สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

HPV ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร

HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HPV มักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด และการถ่ายทอดไวรัสสู่ทารกในระหว่างคลอด ผลกระทบของ HPV ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital Warts) การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการเกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด หากหูดมีขนาดใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด การเปลี่ยนแปลงในปากมดลูก การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ในบางกรณี การติดเชื้อ HPV อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวสำหรับทารก เช่น การเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และหลังคลอด การติดเชื้อในทารก แม้โอกาสที่ HPV จะส่งต่อถึงทารกในครรภ์มีน้อย แต่มีรายงานว่าการคลอดทางช่องคลอดในกรณีที่แม่มีหูดหรือการติดเชื้อ HPV […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

โรคพยาธิในช่องคลอด

การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด เป็นเรื่องคุณผู้หญิงควรรู้ไว้ เพราะโรคพยาธิในช่องคลอดอาจเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนของคุณ โดยมีต้นเหตุมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นวิธีแก้ไขด้วย การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด จึงอาจช่วยให้คุณผู้หญิงกลับมามีสุขภาพช่องคลอดที่เป็นปกติ และแน่นอนว่าการรักษาโรคพยาธิในช่องคลอดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ตามมาอ่านต่อได้ในบทความนี้เลย โรคพยาธิในช่องคลอด เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยมาก เกิดจากการติดเชื้อปรสิตโปรโตซัวที่เรียกว่า Trichomonas vaginalis ปรสิตจะมีการส่งผ่านจากผู้ที่ติดเชื้อไปยังผู้ที่ไม่ติดเชื้อระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ในผู้หญิงส่วนของร่างกายที่ติดเชื้อบ่อยที่สุดคือบริเวณอวัยวะเพศช่วงล่าง ช่องคลอด ปากมดลูก หรือท่อปัสสาวะ ในผู้ชาย ส่วนของร่างกายที่ติดเชื้อมากที่สุดคือภายในองคชาต หรือท่อปัสสาวะ ในระหว่างของการมีเพศสัมพันธ์ ปรสิตจะแพร่กระจายจากองคชาตไปยังช่องคลอด หรือจากช่องคลอดไปยังองคชาติ นอกจากนี้เชื้อยังสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ เช่น มือ ปาก หรือทวารหนัก และบางคนอาจแสดงอาการหรือไม่แสดงอาการอาจขึ้นอยู่กับ อายุและสุขภาพโดยรวมของผู้ติดเชื้อด้วย การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอด  การรักษาโรคพยาธิในช่องคลอดสามารถทำได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียว เช่น ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) และยาทินิดาโซล (Tinidazole) ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อต่าง ๆ ตัวยาจะเข้าไปหยุดการเจริญเติบโตของแบทีเรียและปรสิตบางชนิด ผลข้างเคียง วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ไม่รู้สึกหิวน้ำ ท้องผูก อาจส่งผลให้ปัสสาวะมีสีเข้ม ยาทินิดาโซล (Tinidazole) ยาทินิดาโซล (Tinidazole) เป็นยาที่ใช่รักษาเชื้อบางชนิดของการติดเชื้อในช่องคลอด นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อปรสิตบางชนิด […]


หนองในแท้

ความแตกต่างของ อาการหนองในแท้ ในผู้หญิง และผู้ชาย

โรคหนองในแท้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และอาจได้รับเชื้อมาอย่างไม่รู้ตัว จากข้อมูลกรมควมคุมโรคพบว่ากลุ่มเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยอัตราป่วยเป็นโรคหนองในสูงถึง 69.7 คนต่อประชากรแสนคน โดย อาการหนองในแท้ ในผู้หญิง และผู้ชายมีความแตกต่างกัน [embed-health-tool-ovulation] โรคหนองในแท้ คืออะไร โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) คือ การติดเชื้อแบคทีเรียไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย (Neisseria Gonorrhoeae) ตรวจพบได้ในน้ำอสุจิและสารน้ำในช่องคลอด และเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเพศชาย และเพศหญิง โดยโรคหนองในแท้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ลำคอ และในผู้หญิงสามารถติดเชื้อได้ทางปากมดลูก นอกจากนี้เชื้อยังสามารถแพร่จากมารดาไปสู่ทารกระหว่างการคลอดได้อีกด้วย อาการหนองในแท้ อาการของโรคหนองในมักเกิดขึ้นภายในประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ หรือบางครั้งอาจจะไม่ปรากฏอาการใด ๆ จนกระทั่งหลายเดือน โดยอาการหนองในแท้ในผู้หญิงและผู้ชาย มีความแตกต่างกัน ได้แก่ อาการหนองในแท้ ในผู้หญิง อาการที่ปรากฏในเพศหญิง มีดังนี้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกเจ็บหรือแสบ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น มีหนองหรือมูกปนหนอง รวมไปถึงตกขาวผิดปกติ เช่น มีมากเกินปกติ เจ็บ หรือปวดบริเวณท้องน้อย รวมถึงอุ้งเชิงกราน มีเลือดออกหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นอาการที่พบได้น้อย อาการหนองในแท้ ในผู้ชาย อาการที่ปรากฏในเพศชาย […]


หนองในแท้

การรักษาหนองในแท้ สามารถทำได้โดยวิธีการใด

โรคหนองในเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้บ่อย ซึ่งถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยบางครั้งโรคหนองในแท้อาจไม่แสดงอาการ แต่หากติดเชื้อและปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการรักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ตามมาได้ ดังนั้นการตรวจคัดกรองอย่างเป็นประจำอาจช่วยบรรเทาความรุนแรง และหากตรวจพบเชื้ออาจมีวิธี การรักษาหนองในแท้ ที่สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ [embed-health-tool-bmi] วิธีการวินิจฉัยโรคหนองในแท้ การวินิจฉัยโรคหนองในแท้มีหลากหลายวิธี โดยอาจเก็บตัวอย่างเชื้อได้โดย การตรวจปัสสาวะ เป็นการเก็บตัวอย่างปัสสาวะประมาณ 10 ถึง 15 มิลลิลิตร เพื่อตรวจหาเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคหนองในแท้ ผู้ป่วยควรงดปัสสาวะ 2 ชั่วโมงก่อนการเก็บตัวอย่าง เนื่องจากการปัสสาวะอาจไปล้างเชื้อแบคทีเรียโรคหนองในแท้ ส่งผลต่อความแม่นยำในการตรวจ การตรวจช่องคลอด หรือปากมดลูก เป็นการตรวจคัดกรองโดยเฉพาะในเพศหญิง โดยจะใช้สำลีป้ายบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก โดยใช้เวลา 10 ถึง 30 วินาที เพื่อให้สำลีดูดซึมสารคัดหลั่ง การตรวจ Nucleic acid amplification test : NAAT การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อหนองใน โดยเก็บตัวอย่างจากปัสสาวะหรือของเหลวในร่างกายจากบริเวณที่สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อ เป็นวิธีการทดสอบที่มีความแม่นยำ บางครั้งการตรวจวินิจฉัยอาจมีการเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมจากบริเวณลำคอ ดวงตา หรือทางทวารหนัก และหากมีความสงสัยว่ามีอาการของโรคหนองใน ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ และรอผลการตรวจวินิจฉัยโรค อย่างไรก็ตามควรพาคู่นอนมาตรวจคัดกรองเช่นกัน วิธี การรักษาหนองในแท้ การรักษาหนองในแท้สามารถรักษาได้ โดยการรับประทานยาหรือฉีดยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยรักษาหรือป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายของแบคทีเรีย ซึ่งกลุ่มตัวยาในการรักษา […]


สุขภาพทางเพศ

ความบกพร่องทางเพศของผู้ชาย กับปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง

ความบกพร่องทางเพศของผู้ชาย คือสภาวะที่ร่างกาย และจิตใจไม่มีความต้องการทางเพศ และไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากการกระตุ้นทางเพศของตัวเอง หรือบุคคลอื่น จากการสำรวจในผู้ชายพบความผิดปกติประมาณ 31% ของการสำรวจที่มีปัญหาทางเพศ ซึ่งสามารถพบได้ในทุกวัย แต่มักพบได้บ่อยเมื่ออายุมากขึ้น [embed-health-tool-bmr] ความบกพร่องทางเพศของผู้ชาย ที่พบได้บ่อย ปัญหาความบกพร่องทางเพศของผู้ชายที่สามารถพบได้บ่อย ได้แก่ ความต้องการทางเพศลดลง ขาดความสนใจ ไม่มีความคิด หรือความปรารถนาในการมีเพศสัมพันธ์ และกิจกรรมทางเพศ อาจมีปัจจัยทางด้านร่างกาย เช่น ความบกพร่องทางฮอร์โมนเพศหรือฮอร์โมนทางเพศต่ำ โรคอ้วนที่อาจส่งผลให้ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง และปัจจัยด้านจิตใจที่อาจมีปัญหาภาวะซึมเศร้า เครียด ที่ไปบั่นทอนความต้องการทางเพศ การถึงจุดสุดยอดเร็วเกินไป เป็นความบกพร่องทางเพศ เมื่อถึงจุดสุดยอด หรือหลั่งอสุจิออกมาเร็วกว่าที่ต้องการ การไปไม่ถึงจุดสุดยอด ไม่สามารถหลั่งอสุจิออกมาได้หลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือกิจกรรมทางเพศ หรือเรียกอีกอย่างว่าการไม่สำเร็จความใคร่ การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่สามารถทำให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวหรือเพียงพอต่อการมีเพศสัมพันธ์ หรือนกเขาไม่ขัน ซึ่งปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในทางเพศได้ การมีโรคที่ผิดปกติทางเพศ เช่น โรคเพโรนีย์ (Peyronie's disease) หรืออวัยวะเพศโค้งงอ ที่มีภาวะผังผืดเกาะบริเวณองคชาต บางครั้งอาจทำให้เกิดการเจ็บที่อวัยวะเพศได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจส่งผลให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ อาการความบกพร่องทางเพศของผู้ชาย อาการของความบกพร่องทางเพศของผู้ชายที่อาจสามารถสังเกตได้ เช่น มีปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ไม่ว่าจะมีสิ่งกระตุ้น หรือสิ่งเร้าก็ยังไม่สามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ ความต้องการทางเพศที่ลดลง รู้สึกไม่มีความคิดหรือปรารถนาต่อกิจกรรมทางเพศ การหลั่งเร็วหรือช้าเกินไป สิ่งนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในอาการของความบกพร่องทางเพศ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด ความบกพร่องทางเพศของผู้ชาย ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางเพศของผู้ชาย อาจเกิดจากปัญหาทางด้านสุขภาพ […]


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ยาทาหูดหงอนไก่ ใช้ยาชนิดไหน วิธีรักษาหูดหงอนไก่

หูดหงอนไก่เป็นโรคที่ไม่อันตราย อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกคันได้ เมื่อเกิดหูดหงอนไก่จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยจะได้ ยาทาหูดหงอนไก่ ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ [embed-health-tool-ovulation] หูดหงอนไก่ คืออะไร หูดหงอนไก่ (Genital warts) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส ที่ชื่อว่า (Human Papillomavirus) หรือที่รู้จักในชื่อว่า เชื้อ HPV ลักษณะของเป็นหูดหงอนไก่จะเป็นติ่งเนื้ออ่อน สีชมพู คล้ายกับหงอนไก่ โดยเริ่มจากรอยโรคเล็ก ๆ ก่อนจะขยายตัวเป็นติ่งเนื้อขรุขระคล้ายหงอนไก่ แต่บางครั้งพบเป็นลักษณะแบนราบ ผิวขรุขระ หรือบางชนิดมีขนาดใหญ่มากและผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ ผู้ชายมักพบที่ใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เส้นสองสลึง อาจพบบริเวณรอบทวารหนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ผู้หญิงพบได้ที่ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก ทวารหนัก และฝีเย็บหูด โดยจะเริ่มจากขนาดเล็กและโตขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์อาจทำให้หูดหงอนไก่โตเร็วกว่าปกติ และต้องระวังทารกอาจติดเชื้อจากแม่ ผู้ที่เป็นโรคหูดหงอนไก่ มีโอกาสติดเชื้อกามโรคอื่นร่วมด้วย เช่น ซิฟิลิส หนองใน พยาธิในช่องคลอด โดยการติดเชื้อเหล่านี้ จะทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะแสบ มีตกขาว คัน หรือมีแผลที่อวัยวะเพศเพิ่มขึ้น การติดต่อของเชื้อ HPV เชื้อ HPV ทำให้เกิดโรคได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เด็กมักมีอาการที่ฝ่ามือฝ่าเท้า […]


สุขภาพทางเพศ

มูกไข่ตก เป็นอย่างไร ส่งผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่

ไข่ตกเป็นกลไกธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับร่างกายผู้หญิง เมื่อถึงวัยมีประจำเดือน โดยไข่ตกจะใช้เวลาเฉลี่ยรอบละ 28 – 35 วัน นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา ซึ่งวันไข่ตกจะเป็นวันที่ไข่สุกออกจากรังไข่ จากนั้นไปยังส่วนปลายของท่อนำไข่ สำหรับมูกไข่ตกเป็นสัญญาณของร่างกายบ่งบอกว่าเป็นช่วงวันไข่ตก คนที่วางแผนมีลูกควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลานี้ [embed-health-tool-ovulation] มูกไข่ตก เป็นอย่างไร มูกไข่ตกจะมีลักษณะเป็นของเหลวที่ร่างกายผลิตออกมา ซึ่งจะขับออกจากปากมดลูก มูกชนิดนี้จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มูกช่องคลอด (Cervical Mucus) หรือตกขาว โดยมูกไข่ตกหลั่งออกมาจากต่อมบริเวณปากมดลูก ไม่เหมือนกับน้ำหล่อลื่นที่หลั่งจากช่องคลอด (Vagina) ลักษณะของมูกไข่ตกและปริมาณของมูกสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นมูกไข่ตกให้หลั่งออกมา เพราะช่วงระหว่างรอบเดือน ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น  ลักษณะของมูกช่องคลอด  ลักษณะของมูกไข่ตกหรือมูกช่องคลอด จะเปลี่ยนแปลงในรอบ 28 วัน สำหรับผู้ที่วางแผนการมีบุตร สามารถสังเกตมูกไข่ตกได้ดังนี้ มูกช่องคลอดหลังหมดรอบเดือน : หลังจากมีประจำเดือนไปแล้ว ร่างกายจะผลิตมูกช่องคลอดออกมาน้อย อาจพบว่ามูกจะมีลักษณะแห้ง ๆ หรือเหนียวข้น แต่พบได้น้อยมาก มูกก่อนไข่ตก : ลักษณะของมูกจะเริ่มมีสีขาวคล้ายครีม อาจมีความข้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มูกไข่ตก : ก่อนวันไข่ตกเล็กน้อย มูกจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีใส ๆ คล้ายไข่ขาวดิบ จนถึงวันไข่ตก มูกจะเหนียวใส ลื่นแล้วยืดหยุ่นดี แสดงถึงความชุ่มชื้นสูง ผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์สามารถเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้ […]


การคุมกำเนิด

ทำหมัน การคุมกำเนิดถาวร วิธีทำหมันหญิงและทำหมันชาย

การคุมกำเนิดเป็นการป้องกันตั้งครรภ์หรือการขัดขวางการตั้งครรภ์ คือ การวางแผนครอบครัววิธีหนึ่ง ช่วยในการกำหนดจำนวนบุตรที่ต้องการ วางแผนการเตรียมความพร้อมก่อนการมีลูก โดยการคุมกำเนิดทำได้หลายวิธี แต่หากต้องการให้การคุมกำเนิดนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตร การทำหมัน ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สามารถทำได้ทั้งการทำหมันหญิงและทำหมันชาย [embed-health-tool-ovulation] วิธีคุมกำเนิด การคุมกำเนิดมีอยู่หลายวิธี แต่ที่คุ้นเคยและใช้กันมาก ๆ คือ ถุงยางอนามัย มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดถึง 98% หากใช้อย่างถูกวิธี ซึ่งมีทั้งถุงยางอนามัยชายและถุงยางอนามัยหญิง การใช้ถุงยางอนามัยยังช่วยเรื่องการป้องกันโรคได้อีกด้วย ส่วนการคุมกำเนิดอื่น ๆ ได้แก่ คุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ ใช้การตกไข่และการมีประจำเดือนมาช่วยในการกำหนดวันปลอดภัยที่จะมีเพศสัมพันธ์ โดยนับช่วงเวลา 7 วัน ก่อนประจำเดือนมาวันแรก และ 7 วัน หลังจากวันแรกที่ประจำเดือนมา แต่วิธีนี้อาจเกิดการคลาดเคลื่อนได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ เพราะวันไข่ตกของผู้หญิงแต่ละคนจะไม่เท่ากัน  คุมกำเนิดใช้ฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด หรือการใช้ห่วงอนามัย คุมกำเนิดถาวร ทำหมันหญิงและทำหมันชาย ทำหมันหญิงและทำหมันชาย ทำได้อย่างไร การทำหมันเป็นวิธีคุมกำเนิดสำหรับครอบครัวที่ไม่ต้องการมีบุตรหรือมีบุตรเพียงพอแล้ว สามารถทำได้ทั้งการทำหมันหญิงและทำหมันชาย วิธีทำหมันชาย  การทำหมันชายง่ายกว่าการทำหมันหญิง สามารถทำได้ทั้งในคลินิก หน่วยรถพยาบาลเคลื่อนที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาล โดยมีวิธีการทำหมันชาย ดังนี้ แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดตรงบริเวณถุงอัณฑะเหมือนท่ออสุจิผ่าน  จากนั้นใช้มีดกรีดเป็นแผลเล็กน้อยประมาณ […]


สุขภาพทางเพศ

ริดสีดวง ติ่งแข็ง อันตรายหรือไม่ ควรรักษาอย่างไร

ริดสีดวง ทวารหนัก เกิดจากการที่หลอดเลือดบริเวณทวารหนักอักเสบจนมีอาการบวม หรือยื่นออกมาเป็น ติ่งแข็ง อยู่ที่บริเวณรูทวาร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขับถ่าย มักพบได้ในผู้ที่มีปัญหาอาการท้องผูก ไม่ขับถ่ายหลายวัน หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ หากพบว่าอาจมีอาการของโรคริดสีดวงทวาร ควรเข้ารับการตรวจรักษาโดยคุณหมอในทันที [embed-health-tool-ovulation] ลักษณะของ ริดสีดวง ติ่งแข็ง ริดสีดวงเป็นโรคของหลอดเลือดบริเวณปากทวารหนักโป่งพอง อาจเกิดได้จากการอักเสบของหลอดเลือดดำที่ผนังลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย บวมพองยื่นนูนเป็นติ่งออกมา เมื่อเกิดเป็นก้อนเนื้อที่ปากทวารหนัก ติ่งเนื้อนี้อาจบวม ขณะที่เบ่งถ่ายอาจมีเลือดสดออกมาด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ริดสีดวงภายใน เกิดบริเวณเนื้อเยื่อทวารหนักที่อยู่สูงกว่าระดับหูรูดทวารหนัก  ริดสีดวงภายนอก เกิดบริเวณทวารหนักส่วนล่างมีอาการนูนเป็นติ่งออกจากทวารหนัก มองเห็นได้จากภายนอก  สาเหตุของโรคริดสีดวงทวารหนัก แม้ว่าสาเหตุของริดสีดวงจะยังไม่แน่ชัด แต่พบปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคได้ เช่น เนื้อเยื่อรองรับเบาะรองทวารหนัก ที่ช่วยควบคุมการขับถ่ายเสื่อมสภาพ เกิดการหย่อนตัวลงจากตำแหน่งปกติ ทำให้หลอดเลือดดำขยายตัว  ภาวะท้องผูก ทำให้ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระ ซึ่งเป็นการเพิ่มความดันของหลอดเลือดดำ โรคแทรกซ้อน เช่น ตับแข็ง อาการท้องมานในระยะสุดท้าย ทำให้มีน้ำในช่องท้องมาก ส่งผลต่อหลอดเลือดดำ ปัจจัยอื่น เช่น โรคอ้วน เกิดขณะตั้งครรภ์ มีอาการท้องเสียเรื้อรัง และการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก  ระยะของโรคริดสีดวงทวารหนัก ระยะที่ 1 - คลำแล้วพบก้อนอยู่ข้างในรูทวาร  ระยะที่ 2 […]


การคุมกำเนิด

ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน ใช้อย่างไร อันตรายหรือไม่

การท้องไม่พร้อม เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ บางคนอาจตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ หรืออาจหาซื้อ ยายุติการตั้งครรภ์ มากินเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรืออาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ และศึกษาข้อมูลของยายุติการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] ข้อกำหนด “ยุติการตั้งครรภ์” ในหญิงอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้มีการยุติการตั้งครรภ์ ในหญิงที่มีอายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ โดยมาตรา 305(5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้หญิง ซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ที่ประสงค์จะยุติการตั้งครรภ์ต้องได้รับการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ก่อนตัดสินใจยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ เนื่องจากการยุติการตั้งครรภ์ ควรตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วน และรอบด้าน วิธีการยุติการตั้งครรภ์ ช่วงของอายุครรภ์มีความสำคัญต่อการเลือกวิธียุติการตั้งครรภ์ที่แตกต่างกัน เช่น อายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ : ใช้ยายุติการตั้งครรภ์ หรือแพทย์จะใช้เครื่องดูดสุญญากาศ มีลักษณะเป็นกระบอก โดยใส่หลอดดูดเข้าไปในโพรงมดลูก อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ : ใช้ยายุติการตั้งครรภ์ ปริมาณหรือขนาดของยายุติการตั้งครรภ์จะน้อยลงตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้น โดยกำหนดช่วงห่างของการใช้ตามพัฒนาการของอาการและอายุครรภ์ ภายใต้ความควบคุมและดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด ยายุติการตั้งครรภ์ คืออะไร ยายุติการตั้งครรภ์ ตัวยาจะช่วยหยุดการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ เข้าขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนตัวสำคัญที่ชื่อว่า ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน […]


สุขภาพทางเพศ

มีเพศสัมพันแล้วเลือดออก สาเหตุของโรคอะไร

การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรก อาจเป็นความผิดปกติของร่างกาย สะท้อนถึงอาการเจ็บป่วยที่กำลังก่อตัวอยู่ภายใน มีเลือดออกทางช่องคลอด สาเหตุแท้จริงแล้วเกิดจากอะไร [embed-health-tool-ovulation] มีเพศสัมพันแล้วเลือดออก กรณีการมีเพศสัมพันแล้วเลือดออกในครั้งแรกนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ โดยผู้หญิงที่มีเพศสัมพันแล้วเลือดออกจะเกิดจากเยื่อพรหมจารีขาด เกิดขึ้นได้ขณะสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปยังช่องคลอด อาการนี้เรียกว่า ภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย เกิดขึ้นแล้วหายได้เอง แต่การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออกในครั้งแรกนั้น ใช่ว่าทุกคนจะเกิดภาวะนี้ เพราะบางคนอาจไม่มีเยื่อพรหมจารีตั้งแต่เกิด หรือเกิดการขาดไปแล้วจากการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมผาดโผน สาเหตุที่มีเพศสัมพันแล้วเลือดออก การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก สามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับอาการของเลือดออกที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ช่องคลอดแห้งขณะมีเพศสัมพัน : เนื่องจากน้ำหล่อลื่นมีไม่มาก เมื่อช่องคลอดแห้งแล้วมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ก็อาจทำให้เลือดออกและอาจรู้สึกเจ็บช่องคลอดได้ การมีเพศสัมพันอย่างรุนแรง : หากมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันรุนแรงเกินไป หรือใช้อุปกรณ์อื่นในการร่วมเพศ อาจส่งผลให้เส้นเลือดช่องคลอดฉีกขาด ถ้ามีเลือดออกจำนวนมาก ควรรีบไปโรงพยาบาล อาจมีเลือดประจำเดือนตกค้าง : ให้สังเกตลักษณะของเลือด ถ้าเป็นเลือดประจำเดือนตกค้าง สีจะออกแดงคล้ำ ๆ เหมือนเลือดเก่า เป็นไปได้ว่ามีประจำเดือนค้างในช่องคลอดหรือปากมดลูก เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด การเกิดเลือดออกทางช่องคลอด โดยไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน อาจมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน : ผู้หญิงในวัยที่เพิ่งเริ่มมีประจำเดือนหรือวัยใกล้หมดประจำเดือนมักมีภาวะฮอร์โมนแปรปรวน ก็เป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติได้ ภาวะเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ : เป็นสัญญาณของการเริ่มตั้งครรภ์ อาจมีเลือดซึมหรือเลือดออกทางช่องคลอดในช่วง 12 สัปดาห์แรกได้ การติดเชื้อ : […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน