พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

การเติบโตและพัฒนาการ

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ควรเลือกซื้ออย่างไร

ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ที่เหมาะสมกับช่วงวัยจะช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสมตามลำดับ การศึกษาเรื่องพัฒนาการเด็ก ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์และสังคม ภาษาและการสื่อสาร ความคิด รวมถึงสัญญาณของพัฒนาการที่ผิดปกติ อาจช่วยให้คุณพ่อคุณแมเข้าใจและสามารถเลือกซื้อของเล่นที่เหมาะกับพัฒนาการของเด็กได้มากขึ้น พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พัฒนาการตามช่วงวัยของเด็ก 3 ขวบ อาจมีดังนี้ พัฒนาการด้านร่างกาย เด็ก 3 ขวบส่วนใหญ่สามารถทำกิจกรรมทางกาย เช่น ปีนป่าย วิ่ง กระโดดไปมา กระโดดขาเดียว ได้ เด็กบางคนอาจเดินลงบันไดโดยก้าวเท้าลงทีละข้าง หรือเริ่มใส่เสื้อผ้าเองเป็น คุณพ่อคุณแม่อาจช่วยฝึกพัฒนาทักษะการทรงตัวของเด็กได้ด้วยการให้เด็กหัดขี่รถจักรยานสามล้อ เป็นต้น พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม เด็ก 3 ขวบมักมีพฤติกรรมเลียนแบบคนรอบข้าง เริ่มไม่งอแงเมื่อต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ และรู้จักแสดงออกทางอารมณ์มากขึ้น เช่น บอกรักหรือแสดงความรักต่อคุณพ่อคุณแม่อย่างเปิดเผย รู้จักแบ่งปันกับคนอื่น เริ่มแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเวลาที่เห็นคนรอบข้างเศร้า พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร เด็ก 3 ขวบสามารถบอกชื่อต้น อายุ และเพศของตัวเองได้ จำชื่อเพื่อนได้ สามารถสนทนาได้ประมาณ 3-4 คำ/ประโยค และทำตามคำสั่งหลายขั้นตอนได้แล้ว เช่น เข้าใจคำสั่งที่ให้ […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

ครีมอาบน้ำเด็ก ควรเลือกซื้ออย่างไร และวิธีอาบน้ำเด็กอย่างปลอดภัย

ครีมอาบน้ำเด็ก เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ควรเลือกซื้อโดยคำนึงถึงคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิว และความปลอดภัยต่อผิวของเด็กเป็นสำคัญ อาจเลือกที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน และควรหลีกเลี่ยงสารเคมีบางชนิดที่อาจระคายผิวเด็ก เช่น พาราเบน น้ำหอม สารกลุ่มพาทาเลต หากพบว่าเด็กมีผื่นคัน ผิวลอกแดง เป็นต้น อาจเป็นสัญญาณของอาการแพ้ครีมอาบน้ำ ควรให้เด็กเลิกใช้ครีมอาบน้ำนั้นทันที และปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีบรรเทาอาการที่เหมาะสม นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีการอาบน้ำเด็กอย่างปลอดภัย เช่น การติดตั้งอุปกรณ์กันลื่นไว้ในห้องน้ำ การเช็ดเท้าเด็กให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในห้องน้ำได้ วิธีเลือก ครีมอาบน้ำเด็ก วิธีเลือกครีมอาบน้ำเด็กที่เหมาะสม อาจมีดังต่อไปนี้ อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เลือกครีมอาบน้ำที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือน้ำหอมที่อาจระคายผิวหนังและการหายใจของเด็ก บางยี่ห้ออาจระบุว่าเป็นแบบ ไฮโปอัลโลจีนิก (Hypo-Allergenic) ซึ่งหมายถึงผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าอ่อนโยน อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้และการระคายเคือง หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิก เลือกครีมอาบน้ำเด็กมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) น้ำมันมะกอก ซึ่งมีคุณสมบัติที่อ่อนโยนต่อผิว และอาจปลอดภัยกับเด็กมากกว่า หลีกเลี่ยงสารสกัดบางชนิด ไม่เลือกใช้ครีมอาบน้ำเด็กที่มีส่วนผสมจากสารกลุ่มพาทาเลต (Phthalates) ซึ่งใช้เป็นวัตถุกันเสียที่มักใช้ในครีมอาบน้ำและแชมพู และพาราเบน (Parabens) ที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กและการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ทดลองกับผิวก่อนใช้จริง เมื่อซื้อครีมอาบน้ำเด็กมาใช้เป็นครั้งแรก ควรนำไปทดสอบบนผิวเด็กก่อนเล็กน้อย อาจหยดลงบริเวณแขน เพื่อดูว่าก่อให้เกิดอาการแพ้ คัน ระคายเคืองหรือไม่ ก่อนนำไปใช้ชโลมลงผิวเด็กในตอนอาบน้ำ […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

ของใช้เด็กที่จำเป็น มีอะไรบ้าง และวิธีเลือกของใช้เด็กที่เหมาะสม

ของใช้เด็ก สำหรับเด็กทารกถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อของใช้เด็กที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้าเด็กอ่อน ของใช้ในการอาบน้ำสำหรับเด็ก อุปกรณ์การนอนของเด็ก อุปกรณ์ในการทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เบาะนั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก (Car Seat) อย่างรอบคอบและใส่ใจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ความคุ้มค่า และความปลอดภัยของเด็กในการใช้งานมากที่สุด ของใช้เด็ก ที่จำเป็น มีอะไรบ้าง หมวดเครื่องแต่งกายสำหรับเด็ก เครื่องแต่งกายที่จำเป็นสำหรับเด็ก มีดังนี้ ควรเลือกให้เหมาะกับวัยของเด็ก ในช่วงแรกเกิดเด็กจะโตไวมาก จึงไม่ควรซื้อเสื้อผ้าเก็บไว้เยอะเพราะอาจไม่ทันใช้ หรืออาจต้องซื้อใหม่ทั้งที่ใส่ไปไม่กี่ครั้งหรือเพิ่งซื้อมา เสื้อผ้าเด็กอ่อนที่จำเป็น ได้แก่ ชุดเด็กแบบชิ้นเดียว ชุดนอนเด็กชิ้นเดียวที่แบบกระดุมหน้า ถุงเท้าเด็กสำหรับใส่กันหนาวเวลานอนหรือออกไปข้างนอก เสื้อกันหนาวหรือเสื้อกันลม ผ้าห่อตัว หมวกใส่กันลม การเลือกเสื้อผ้าให้เด็กควรเน้นเรื่องความสบายในการสวมใส่ และควรเหมาะกับสภาพอากาศ เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็ก วิธีเลือกเสื้อผ้าเด็กอ่อน เลือกชุดที่ทำจากวัสดุธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวและระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าป่าน ผ้าฝ้าย ผ้าจากเยื่อไผ่ เพราะเด็กจะได้สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิว เลี่ยงการใช้เสื้อผ้าที่มีกระดุมขนาดเล็ก โบว์ตกแต่ง เพราะเด็กอาจดึงหรือหยิบเข้าปาก จนอาจติดหลอดลมหรือสำลัก หรืออาจไปพันคอตอนเด็กหลับ ควรเลือกขนาดเสื้อผ้าของเด็กตามขนาดตัวมากกว่าช่วงอายุ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีขนาดตัวไม่เท่ากันแม้จะมีอายุที่ใกล้เคียงกัน เลือกเสื้อผ้าที่ใส่และถอดง่าย เช่น เสื้อผ้าที่มีซิปด้านหน้า เสื้อผ้าที่แขนหลวมและบาน เสื้อแบบผูกจากด้านหลัง เสื้อที่มีคอกว้าง หมวดของใช้ในการอาบน้ำสำหรับเด็ก อุปกรณ์ที่ใช้ในการอาบน้ำสำหรับเด็ก มีดังนี้ […]


การดูแลทารก

กรรไกรตัดเล็บทารก วิธีการใช้อย่างปลอดภัย

เล็บของทารกยาวเร็ว คุณพ่อคุณแม่จึงควรตัดเล็บให้ทารกเป็นประจำ เพื่อรักษาความสะอาด และป้องกันไม่ให้เล็บทารกยาวจนข่วนหน้าหรือผิวของตัวเองและคนอื่น โดยปกติแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรตัดเล็บให้ทารกอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือเมื่อเห็นว่ายาวแล้วโดยใช้ กรรไกรตัดเล็บทารก โดยเฉพาะ และสามารถเริ่มตัดเล็บทารกได้ตั้งแต่ทารกมีอายุไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความยาวของเล็บทารก ทั้งนี้ ควรศึกษาวิธีเลือกกรรไกรตัดเล็บและวิธีตัดเล็บทารกอย่างถูกต้อง ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายหรือปัญหาสุขภาพในทารกจากการตัดเล็บไม่ถูกต้อง [embed-health-tool-vaccination-tool] ขั้นตอนการตัดเล็บทารก ขั้นตอนการตัดเล็บทารกอย่างปลอดภัย อาจมีดังนี้ จับมือและนิ้วของทารกให้มั่น โดยอาจให้ทารกอยู่บนตัก จะได้ตัดเล็บทารกถนัดขึ้น กดเนื้อบริเวณใต้เล็บลงเพื่อให้มีพื้นที่ในการตัดและเลี่ยงไม่ให้กรรไกรโดนผิวทารก ตัดเล็บทารกให้เหลือเนื้อเล็บโผล่มาเล็กน้อย อย่าตัดจนสั้นกุด สำหรับนิ้วมือ ให้ตัดโค้งตามรูปเล็บ สำหรับนิ้วเท้า ให้ตัดเล็บเป็นเส้นตรง ตะไบเล็บทารกอย่างเบามือ เพื่อให้ขอบเล็บของทารกเรียบเนียน ไม่แหลมคมจนอาจข่วนตัวเองหรือคนอื่นได้ อาจพิจารณาเลือกตัดเล็บในช่วงเวลาที่ทารกหลับ จะง่ายในการตัดมากกว่า ควรตัดเล็บมือให้ทารกอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ส่วนนิ้วเท้าที่เคลื่อนไหวน้อยกว่าเล็บมักยาวช้ากว่า จึงอาจตัดประมาณ 2 ครั้ง/เดือนแล้วแต่ ถ้ายาวเร็วก็พิจารณาตัดได้ทุกสัปดาห์และหมั่นคอยตรวจสอบว่าทารกมีเล็บขบด้วยหรือไม่ และหากเผลอตัดเล็บเข้าเนื้อทารกจนเลือดออก ควรผ้าก๊อซปลอดเชื้อกดบริเวณแผลเบา ๆ เพื่อห้ามเลือดแล้วใช้ยาปฏิชีวนะชนิดทาป้ายที่แผลบาง ๆ เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ ไม่ควรใช้ผ้าพันแผลแปะหรือพันนิ้วทารก เพราะอาจจะหลุดเข้าปากเวลาทารกอมนิ้วได้ กรรไกรตัดเล็บทารก ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย การตัดเล็บให้ทารกต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าการตัดเล็บของผู้ใหญ่ ซึ่งวิธีการใช้กรรไกรตัดเล็บทารกให้ปลอดภัย อาจมีดังนี้ เลือกชนิดกรรไกรตัดเล็บที่เหมาะสม ใช้อุปกรณ์ตัดเล็บทารกที่มีปลายมนและเหมาะสมกับวัยของทารก เช่น กรรไกรตัดเล็บทรงโค้ง ตะไบตัดเล็บสำหรับทารก ไม่ใช้กรรไกรตัดเล็บผู้ใหญ่ เพราะมีขนาดใหญ่เกินขนาดนิ้วมือและนิ้วเท้าของทารก […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

เด็กเกเร สาเหตุ และวิธีรับมือที่ควรรู้

พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ หรือการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมของเด็ก เช่น เด็กเกเร เด็กก้าวร้าว สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เด็กอาจจะเหนื่อย หิว ตื่นเต้นมากเกินไป หรือบางครั้ง เด็กอาจแค่เบื่อเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาสาเหตุที่อาจทำให้เด็กเกเร และเรียนรู้วิธีที่จะช่วยให้เด็กปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้นอย่างเหมาะสม สาเหตุที่ทำให้เด็กเกเร เมื่ออายุได้ 1-4 ขวบ เด็กจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังต้องการความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ และยังรับมือกับความผิดหวังและอารมณ์ของตัวเองได้ไม่ดี ทั้งยังสื่อสารความต้องการหรือความรู้สึกได้ไม่มากนัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการของเด็กในวัยนี้ เมื่อโดนบังคับหรือขัดใจ เด็กจึงมักแสดงพฤติกรรมที่อาจดูเป็นเด็กเกเร เช่น ก้าวร้าว รุนแรง ไม่เชื่อฟัง เอาแต่ใจตัวเอง ลงไปนอนร้องไห้กับพื้น ขว้างปาสิ่งของ หรือแผดเสียงร้อง การที่เด็กเกเรไม่เชื่อฟัง อาจเกิดได้จากสาเหตุเหล่านี้ ความหิว ความเหนื่อยล้า ความไม่พอใจ ต้องการความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ ต้องการของบางอย่าง เช่น ตุ๊กตา ของเล่น ต้องการแสดงออกว่าไม่อยากทำสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ เช่น เก็บของเล่น ทำความสะอาด พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้อาจลดลงเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียน ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กสามารถพูดและสื่อสารให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจในความต้องการได้มากขึ้นแล้ว วิธีรับมือเมื่อ เด็กเกเร วิธีดังต่อไปนี้ อาจช่วยแก้ไขปัญหาเด็กเกเร ไม่เชื่อฟังได้ พูดคุยกับเด็กโดยตรง พูดคุยสะท้อนอารมณ์ของเด็กให้เด็กรู้จักอารมณ์ของตัวเองขณะนั้น เช่น หนูกำลังโมโห หนูกำลังไม่พอใจ หนูอยากได้ของเล่นชิ้นนี้ใช่ไหม […]


โภชนาการสำหรับทารก

ตารางอาหารทารก 6 เดือน และคำแนะนำการป้อนอาหารทารก

ทารก 6 เดือน เป็นช่วงวัยที่ควรเริ่มฝึกรับประทานอาหารแข็ง เพื่อเพิ่มสารอาหารอื่น ๆ นอกจากนม เพราะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระตุ้นการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรจัด ตารางอาหารทารก 6 เดือน อย่างเหมาะสม โดยศึกษาอาหารที่ทารกควรรับประทาน และควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้ทารกได้รับสารอาหารที่สมวัย และมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ [embed-health-tool-bmr] อาหารที่เหมาะสำหรับทารก 6 เดือน  อาหารที่เหมาะสำหรับทารก 6 เดือน ได้แก่ 1. อาหารประเภทแป้ง ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นพลังงานที่ดีสำหรับทารก โดยควรปั่นหรือบดอาหารให้ละเอียดและอาจผสมกับนมแม่ เพื่อให้ทารกรับประทานได้ง่ายขึ้น อาหารประเภทแป้งที่ทารก 6 เดือน อาจรับประทานได้ มีดังนี้ ข้าวโอ๊ต พาสต้า มันฝรั่ง มันเทศ ข้าวโพด ข้าว ขนมปัง 2. อาหารประเภทโปรตีน โปรตีนเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสร้างแอนติบอดีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายของทารกสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ และอาจช่วยเพิ่มการลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทั่วร่างกาย  โดยควรปรุงอาหารให้สุกและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าทารกมีอาการแพ้หรือไม่ เพราะอาหารบางชนิด เช่น ถั่ว ไข่ […]


โรคระบบประสาทในเด็ก

กลุ่มอาการดาวน์ เกิดจากอะไร และควรดูแลลูกอย่างไร

กลุ่มอาการดาวน์ หรือดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจแสดงอาการตั้งแต่เด็ก โดยอาจสังเกตได้จากพฤติกรรม การแสดงออก การสื่อสาร และการเรียนรู้ที่ล่าช้า สมาธิสั้น ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถฝึกทักษะต่าง ๆ เพิ่มช่วยส่งเสริมให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต กลุ่มอาการดาวน์ เกิดจากอะไร กลุ่มอาการดาวน์ เป็นโรคทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมในคู่ที่ 21 โดยปกติแล้วร่างกายจะมีโครโมโซม 23 คู่ หรือ 46 แท่ง ที่ได้รับจากคุณพ่อคุณแม่อย่างละครึ่ง แต่หากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง รวมเป็น 47 แท่ง ก็อาจเสี่ยงเป็นกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ส่งผลให้ลูกอาจมีสติปัญญาบกพร่อง มีพัฒนาการการเคลื่อนไหวและการเรียนรู้ล่าช้า อีกทั้งยังอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ การมองเห็นและการได้ยินผิดปกติ ประเภทของกลุ่มอาการดาวน์ ประเภทของกลุ่มอาการดาวน์ มี 3 ประเภท ดังนี้  Trisomy 21 เป็นประเภทที่พบได้บ่อย เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง Translocation Down syndrome คือภาวะที่โครโมโซมคู่ที่ […]


วัคซีน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ การฉีดวัคซีน โควิด-19 สำหรับเด็ก

การฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็ก อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบขึ้นไป หรือตามคำแนะนำของคุณหมอ อีกทั้งยังควรปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เช่น ให้ลูกสวมหน้ากากอนามัย ฝึกให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ และไม่ควรพาลูกไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง มีผู้คนมาก เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทำไมเด็กจึงควรรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โรคโควิด-19 สามารถเป็นได้ทุกช่วงวัย ไม่เว้นแม้แต่วัยเด็ก จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยระบุว่า เด็กอายุแรกเกิด-18 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ เดือนเมษายน-เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 มีทั้งหมด 310,648 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อในเด็กลดลงต่อเนื่อง และมีจำนวนเด็กเสียชีวิตน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงอายุอื่น ๆ การพาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยสร้างแอนติบอดี ลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรง และลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น ๆโดยเฉพาะเมื่อได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสตามกำหนด อายุที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ขวบ สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่าควรปรึกษาคุณหมอ เพราะอาจจำเป็นต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาชัดเจนมากเพียงพอ ชนิดของวัคซีนโควิด-19 ที่เหมาะสำหรับเด็ก สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 5-17 ปี อาจเหมาะสำหรับวัคซีน Pfizer-BioNTech […]


สุขภาพเด็ก

ลูกไม่ยอมนอน เกิดจากอะไร ควรแก้ไขอย่างไร

ลูกไม่ยอมนอน ตื่นกลางคืนบ่อย หรือหลับยาก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น นอนกลางวันมากเกินไป อยู่ในช่วงวัยที่ห่วงเล่น ความเจ็บป่วย และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่รบกวนการนอนหลับของลูก หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกพักผ่อนเพียงพอ ควรศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาที่ช่วยให้ลูกนอนหลับได้สนิท เพื่อป้องกันอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียระหว่างวัน สาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมนอน ลูกไม่ยอมนอน อาจมีสาเหตุดังต่อไปนี้ นอนกลางวันมากเกินไป ลูกอาจรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมระหว่างวัน เช่น วิ่งเล่น เล่นกีฬา จนอาจเผลองีบหลับในตอนกลางวันนานเกินไป ทำให้ไม่รู้สึกง่วงเมื่อถึงเวลาที่ควรนอน และอาจตื่นในตอนกลางคืน อยู่ในช่วงวัยห่วงเล่น เมื่อลูกเริ่มมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว การเรียนรู้ และการเข้าสังคมมากขึ้น อาจทำให้มีความกระตือรือร้นตลอดเวลา ห่วงเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อน หรือของเล่นต่าง ๆ จนทำให้ลูกไม่ยอมนอน การเจ็บป่วย ความรู้สึกไม่สบายตัวจากการเจ็บป่วย อาจทำให้ลูกไม่ยอมนอนหรือหลับไม่สนิท ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ ท้องเสีย กินอาหารได้น้อย ร้องไห้ สภาพแวดล้อม เช่น อากาศภายในห้องร้อนเกินไป เสียงรบกวน แสงไฟ การเคลื่อนไหวของคุณพ่อคุณแม่ อาจรบกวนการนอนของลูกทำให้ลูกสะดุ้งตื่นและไม่ยอมนอนอีก ความหิว เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในทารก เนื่องจากลูกน้อยมีกระเพาะอาหารขนาดเล็ก ทำให้จุอาหารได้น้อย และย่อยอาหารได้เร็ว […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

การเจริญเติบโตของทารก ช่วงวัยขวบปีแรก และวิธีการดูแล

การเจริญเติบโตของทารก ในช่วงขวบปีแรกอาจแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคน บางคนอาจมีพัฒนาการเหมาะสมกับช่วงวัย แต่บางคนก็อาจมีพัฒนาการล่าช้า ขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพและการดูแลของผู้ปกครอง ดังนั้น เพื่อให้ลูกน้อยเจริญเติบโตสมวัย คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีดูแลลูกอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังควรสังเกตอาการผิดปกติ และควรแจ้งให้คุณหมอทราบทันที เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดและทำการรักษา เพื่อให้ทารกมีพัฒนาการที่เหมาะสม สมบูรณ์ เป็นไปตามวัย [embed-health-tool-baby-poop-tool] พัฒนาการและ การเจริญเติบโตของทารก ในช่วงขวบปีแรก พัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกขวบปีแรก แบ่งออกเป็น 4 ช่วง ดังต่อไปนี้ ทารกอายุ 0-3 เดือน ในช่วง 3 เดือนแรก ร่างกายและสมองของทารกกำลังเข้าสู่ช่วงพัฒนาและเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตภายนอก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตพัฒนาการและการเจริญเติบโตได้ดังนี้ ทารกอาจเริ่มมองตามวัตถุที่อยู่ตรงหน้าไปมา ยิ้ม ตอบสนองต่อสิ่งที่เห็น หรือในขณะที่คุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูก เริ่มยกศีรษะหรือชันคอเองได้ เอื้อมมืออยากจับวัตถุ ของเล่น หรือตุ๊กตาที่พบเห็น จับนิ้วมือคุณพ่อคุณแม่ ของเล่น หรือสิ่งของรอบตัวและกำไว้ในมือ ทารกอายุ 4-6 เดือน ทารกอาจเริ่มมีการเรียนรู้มากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่มีการกระตุ้นพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกอย่างสม่ำเสมอด้วยการพูดคุยบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ทารกเริ่มจดจำ เลียนแบบ และตอบสนอง ทารกอาจเปล่งเสียงหัวเราะ หรือพูดภาษาอ้อแอ้ ส่งเสียงดัง มีการควบคุมศีรษะได้ดี เริ่มยกศีรษะได้นานขึ้นกว่าเดิม เริ่มมีการเคลื่อนไหวด้วยการพลิกคว่ำหรือหงายตัวไปมา เอื้อมมือออกไปหยิบสิ่งของต่าง ๆ และอาจสลับมือถือสิ่งของนั้น ๆ ด้วยตัวเอง ทารกอายุ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน