เตรียมตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ต้องใช้เวลาในการวางแผนและการเตรียมตัว ตั้งแต่เรื่องการเจริญพันธุ์ ไปจนถึงความเสี่ยงที่อาจมาพร้อมกับการตั้งครรภ์ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการ เตรียมตั้งครรภ์ ตั้งแต่การวางแผนก่อนการตั้งครรภ์ ตลอดไปจนถึงวิธีเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ไว้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

เตรียมตั้งครรภ์

เรื่องน่ารู้ สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เตรียมตัวตั้งครรภ์

การมีลูก นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการมีครอบครัว และเหตุผลของการอยากมีลูกของแต่ละครอบครัวก็ย่อมแตกต่างกันไป บ้างอาจเพราะว่า “ลูก” ช่วยเติมเต็มคำว่าครอบครัว ทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากขึ้น บ้างอาจอยากมีลูกเพราะชอบความน่ารักของเด็ก ๆ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การมีลูกเมื่อพร้อมก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ที่อยากมีลูกและกำลังเตรียมตัวมีลูกจึงควรเรียนรู้ข้อมูล คำแนะนำ และเคล็ดลับง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวตั้งครรภ์โดยเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่การตกไข่ วิธีนับวันไข่ตก การกินอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และเคล็ดลับที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ง่ายขึ้น รวมทั้งวิธีการดูแลตัวเองในระหว่างตั้งครรภ์ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังคลอด อาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนและเตรียมตัวตั้งครรภ์ได้ดีมากขึ้น เรียนรู้วันตกไข่ การตกไข่ เกิดขึ้นอย่างไร การตกไข่ (Ovulation) เป็นกระบวนการทางธรรมชาติของผู้หญิงที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือในช่วงอายุประมาณ 12-13 ปี แต่อาจเร็วหรือช้ากว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ช่วงไข่ตก คือ ช่วงเวลาที่ไข่สุกเต็มที่ ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงเดือนละ 1 ครั้ง โดยรังไข่ทั้งสองข้างมีหน้าที่ผลิตและปล่อยไข่ใบที่สุกเต็มที่ไปยังท่อนำไข่เพื่อรอการผสมกับอสุจิ รังไข่แต่ละข้างจะปล่อยไข่สลับกันเพียงเดือนละ 1 ใบ หากไข่ได้รับการผสมกับอสุจิ หรือที่เรียกว่า “การปฏิสนธิ” ไข่จะเคลื่อนตัวผ่านท่อนำไข่ไปยังสู่มดลูกเพื่อไปฝังตัวที่ผนังมดลูกและพัฒนาไปเป็นตัวอ่อน หรือเรียกว่า “การตั้งครรภ์” แต่ในบางครั้งรังไข่อาจปล่อยไข่ออกมามากกว่า 1 ใบ ซึ่งหากไข่ทั้งสองใบได้รับการผสมกับกับอสุจิและฝังตัวที่ผนังมดลูกพร้อมกัน ก็จะเกิดเป็นการตั้งครรภ์แฝด อย่างไรก็ตาม หากไข่ไม่ได้รับการผสมกับอสุจิ ไข่จะฝ่อและเยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวขึ้นเพื่อรองรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้วจะลอกตัว จากนั้นจะถูกขับออกมาเป็นเลือดประจำเดือน วิธีนับวันไข่ตก เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ สำหรับคนอยากมีลูกอาจสงสัยว่า วันไข่ตกนับยังไง […]

หมวดหมู่ เตรียมตั้งครรภ์ เพิ่มเติม

สำรวจ เตรียมตั้งครรภ์

ปัญหามีบุตรยากและการรักษา

การทำเด็กหลอดแก้ว การเตรียมตัว และความเสี่ยง

การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นวิธีการตั้งครรภ์โดยใช้เทคนิคทางการแพทย์เข้ามาช่วย โดยการนำไข่และอสุจิออกมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ ก่อนจะนำไข่ที่ปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อนแล้วกลับเข้าสู่มดลูกเพื่อให้พัฒนาเป็นทารกในครรภ์ต่อไป การทำเด็กหลอดแก้วอาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย และการเตรียมตัว เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกวิธีนี้เพื่อมีบุตร [embed-health-tool-ovulation] การทำเด็กหลอดแก้ว คืออะไร การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นเทคนิคการผสมเทียมในหลอดแก้ว โดยการคัดเลือกไข่และอสุจิที่มีสุขภาพดี มาผสมกันภายในหลอดแก้วในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจะนำไปไว้ในตู้ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรอจนเกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน ก่อนจะนำกลับเข้าสู่มดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนได้ฝังตัวในมดลูก และพัฒนาเป็นทารกในครรภ์ วิธีการทำเด็กหลอดแก้วเหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก การตกไข่ผิดปกติ อสุจิอ่อนแอ และท่อนำไข่อุดตัน การเตรียมตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ก่อนเริ่มทำเด็กในหลอดแก้ว คุณหมออาจให้คุณพ่อคุณแม่เข้ารับการตรวจคัดกรอง ดังนี้ ตรวจปริมาณและคุณภาพของไข่ที่จะนำมาผสม โดยทดสอบความเข้มข้นของฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตของไข่ (Follicle Stimulating Hormone: FSH) ฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (Anti-Mullerian Hormone: AMH) เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากรังไข่ เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำงานของรังไข่หรือบอกจำนวนไข่ที่สามารถผลิตได้ และฮอร์โมนเอสตราไดออล (Estradiol) ร่วมกับการอัลตราซาวด์ เพื่อให้คุณหมอทราบว่ารังไข่จะตอบสนองต่อยารักษาภาวะเจริญพันธ์ุหรือไม่ ตรวจมดลูก คุณหมออาจใช้ของเหลวฉีดผ่านปากมดลูกเข้าไปด้านในแล้วทำอัลตราซาวด์ หรือใช้กล้องขนาดเล็กส่องภายใน เพื่อตรวจเยื่อบุมดลูกก่อนการทำเด็กในหลอดแก้ว จำลองการย้ายตัวอ่อนจำลองเข้าโพรงมดลูก คุณหมออาจจำลองการย้ายตัวอ่อนร่วมกับการใช้เทคนิคการย้ายตัวอ่อนที่เหมาะสม เพื่อให้ทราบความลึกของโพรงมดลูกที่ตัวอ่อนจะมีโอกาสฝังตัวในมดลูก ตรวจคุณภาพของน้ำอสุจิ เพื่อประเมินว่ามีภาวะเจริญพันธุุหรือไม่ และตรวจดูคุณภาพของตัวอสุจิว่าสมบูรณ์พร้อมหรือไม่ ตรวจคัดกรองโรค เช่น เอชไอวี (HIV) ซิฟิลิส […]


เตรียมตั้งครรภ์

เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์

เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาจเป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุจากสภาวะอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น ความดันโลหิตต่ำ ลำไส้อุดตัน ความเครียด ดังนั้น หากสงสัยหรือกังวลใจว่าตนเองตั้งครรภ์ และประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน ควรตรวจครรภ์ด้วยตนเองหรือเข้าพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่ชัดเจนของอาการดังกล่าว [embed-health-tool-ovulation] สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์แรกเริ่ม อาจสังเกตได้จากอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียน ประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน หรือบางคนอาจมีเลือดออกจากช่องคลอดกะปริบกะปรอย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการฝังตัวของตัวอ่อน และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (Human Chorionic Gonadotropin: HCG) อย่างไรก็ตาม การที่ประจำเดือนขาดอาจไม่ได้หมายความว่าตั้งครรภ์เสมอไป เพราะอาจมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า ยาคุมกำเนิด ดังนั้น จึงควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าตั้งครรภ์หรือไม่ สัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์อื่น ๆ มีดังนี้ ไวต่อกลิ่น อาการไวต่อกลิ่นอาจส่งผลให้รู้สึกเหม็นสิ่งรอบตัวที่แต่เดิมไม่รู้สึกว่าเหม็น เช่น กลิ่นน้ำหอม กลิ่นอาหาร  อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อความอยากอาหาร อาจรู้สึกอยากรับประทานอาหารแปลก ๆ อาการเหล่านี้อาจบรรเทาลงในช่วงสัปดาห์ที่ 13-14 ของการตั้งครรภ์ […]


เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

อยากมีลูกต้องทำไง และปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีบุตรยาก

อยากมีลูกต้องทำไง อาจเป็นหนึ่งในคำถามที่ผู้ต้องการมีลูก และผู้ที่มีลูกยากอยากทราบคำตอบมากที่สุด ปัญหามีลูกยากอาจมาจากคุณภาพไข่หรืออสุจิไม่ดี พฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นต้น อย่างไรก็ดี อาจมีหลายวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ และการทราบสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีลูกยาก ก็อาจทำให้สามารถหาวิธีเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น [embed-health-tool-ovulation] ปัญหาที่ทำให้มีลูกยาก ภาวะมีบุตรยากพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้  อายุ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากอายุที่มากขึ้นอาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ ทำให้คุณภาพไข่ของผู้หญิงและจำนวนอสุจิของผู้ชายลดลง ส่งผลกระทบต่อการมีลูก น้ำหนักตัวน้อยหรือมากกว่าเกณฑ์ อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย หากน้ำหนักเกินเกณฑ์หรือเป็นโรคอ้วน อาจส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลกัน และอาจไปขัดขวางการตกไข่ของผู้หญิงและการผลิตอสุจิของผู้ชาย หรือหากมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์อาจส่งผลให้ไม่มีสารอาหารไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้ไข่ตกหรือผลิตอสุจิ  สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ เนื่องจากสารต่าง ๆ ในบุหรี่ เช่น นิโคติน สารตะกั่ว แคดเมียม อาจทำให้อสุจิผิดปกติและไม่แข็งแรงพอที่จะเข้าไปผสมกับไข่ รวมถึงอาจลดประสิทธิภาพการทำงานมดลูกที่เป็นที่ฝังตัวของตัวอ่อนด้วย ท่อนำไข่อุดตัน หากท่อนำไข่ข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้างอุดตัน อาจทำให้ไข่ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปยังท่อนำไข่ และอสุจิไม่สามารถเคลื่อนเข้าสู่รังไข่ได้ จึงส่งผลให้ไม่มีการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์  เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เกิดจากเยื่อบุมดลูกไปเจริญภายนอกมดลูก ซึ่งอาจส่งผลให้การทำงานของรังไข่ มดลูก และท่อนำไข่ผิดปกติ จนเกิดภาวะมีบุตรยาก  อยากมีลูกต้องทำไง  เคล็ดลับเหล่านี้อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้  นับวันตกไข่ ทำความเข้าใจเรื่องวงจรการตกไข่และวิธีนับวันตกไข่อย่างถูกต้อง ควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 5 วันก่อนถึงวันตกไข่และในวันตกไข่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ […]


เตรียมตั้งครรภ์

ช่วงไหนท้องง่ายที่สุด เรื่องน่ารู้สำหรับคนอยากมีลูก

ช่วงไหนท้องง่ายที่สุด อาจเป็นอีกหนึ่งคำถามที่คนอยากมีลูกสงสัยมากที่สุด โดยทั่วไปแล้วช่วงที่ท้องง่ายที่สุด คือ ช่วงวันไข่ตก หรือประมาณ 10-16 วันก่อนมีประจำเดือน เพราะอสุจิสามารถเดินทางไปผสมกับไข่และปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนได้ดีที่สุด แต่สำหรับผู้ที่ไม่สามารถนับวันไข่ตกที่แน่ชัดได้ การมีเพศสัมพันธ์ทุก ๆ 2-3 วันโดยไม่คุมกำเนิด อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้ตัวอสุจิที่มีชีวิตในมดลูกสามารถเข้าไปผสมกับไข่ได้เลยเมื่อถึงวันไข่ตก ช่วงไหนท้องง่ายที่สุด ปกติแล้วโอกาสที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์ คือ ประมาณ 10-16 วันก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไข่ตก หากทราบวันไข่ตกที่แน่ชัด การมีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ควรมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุก ๆ 2-3 วันโดยไม่คุมกำเนิด เพื่อให้ตัวอสุจิที่แข็งแรงเข้าไปรออยู่ในมดลูกก่อนถึงเวลาไข่ตก หรือในระยะเวลาที่ไข่ตก โดยอสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในมดลูกได้ประมาณ 3-5 วันโดยยังไม่ผสมกับไข่ และไข่สามารถอยู่ที่ปลายท่อนำไข่ได้นาน 12-24 ชั่วโมง การสังเกตช่วงเวลาตกไข่ ผู้หญิงบางคนอาจไม่สามารถทราบช่วงเวลาไข่ตกที่แน่ชัดได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด เนื่องจากยาคุมกำเนิดจะทำหน้าที่หยุดการตกไข่ ช่วงไหนท้องง่ายที่สุด เรื่องน่ารู้สำหรับคนอยากมีลูก อย่างไรก็ตาม การสังเกตความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจช่วยให้ทราบวันตกไข่ได้ การนับวันไข่ตก โดยปกติการตกไข่มักเกิดขึ้นประมาณ 10-16 วันก่อนเริ่มมีประจำเดือนครั้งถัดไป การจดบันทึกช่วงเวลาการมีประจำเดือนจึงอาจช่วยให้ทราบช่วงเวลาตกไข่ได้ โดยการหาหาช่วงระยะเวลารอบเดือนของตนเอง (Interval of menstruation) การเปลี่ยนแปลงของมูกปากมดลูก ปากมดลูกจะหลั่งมูกเหนียวสีขาวออกมาตลอดรอบเดือน แต่ในช่วงก่อนหรือระหว่างไข่ตก มูกจะเพิ่มปริมาณ และมีลักษณะลื่นและเหนียวมากขึ้น […]


เตรียมตั้งครรภ์

อาการท้อง ที่ควรสังเกต เตรียมตัวตั้งครรภ์

อาการท้อง อาจปรากฏขึ้นหลังจากอสุจิปฏิสนธิกับไข่ และฝังตัวลงในผนังมดลูกของผู้หญิงได้ 4-6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ประจำเดือนขาด คัดเต้านม เพื่อให้ทราบผลที่แน่ชัดควรตรวจครรภ์ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง หรือเข้ารับการตรวจครรภ์จากคุณหมอ เมื่อมั่นใจว่าตั้งครรภ์แน่ชัดแล้ว ควรเอาใจใส่ดูแลสุขภาพตนเองระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของทารก [embed-health-tool-due-date] อาการท้อง สังเกตจากอะไร อาการท้อง อาจสังเกตได้จากสัญญาณเตือน ดังต่อไปนี้ ประจำเดือนขาด อาการเริ่มต้นการตั้งครรภ์ที่เห็นได้ชัดคือประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน บางคนอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อยจากการฝังตัวของมดลูก อย่างไรก็ตาม การที่ประจำเดือนขาดอาจไม่ได้หมายความว่าตั้งครรภ์เสมอไป แต่อาจมีสาเหตุมาจากความเครียด การใช้ยาคุมกำเนิด ความเหนื่อยล้า น้ำหนักที่เพิ่มหรือลดลงผิดปกติ ปวดท้องส่วนล่าง หลังจากอสุจิปฏิสนธิกับไข่และฝังตัวในผนังมดลูกได้ 6-12 สัปดาห์ บางคนอาจมีอาการปวดท้องเกร็งคล้ายกับอาการปวดท้องประจำเดือน และมีตกขาว ผู้หญิงตั้งครรภ์อาจมีอาการตกขาวมากขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ยกเว้นกรณีตกขาวมีกลิ่น พร้อมกับมีอาการแสบร้อนและคันช่องคลอด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือเชื้อราที่ช่องคลอดควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสาเหตุให้แน่ชัด เต้านมคัด เป็นอีกหนึ่งอาการท้องที่เริ่มขึ้นหลังการปฏิสนธิ เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ เพื่อเตรียมผลิตน้ำนมให้ทารกหลังคลอด ส่งผลให้หน้าอกขยายใหญ่ หัวนมเปลี่ยนสี รู้สึกเจ็บเมื่อถูกสัมผัสหรือเสียดสี แพ้ท้อง อาการแพ้ท้องเกิดจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปแต่ละบุคคลที่ โดยส่วนใหญ่อาจส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เป็นลม ไวต่อกลิ่น เหม็นอาหารบางอย่างแม้แต่อาหารที่ชื่นชอบ อยากรับประทานอาหารแปลก […]


เตรียมตั้งครรภ์

ตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน จึงจะทราบผล

ตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน อาจขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจครรภ์ที่เลือกใช้ เช่น การตรวจครรภ์เองด้วยที่ตรวจครรภ์ การตรวจครรภ์ด้วยการตรวจเลือดโดยคุณหมอ โดยทุกวิธีสามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาดหรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 14-21 วัน หากทราบผลลัพธ์ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ ควรฝากครรภ์และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ [embed-health-tool-ovulation] สัญญาณการตั้งครรภ์ สัญญาณของการตั้งครรภ์ อาจสังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้ ประจำเดือนขาด หลังจากไข่กับอสุจิปฏิสนธิกันแล้วกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวในผนังมดลูก จะทำให้ประจำเดือนขาด อย่างไรก็ตามสัญญาณเตือนนี้อาจทำให้เข้าใจว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ และอาจรับประทานยาบำรุงที่เสี่ยงต่อการแท้งบุตร เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ควรตรวจครรภ์ให้แน่ชัดในรายที่มีความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์ ได้แก่ หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ปัสสาวะบ่อย การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนการตั้งครรภ์อาจทำให้คุณแม่ปัสสาวะบ่อยขึ้นหลังการปฏิสนธิสัปดาห์ที่ 6 และสัปดาห์ที่ 8 เต้านมขยาย เป็นอาการคัดเต้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ ที่อาจทำให้หน้าอกตึง บวม เจ็บเมื่อถูกสัมผัส หัวนมมีสีคล้ำขึ้น ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานหลายสัปดาห์จนกว่าอาการคัดเต้าจะหาย เพื่อบรรเทาอาการเจ็บเต้านมควรสวมเสื้อชั้นในที่ให้ความสบาย ไม่รัดแน่น แพ้ท้อง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหม็นอาหาร อยากรับประทานอาหารแปลก ๆ แต่อาการเหล่านี้อาจบรรเทาลงไปเองได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 13-14 ของการตั้งครรภ์ เหนื่อยล้า อาการเหนื่อยล้าอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเลือดมากขึ้นเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หญิงตั้งครรภ์อาจอ่อนเพลียง่าย การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก พร้อมกับพักผ่อนให้เพียงพอ อาจช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ ท้องผูก […]


เตรียมตั้งครรภ์

ตรวจครรภ์ 1 ขีด ท้องไหม? เช็กอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัวร์

ตรวจครรภ์ 1 ขีด ท้องไหม ? เป็นคำถามที่อาจให้คำตอบได้ไม่แน่นอน โดยปกติแล้วผลลัพธ์การตรวจครรภ์ที่ขึ้นขีดเดียว มักมีความหมายว่าไม่ตั้งครรภ์ โดยอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ เวลาที่ทำการตรวจครรภ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลการตรวจครรภ์ได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แน่ชัดควรสังเกตตนเองว่ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน หรือไม่ แล้วตรวจครรภ์ซ้ำอีกครั้ง หรือเข้ารับการตรวจครรภ์ทดสอบจากคุณหมอ [embed-health-tool-”ovulation”] วิธีตรวจสอบการตั้งครรภ์ สำหรับการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองจากตัวอย่างปัสสาวะ ควรเก็บตัวอย่างปัสสาวะแรกในช่วงเช้า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ปัสสาวะมีความเข้มข้นของฮอร์โมนการตั้งครรภ์สูง (HCG) ทำให้ผลลัพธ์การตรวจครรภ์อาจแม่นยำมากขึ้น ชุดตรวจครรภ์ส่วนใหญ่มี 2 รูปแบบ ดังนี้ ชุดทดสอบตั้งครรภ์แบบหยด ภายในกล่องจะประกอบด้วยตลับทดสอบการตั้งครรภ์ ถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ หลอดหยดสำหรับดูดน้ำปัสสาวะ  วิธีใช้ ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ นำหลอดดูดน้ำปัสสาวะหยดลงบนตลับการทดสอบที่มีตัวอักษร S ประมาณ 3 หยดสูงสุดไม่เกิน 6 หยด เพื่อเพิ่มความไวให้ตลับทดสอบอ่านค่าปัสสาวะ วางทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที หรือตามคำแนะนำที่ระบุข้างผลิตภัณฑ์ เพื่อรอผลทดสอบ ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แบบจุ่ม ในกล่องอาจมีกระดาษ หรือเป็นเครื่องพลาสติกที่มีส่วนปลายไว้จุ่มปัสสาวะ และถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ วิธีใช้ ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ ถอดฝาอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ แล้วนำส่วนปลายของอุปกรณ์หรือกระดาษทดสอบจุ่มลงในปัสสาวะไม่เกินขีดที่กำหนด ประมาณ 7-10 วินาที […]


เตรียมตั้งครรภ์

ผล ตรวจครรภ์ 2 ขีด บ่งบอกว่าท้องหรือไม่

หลังจากมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 21 วัน แล้วมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ คัดเต้านม ประจำเดือนขาด หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ควรซื้อชุดทดสอบการตรวจครรภ์ด้วยตัวเองมาทดสอบเบื้องต้น หากผล ตรวจครรภ์ 2 ขีด อาจหมายความว่า กำลังตั้งครรภ์ ควรเข้ารับการตรวจครรภ์จากคุณหมออีกครั้ง เพื่อให้ทราบผลการตั้งครรภ์ที่แน่ชัด [embed-health-tool-pregnancy-weight-gain] วิธีตรวจสอบการตั้งครรภ์ วิธีตรวจสอบการตั้งครรภ์ อาจเริ่มตรวจเองได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันหรือเกิดข้อผิดพลาดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เช่น ถุงยางขาด อย่างน้อย 21 วัน ซึ่งควรตรวจในช่วงเช้าของวันหรือปัสสาวะแรก เพราะจะมีระดับความเข้มข้นของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (HCG) สูง และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ 97-99% หากมีผลตรวจครรภ์ 2 ขีด อาจกำลังตั้งครรภ์ ชุดทดสอบการตั้งครรภ์มี 2 รูปแบบ ดังนี้ 1. ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แบบจุ่ม ภายในกล่องอาจมีกระดาษหรืออุปกรณ์พลาสติกที่มีส่วนปลายไว้จุ่มปัสสาวะ และถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ วิธีใช้ ปัสสาวะลงในถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ นำกระดาษทดสอบหรือส่วนปลายของอุปกรณ์พลาสติกซึ่งจะมีช่องเล็ก ๆ อยู่ 5 ช่องจุ่มลงไปในปัสสาวะ โดยอย่าให้เกินขีดที่กำหนด จากนั้นรอประมาณ 7-10 วินาที ปิดฝาหรือวางกระดาษบนพื้นที่ที่สะอาด 5 นาที […]


เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

วันไข่ตก นับอย่างไรให้เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์

วันไข่ตก หรือวันตกไข่ หมายถึงวันที่รังไข่ปล่อยไข่ที่สุกออกมาในท่อนำไข่ เพื่อรอการผสมกับอสุจิ เป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคนในทุก ๆ เดือน การนับวันไข่ตกอาจมีประโยชน์ในการวางแผนการตั้งครรภ์และการคุมกำเนิด อย่างไรก็ตาม การนับวันไข่ตกอาจจะไม่ได้แม่นยำ 100% เสมอไป เนื่องจากผู้หญิงแต่ละคนอาจมีรอบเดือนและวันตกไข่ที่แตกต่างกัน รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเครียด อายุ น้ำหนักตัว โรคประจำตัว ก็อาจส่งผลต่อวันตกไข่ได้เช่นกัน [embed-health-tool-ovulation] วันไข่ตก คืออะไร  วันไข่ตก หรือวันตกไข่ คือ กลไกตามธรรมชาติของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงที่เกิดขึ้นในทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง โดยเมื่อประจำเดือนมาวันแรก ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนฟอลลิเคิล สติมูเลติง (Follicle-Stimulating Hormone: FSH) ออกมา ทำให้ไข่ในรังไข่เติบโต และทำให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ ในช่วงวันที่ 2-14 ของรอบเดือน เรียกว่า “ระยะก่อนตกไข่” สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาตามปกติและสม่ำเสมออาจสามารถคาดการณ์ช่วงเวลาวันไข่ตกได้อย่างแม่นยำ โดยรอบประจำเดือนเฉลี่ยประมาณ 28-30 วัน และวันไข่ตกมักเกิดขึ้นช่วงระยะประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนรอบใหม่มา สำหรับผู้ที่ต้องการมีลูกควรมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1-2 วันก่อนไข่ตก เพราะอสุจิสามารถรอปฏิสนธิกับไข่ได้ประมาณ 2-3 […]


เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

ของใช้เตรียมคลอด และการเตรียมตัวก่อนคลอด มีอะไรบ้าง

ของใช้เตรียมคลอด สำหรับคุณแม่ ควรได้รับการตระเตรียมไว้อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนถึงวันที่คุณหมอกำหนดคลอด เพื่อนำมาใช้ในโรงพยาบาลขณะที่พักฟื้นหลังคลอดบุตร ระยะเวลาดังกล่าวเพียงพอที่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป โดยเฉพาะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภาวะคลอดก่อนกำหนด อาจจัดวางกระเป๋าที่ใส่ของใช้เตรียมคลอดไว้ใกล้มือที่หยิบฉวยได้ง่าย หรือเตรียมใส่ไว้ในรถ เมื่อถึงเวลากำหนดคลอดจะได้พร้อมออกเดินทางไปโรงพยาบาลได้ทันที [embed-health-tool-due-date] ของใช้เตรียมคลอด สำหรับคุณแม่  คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับการคลอดบุตรล่วงหน้าอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนถึงกำหนดคลอด โดยของใช้เตรียมคลอดสำหรับบคุณแม่ที่พักในโรงพยาบาล 1-4 วัน มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ ผลตรวจ หรือเอกสารสำคัญที่ใช้ยื่นก่อนเข้าพักรักษาตัว เช่น บัตรโรงพยาบาล บัตรประจำตัวประชาชน เสื้อคลุม หรือเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่นท้องจนเกินไป เสื้อชั้นในที่สวมใส่สบาย หรือเสื้อชั้นในให้นมบุตรประมาณ 3 ตัว ชุดชั้นใน 5-6 ตัว  รองเท้าแตะ แผ่นซับน้ำนม ผ้าอนามัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แปรงสีฟัน หวี อุปกรณ์อาบน้ำ  ผ้าขนหนู อุปกรณ์สายชาร์จสำหรับโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป เสื้อผ้าเด็กอ่อน หมวก ผ้าอ้อม ผ้าห่อตัวทารก   การเตรียมตัวก่อนคลอด ก่อนถึงวันคลอดบุตร หรือระหว่างตั้งครรภ์ ควรเข้ารับคำแนะนำเบื้องต้นจากคุณหมอถึงวิธีการดูแลสุขภาพทารก เพื่อความปลอดภัย และดูแลทารกได้อย่างถูกต้อง สำหรับการเตรียมตัวก่อนคลอด […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

คุณกำลังกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ใช่หรือไม่?

หยุดกังวลได้แล้ว มาเข้าชุมชนสนทนาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และว่าที่คุณแม่คนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน