ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

นอกจากโรคเบาหวานจะสร้างปัญหาให้กับสุขภาพแล้ว ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่อาจมองข้าม เพราะหากจัดการได้ไม่มี อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ว่าเป็นอย่างไร และจะรับมือได้อย่างไรบ้าง ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

ภาวะ แทรกซ้อน โรค เบาหวาน ปัจจัยเสี่ยงและวิธีดูแลตัวเอง

ภาวะ แทรกซ้อน โรค เบาหวาน มักเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นโรคมานานกว่า 10 ปีขึ้นไปมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสียหาย นำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวานขึ้นตา โรคผิวหนังช้าง โรคหัวใจ โรคไตวายเรื้อรัง ซึ่งการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ไม่สูงเกินไป อาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ [embed-health-tool-bmi] ภาวะ แทรกซ้อน โรค เบาหวาน เกิดจากอะไร ภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวาน (Diabetes complications) เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดอยู่สูงกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสมของผู้ป่วยเบาหวาน เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงผิดปกติจะไปทำลายเนื้อเยื่อ หลอดเลือด เส้นประสาท สร้างความเสียหายให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง ปัจจัยเสี่ยงของ ภาวะ แทรกซ้อน โรค เบาหวาน ปัจจัยเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวาน อาจมีดังนี้ ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เที่เหมาะสมได้เป็นเวลาหลายปี มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือเป็นโรคอ้วน ไม่ค่อยขยับร่างกาย หรือชอบอยู่เฉย ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง มีค่าฮีโมโกลบินเอวันซี (Hemoglobin A1C […]

สำรวจ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

Peripheral Neuropathy คือ อะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับเบาหวาน

Peripheral Neuropathy คือ อาการปลายประสาทเสื่อม หรือได้รับความเสียหายซึ่งผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมโรคได้ไม่มี อาจะมีภาวะเส้นประสาทเสื่อมได้ เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานส่งผลให้เส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงเส้นประสาทเสียหาย จึงทำให้มีอาการชา เจ็บปวด หรืออ่อนแรง บริเวณปลายเท้า ขา หรือมือ ทั้งนี้คุณหมอจะแนะนำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตามเกณฑ์ เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันอาการเส้นประสาทเสื่อมมิให้เป็นรุนแรงกว่าเดิม [embed-health-tool-bmi] Peripheral Neuropathy คือ อะไร Peripheral Neuropathy คือ อาการปลายประสาทเสื่อม ผู้ป่วยปลายประสาทเสื่อม อาจมีอาการอ่อนแรง การรับความรู้สึกผิดปกติ เช่น รู้สึกปวด แสบ รู้สึกคล้ายไฟช้อต หรือชา รวมถึงอาจพบว่ามีเส้นประสานที่ควบคุมระบบต่าง ๆ ทำงานผิดปกติร่วมด้วย จนทำให้มีอาการแสดงของระบบนั้น ๆ เช่น เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หัวใจเต้นเร็ว ท้องอืด ท้องผูก ทั้งนี้ อาการปลายประสาทอักเสบนอกจากเกิดจากโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีแล้วยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้ ขาดวิตามินบี 12 อุบัติเหตุหรืออาการบาดเจ็บของเส้นประสาท พร่องฮอร์โมนไทรอยด์ โรคหลอดเลือดอักเสบ โรคไตเสื่อมเรื้อรัง โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ได้รับสารพิษบางขนิด เช่น สารหนู ตะกั่ว หรือปรอท Peripheral […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

อาการ น็อค เบาหวาน คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

อาการ น็อค เบาหวาน หรืออาการน้ำตาลต่ำ เป็นภาวะสุขภาพที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเบาหวาน อาจเกิดขึ้นเมื่อระดับอินซูลินต่ำกว่าปกติ หรือเมื่อมีน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร มักเกิดจากการกินยารักษาเบาหวานหรือการฉีดอินซูลินเกินขนาด การกินอาหารผิดเวลา การออกกำลังกายหักโหมมากเกินไป จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายขาดน้ำตาล จึงอาจทำให้ เกิดอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ เป็นต้น บางครั้งอาจรุนแรงจนถึงขั้น ชัก หมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้  ทั้งนี้ เมื่อเกิดอาการน้ำตาลต่ำ ควรรีบรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ลูกอม น้ำหวานหรือน้ำผลไม้ เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและหากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการซ้ำ ๆ ควรรีบไปพบคุณหมอ [embed-health-tool-bmi] อาการ น็อค เบาหวาน คืออะไร อาการน็อคเบาหวานเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) คือ มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน (หรือระดับน้ำตาลต่ำกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ในผู้ที่ไม่ไ้ด้เป็นเบาหวาน) มักเกิดขึ้นเมื่อมีอินซูลินในร่างกายปริมาณมากเกินไป จนส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงจนเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายขาดพลังงาน อาการ น็อค เบาหวาน […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

Microalbuminuria คือ อะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับโรคเบาหวาน

Microalbuminuria คือ ภาวะไมโครอัลบูมินนูเรีย หรือภาวะที่ร่างกายมีโปรตีนอัลบูมิน (Albumin) รั่วออกมาทางปัสสาวะในปริมาณระหว่าง 30-300 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นภาวะที่บ่งชี้ถึงการทำงานของไตที่ผิดปกติไป เป็นสัญญานเริ่มต้นของภาวะไตเสื่อม ภาวะไมโครอัลบูมินนูเรียที่พบในผู้ป่วยเบาหวาน เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงทำให้กลุ่มหลอดเลือดฝอยของไตที่ทำหน้าที่เก็บกรองสารต่าง ๆ เสียหาย จึงเป็นสาเหตุให้โปรตีนอัลบูมินรั่วออกมาทางปัสสาวะมากกว่าปกติ [embed-health-tool-bmi] Microalbuminuria คือ ไมโครอัลบูมินนูเรีย หมายถึง ภาวะที่มีโปรตีนอัลบูมิน (หรืออาจรู้จักทั่วไปว่า โปรตีน ไข่ขาว) ในปัสสาวะอยู่ระหว่าง 30-300 มิลลิกรัมต่อระยะเวลา 1 วัน หรือ มีปริมาณโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะ 30-300 มิลลิกรัมต่อกรัมของครีเอตินีน ซึ่งสะท้อนว่าอาจมีภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ และเป็นหนึ่งในสัญญาณเริ่มต้นของโรคไต ทั้งนี้ อัลบูมินเป็นโปรตีนที่สร้างจากตับ และพบได้ในกระแสเลือด มีหน้าที่เป็นตัวขนส่งฮอร์โมน วิตามิน หรือเอนไซม์ ไปยังอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผ่านกระแสเลือด รวมถึงช่วยป้องกันของเหลวในหลอดเลือดรั่วซึมออกมา แล้วไปสะสมที่เนื้อเยื่อบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย Microalbuminuria เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานอย่างไร เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งซึ่งผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ลดลงหรือร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน จึงทำให้เซลล์ต่าง ๆ ตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่เหมาะสม หากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน หลอดเลือดของอวัยวะต่างๆของร่างกายจะได้รับความเสียหาย ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวตามมาได้ ในกรณีของไต ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างเรื้อรังจะไปทำลายโกลเมอรูลัส […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน แผล หายช้า เพราะอะไร

เมื่อเป็น โรคเบาหวาน แผล อาจหายช้ากว่าคนทั่วไป เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติจะไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ทำให้ออกซิเจนและแร่ธาตุถูกส่งไปซ่อมแซมบาดแผลได้ไม่ดีพอ นอกจากนี้ เมื่อแผลหายช้าอาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าปกติและอาจนำไปสู่การเป็นโรคกระดูกอักเสบติดเชื้อ และภาวะการติดเชื้อในเลือด ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรดูแลตนเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด [embed-health-tool-bmi] โรคเบาหวาน คืออะไร โรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเรื้อรัง มีสาเหตุมาจากการทื่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินลดลงหรือเซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินบกพร่องไป ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ นำไปสู่โรคเบาหวาน และหากปล่อยไว้ ไม่ควบคุมเบาหวานให้ดี อาจทำให้หลอดเลือดเสียหาย และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง เส้นประสาทเสื่อม เบาหวานขึ้นตา บาดแผลหายช้า โรคเบาหวาน แผล หายช้า เพราะอะไร ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมได้ไม่ดี จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ และส่งผลต่อการทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานบกพร่องไป ซึ่งการที่แผลหายช้าอาจเกิดเนื่องจากสาเหตุ ดังนี้ เซลล์เม็ดเลือดขาวแมคโครฟาจ (Macrophage) ทำงานบกพร่องไป หากร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวแมคโครฟาจลดลง ทำให้จัดการกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ไม่ดีเท่าที่ควร โอกาสติดเชื้อจากบาดแผลของผู้ป่วยเบาหวาน (ที่ควบคุมไม่ดี) จึงสูงขึ้น โดยที่บาดแผลก็จะหายยากและช้าขึ้นด้วย การไหลเวียนของเลือดไม่ดี หากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเรื้อรัง อาจส่งผลให้ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง ทำให้หลอดเลือดเเข็งและเสี่ยงต่อการอุดตัน […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

เท้าบวม เบาหวาน วิธีรักษา ทำได้อย่างไร

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบการไหลเวียนโลหิต ทำให้มีของเหลวรั่วออกจากหลอดเลือดเเละไปเพิ่มการสะสมของน้ำตามเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวมตึงตามอวัยวะดังกล่าวได้ โดยมักเกิดขึ้นที่อวัยวะส่วนปลาย เช่น บริเวณขา ข้อเท้า และเท้า เมื่อมีอาการ เท้าบวม เบาหวาน วิธีรักษา สามารถทำได้ด้วยการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวม เช่น เพิ่มการขยับเคลื่อนไหวของเท้า ยาขับปัสสาวะเพื่อขับของเหลวที่คั่งในเนื้อเยื่อ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหมั่นดูแลสุขภาพเท้าและสังเกตอาการผิดปกติ เช่น อาการบวม แผลที่เท้า ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม เท้าบวมเมื่อเป็นเบาหวาน เกิดจากอะไร โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอหรือเซลล์ในร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้สมดุลการจัดการกับน้ำตาลในเลือดเสียไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เเละหากควบคุมโรคเบาหวานไม่ดี ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ผนังของหลอดเลือดฝอยเสื่อมลง รวมถึงทำให้แรงดันในหลอดเลือดเพิ่มขึ้นจนทำให้ของเหลวรั่วออกมาจากหลอดเลือดเข้ามาสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ บริเวณขา ข้อเท้า เท้า จึงเป็นที่มาของอาการเท้าบวม อาการเท้าบวมอาจเกิดจากภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ ที่พบร่วมกับโรคเบาหวาน ดังต่อไปนี้ โรคอ้วน ภาวะเลือดไหลเวียนผิดปกติ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ ภาวะหลอดเลือดดำเสื่อม การคั่งของน้ำเหลือง (Lymphedema) โรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เช่น โรคหัวใจ โรคไต ผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด เช่น […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

เบาหวาน แห้ง คืออะไร เป็นอันตรายหรือไม่

ภาวะ เบาหวาน แห้ง หรืออาจเรียกว่า ภาวะเบาหวานผอม มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมเบาหวานไม่ถูกวิธี ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จนร่ายกายซูบผอม รวมถึงอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ที่เป็นเบาหวานจึงควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมปริมาณของอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล และ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะเบาหวานแห้งและภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานอื่น ๆ [embed-health-tool-bmi] เบาหวาน แห้ง คืออะไร เบาหวานแห้ง คือ ภาวะโรคเบาหวานที่เป็นมาอย่างเรื้อรัง โดยไม่ได้รับการควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี เนื่องจากเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง จะทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลจากเลือดเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้ แม้จะน้ำตาลในเลือดสูงก็ตาม ร่างกายจึงจำเป็นต้องเผาผลาญสลายกล้ามเนื้อและไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทน ส่งผลให้น้ำหนักลดลงเร็วผิดปกติ ร่างกายซูบผอม ไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น อ่อนเพลีย กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย ผิวแห้งคัน ส่วนมากมักพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 เนื่องจากหากเมื่อผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี มักเสี่ยงเกิดภาวะเลือดเป็นกรดได้ง่าย อาการของภาวะเลือดเป็นกรดมักรุนแรงและฉับพลัน จำเป็นต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาเพื่อควบคุมระดับในน้ำตาลให้เหมาะสม ก่อนที่จะปล่อยให้มีระดับน้ำตาลจะสูงอย่างเรื้อรังจนทำให้เกิดเบาหวานแห้ง อาการของ เบาหวาน แห้ง อาการเบาหวานแห้ง จะเกิดขึ้นเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเรื้อรัง โดยอาจมีอาการดังต่อไปนี้ สายตาพร่ามัว อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรง กระหายน้ำบ่อย […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

เบาหวาน เท้าดํา สาเหตุและวิธีรักษา

เบาหวาน เท้าดํา เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อควบคุมเบาหวานได้ไม่ดีเป็นระยะเวลานาน ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงมากเกินไปจะส่งผลให้หลอดเลือดแดงส่วนปลายและเส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย ผิวหนังที่เท้าจึงมีสีซีดหรือคล้ำลงเนื่องจากขาดเลือด ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนนี้ได้ด้วยการดูแลสุขภาพเท้าอย่างถูกวิธี ไปพบคุณหมอตามนัด และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายอยู่เสมอ หากพบว่าเท้าดำหรือคล้ำลง หรือมีแผลที่หายช้าผิดปกติ ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจและรับการรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้แผลลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียง เบาหวาน เท้าดํา เกิดจากอะไร หากผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมเบาหวานได้ไม่ดี จะทำให้เป็นแผลได้ง่ายและแผลหายช้ากว่าปกติ เนื่องจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังจะทำให้เส้นประสาทและหลอดเลือดเสื่อมลง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี รวมถึงมีอาการชา ปวด เสียวแปล๊บคล้ายไฟช็อต ไปจนถึงสูญเสียประสาทการรับความรู้สึกที่เท้า (Diabetic neuropathy) ปัญหาสุขภาพเท้าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวานเรื้อรัง  เมื่อมีอาการเท้าชาจะทำให้การรับความรู้สึกลดลง จึงอาจไม่ทันรู้ตัวเมื่อเท้าเป็นแผล มีตุ่มพุพอง หรือเป็นตาปลา ทำให้เสี่ยงติดเชื้อแทรกซ้อนง่ายขึ้น และการที่หลอดเลือดเสื่อมลง จะทำให้เลือดไหลเวียนไปยังบาดแผลและบริเวณใกล้เคียงได้ไม่ดี จึงอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ติดเชื้อค่อย ๆ เสื่อมสภาพ และเปลี่ยนเป็นสีซีดหรือสีคล้ำลง หากปล่อยทิ้งไว้หรือรักษาไม่ถูกวิธี แผลอาจลุกลามจนต้องตัดเท้าหรือเนื้อเยื่อส่วนที่เสียหายออกไป เพื่อรักษาเนื้อเยื่อข้างเคียงที่ยังไม่ติดเชื้อเอาไว้ ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการ เบาหวาน เท้าดํา มีดังนี้ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายไม่ได้ เป็นโรคเบาหวานมานาน และควบคุมเบาหวานได้ไม่ดีเป็นประจำ มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน สูบบุหรี่ มีภาวะความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันในเลือดสูง (คอเลสเตอรอลสูง) อาการ เบาหวาน เท้าดํา อาการเท้าดำอาจพบร่วมกับอาการแสดงอื่น ๆ ดังนี้ ผิวหนังบริเวณเท้าบวมแดง […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

คอดํา เบาหวาน เกี่ยวข้องกันอย่างไร ป้องกันได้หรือไม่

คอดํา เบาหวาน เป็นผื่นผิวหนังที่เกิดเนื่องจากภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นอาการหนึ่งที่พบได้ในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้ว โดยเมื่อมีภาวะดื้ออินซูลิน ตับอ่อนจะถูกกระตุ้นให้ต้องผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น และอินซูลินที่เพิ่มขึ้นกว่าปกตินี้จะกระตุ้นให้การผลิตเซลล์ผิวหนังและเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นผิดปกติตามไปด้วย จึงทำให้ผิวหนังบริเวณคอ รักแร้ ข้อพับ และขาหนีบ หนาและดำคล้ำขึ้น อย่างไรก็ตาม คอดํา เบาหวานเป็นภาวะสุขภาพที่ไม่มีวิธีรักษาโดยตรง แต่เน้นรักษาที่สาเหตุเป็นหลัก คุณหมออาจแนะนำให้ดูแลตัวเอง หรืออาจใช้ยาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจช่วยให้อาการคอดำจางลง [embed-health-tool-bmi] สาเหตุของอาการ คอดำ เบาหวาน อาการคอดํา หรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรคผิวหนังช้าง เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน พันธุกรรม โรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสเตียรอยด์หรือยาคุมกำเนิด รวมทั้งผู้ที่ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ที่สำคัญคือ ภาวะดื้ออินซูลิน ที่พบได้ในผู้ที่เป็นโรคอ้วน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 และผู้ที่เป็นโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ   ภาวะดื้ออินซูลินทำให้ตับอ่อนต้องผลิตฮอร์โมนอินซูลินเพิ่มขึ้น และอินซูิลินที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกตินี้จะไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเพิ่มจำนวนเเละผลิตเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นสารที่มีสีดำเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เกิดปื้นสีดำที่คอ อาการ คอดํา เบาหวาน เป็นอย่างไร อาการ คอดำ คือ ผื่นสีดำคล้ำที่มักเกิดขึ้นบริเวณคอด้านหลังของผู้ป่วย โดยสีผิวบริเวณดังกล่าวมักจะค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีผิวปกติไปเป็นสีน้ำตาล จนกลายเป็นปื้นดำ หนาเเละหยาบกร้าน ในผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกคันและมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย นอกจากผื่นดำที่บริเวณคอแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานอาจพบผื่นดำคล้ำลักษณะเดียวกันนี้ในบริเวณอื่นได้ด้วย เช่น […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

มือชาเกิดจากอะไร ปัญหาของผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ควรมองข้าม

มือชาเกิดจากอะไร เป็นคำถามที่ผู้ป่วยเบาหวานมักสงสัย เพราะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน โดยอาการมือชามักเกิดจากเส้นประสาทที่รับความรู้สึกส่วนปลาย เช่นบริเวณปลายมือ ปลายเท้า เสื่อมลง  เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังเป็นเวลานานส่งผลให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ที่เลี้ยงเส้นประสาทบริเวณดังกล่าวอุดตัน เส้นประสาทจึงทำงานบกพร่องหรือเสือมไป จึงทำให้เกิดอาการชาบริเวณปลายมือ ปลายเท้า ซึ่งหากเกิดอาการเเล้วมักจะเป็นถาวร ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถป้องกันหรือลดความรุนเเรงรุนแรงได้ ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม  มือชาเกิดจากอะไร โรคเบาหวานนับเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ เนื่องจากตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยลงหรือไม่ได้เลย หรือร่างกายมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้การจัดการระดับน้ำตาลของร่างกายบกพร่องไป ทั้งนี้หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังเป็นเวลานาน เส้นประสาทย่อมได้รับความเสียหาย ทำให้เกิดความบกพร่องในการส่งสัญญาณการรับความรู้สึกสึกไปยังสมอง ซึ่งนำไปสู่ภาวะเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อมจากเบาหวาน ส่งผลให้เกิดอาการ ได้แก่ มือ แขน ขา เท้ารู้สึกชา ไม่รับรู้ถึงการสัมผัส ความเจ็บปวด และอุณหภูมิรอบตัว นอกจากนี้ ภาวะเส้นประสาทส่วนปลายเสื่อมจากเบาหวาน อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยดังนี้ รู้สึกเสียว เจ็บปวด หรือแสบร้อนตามมือ แขน ขา เท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไวต่อการสัมผัสมากผิดปกติ เช่น รู้สึกเจ็บปวดเพียงแค่ผ้าปูที่นอนสัมผัสโดนร่างกายส่วนที่เส้นประสาทเสียหาย โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนนี้ ได้แก่ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี โรคอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกิน เป็นเบาหวานมาเป็นระยะเวลานาน และการเป็นโรคไตหรือโรคไตที่เกิดจากโรคเบาหวาน การรักษา มือชาจากโรคเบาหวาน อาการมือชาในผู้ป่วยเบาหวาน ส่วนมากเเล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

มือบวม เบาหวาน สาเหตุและการรักษา

มือบวม เท้าบวม เบาหวาน เป็นอาการที่อาจพบได้ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายตีบและอุดตันจนเลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ของเหลวสะสมคั่งค้างอยู่บริเวณมือและเท้ามากขึ้น จึงทำให้มีอาการบวม มือบวม เบาหวาน เกิดจากอะไร มือบวม เท้าบวมจากเบาหวาน อาจเกิดในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ จนมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังเป็นเวลานาน ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายตีบและอุดตันจนเลือดไม่สามารถไหลเวียนเพื่อลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารได้ตามปกติ ทำให้ของเหลวสะสมค้างอยู่ตามเนื้อเยื่อส่วนปลาย เช่น มือและเท้า จนเกิดเป็นอาการมือบวมและเท้าบวมขึ้น โดยสาเหตุที่ของอาการมือบวม เท้าบวมในผู้ป่วยเบาหวาน อาจมีดังนี้ หลอดเลือดส่วนปลายตีบหรืออุดตัน เมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงอย่างเรื้อรัง อาจส่งผลทำลายผนังหลอดเลือดให้ยืดหยุ่นน้อยลง ผนังหลอดเลือดหนาเเละเเข็งขึ้น ทำให้หลอดเลือดเสี่ยงต่อการตีบและอุดตันได้ง่าย เลือดจึงไม่สามารถไหลเวียนได้สะดวก จนเกิดอาการมือ-เท้าบวม เส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป อาจส่งผลทำลายเส้นประสาท ทำให้ผู้ป่วยรับรู้ความรู้สึกได้น้อยลง อาจมีอาการชาหรือเสียวซ่าบริเวณมือ และหากผู้ป่วยไม่รู้ตัวว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณมือ ก็อาจทำให้แผลติดเชื้อและมีอาการบวมเกิดขึ้นร่วมด้วยได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานอาจมีอาการบวมในบริเวณอื่น เช่น แขน ขา เท้า และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผิวหนังส่วนนั้น ๆ สีคล้ำลง รู้สึกเจ็บปวด เสียวซ่า ชา ขยับนิ้วลำบาก  การรักษามือบวม เบาหวาน อาการมือบวมและเท้าบวมจากเบาหวานจำเป็นต้องรักษาที่สาเหตุ คือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดภาวะเเทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เเละ อาการมือ-เท้าบวม […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

คุณกำลังเป็นเบาหวานอยู่ใช่หรือไม่?

คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เข้าร่วมชุมชนเบาหวานและแลกเปลี่ยนเรื่องราวและประสบการณ์ของคุณ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!


advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม