backup og meta

ระวัง! ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน รักษาไม่ทัน อันตรายถึงชีวิต


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 29/07/2021

    ระวัง! ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน รักษาไม่ทัน อันตรายถึงชีวิต

    ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เป็นอีกหนึ่งภาวะร้ายแรงที่ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากความเครียดและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว บทความนี้ Hello คุณหมอจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน กัน รู้ก่อน ป้องกันไว้ เพื่อที่เราจะได้รักษาได้ทันท่วงที

    ทำความรู้จักภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary)

    ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary) เกิดจาก การอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ เลือดจึงไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน เจ็บหน้าอก วิงเวียนศีรษะจะเป็นลม บางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เเละเสียชีวิตในที่สุด ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันมักเกิดจากการสะสมของไขมันหลายชนิดบนผนังหลอดเลือด เมื่อเกิดการสะสมมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดการปริแตกในผนังหลอดเลือด หากลิ่มเลือดอุดกั้นบางส่วนทำให้เลือดไม่สามารถลำเลียงไปยังกล้ามเนื้อหัวใจได้ 

    อย่างไรก็ตาม ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันมีลักษณะคล้ายกับโรคหัวใจชนิดอื่น ๆ และส่วนใหญ่มักเกิดกับบุคคลที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้

  • ผู้สูงอายุ
  • ความดันโลหิตสูง
  • ไขมันในเลือดสูง
  • การสูบบุหรี่
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • โรคอ้วน
  • โรคเบาหวาน
  • สมาชิกในครอบครัวที่มีประวัติเกี่ยวกับการเป็นโรคหัวใจ
  • การติดเชื้อโควิด-19
  • 5 สัญญาณเตือนภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือเฉียบพลัน

    หากคุณมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงนั่น อาจเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า คุณเข้าข่ายเป็นภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือเฉียบพลัน รวมถึงอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

    • มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
    • อาหารไม่ย่อย
    • รู้สึกกระสับกระส่ายหรือวิตกกังวล
    • เหงื่อออกอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ
    • รู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ 

    5 วิธีป้องกัน ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

    นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า เราสามารถลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ เนย อาหารฟาสต์ฟู้ด นมที่ไม่พร่องไขมัน
    • ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
    • ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักและผลไม้ให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และงดครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
    • ทำจิตใจให้แจ่มใส หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด อาจหากิจกรรมนันทนาการ เพื่อเสริมสร้างอารมณ์ เช่น วาดรูป ปลูกต้นไม้ นั่งสมาธิ เป็นต้น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 29/07/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา