พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

สาเหตุอะไรที่ทำให้ วัยรุ่นสูบบุหรี่ พิษร้ายทำลายสุขภาพในระยะยาว

วัยรุ่นสูบบุหรี่ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองไม่ควรละเลย เพราะบุหรี่เป็นสิ่งอันตรายที่สามารถส่งผลเสียระยะยาวต่อร่างกายของวัยรุ่นได้ ในปัจจุบัน มีวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่สูบบุหรี่และมีแนวโน้มว่าจำนวนของวัยรุ่นที่สูบบุหรี่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย สาเหตุหนึ่งเพราะเรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ หรือบางก็คนใช้เป็นเครื่องมือระบายความเครียด เพื่อจัดการกับปัญหาวัยรุ่นสูบหรี่ บทความนี้อาจช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ และอันตรายของบุหรี่มากขึ้น เราไปหาคำตอบเรื่องนี้กันเลย สาเหตุที่ทำให้ วัยรุ่นสูบบุหรี่ สาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นสูบบุหรี่มีด้วยกันหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง สภาพแวดล้อมทางสังคมและทางกายภาพ การโฆษณาจากสื่อโทรทัศน์อาจทำให้วัยรุ่นหนุ่มสาวรู้สึกอยากลองสูบบุหรี่ แนวโน้มการสูบบุหรี่จะเพิ่มขึ้น หากพวกเขาเห็นเพื่อนในวัยเดียวกันสูบบุหรี่ หากคนในครอบครัวสูบบุหรี่ ก็มีแนวโน้มว่าบุตรหลานอาจรู้สึกอยากลองสูบบุหรี่ตามไปด้วย ปัจจัยทางชีวภาพและพันธุกรรม วัยรุ่นบางคนอาจมีความรู้สึกไวต่อสารนิโคติน จึงทำให้รู้สึกอยากนิโคตินได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างอาจทำให้การเลิกบุหรี่ในวัยรุ่นยากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์สูบบุหรี่อาจส่งผลต่อลูก และอาจส่งผลให้เด็กสูบบุหรี่เป็นประจำในอนาคต สุขภาพจิต ปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่น เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียด อาจทำให้วัยรุ่นต้องการสูบบุหรี่ ความรู้สึกส่วนตัว วัยรุ่นบางคนเริ่มสูบบุหรี่เพราะต้องการระบายความเครียดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่าบุหรี่เป็นเพียงทางออกเดียวในการกำจัดความเครียด อิทธิพลอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อวันรุ่น ความเครียดจากเศรษฐกิจตกต่ำ หรือรายได้ลดลง ไม่รู้ว่าจะเลิกบุหรี่อย่างไร ครอบครัวไม่สนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในการเลิกบุหรี่ วัยรุ่นยังสามารถเข้าถึงการซื้อบุหรี่ได้ อาจมีพฤติกรรมเกเร ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง มองว่าตัวเองต่ำต้อย เห็นจากโฆษณาผลิตภัณฑ์บุหรี่ในร้านค้า โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ภาพยนตร์ นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ วัยรุ่นสูบบุหรี่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในบุหรี่มีสารเคมีหลายชนิดที่เป็นสารพิษและส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น นิโคติน ไซยาไนด์ ผู้ที่เริ่มสูบบุหรี่ครั้งแรกมักมีอาการเจ็บหรือแสบร้อนในลำคอและปอด บางคนถึงกับอาเจียนได้ และเมื่อสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

เด็กทารก

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

พ่อแม่เลี้ยงลูก

เด็กดักแด้ สาเหตุ อาการ วิธีรักษาและการดูแล

เด็กดักแด้ (Harlequin Ichthyosis) เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก เกิดจากเซลล์ผิวหนังแบ่งตัวผิดปกติ ทำให้ผิวหนังตกสะเก็ด แสบคัน แตกแยกเป็นแผ่น ๆ ทั่วร่างกาย โดยระดับความรุนแรงโรคอาจแตกต่างไปในแต่ละคน ในกรณีรุนแรง อาจทำให้เด็กเสี่ยงเสียชีวิตในช่วงไม่กี่วันหลังคลอดได้ ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่การดูแลอย่างเหมาะสมก็อาจช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคนี้ได้ [embed-health-tool-child-growth-chart] เด็กดักแด้ คืออะไร เด็กดักแด้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่รุนแรงและหายากซึ่งส่งผลต่อผิวหนังของผู้ป่วย โดยปกติแล้วผิวหนังจะเป็นเหมือนเกราะป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบ แต่ผู้ที่เป็นโรคเด็กดักแด้ มักคลอดก่อนกำหนดพร้อมกับมีผิวหนังแข็ง หนา ตกสะเก็ด ห่อหุ้มทั่วทั้งร่างกาย และผิวหนังอาจรัดตึงจนแยกเป็นแผ่น กระทบต่อการควบคุมการสูญเสียน้ำ การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และการต่อสู้กับการติดเชื้อ สาเหตุของ เด็กดักแด้ เด็กดักแด้ เป็นความผิดปกติที่เกิดจากยีนด้อย (Autosomal Recessive) เนื่องจากการกลายพันธุ์ของยีน ABCA12 ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากทั้งพ่อและแม่ ยีนชนิดนี้เป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างผิวหนัง เมื่อกลายพันธุ์จึงทำให้ชั้นผิวหนังพัฒนาไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยีน ABCA12 ที่กลายพันธุ์ยังไปยับยั้งไม่ให้เซลล์สร้างโปรตีน และขัดขวางการขนส่งน้ำมันเคลือบผิวไปยังชั้นผิว ส่งผลให้เด็กมีสภาพผิวที่เป็นเกล็ดแข็งและหนาผิดปกติ โดยหากคน ๆ หนึ่งได้รับยีนปกติและยีนกลายพันธุ์จากพ่อและแม่ ก็จะกลายเป็นพาหะของโรค แต่จะไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ โอกาสของการเกิดเด็กดักแด้ หากทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะ (มียีน ABCA12 กลายพันธุ์) อาจมีดังนี้ โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเด็กดักแด้ คือ 25% […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

ชักโครก เด็ก ควรเริ่มใช้งานเมื่อไหร่ และวิธีฝึกให้เด็กนั่งส้วม

เด็กอายุประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ เป็นวัยที่เหมาะสมในการฝึกให้เด็กหัดใช้กระโถนเพื่อขับถ่ายแทนการใส่ผ้าอ้อม และเมื่อเด็กใช้กระโถนและนั่งทรงตัวได้เองอย่างมั่นคงแล้ว จึงค่อยเริ่มฝึกให้เด็กขับถ่ายด้วยการใช้ ชักโครก เด็ก วิธีนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสอนเด็กเกี่ยวกับสุขอนามัยและการทำความสะอาดร่างกายหลังขับถ่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ควรหาที่วางเท้าสำหรับขับถ่ายหรือเก้าอี้ตัวเล็กมาให้เด็กวางเท้าได้อย่างมั่นคง และเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกจากชักโครก รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังเป็นอันขาด [embed-health-tool-baby-poop-tool] ชักโครก เด็ก ควรเริ่มใช้เมื่อไหร่ เวลาที่เหมาะสมในการเริ่มใช้ชักโครก เด็ก คือ เมื่อคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าเด็กใช้กระโถนได้คล่องแล้ว โดยทั่วไปจะอยู่ที่อายุประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ ตามปกติแล้วเด็กส่วนใหญ่จะควบคุมการขับถ่ายของตัวเองได้อย่างเต็มที่ในช่วงอายุ 3-4 ขวบ แต่เด็กบางคนก็อาจยังมีปัญหาปัสสาวะรดที่นอนอยู่ ซึ่งอาจค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป สัญญาณที่แสดงว่าเด็กพร้อมใช้ชักโครก เด็ก หลังจากเด็กเปลี่ยนจากการสวมผ้าอ้อมอย่างเดียว ไปเป็นการขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมควบคู่กับการใช้กระโถน หรือใช้กระโถนอย่างเดียวมาระยะหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตเห็นพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณว่าเด็กพร้อมสำหรับการฝึกเข้าห้องน้ำแล้ว ดังนี้ เด็กสามารถขับถ่ายในกระโถนในท่านั่งยอง ๆ ได้อย่างมั่นคง เด็กลุกไปใช้กระโถนในตอนกลางคืนแทนการขับถ่ายใส่ที่นอนหรือใส่ผ้าอ้อมที่สวมอยู่ เด็กแสดงความสนใจที่จะเข้าไปขับถ่ายในห้องน้ำ เทคนิคการฝึกให้เด็กใช้ ชักโครก เด็ก วิธีเหล่านี้ช่วยให้เด็กฝึกใช้ชักโครก เด็ก อย่างได้ผล เป็นแบบอย่างให้เด็กเห็น เด็ก ๆ มักมีพฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่อาจเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อแสดงให้เด็กเห็นวิธีเข้าห้องน้ำของผู้ใหญ่ เช่น เดินเข้าห้องน้ำไปนั่งบนโถส้วมและกดชักโครก จากนั้นก็ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

