาย และการที่จะสามารถผลิตกลูโคสได้นั้นก็จำเป็นต้องอาศัยทั้งน้ำตาลแบบซูโครส ฟรุกโตส (Fructose) และกลูโคสมาร่วมกระบวนการด้วย เมื่อน้ำตาลทั้งสามชนิดเกิดการแตกตัว ร่างกายก็จะทำการแยกโมเลกุลทั้งสามออกจากกัน โดยมีอินซูลินทำหน้าที่ในการลำเลียงน้ำตาลเหล่านี้ไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อนจะถูกเผาผลาญเป็นพลังงานให้กับร่างกาย  นอกจากนี้เรายังอาจเคยได้ยินว่าการกิน น้ำตาล มีส่วนช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น เนื่องจากเมื่อรับประทานน้ำตาลเข้าไปแล้ว สมองจะปล่อยสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โดพามีน (Dopamine) ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ ความแตกต่างระหว่าง น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดง แม้น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลทรายแดงจะจัดว่าเป็นน้ำตาลเหมือนกัน […]


ข้อมูลโภชนาการ

เมล็ดทานตะวัน เคี้ยวมันส์..เคี้ยวเพลิน อร่อยได้สุขภาพ

เมล็ดทานตะวัน เป็นธัญพืชที่อุดมด้วยสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ เช่น คาร์โบไฮเดรต วิตามินอี โฟเลต ไฟเบอร์ ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอกจากนั้น เมล็ดทานตะวันยังอาจสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มระดับพลังงานได้อีกด้วย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานเมล็ดทานตะวัน ทำความรู้จัก เมล็ดทานตะวัน เมล็ดทานตะวัน (Sunflower Seed) จัดว่าเป็นอีกหนึ่งธัญพืชยอดนิยมที่นิยมนำมาทานเล่น  เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิดแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมไปถึงโรคหัวใจและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งยังอาจสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มระดับพลังงานได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมล็ดทานตะวันจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานเมล็ดทานตะวัน ข้อมูลทางโภชนาการของเมล็ดทานตะวัน เมล็ดทานตะวันอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย หากรับประทานเมล็ดทานตะวันอบในปริมาณ 1 ออนซ์ (30 กรัม หรือ 1/4 ถ้วย) อาจได้รับสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้ พลังงาน 163 แคลอรี่ ไขมันรวม 14 กรัม โปรตีน 5.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม […]


ข้อมูลโภชนาการ

น้ำมันหมู กับประโยชน์ต่อร่างกายและข้อควรระวังในการรับประทาน

น้ำมันหมู เป็นน้ำมันที่ได้จากการเจียวส่วนหนังหมูซึ่งเป็นชั้นไขมัน โดยน้ำมันหมูนิยมนำไปประกอบอาหาร ซึ่งมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางถึงการเลือกใช้ ประโยชน์ และโทษของน้ำมันหมู ว่าเหมาะสมหรือไม่ ดีหรือให้โทษต่อร่างกายมากกว่ากัน แต่สิ่งสำคัญคือข้อควรระวังและความเหมาะสมในการเลือกใช้น้ำมันหมูกับการปรุงอาหารให้ถูกประเภท [embed-health-tool-bmi] เหตุผลในการใช้น้ำมันหมูเพื่อประกอบอาหาร น้ำมันหมูเป็นน้ำมันที่ได้รับจากการเจียวไขมันหมูจนได้ออกมาเป็นน้ำมันหมู น้ำมันหมู เป็นน้ำมันที่ได้รับความนิยมในการใช้เพื่อนำมาปรุงอาหารเป็นอย่างมาก เพราะเป็นน้ำมันที่ราคาไม่แพง ทำได้ง่าย แถมหลังจากเจียวมันหมูเสร็จยังเหลือกากหมูให้ไว้รับประทานได้อีกด้วย ที่สำคัญน้ำมันหมูเป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยหมูที่มีการเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ ยังมีสารอาหาร เช่น วิตามินดี และวิตามินเค2 ที่สูงอีกด้วย นอกจากนี้ น้ำมันหมูยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ดังนี้ น้ำมันหมูทนความร้อนสูง น้ำมันหมูเป็นน้ำมันที่ทนความร้อนได้สูงกว่าน้ำมันพืชทั่วไป ดังนั้น น้ำมันหมูจึงเหมาะกับการใช้สำหรับอาหารทอด เมื่อน้ำมันหมูได้รับความร้อนแล้วทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายน้อยกว่าการใช้น้ำมันชนิดอื่น ๆ นอกจากไขมันจากหมูแล้ว ไขมันจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ อย่างเช่น ไขมันวัว ไขมันควาย ไขมันห่าน ยังเป็นไขมันที่ดี และทนความร้อนได้ดีเช่นเดียวกัน ให้วิตามินเค 2 การที่จะระบุได้ว่าน้ำมันหมูนั้นมีปริมาณวิตามินเค 2 เท่าไร ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะวิตามินเค 2 ในสัตว์แต่ละตัวนั้นมีปริมาณไม่เท่ากัน ซึ่งจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการเลี้ยง โดยสัตว์ที่ถูกเลี้ยงด้วยหญ้าสด ในทุ่งหญ้ามีแนวโน้มที่จะมีปริมาณสารอาหารหรือโภชนาการที่ดี ซึ่งไขมันหมูที่มีวิตามินเค 2 สูงนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เป็นแหล่งวิตามินดี 3 ที่ดี วิตามินดี 3 […]


ข้อมูลโภชนาการ

5 ประโยชน์ดีๆ ที่อาจทำให้คุณอยากกิน ลูกพลับ

มีท่านผู้อ่านท่านใดในที่นี้เป็นแฟนคลับของลูกพลับบ้างคะ? ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีทั้งรสหวานและรสฝาด ผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องมีเทคนิคในการเลือก หรืออาจเลือกตามสายพันธุ์ หรือแหล่งจำหน่ายที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ได้รสชาติที่พึงพอใจ อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องของรสชาติที่อร่อยแล้ว ลูกพลับ ก็ยังให้คุณค่าทางอาหารสูงมาก แต่ลูกพลับจะให้สารอาหารอะไรบ้าง และดีต่อสุขภาพแค่ไหน เรามาติดตามได้ที่นี่เลยค่ะ กับ Hello คุณหมอ สารอาหารใน ลูกพลับ ลูกพลับ เป็นผลไม้ที่มีดีมากกว่ารสชาติที่อร่อย เพราะจัดว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงและให้แคลอรีต่ำ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพ หากคุณรับประทานลูกพลับ 1 ผล (หรือประมาณ 168 กรัม) คุณจะได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้ พลังงาน 118 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 31 กรัม โปรตีน 1 กรัม ไขมัน 0.3 กรัม ไฟเบอร์ 6 กรัม นอกจากนี้ลูกพลับยังให้วิตามินและแร่ธาตุสำคัญ ที่ช่วยให้สุขภาพดีอีกมากมาย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค วิตามินบี1 วิตามินบี6 โพแทสเซียม ทองแดง แมงกานีส โฟเลต แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ประโยชน์ของลูกพลับ  1. ดีต่อสายตา ในลูกพลับมีสารต้านอิสระสำคัญที่ชื่อ ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน […]


ข้อมูลโภชนาการ

6 ประโยชน์ของการรับประทานกิมจิ

กิมจิ (Kimchi) เป็นผักดองไตล์เกาหลีที่ได้จากการดองผักต่าง ๆ เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว หัวใจเท้า นิยมรับประทานเป็นอาหารเคียง หรือนำมาให้ประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ เช่น ข้าวผัดกิมจิ ซุปกิมจิ กิมจิมีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุที่อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น อย่างไรก็ตาม โซเดียมในกิมจิอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน จึงควรรับประทานกิมจิด้วยความระมัดระวัง [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของกิมจิต่อสุขภาพ เนื่องจากในกิมจิประกอบไปด้วยพืชผัก จึงอุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินนานาชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี6 แร่ธาตุ และกรดอะมิโนมากกว่า 34 ชนิด โดบสารอาหารเหล่านั้นอาจมีปริมาณมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกระบวนการทำเครื่องปรุงของแต่ละสูตร แต่โดยรวมแล้ว การรับประทานกิมจิในปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยให่สุขภาพดีขึ้นได้ ดังนี้ อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทานผักที่ผ่านการหมักดอง ทำให้เกิดการก่อตัวของ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียในเชิงบวกที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับ ประโยชน์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของเชื้อแบคทีเรียที่ได้จากการหมักกิมจิ เผยแพร่ในวารสาร Foods  พ.ศ. 2565 นักวิจัยได้ทำการทดลองกับหนูทดลองที่ได้รับการฉีดแลคโตบาซิลลัสชนิด Plantarum ที่ถูกค้นพบในกิมจิจำนวนมาก […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ดีๆ ที่เราควรรับประทาน ลูกพรุน กันทุกวัน

ลูกพรุน ผลไม้ลูกเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารและคุณประโยชน์ต่อร่างกายที่เต็มเปี่ยม เราอาจจะคุ้นเคยกับลูกพรุนในรูปแบบของผลไม้แห้ง แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกพรุนแบบแห้งหรือจะกินลูกพรุนแบบสด ก็จะได้รับคุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพแน่นอน แต่ลูกพรุนจะดีต่อสุขภาพของเรามากแค่ไหน และมีข้อควรระวังสำหรับการกินลูกพรุนหรือไม่ มาติดตามกันที่บทความนี้จาก Hello คุณหมอ กันเลยค่ะ [embed-health-tool-bmi] สารอาหารใน ลูกพรุน มีอะไรบ้าง หากคุณ กินลูกพรุน ทุกวัน วันละ 5 ลูก (หรือประมาณ 48 กรัม) จะได้รับคุณค่าทางสารอาหารจากลูกพรุน ดังนี้ พลังงาน 114 แคลอรี่ ไขมัน 0.2 กรัม โซเดียม 1 มิลลกรัม คาร์โบไฮเดรต 30.4 กรัม ไฟเบอร์ 3.4 กรัม น้ำตาล 18.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม สารอาหารข้างต้นถือเป็นเพียงกลุ่มสารอาหารหลักที่จะได้จากการกินลูกพรุน เห็นได้ว่าลูกพรุนนั้นค่อนข้างให้ปริมาณของสารอาหารในระดับที่สูง โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย นอกจากสารอาหารสำคัญเหล่านี้ ลูกพรุนยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินเค […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน