โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม

สมุนไพรลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะสารสกัดในสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคทุกครั้ง  [embed-health-tool-bmi] สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม ขมิ้นชัน สรรพคุณ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ระบบการเผาผลาญภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมุนไพรขมิ้นชันจึงเป็นอีกกนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ผลข้างเคียง หากรับประทานขมิ้นชันในปริมาณสูงติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน  ขิง สรรพคุณ สารซิงเจอโรน ((Zingerone) ในขิงเป็นสารประกอบที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้สามารถควบคุมปริมาณในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ผลข้างเคียง ขิงเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้  แนะนำรับประทานไม่เกินวันละ 4 กรัม และในสตรีมีครรภ์ไม่เกินวันละ 1 กรัม  ส้มแขก สรรพคุณ หลายคนมักรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากส้มแขก เนื่องจากส้มแขกมีกรดมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (Hydroxycitric Acid: HCA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย และยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวน้อยลง  ผลข้างเคียง เวียนศีรษะ ปากแห้ง ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย  เม็ดแมงลัก สรรพคุณ เม็ดแมงลักเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โภชนาการพิเศษ

คนเป็น ความดันต่ำ ดื่มเบียร์ แล้วจะช่วยได้จริง ๆ เหรอ

หนึ่งในความเชื่อเรื่องการรักษาอาการของความดันโลหิตต่ำที่ได้ยินบ่อยที่สุด คงจะหนีไม่พ้นการ ดื่มเบียร์ บ่อยครั้งที่ผู้ที่มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เนื่องจากมีความดันโลหิตต่ำนั้น มักจะได้รับคำแนะนำว่า ให้ดื่มเบียร์เย็น ๆ สักแก้ว แล้วอาการของ ความดันต่ำ จะดีขึ้น แต่การดื่มเบียร์นั้น สามารถช่วยรักษาอาการของภาวะความดันโลหิตต่ำได้จริงหรือไม่ วันนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้คุณค่ะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลอย่างไรกับความดันโลหิต เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงนั้น จะได้รับคำแนะนำไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น สามารถเพิ่มระดับความดันโลหิตได้ โดยการกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือดเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีแรงดันในระบบไหลเวียนโลหิตเพิ่มมากขึ้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นใกว่าเดิม และหากผู้ที่มีความดันโลหิตเพิ่มขึ้นระยะยาวนั้นกลับมาเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะสามารถลดระดับของความดันโลหิตลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิต หรือมีระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง หรือสูงมากกว่า 140/90 มม.ปรอท ขึ้นไป ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหากเป็นผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอยู่แล้ว ก็ควรค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ลงมา เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มขึ้นสูงอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายวัน สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตในเกณฑ์ปานกลางหรือปกติ ควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ไม่เกินดังต่อไปนี้ ผู้ชายอายุต่ำกว่า 65 ปี ไม่ควรดื่มเกิน 2 ดริงก์ ผู้ชายอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ไม่ควรดื่มเกิน 1 ดริงก์ ผู้หญิง […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

Portion Size คืออะไร ต่างกับ Serving Size อย่างไร

การทราบข้อมูลเกี่ยวกับ Portion Size โดยเฉพาะความแตกต่างของ Portion Size กับ Serving Size ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่อาจส่งผลให้สามารถคำนวณปริมาณแคลอรี่และสารอาหารที่ควรได้รับต่อวันได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนักและการดูแลด้านโภชนาการในผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ที่ต้องควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละวันให้พอเหมาะ ความแตกต่างของ Portion Size และ Serving Size ปริมาณอาหารต่อจานหรือต่อถุงเวลาออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือซื้ออาหารกลับมากินที่บ้าน เรียกว่า Portion Size ส่วน Serving Size หมายถึง หนึ่งหน่วยบริโภค (ปริมาณที่ควรบริโภคต่อครั้ง) ซึ่งมักจะปรากฏอยู่ในข้อมูลโภชนาการของอาหารแต่ละชนิด โดยปกติแล้ว ปริมาณต่อจานหรือต่อถุง (Portion Size) และหนึ่งหน่วยบริโภค (Serving Size) อาจไม่เท่ากันเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น มันฝรั่งทอด 1 ถุง มี Portion Size หรือปริมาณต่อซอง 30 กรัม อาจมี Serving Size หรือหนึ่งหน่วยบริโภคที่ระบุในข้อมูลโภชนาการ คือ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ซุปมิโซะ อีกหนึ่งอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ซุปมิโซะ ทำมาจากการนำถั่วเหลืองไปบดให้มีเนื้อค่อนข้างละเอียด และหมักด้วยเกลือตามอัตราส่วนตามแต่ละสูตร กระบวนการหมักมิโซะนั้นทำให้เกิดโปรไบโอติก หรือแบคทีเรียชนิดดี ซึ่งมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าแบคทีเรียที่ดีชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะทำให้สุขภาพของทางเดินอาหารคุณแข็งแรง ซุปมิโซะทำมาจากอะไร ซุปมิโซะ ทำมาจากการนำถั่วเหลืองไปบดให้มีเนื้อค่อนข้างละเอียด และหมักด้วยเกลือตามอัตราส่วนตามแต่ละสูตร ปกติแล้วสีของมิโซะจะออกเป็นสีเหลืองเข้ม แต่ก็มีบางสูตร หรือบางร้านอาหารที่อาจจะพบว่าสีของน้ำซุปเปลี่ยนไป จนเกิดข้อสงสัยว่าใช่น้ำซุปมิโซะแท้หรือไม่ ซึ่งสาเหตุที่สีของน้ำซุปเปลี่ยนไม่คุ้นตาดังเดิม อาจเป็นเพราะวัตถุดิบที่ใช้ในการหมักไม่เหมือนกัน หรือระยะเวลาในการหมักมิโซะไว้ต่างกัน เช่น การนำโคจิใช้แทนเกลือ หรือผสมทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกัน รวมถึงการนำวัตถุดิบอื่น ๆ เข้ามาประกอบเพื่อเพิ่มกลิ่น เป็นต้น จึงทำให้เกิดเป็นน้ำซุปมิโซะ รสชาติใหม่ ๆ ที่ทุกคนสามารถเลือกรับประทานได้ตามใจชอบ ประโยชน์ของการรับประทานซุปมิโซะ ช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหาร ด้วยกระบวนการหมักมิโซะ ทำให้เกิดโปรไบโอติก (Probiotics) หรือแบคทีเรียชนิดดี ในสายพันธุ์ที่มีชื่อว่า Aspergillus Oryzae ซึ่งมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าแบคทีเรียที่ดีชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะทำให้สุขภาพของทางเดินอาหารแข็งแรง ปกป้องลำไส้จากโรคลำไส้อักเสบ และเพิ่มการดูดซับอาหารที่ดีเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย ป้องกันโรคมะเร็ง มิโซะ มีโปรไบโอติกที่ช่วยส่งเสริมทางด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน และสารต้านอนุมูลอิสระอยู่จำนวนมาก จึงทำให้สารเหล่านี้เข้าไปป้องกัน และอาจต้านทานสิ่งก่อกวนที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งขึ้น โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งในช่องทางเดินอาหาร ลดระดับความดันโลหิตสูง แม้ว่ามิโซะที่นำมาทำซุปจะมีเกลืออยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังคงมีความเกี่ยวกับข้องทางด้านลดความดันโลหิตอยู่บ้าง เหตุเพราะ นักวิจัยเชื่อว่าโซเดียมในมิโซะ มีกระบวนการทำหน้าที่แตกต่างกับ โซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride) ซึ่งหนึ่งในการศึกษาที่ทดลองกับหนูยังพบอีกว่า หนูที่ได้รับโซเดียมคลอไรด์มีความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับหนูที่ได้รับโซเดียมในมิโซะ เป็นแหล่งรวมอาหารที่ดี เพราะถั่วเหลืองที่นำมาหมักกับเกลือจนกลายเป็นมิโซะ […]


ข้อมูลโภชนาการ

6 ประโยชน์ของ ลองกอง ผลไม้จากธรรมชาติ คู่สุขภาพคุณ

ลองกอง (Duku Fruit) เป็นอีกหนึ่งในผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่มักพบได้มากในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในเนื้อของลองกองจะมีสีที่ค่อนข้างขาวนวล ถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกสีเหลืองอมเขียว และน้ำตาล พร้อมให้ประโยชน์แก่ผู้รับประทานทุกเมื่อ ซึ่งบทความของ Hello คุณหมอ วันนี้ก็ได้รวบรวมประโยชน์ต่อสุขภาพของลองกองไว้ให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของการทาน ลองกอง ที่อาจดีต่อสุขภาพ ปกป้องเซลล์ที่อาจได้รับความเสียหาย เนื่องจากลองกองมีสารอาหารจำพวกวิตามิน ใยอาหาร และลิโมนอยด์ (Limonoids) ประกอบอยู่จำนวนมาก จึงทำให้สารอาหารนี้เข้าไปต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุในการสร้างความเสียหายให้แก่เซลล์ออกซิเดทีฟ (Oxidative) จนนำไปสู่การก่อตัวของเนื้องอก และมะเร็งขึ้น อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าการทานลองกองจะสามารถรักษาโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งนี้ให้หายขาดได้ คุณยังคงจำเป็นที่ต้องมีการรักษาตามขั้นตอนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางร่วมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพของคุณ รักษาไข้ หรือลดอุณหภูมิในร่างกาย นอกเหนือการทานเนื้อของลองกองแล้ว ในส่วนของเมล็ดนั้น ก็สามารถนำมาใช้ทำเป็นยารักษาไข้ได้ แต่ในส่วนของรสชาติอาจจะแตกต่างไปเสียหน่อย ไม่หวานเหมือนเนื้อของมันดั่งที่เราคุ้นเคย ซึ่งจะออกไปทางรสขมเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่แล้วการนำเมล็ดลองกองไปทำเป็นยาต้องผ่านกระบวนการการสกัด และทำความสะอาดมาอย่างดี ซึ่งมักจะออกมาในรูปแบบผงชงดื่ม ต่อต้านโรคมาลาเรีย (Malaria) ในการศึกษาจากองค์การที่เกี่ยวข้องหลาย ๆ แห่ง พิสูจน์ว่า เมล็ดของลองกอง มีประสิทธิภาพในการรักษา หรืออาจต้านโรคมาลาเรียได้ นอกจากในส่วนของเมล็ดแล้ว เปลือก และใบของมัน ที่มีคุณสมบัติกำจัดโปรโตซัวชนิด พลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม (Plasmodium falciparum) ในตัวพาหะนำโรคอย่างยุง ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมาลาเรียได้อีกด้วย ปรับปรุงสุขภาพผิว ด้วยวิตามินเอ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารดีๆ ที่ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า

ร่างกายของเรามีสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ช่วยให้เราอารมณ์ดี ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น แต่เมื่อใดที่สารสื่อประสาทที่ชื่อ เซโรโทนิน (Serotonin) มีปริมาณลดลง เมื่อนั้นก็จะรู้สึกเครียด หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี แต่…เราสามารถเพิ่มสารเซโรโทนินได้ง่ายๆ ด้วยการรับประทานอาหาร แต่จะมี อาหารที่ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน แบบใดบ้าง ลองมาติดตามกันได้จากบทความนี้จาก Hello คุณหมอ เลยค่ะ เซโรโทนิน มีความสำคัญอย่างไร เซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารสื่อประสาทที่ร่างกายสร้างขึ้น และทำหน้าที่สำคัญที่ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ทั้งช่วยควบคุมความรู้สึกหิว หรือความรู้สึกง่วง ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่สารเซโรโทนินอยู่ในระดับที่ลดต่ำลงก็จะส่งผลต่ออารมณและความรู้สึกในแง่ที่เป็นด้านลบ มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า ความเครียด หรือความรู้สึกหงุดหงิดต่างๆ อาหารที่ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน มีอะไรบ้าง สารเซโรโทนิน ไม่สามารถพบได้ในอาหารเมนูตามปรกติทั่วไป แต่อาหารที่เรารับประทานกันในชีวิตประจำวันนั้นมีส่วนช่วยเพิ่มสารเซโรโทนินได้ หากอาหารชนิดนั้นอุดมไปด้วย สารทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นในการผลิตสารเซโรโทนินของร่างกาย ดังนี้ ไข่ ในไข่อุดมไปด้วยโปรตีนในปริมาณที่สูง มีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครก็ตามที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มระดับพลาสมาในเลือด และมีสารทริปโตเฟน ที่ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนินอีกด้วย แซลมอน ปลาแซลมอนเป็นอีกหนึ่งอาหารที่เป็นแหล่งของทริปโตเฟน ที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับของ สารเซโรโทนิน และยังเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 (Omega-3) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและสุขภาพผิวหนังด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในเนื้อปลาแซลมอนยังมีวิตามินดีที่เป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญที่ช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนินในร่างกาย ถั่วและธัญพืชต่างๆ ถั่วและธัญพืชต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วยทริปโตเฟน ช่วยเพิ่มสารเซโรโทนิน และอุดมไปด้วยไฟเบอร์กับสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและปัญหาของระบบทางเดินหายใจ ไก่งวงและสัตว์ปีกต่างๆ อาหารจำพวกสัต์ปีกโดยเฉพาะไก่งวง เป็นแหล่งของโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และแน่นอนว่ามีสารทริปโตเฟน […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

สมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล มีอะไรบ้างนะ

ความเครียดและความวิตกกังวล เป็นสภาวะของอารมณ์ เวลาต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ จนเกิดความไม่สบายใจ กังวลใจ ซึ่งสาเหตุของการเกิดความเครียดนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อเกิดความเครียด คนเราก็ต้องจัดการกับความเครียด และแน่นอนว่าวิธีการจัดการกับความเครียดก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน บางคนออกกำลังกายเพื่อลดความเครียด บางคนดูหนัง ฟังเพลง หรือทำสปา วันนี้ Hello คุณหมอ มี สมุนไพร คลายเครียด มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีสมุนไพรอะไรบ้าง มาดูกันว่า สมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล มีอะไรบ้าง ดอกคาโมมายล์ ดอกคาโมมายล์ เป็นสมุนไพรที่มีดอกคล้ายกับดอกเดซี่ จากการทดลองทางคลินิกในปี พ.ศ. 2559 พบว่าดอกคาโมมายด์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับการใช้เพื่อรักษาอาการวิตกกังวลทั่วไปในระยะยาว ซึ่งวิธีการใช้ดอกคาโมมายด์ในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีการส่วนใหญ่ที่หลายคนมักเลือกใช้คือสารสกัด อาหารเสริมรูปแบบเม็ด ครีมบำรุงผิว หรือดื่มเป็นชา จากงานวิจัยที่ให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 93 คน รับสารสกัดดอกคาโมมายด์ 1,500 มิลลิกรัม ทุกวันเป็นเวลานาน 12 สัปดาห์ หลังจากนั้นได้แบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่มโดยให้รับดอกคาโมมายด์ต่อเนื่องอีก 26 สัปดาห์ อีกกลุ่มรับเป็นยาหลอก พบว่ากลุ่มที่ได้รับดอกคาโมมายด์ต่อนั้นมีโอกาสในการเกิดอาการวิตกกังวลน้อยกว่าการเปลี่ยนไปใช้ยาหลอก ถึงแม้อาการวิตกกังวลกำเริบอาการของโรคก็จะรุนแรงน้อยลง แต่สำหรับคนบางกลุ่มที่มีอาการแพ้ดอกเบญจมาศ ดอกดาวเรือง ดอกเดซี่ […]


ข้อมูลโภชนาการ

สะตอ สุดยอดพืชผัก ของดีที่ชาวปักษ์ใต้ นิยมรับประทาน

หากเอ่ยถึงอาหารยอดนิยมในภาคใต้ เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง “สะตอ” หรือที่ชาวปักษ์ใต้เรียกว่า “กะตอ” เป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าสะตอจะมีกลิ่นฉุน แต่ก็ไม่ทำให้ความนิยมในการรับประทานลดน้อยลงเลย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสะตอให้มากขึ้นกันค่ะ สะตอ ของดีจากชาวปักษ์ใต้ สะตอ (Parkia speciosa หรือ Petai) มีรูปร่างคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ เป็นที่รู้จักกันดีในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศลาว ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น สะตอนั้นอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงมีโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต มีสรรพคุณที่ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยบำรุงสมองและสุขภาพดวงตา โดยส่วนใหญ่คนนิยมนำมารับประทานทั้งแบบดิบและแบบสุก  นอกจากนี้ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู คุณค่าทางโภชนาการ คุณค่าทางโภชนาการของสะตอ 100 กรัม (ให้พลังงาน 124 กิโลแคลอรี่) ให้สารอาหาร ดังต่อไปนี้ ธาตุเหล็ก 3.4 มิลลิกรัม วิตามินซี 32.7 มิลลิกรัม วิตามินบี 1 0.15 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.2 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 0.5 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 376 […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารสุขภาพสำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่ช่วยบำรุงร่างกายจากภายใน

โดยปกติหลายคนจะบอกว่าการบำรุงในช่วงตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่การบำรุงหลังคลอดก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณแม่จะต้องหาทางบำรุงและฟื้นฟูตัวเอง เพื่อให้พร้อมสำหรับการดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ และการรับประทานอาหารก็เป็นวิธีการบำรุงร่างกายที่ประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาแนะนำ อาหารสุขภาพสำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่ควรเลือกรับประทาน เพื่อช่วยบำรุงร่างกายจากภายใน ให้คุณแม่พร้อมสำหรับการดูแลลูกน้อยในแต่ละวัน รวมสุดยอด อาหารสุขภาพสำหรับคุณแม่หลังคลอด แซลมอน แซลมอนนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากในปลาแซลมอนนั้นจะเป็นแหล่งชั้นยอดของกรดไขมันดีเอชเอ (DHA) ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเจริญเติบโตของระบบประสาทในเด็กทารก หากคุณแม่หลังคลอดรับประทานปลาแซลมอน ก็จะทำให้ในน้ำนมแม่นั้นมีสาร DHA (Docosahexaenoic Acid) อยู่มากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กรดไขมัน DHA นั้นยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลของอารมณ์ ทำให้อาจสามารถช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังคลอดสำหรับคุณแม่ได้ อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยา (FDA) แนะนำว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์และผู้หญิงที่ให้นมลูก ควรรับประทานปลาแซลมอนไม่เกิน 12 ออนซ์ หรือประมาณ 3 กิโลต่อหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากในปลาแซลมอนนั้นอาจจะมีการปนเปื้อนของสารตะกั่ว ที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ ซุปไก่ บ้านที่เป็นคนจีนหลายๆ คนอาจจะนิยมต้มซุปมาให้คุณแม่ที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ รับประทาน โดยเฉพาะซุปไก่ เนื่องจากในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังจากคลอด ฮอร์โมนภายในร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และมีเหงื่อออกมาก ทำให้เสี่ยงต่อการขาดน้ำได้ ซุปไก่นั้นนอกจากจะให้น้ำเยอะแล้ว ยังมีรสเค็ม ช่วยเติมเต็มแร่ธาตุที่ร่างกายสูญเสียไปพร้อมกับเหงื่อได้ อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง และกินง่าย เหมาะสำหรับคุณแม่ที่อาจจะรู้สึกเบื่ออาหาร และเหนื่อยล้าจากการดูแลลูก เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูกำลังของคุณแม่หลังคลอดได้อย่างดี ไข่ อาหารเมนูไข่นั้นนอกจากจะหาง่าย ทำอาหารอร่อย […]


โภชนาการพิเศษ

อาหาร สำหรับไฟโบรมัยอัลเจีย โรคเรื้อรัง ที่ทำให้คุณปวดเมื่อย อ่อนเพลีย

ไฟโบรมันอัลเจียนั้นเป็นภาวะที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการปวด อ่อนเพลีย บางครั้งเกิดจากปฏิกิริยาภายในร่างกาย ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ช่วยให้อาการปวดนั้นดีขึ้นได้ วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูล อาหาร สำหรับไฟโบรมัยอัลเจีย มาฝากทุกคนค่ะ ไฟโบรมัยอัลจัย (Fibromyalgia) คืออะไร ไฟโบรมัยอัลจัย (Fibromyalgia) เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย อ่อนเพลีย และปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากที่จะวินิจฉัยว่าอาการของภาวะไฟโบรมัยอัลจัยนั้นมีความคล้ายกับอาการของโรคอื่นๆ มากมาย นอกจากนี้ยังยากที่จะรักษาอีกด้วย จึงต้องพบหมอที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อตรวจหาโรคอย่างละเอียด ตามรายงานของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Institutes of Health; NIH) พบว่าชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่เป็นโรคไฟโบรมัยอัลเจียประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิง อาหารส่งผลต่อภาวะไฟโบรมัยอัลเจีย อย่างไร การเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งวิธีการรักษาภาวะไฟโบรมัยอัลเจีย แต่อย่างไรก็ตามอาหารบางชนิดนั้นมีความสามารถในการจัดการกับอาการของภาวะนี้ได้ มีหลักฐานยืนยันว่ามีการรับประทานอาหารเพื่อต้านการอักเสบ ช่วยผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง การรับประทานอาหารต้านการอักเสบไม่ได้เป็นแผนการรับประทานอาหารที่มีความเจาะจง อาหารที่มาจากพืชนั้น เป็นอาหารที่อาจจะมีประโยชน์ในการลดอาการของโรคไฟโบรมัยอัลเจีย เพราะอาหารจากพืชมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยกำจัด อนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นของเสียที่ร่างกายผลิตขึ้นมาตามธรรมชาติ ซึ่งเมื่อร่างกายมีสารอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากอาจนำไปสู่ภาวะเครียดออกซิเดชั่นและการอักเสบได้ นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะไฟโบรมัยอัลเจียยังมีโรคอ้วน ซึ่งน้ำหนักที่มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบและความเครียดจากออกซิเดชั่นได้ด้วย หากภาวะไฟโบรมัยอัลเจียนั้นเกี่ยวข้องกับการอักเสบ การใช้อาหารเพื่อไปกระตุ้นหรือรักษาน้ำหนักอาจช่วยได้ อาหาร สำหรับไฟโบรมัยอัลเจีย การรับประทานอาหารที่มีความสมดุลนั้น เป็นแนวทางที่ดีกับทุก ๆ คนไม่เพียงแต่ดีกับภาวะไฟโบรอัลเจียเท่านั้น ซึ่ง ไฟโบรอัลเจียเป็นภาวะที่ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลีย ซึ่งการรับประทานอาหารบางประเภทจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น แแนวทางในการรับประทานอาหารต่าง […]


สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สูตรเค้กแครอท (Gluten-free)

เค้กแครอท (Carrot Cake) เป็นหนึ่งในเมนูเค้กที่หลายๆ คน โปรดปรานเป็นอย่างมาก เพราะให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุน หอม หวาน เป็นที่ติดอกติดใจ แต่…เพื่อให้เค้กแครอทดีต่อสุขภาพของทุกคน วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำเสนอ สูตรเค้กแครอท (Gluten free) ซึ่งทำมาจากแป้งที่ไม่มีกลูเตน เพื่อให้ผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตนสบายใจได้ว่า จะไม่เกิดอาการแพ้กำเริบขณะรับประทานเค้กแครอทนี้อย่างแน่นอน แต่วิธีทำและวัตถุดิบของเค้กแครอทสูตรไร้กลูเตนนี้จะมีอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยค่ะ อาหารที่ไม่มีกลูเตน (Gluten-free diet) คืออะไร หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับอาการแพ้กลูเตน (Celiac disease) กันมาบ้าง ซึ่งอาการแพ้กลูเตนเกิดจากการที่ร่างกายมีปฏิกิริยากับกลูเตนซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จะพบได้เฉพาะในพืช โดยเฉพาะข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และข้าวทริทิเคลี (Triticale) ซึ่งหากรับประทานอาหารที่มีกลูเตนเข้าไป แล้วปรากฎว่าร่างกายเกิดอาการแพ้ เพราะกลูเตนที่ว่านี้จะไปทำปฏิกิริยากับระบบภูมิคุ้มกัน จนระบบภูมิคุ้มกันส่งผลต่อการทำงานของระบบลำไส้ เสี่ยงที่จะทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมอาหารได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ผู้ที่มีการแพ้กลูเตน จึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจกับอาหารการกินเป็นพิเศษ ระมัดระวังวัตถุดิบในอาหารไม่ให้มีส่วนผสมที่มาจากกลูเตน เพราะจะเสี่ยงต่ออาการทางสุขภาพที่เป็นอยู่ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากมีอาการแพ้กลูเตน  ขนมปังต่างๆ แต่หากต้องการรับประทานขนมปัง ก็จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบวัตถุดิบและอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนเสมอ เพื่อดูว่ามีส่วนผสมจากธัญพืชที่มีกลูเตนหรือไม่ ซีเรียล อาหารเช้ายอดนิยมสำหรับผู้ที่เร่งรีบ เป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีส่วนผสมของกลูเตน ควรอ่านฉลากก่อนซื้อซีเรียลทุกครั้ง หากคุณหรือคนในครอบครัวมีอาการแพ้กลูเตน อาหารประเภทเส้นต่างๆ เช่น สปาเก็ตตี้ พาสต้า […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน