เมื่อป่วยเป็น โรคตับอักเสบ ห้ามกินอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เนื่องจากโรคตับอักเสบเป็นโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของตับ เนื้อเยื่อตับถูกทำลาย และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง ผู้ป่วยจึงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่อาจเพิ่มการอักเสบของตับและทำให้ตับทำงานหนักขึ้น เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ อาหารที่มีน้ำตาลและเกลือสูง รวมทั้งอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
โรคตับอักเสบ ห้ามกินอะไร
ผู้ป่วยโรคตับอักเสบอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการกินอาหารบางชนิดที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพตับ และอาจทำให้โรคตับอักเสบมีอาการที่รุนแรงขึ้น ดังนี้
-
อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
การกินอาหารที่มีไขมันสูงโดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและอาจกลายเป็นโรคอ้วนได้ ซึ่งอาจทำให้ไขมันเข้าไปสะสมในเซลล์ตับมากขึ้นและทำให้ตับบวมจนกลายเป็นโรคไขมันพอกตับ เมื่อเวลาผ่านไปอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อตับแข็งตัวและเป็นแผลเป็น ซึ่งอาจทำให้ภาวะตับอักเสบรุนแรงขึ้น จนนำไปสู่โรคตับแข็งได้
ตัวอย่างอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ติดมันและติดหนัง ครีมเทียม ขนมกรุบกรอบ อาหารทอด ขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ อาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง
-
อาหารที่มีน้ำตาลสูง
การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตับ เนื่องจากร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินไปเป็นไขมันซึ่งหากไปสะสมที่ตับมากเกินไปจะทำให้ตับอักเสบในที่สุด
นอกจากนี้ การกินน้ำตาลในปริมาณมากยังอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรัง และอาจก่อให้เกิดโรคอีกหลายชนิด เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ น้ำอัดลม น้ำหวาน นมหวาน น้ำผลไม้เติมน้ำตาล น้ำตาลทรายขาว น้ำเชื่อม
-
อาหารที่มีเกลือสูง
การกินเกลือในปริมาณมากนอกจากจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตับด้วย แม้จะยังไม่ทราบกลไกการเกิดภาวะตับอักเสบที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าการกินเกลือมากเกินไปสามารถกระตุ้นให้ร่างกายอักเสบได้ และกระบวนการนี้เองที่ทำให้ตับอักเสบ
-
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อสุขภาพตับอย่างมาก เนื่องจากตับมีหน้าที่ในการขับของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงส่งผลให้ตับทำงานหนักมากขึ้นเพื่อขับสารพิษที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย
หากผู้ป่วยโรคตับอักเสบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้สุขภาพตับแย่ลง เซลล์ตับถูกทำลายเพิ่มขึ้น และทำให้โรคตับอักเสบมีอาการที่ทรุดลงตามไปด้วย
-
อาหารดิบและไม่ผ่านการปรุกสุก
ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบควรกินอาหารที่ผ่านการปรุงสุกเสมอ เนื่องจากอาหารดิบอาจมีเชื้อไวรัส หรือพยาธิที่ก่อให้เกิดภาวะตับอักเสบได้ เช่น ในอาหารที่ไม่สะอาดอาจมีไวรัสตับอักเสบเอ ปนเปื้อนอยู่ ในปลาน้ำจืดดิบ อาจมีพยาธิใบไม้ในตับปนเปื้อนอยู่
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคตับอักเสบ
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคตับอักเสบ อาจทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือสูดดมสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อตับ เช่น ยาฆ่าแมลงและยากำจัดวัชพืช สีทาบ้าน ทินเนอร์
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากในขณะนอนหลับจะช่วยลดความเครียด และร่างกายได้มีเวลาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออย่างเหมาะสม
- กินอาหารที่หลากหลาย โดยผู้ป่วยควรกินอาหารที่มีทั้งโปรตีน เนื้อสัตว์ไม่ติดมันและหนัง ผักและผลไม้ ธัญพืช และไขมันดี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและส่งผลดีต่อสุขภาพ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยควรออกกำลังกายความเข้มข้นปานกลาง เช่น เต้นแอโรบิก เดินเร็ว ว่ายน้ำ อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์ วันละ 30 นาที
- จัดการกับความเครียด ความเครียดอาจทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ จึงควรหากิจกรรมที่สามารถช่วยจัดการกับความเครียดได้ เช่น นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ วาดรูป พูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว
[embed-health-tool-bmr]