กระโถน เด็ก ควรให้ใช้เมื่อไหร่ และวิธีฝึกเด็กให้ขับถ่ายด้วยกระโถน

คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มฝึกให้เด็กใช้กระโถนในการขับถ่ายแทนการสวมผ้าอ้อม เมื่อเด็กอายุได้ประมาณ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 2 ขวบ เนื่องจากเป็นวัยที่เด็กสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้แล้ว และอาจแสดงพฤติกรรมว่าพร้อมใช้ กระโถน เด็ก เช่น เด็กไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหลังนอนกลางวัน เด็กบอกได้ว่าตัวเองกำลังจะถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ ทั้งนี้โดยคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรฝึกให้นั่งกระโถนเร็วเกินไปหรือบังคับให้เด็กใช้กระโถน เพราะอาจทำให้เด็กงอแง และฝึกขับถ่ายด้วยกระโถนได้ล่าช้ากว่าเดิม [embed-health-tool-baby-poop-tool] กระโถน เด็ก ควรเริ่มใช้เมื่อไหร่ ในช่วงขวบปีแรก เด็ก ๆ จะยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ การขับถ่ายของเด็กในวัยนี้จึงเป็นไปโดยอัตโนมัติและมักไม่เป็นเวลา เด็กมักจะเริ่มควบคุมการขับถ่ายของตัวเองได้มากขึ้นตอนอายุ 1 ขวบครึ่ง และอาจเริ่มแสดงพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณว่าสามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ดีขึ้น เช่น ขับถ่ายเป็นเวลา ไม่ขับถ่ายหลังงีบหลับ ในช่วงที่เด็กอายุได้ประมาณ 1 ขวบครึ่งถึง 2 ขวบ จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มฝึกให้เด็กนั่งกระโถนเพื่อขับถ่าย และช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การรักษาสุขอนามัย หากเริ่มช้าหรือเร็วกว่านี้อาจทำให้เด็กมีปัญหาในการขับถ่ายอย่างเป็นที่ด้วยตัวเอง ส่งผลให้พัฒนาการไม่เป็นไปตามวัย ทั้งนี้ พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เด็กบางคนก็อาจเริ่มใช้กระโถนเด็กในการขับถ่ายได้ในช่วงอายุ 3 ขวบ ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด สัญญาณว่าเด็กพร้อมใช้กระโถน เด็ก พฤติกรรมที่อาจแสดงว่าเด็กพร้อมเปลี่ยนจากขับถ่ายในผ้าอ้อมไปใช้กระโถน อาจมีดังนี้ เด็กไม่ขับถ่ายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงในช่วงกลางวัน เด็กไม่ขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมหลังนอนกลางวัน เด็กขับถ่ายเป็นเวลาและสม่ำเสมอ เช่น ถ่ายอุจจาระในช่วงเช้า เด็กแสดงสีหน้า […]


การเติบโตและพัฒนาการในวัยเรียน

ของเล่น เด็ก โต ส่งเสริมพัฒนาการลูกให้เรียนรู้ไวตั้งแต่เด็กจนโต

ตั้งแต่เล็กจนโต ของเล่นมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก เด็กแต่ละวัยจะมีการเล่นหรือของเล่นที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ของเล่นไม่เพียงทำให้เด็กรู้สึกสนุกเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะตั้งแต่วัยเยาว์ พ่อแม่จึงควรเลือกของเล่นให้เหมาะกับช่วงวัย เช่น ของเล่นเด็กเล็ก ของเล่น เด็ก โต เพราะพฤติกรรมการเล่นของเด็กจะพัฒนาตามวุฒิภาวะ ความพร้อมทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา [embed-health-tool-vaccination-tool] พฤติกรรมการเล่นของเด็กแต่ละช่วงวัย การเล่นจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสในร่างกายของลูก จึงควรทราบถึงพฤติกรรมการเล่นของเด็กแต่ละช่วงวัย เพื่อพิจารณาเลือกของเล่นให้เหมาะว่า ของเล่นประเภทไหนสำหรับเด็กเล็ก หรือเป็นของเล่นเด็กโต ให้ทุกการเล่นของลูกได้พัฒนาร่างกาย จิตใจ และอารมณ์  พฤติกรรมการเล่นของเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี เด็กวัยแรกเกิดถึง 3 เดือน จะเริ่มมีพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสการมองเห็นและการได้ยินในช่วงแรกของชีวิต จึงเหมาะกับของเล่นที่มีสีสันสดใส มีเสียง และเคลื่อนไหวได้ การแขวนของเล่นสีสดใสที่มีเสียงแกว่งไปมา จะช่วยให้เด็กกรอกตามอง สังเกตความเคลื่อนไหว และได้ยินเสียงไปด้วย ต่อมาเด็กจะสามารถใช้กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวได้ เริ่มบังคับกล้ามเนื้อได้ และชอบคว้าของเล่นเข้าปาก จึงควรเลือกของเล่นที่ปลอดภัย สามารถนำเข้าปากได้ ไม่อันตราย และไม่ควรมีขนาดเล็กเพื่อป้องกันไม่ให้ติดคอหรือสำลัก พฤติกรรมการเล่นของเด็กช่วงวัย 1-2 ปี เด็กวัยนี้เริ่มเกาะเดินได้ จึงควรได้ฝึกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ อีกทั้งเป็นช่วงวัยที่ชอบเรียนรู้ สนุกกับอะไรใหม่ ๆ ผู้ใหญ่จึงควรอยู่ใกล้ชิดขณะที่เด็กเล่นของเล่นเพื่อความปลอดภัย […]


เด็กทารก

พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน และวิธีเสริมพัฒนาการเด็กอย่างเหมาะสม

เด็ก 5 เดือน เป็นช่วงวัยที่มีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้น เด็กจะตัวใหญ่ขึ้น มีพัฒนาการทางกายภาพและการเคลื่อนไหว รวมถึงพัฒนาการในด้านอื่น ๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น การเรียนรู้ถึง พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน และวิธีเสริมพัฒนาการเด็กในวัยนี้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์สมวัย [embed-health-tool-bmi] พัฒนาการ เด็ก 5 เดือน มีอะไรบ้าง พัฒนาการทั่วไปของเด็กอายุ 5 เดือน อาจมีดังต่อไปนี้ พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม สามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลายขึ้น เช่น ยิ้มเมื่อมีความสุข เบ้ปากเมื่อไม่สบายตัว หัวเราะชอบใจ รู้สึกตื่นตัวเมื่อมีคนเข้ามาใกล้ ยิ้มแย้มเมื่อได้อยู่กับคนหรือเมื่อมีคนสนใจ จำหน้าคุณพ่อคุณแม่หรือคนในบ้านได้ พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร สามารถพูดอ้อแอ้ตามประสาทารกและอาจมีบางคำที่เริ่มฟังเหมือนคำพูดจริง ๆ มีการนำเสียงพยัญชนะและสระมาผสมเข้าด้วยกัน เช่น “มา-มา” แต่ยังอาจไม่เข้าใจความหมายของคำ และยังไม่รู้ว่าหมายถึงบุคคลใด แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจหันศีรษะไปตามเสียงเรียกชื่อหรือคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น คำว่า “ไม่” สามารถแสดงท่าทาง เคลื่อนไหวร่างกาย ใช้เสียงต่าง ๆ ในการสื่อสารเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เช่น ร้องไห้เมื่อถูกขัดใจ ปัดมือออกเมื่อไม่อยากกินอาหาร ส่งเสียงเรียกให้คนเข้ามาหา ชูแขนให้อุ้ม พัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว […]


โภชนาการสำหรับทารก

อาหารเด็ก7เดือน ที่ช่วยเสริมสุขภาพและพัฒนาการ

นมแม่เป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก 7 เดือน อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ อาหารเด็ก7เดือน ที่เป็นอาหารประเภทอื่นเสริมด้วยได้ โดยอาจให้เด็ก 7 เดือนกินธัญพืช พืชหัว ผักใบเขียว ผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากนมวัว ไข่สุก เนื้อปลา ที่บดหรือปั่นจนละเอียดและเคี้ยวง่าย ในปริมาณน้อย วันละ 2-3 ครั้ง ซึ่งอาจเสริมสร้างโภชนาการและช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย [embed-health-tool-child-growth-chart] เด็ก7เดือน กินอาหารแข็งได้หรือยัง อาหารแข็ง (Solid Food) เป็นอาหารที่ผ่านการบดจนละเอียดเพื่อช่วยให้ย่อยได้ง่าย เหมาะกับระบบย่อยอาหารของเด็กที่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยทั่วไปจะเป็นผักและผลไม้บด เนื้อสัตว์บด ธัญพืชบด เป็นต้น บางครั้งอาจผสมกับนมแม่เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและช่วยให้เด็กกินได้สะดวกขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เด็กเริ่มกินอาหารแข็งได้เมื่อเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเด็กเริ่มต้องการพลังงานมากขึ้นและจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอื่น ๆ นอกเหนือไปจากนมแม่ในการเจริญเติบโต ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้กินนมแม่ในปริมาณเท่าเดิมควบคู่ไปด้วย ไม่ควรหยุดให้นมแม่โดยทันที เนื่องจากนมแม่ยังคงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เด็ก 7 เดือน ถือเป็นวัยที่กินอาหารแข็งได้แล้ว และหากให้เด็กเริ่มกินอาหารแข็งตั้งแต่อายุ 6 เดือน ในตอนนี้เด็กก็จะคุ้นเคยกับการกินอาหารแข็งบ้างแล้ว แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่บดหรือปั่นอาหารให้ละเอียด เด็กจะได้กินง่ายขึ้นและช่วยให้ย่อยง่ายด้วย โดยควรให้เด็ก 7 เดือนกินอาหารแข็งครั้งละครึ่งถ้วย […]


เด็กทารก

ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิด เลือกแบบไหนดี และวิธีป้องกันผื่นผ้าอ้อม

ผ้าอ้อม เด็ก แรก เกิด สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ผ้าอ้อมแบบผ้า และผ้าอ้อมสำเร็จรูป หลายบ้านมักเลือกใช้ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิดทั้ง 2 ประเภทสลับกันไปตามความสะดวก เช่น ใส่ผ้าอ้อมแบบผ้าในตอนกลางวันแล้วใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปในตอนกลางคืน ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีเปลี่ยนผ้าอ้อมที่ถูกต้อง เพราะอาจช่วยป้องกันการเกิดผื่นผ้าอ้อมได้ [embed-health-tool-baby-poop-tool] ผ้าอ้อม เด็ก แรก เกิด ควรเลือกอย่างไร การเลือกใช้ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิดอาจพิจารณาจากข้อดีและข้อเสียของผ้าอ้อมแต่ละประเภท ดังนี้ ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิดแบบผ้า (Cloth diaper) ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิดแบบผ้า เช่น ผ้าอ้อมผ้าสาลู ผ้าอ้อมหนังไก่ (ทำจากผ้าสำลีกับผ้าสาลู) สามารถระบายอากาศได้ดีและไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ทั้งยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากผ้าอ้อมเด็กแรกเกิดแบบผ้าสามารถซักให้สะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ข้อดี อ่อนโยนต่อผิวเด็กที่บอบบาง ระบายอากาศได้ดี ลดการเกิดผื่นผ้าอ้อม มีชนิดของเนื้อผ้าให้เลือกเยอะ ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าแบบใช้แล้วทิ้ง สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก ข้อเสีย ซึมเปื้อนได้ง่าย อาจต้องใช้กางเกงหรือแผ่นรองซับ ต้องซักผ้าอ้อมเป็นประจำทุกวัน ไม่สะดวกเมื่อต้องเดินทาง ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิดแบบสำเร็จรูป (Disposable diaper) หรือผ้าอ้อมเด็กแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นผ้าอ้อมเด็กที่มีคุณสมบัติดูดซับของเสียได้ดี มีทั้งแบบเทปกาวและแบบกางเกง สำหรับเด็กแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบเทปกาวที่มีราคาถูกกว่าเนื่องจากเด็กในวัยนี้จะขับถ่ายบ่อย โดยเฉพาะหลังกินนมทุกครั้ง ทำให้อาจต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมประมาณ 10 ครั้ง/วัน […]


เด็กทารก

ทารก 2 เดือน และการเสริมพัฒนาการอย่างสร้างสรรค์

ทารก 2 เดือน เป็นวัยที่เริ่มแสดงลักษณะนิสัยให้คุณพ่อคุณแม่เห็นมากขึ้น คุณแม่จะเริ่มสังเกตได้ว่าลูกชอบหรือไม่ชอบอะไร จะนอนหลับ ขับถ่าย หรือรู้สึกหิวช่วงไหน โดยทั่วไป ทารกวัยนี้จะเริ่มตื่นในตอนกลางวันมากขึ้น เปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ได้สื่อสารกับทารกมากขึ้น อีกทั้งทารก 2 เดือนยังสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ราบรื่นขึ้น เริ่มแสดงกิริยาเพื่อสื่อสารกับคนรอบข้าง คุณพ่อคุณแม่อาจช่วยเสริมพัฒนาการของทารก 2 เดือนได้ด้วยการใช้เวลาพูดคุย เปิดเพลงกล่อมเบา ๆ เล่านิทานให้ฟังก่อนนอน เป็นต้น [embed-health-tool-child-growth-chart] ทารก 2 เดือน และพัฒนาการที่ควรรู้ พัฒนาการทั่วไปของทารก 2 เดือน อาจมีดังต่อไปนี้ พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม มีท่าทางสงบลงเมื่อถูกอุ้มและมีคนพูดคุยด้วย ยิ้มแย้มเมื่อมีคนพูดคุยด้วยหรือยิ้มให้ แสดงอาการดีใจเมื่อมีคนเดินเข้าไปหา ชอบมองใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร ตื่นตัวเมื่อได้ยินเสียงและหันไปหาต้นเสียง ส่งเสียงอ้อแอ้ แทนที่จะร้องไห้เพียงอย่างเดียว แสดงออกทางสีหน้าและท่าทางเพื่อพยายามบอกความต้องการของตัวเอง พัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ยกศีรษะเมื่ออยู่ในท่านอนคว่ำ ขยับแขนขาทั้งสองข้างไปมาได้อย่างราบรื่น คลายมือออกได้ เอื้อมมือไปจับใบหน้าของคนที่เอาหน้ามาใกล้ ๆ แกว่งมือไปทางวัตถุ พัฒนาการด้านสติปัญญา เริ่มมองตามคนและวัตถุ เริ่มงอแงหรือหงุดหงิดเมื่อรู้สึกเบื่อหน่าย ให้ความสนใจกับใบหน้าที่เห็น สัญญาณความผิดปกติใน ทารก 2 เดือน ตามปกติแล้ว พัฒนาการของทารกแต่ละคนจะแตกต่างกันไป และอาจพัฒนาได้ช้าเร็วไม่เท่ากันแม้จะอยู่ในวัยเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากทารก 2 เดือน มีความผิดปกติต่อไปนี้ […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

ครีมกันแดดเด็ก แบบไหนกันแดดได้ดี และปลอดภัยต่อลูกน้อย

การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ ที่มีผิวบอบบาง เมื่อเด็กอายุเกิน 6 เดือน คุณพ่อคุณแม่ควรทา ครีมกันแดดเด็ก ซึ่งมีส่วนประกอบที่อ่อนโยนต่อผิวเด็ก และควรสอนให้เด็ก ๆ ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมกันแดดสามารถช่วยปกป้องผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ [embed-health-tool-child-growth-chart] ครีมกันแดดเด็ก ควรเลือกแบบไหน การสัมผัสแสงแดดโดยตรง อาจทำให้ผิวหนังได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี (Ultraviolet หรือ UV) ซึ่งประกอบไปด้วยรังสียูวีเอ (UVA) ที่มีส่วนสร้างความเสียหายให้กับผิว อาจทำให้ผิวเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ และรังสียูวีบี (UVB) ที่ทำให้ผิวชั้นนอกไหม้แดด กระตุ้นการสร้างเมลานินใหม่เป็นสีน้ำตาล ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ทั้งยังทำลายดีเอ็นเอใต้ผิวหนัง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง สำหรับการป้องกันผิวของลูกน้อยจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือก ครีมกันแดดเด็ก ที่มีซิงค์ออกไซด์ (Zinc oxide) หรือ ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium dioxide หรือ TiO2) เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีความสามารถในการเป็นเกราะป้องกันแสงแดดและสะท้อนแสงแดด ทั้งยังเป็นสารที่อ่อนโยนต่อผิวและไม่ทำให้ผิวเด็กที่บอบบางระคายเคือง นอกจากนี้ ควรเลือกครีมกันแดดเด็กที่มีค่าเอสพีเอฟ (SPF) […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

โนโรไวรัส สาเหตุอาการท้องเสียที่ระบาดในเด็ก

โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นเชื้อไวรัสก่อโรคในระบบทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยในเด็ก เชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น น้ำลาย น้ำมูก อาเจียน อุจจาระ การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน ยิ่งหากเด็กอยู่ในพื้นที่ปิดและมีผู้คนพลุกพล่านอย่างโรงเรียน เนอสเซอรี สถานรับเลี้ยงเด็ก ก็ยิ่งเสี่ยงรับเชื้อได้ง่าย การรักษาโรคติดเชื้อโนโรไวรัสทำได้ด้วยการดูแลให้ผู้ติดเชื้อพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก ๆ และหลีกเลี่ยงการออกไปที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น โดยทั่วไป หากดูแลถูกวิธี อาการจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเด็กเล็กหรือวัยเรียนจึงควรรักษาความสะอาดบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยเป็นประจำ และฝึกให้ลูกดูแลสุขอนามัยของตัวเองให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโนโรไวรัส [embed-health-tool-vaccination-tool] โนโรไวรัส คืออะไร โนโรไวรัส เป็นชื่อกลุ่มไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ไวรัสชนิดนี้พบได้บ่อยและติดต่อได้ง่ายมาก มักระบาดในหมู่เด็กเล็กและเด็กวัยเรียนที่รวมตัวกันในสถานที่เดียวกันหรือรับประทานอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้กับคนจำนวนมาก เช่น เนอสเซอรี่ สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทหอยดิบหรือหอยที่สุกไม่ทั่วถึง ผักและผลไม้ที่ยังไม่ปรุงสุกหรือล้างไม่สะอาด นอกจากนี้ โนโรไวรัสยังสามารถแพร่กระจายผ่านวิธีต่อไปนี้ได้ด้วย การสัมผัสกับน้ำลาย อาเจียน หรืออุจจาระของผู้ติดเชื้อ การรับละอองอาเจียนของผู้ติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย การสัมผัสกับมือที่ไม่ได้ล้างของผู้ติดเชื้อ การสัมผัสกับวัตถุที่ผู้ติดเชื้อสัมผัสมาก่อน การรับประทานอาหารและน้ำดื่มร่วมกับผู้ติดเชื้อ อาการของการติดเชื้อ โนโรไวรัส การติดเชื้อโนโรไวรัสอาจทำให้มีอาการต่อไปนี้ อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือน มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยทั่วไป ผู้ติดเชื้อโนโรไวรัสจะแสดงอาการภายใน 1-2 วันหลังรับเชื้อ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน