โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

Sedentary Lifestyle เลิกได้ เลิก! รู้จัก “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ต้นเหตุของผลเสียต่อสุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ  จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle” “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

ขึ้นฉ่าย ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ขึ้นฉ่าย เป็นผักใบมีลักษณะคล้ายผักชีแต่มีขนาดใหญ่กว่า สามารถรับประทานได้ทั้งต้น มีกลิ่นฉุน อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามินซี โฟเลต สารต้านอนุมูลอิสระซึ่งอาจช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยควบคุมความดันโลหิต ช่วยลดไขมันในเลือด ส่งเสริมการสร้างเซลล์ประสาท และอาจช่วยป้องกันมะเร็งได้ คุณค่าทางโภชนาการของขึ้นฉ่าย ขึ้นฉ่ายปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 14 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม ไฟเบอร์ 1.6 กรัม โปรตีนน้อยกว่า 1 กรัม ไขมันน้อยกว่า 1 กรัม น้ำตาล 1 กรัม นอกจากนี้ ขึ้นฉ่ายยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินซี โฟเลต โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ประโยชน์ของขึ้นฉ่ายที่มีต่อสุขภาพ ขึ้นฉ่ายมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของขึ้นฉ่ายในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยป้องกันการอักเสบและมะเร็ง ขึ้นฉ่าย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามินซี ฟลาโวนอยด์ ลูนูลาริน (Lunularin) เบอร์แกปเทน […]


ข้อมูลโภชนาการ

ถั่วฝักยาว ประโยชน์และข้อควรระวังในการรับประทาน

ถั่วฝักยาว เป็นพืชตระกูลถั่วที่รับประทานได้ทั้งฝัก สามารถรับประทานในขณะที่ยังเป็นผลอ่อน นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารและเป็นผักเคียงในเกือบทุกจานอาหาร ถั่วฝักยาวอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เช่น โฟเลต วิตามินซี วิตามินเอ แมกนีเซียม ทั้งยังมีไฟเบอร์สูง แต่คอเลสเตอรอลต่ำและแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ สารอาหารในถั่วฝักยาวยังอาจช่วยเรื่องการป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรืออาจช่วยดูแลระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน สุขภาพกระดูก ผิวพรรณ แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ คุณค่าทางโภชนาการของถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาว 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 47 แคลอรี่ และประกอบด้วยคุณค่าทางโภชนาการต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต 8.35 กรัม โปรตีน 2.8 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม แมกนีเซียม 44 มิลลิกรัม วิตามินซี 18.8 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ถั่วฝักยาวยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ โฟเลต ไฟเบอร์ ประโยชน์ของถั่วฝักยาวต่อสุขภาพ ถั่วฝักยาว […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ท้องผูกเกิดจาก อะไร และวิธีแก้อาการท้องผูก

ท้องผูกเกิดจาก สาเหตุหลายประการ เช่น การรับประทานอาหารไขมันสูง การดื่มน้ำน้อย การไม่ออกกำลังกาย อาการท้องผูกเป็นอาการที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ในระบบทางเดินอาหารนานกว่าปกติ ทำให้ลำไส้ดูดซึมน้ำจากใยอาหารเหล่านั้นมากเกินไป ส่งผลให้อุจจาระแห้งและขับออกยาก ต้องออกแรงเบ่งหรือใช้เวลานานในการขับถ่าย หากท้องผูกไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา เช่น ริดสีดวงทวาร หากท้องผูกมาสักระยะหนึ่งแล้วอาการไม่ดีขึ้น และยังไม่สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ อาจต้องไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที ท้องผูกเกิดจาก อะไร สาเหตุของอาการท้องผูก อาจมีดังนี้ พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น รับประทานใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ เช่น ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ น้อยเกินไป ทำให้ร่างกายขาดใยอาหารชนิดที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้อาหารค้างอยู่ในลำไส้นาน ลำไส้จึงดูดซึมน้ำออกมากเกินไป ส่งผลให้อุจจาระเป็นก้อนแข็ง นอกจากนี้ การดื่มน้ำน้อย ก็อาจทำให้ท้องผูกได้เนื่องจากส่งผลให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ช้าลง อุจจาระเคลื่อนตัวได้น้อย ไม่ไหลไปตามลำไส้ตามปกติ การอุดตันในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก ความผิดปกติภายในลำไส้ใหญ่ เช่น พังผืด ภาวะลำไส้ตีบ แผลปริที่ปากทวารหนัก ทำให้ลำไส้อุดตัน ส่งผลให้อาหารและของเหลวที่ผ่านลำไส้เคลื่อนตัวได้ช้ากว่าปกติ ส่งผลให้ท้องผูกได้ ปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทบริเวณลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เช่น โรคพาร์กินสัน ภาวะหลอดเลือดตีบตัน ไขสันหลังอักเสบ อาจส่งผลต่อการหดเกร็งตัวของเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เคลื่อนอุจจาระผ่านลำไส้ เคลื่อนไหวร่างกายน้อย เมื่อไม่ค่อยออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อย […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โทษของกาแฟ ผลกระทบต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

กาแฟเป็นเครื่องดื่มมีคาเฟอีน (Caffeine)  ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของร่างกาย อาจช่วยเพิ่มปริมาณของเซโรโทนิน (serotonin) ที่ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีและพึงพอใจ แม้ว่ากาแฟจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและทำให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น แต่หากบริโภคเกินปริมาณที่ควรได้รับต่อวันก็อาจทำให้เกิดโทษได้ โทษของกาแฟ เมื่อได้รับคาเฟอีนจากกาแฟมากเกินไป เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ กระวนกระวาย หงุดหงิดง่ายขึ้น นอกจากในกาแฟแล้ว คาเฟอีนยังพบในเครื่องดื่มและอาหารประเภทอื่น ๆ เช่น ชา ช็อกโกแลต ไอศกรีม เครื่องดื่มชูกำลัง ยาแก้ปวดบางชนิด ควรบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณพอเหมาะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจากการได้รับคาเฟอีนมากเกินไป โทษของกาแฟ มีอะไรบ้าง โทษของกาแฟ อาจมีดังต่อไปนี้ ทำให้นอนไม่หลับ คาเฟอีนในกาแฟเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย และอาจทำให้ร่างกายตื่นตัวมากเกินไป จนส่งผลให้นอนไม่หลับหลังร่างกายได้รับจากบริโภคคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลา 10-12 ชั่วโมง และทำให้มีเวลาพักผ่อนในตอนกลางคืนน้อยลง อาจทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ (Insomnia) งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ศึกษาความสัมพันธ์ของการบริโภคคาเฟอีนกับคุณภาพการนอนหลับในผู้ใหญ่ โดยมีผู้เข้าร่วมการวิจัยจำนวน 80 คน พบว่า กลุ่มที่บริโภคกาแฟในปริมาณเฉลี่ย 192 มิลลิกรัม ใช้เวลาบนเตียงเพื่อพักผ่อนน้อยกว่ากลุ่มที่บริโภคกาแฟในปริมาณเฉลี่ย 125.5 มิลลิกรัม แสดงให้เห็นว่าปริมาณของกาแฟส่งผลต่อการนอนหลับของผู้ใหญ่ ยิ่งบริโภคมากก็ยิ่งลดคุณภาพของการนอนหลับ ทำให้ปวดศีรษะ การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะพิษจากคาเฟอีน (Caffeine […]


ข้อมูลโภชนาการ

พริกไทย ประโยชน์ และข้อควรระวังในการรับประทาน

พริกไทย เป็นสมุนไพรและเครื่องเทศรสชาติเผ็ดร้อนที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน นิยมปลูกในจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด สามารถรับประทานได้ทั้งแบบพริกไทยอ่อน หรือนำไปทำเป็นพริกไทยป่น พริกไทยอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินบี แมงกานีส และมีสารสำคัญที่อาจช่วยเรื่องการป้องกันหรือบรรเทาอาการและโรคบางชนิดได้ เช่น ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ปรับปรุงการทำงานของประสาทและสมอง แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลต่อร่างกายได้ คุณค่าทางโภชนาการของพริกไทย พริกไทย 100 กรัม อาจมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้   พลังงาน 255 แคลอรี่   คาร์โบไฮเดรต 64.8 กรัม   ไฟเบอร์ 26.5 กรัม   โปรตีน 11 กรัม   ไขมัน 3.3 กรัม   โพแทสเซียม 1,259 มิลลิกรัม   แคลเซียม 437 มิลลิกรัม   วิตามินบี […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง และข้อควรระวังในการบริโภค

ประโยชน์ของน้ำผึ้งมีมากมาย นอกจากให้ความหวานตามธรรมชาติและให้พลังงานต่อร่างกายแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ สมานแผล บรรเทาอาการไอ ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ คุณค่าทางโภชนาการของน้ำผึ้ง น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ปริมาณ 20 กรัม ให้พลังงานประมาณ 61 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต 17 กรัม น้ำตาล 17 กรัม ไรโบฟลาวิน หรือวิตามินบี 2 1% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนําให้บริโภคในแต่ละวัน ทองแดง 1% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนําให้บริโภคในแต่ละวัน นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ไนอาซิน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ประโยชน์ของน้ำผึ้งที่มีต่อสุขภาพ น้ำผึ้งมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของน้ำผึ้งในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด น้ำผึ้งอาจเพิ่มระดับอดิโนเพคติน (Adiponectin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินในการเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงาน ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecules เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของสารประกอบในน้ำผึ้งที่มีผลต่อสุขภาพ พบว่า […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

วิธีเพิ่มน้ำหนัก ทำอย่างไรได้บ้าง

วิธีเพิ่มน้ำหนัก สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักน้อยเกินไป หรือต้องการให้มีเนื้อ มีน้ำมีนวลมากขึ้น สามารถทำได้หลายวิธี เช่น เลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลาย เพิ่มแคลอรี่ที่ดีในอาหาร รับประทานอาหารให้มากขึ้น โดยแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ หลีกเลี่ยงอาหารขยะ ออกกำลังกาย ซึ่งวิธีเหล่านี้นอกจากจะเพิ่มน้ำหนักแล้ว ยังส่งเสริมสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงห่างไกลโรคได้อีกด้วย [embed-health-tool-bmi] น้ำหนักน้อยเกินไป คืออะไร โดยปกติ ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ในเกณฑ์ปกติที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีและสมส่วนควรอยู่ที่ 18.5-22.90 แต่ผู้ที่มีน้ำหนักน้อย คือ มีค่า BMIต่ำกว่า 18.5 ซึ่งหากมีน้ำหนักน้อยเกินไป อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น ภาวะขาดสารอาหาร ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากโภชนาการไม่ดี กรรมพันธุ์หรือปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวาน มะเร็ง ความเครียด ภาวะซึมเศร้า แต่หากมีค่าดัชนีมวลกาย 23 ขึ้นไป หมายความว่าอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักเกินและเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน การคำนวณหาค่าดัชนีมวลกายทำได้ด้วยการเอา น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ ด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะแสดงค่าเป็นหน่วย กิโลกรัม/เมตร2 สาเหตุของน้ำหนักตัวน้อย น้ำหนักตัวน้อยอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้ พันธุกรรม ร่างกายที่ผอมและน้ำหนักตัวที่น้อยตั้งแต่กำเนิดอาจเป็นเพราะร่างกายมีระบบเผาผลาญที่สูงกว่าปกติ ทำให้น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นถึงแม้ว่าจะรับประทานอาหารมากขึ้นหรือในปริมาณที่เท่ากับคนอื่น ปัญหาสุขภาพ เช่น […]


ข้อมูลโภชนาการ

วิตามินเอช่วยอะไร และข้อควรระวังในการบริโภค

วิตามินเอช่วยอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยปกติวิตามินเอเป็นสารอาหารที่ละลายในไขมัน และจำเป็นต่อการเจริญเติบโต สุขภาพดวงตา สุขภาพผิว ระบบภูมิคุ้มกัน การแบ่งเซลล์และการสืบพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ เช่น ควัน มลภาวะ ฝุ่น และอาจช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง ได้อีกด้วย วิตามินเอสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ตับ เครื่องใน ปลาแซลมอน ไข่ ผักใบเขียว ส้ม บร็อคโคลี่ แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง พริกหยวก แคนตาลูป แอปริคอต มะม่วง มะละกอ นม โยเกิร์ต ชีส ซีเรียล วิตามินเอช่วยอะไร วิตามินเอเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของวิตามินเอในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตา วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคจุดภาพชัดเสื่อมในผู้สูงอายุ (Age related Macular Degeneration หรือ AMD) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของจุดรับภาพในดวงตาเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุตามัว สูญเสียความคมชัดในการมองเห็น โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร  Clinical Interventions in […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ขาดวิตามินดี ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพ

ขาดวิตามินดี เป็นภาวะที่วิตามินดีไม่พอต่อความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ อาจทำให้มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวด เหนื่อยล้า และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกอ่อนในเด็กและกระดูกพรุนในผู้ใหญ่ จึงควรเสริมวิตามินดีอย่างเพียงพอด้วยการรับประทานอาหารที่หลากหลาย และรับแสงแดดยามเช้าเพื่อเพิ่มการสังเคราะห์วิตามินดีในร่างกาย ความสำคัญของวิตามินดี วิตามินดีเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นและสังเคราะห์ได้จากแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า รวมถึงเป็นสารอาหารที่ร่างกายได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป เช่น น้ำมันตับปลา ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล นม ชีส โยกิร์ต ไข่แดง น้ำส้ม นมถั่วเหลือง ซีเรียล ตับ นอกจากนี้ ร่างกายต้องการวิตามินดีเพื่อใช้ในการสร้างและรักษากระดูกให้แข็งแรง ควบคุมการทำงานของเซลล์ในร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการอักเสบ ปกป้องระบบประสาท เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อและการทำงานของเซลล์สมอง ปัจจัยที่ทำให้ขาดวิตามินดี การขาดวิตามินดีอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ดังนี้ ผู้ที่มีภาวะทางสุขภาพบางประการ เช่น อาการแพ้แลคโตส ผู้ที่รับประทานมังสวิรัสติ อาจทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดีที่ไม่เพียงพอ การที่ร่างกายไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายขาดวิามินดีได้ โดยเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรับวิตามินดี คือ 08.00-10.00 น. และ 15.00-17.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดไม่แรงและไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมากเกินไป วิตามินดีเป็นสารอาหารที่ละลายในไขมัน ผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบหรือภาวะอื่น ๆ เช่น โรคซิติกโฟโบรซิส […]


ข้อมูลโภชนาการ

วิตามินอี ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

วิตามินอี มีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นมีคุณสมบัติละลายในไขมัน ช่วยเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดงหัวใจ ส่งเสริมสุขภาพตา ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและอาจป้องกันมะเร็ง อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอีมีหลายชนิด เช่น น้ำมันจมูกข้าวสาลี น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ เฮเซลนัท ถั่วลิสง เนยถั่ว ผักปวยเล้ง บร็อคโคลี่  กีวี่มะม่วง มะเขือเทศ กะหล่ำปลี พริกหยวก หน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด วิตามินอี ประโยชน์ มีอะไรบ้าง วิตามินอีมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของวิตามินอีในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตา วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคจุดรับภาพเสื่อมในผู้สูงอายุ (Age related Macular Degeneration หรือ AMD) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเรตินาในดวงตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุตามัวและสูญเสียความคมชัดในการมองเห็น โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Interventions in Aging เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 ศึกษาเกี่ยวกับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาที่อาจเสื่อมตามอายุที่เพิ่มขึ้น พบว่า วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมันซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อภายในร่างกาย อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ อาจช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งอาจเหมาะสำหรับใช้ในการบำรุงระบบประสาทและสมอง รวมทั้งช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน