โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม

สมุนไพรลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะสารสกัดในสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคทุกครั้ง [embed-health-tool-bmi] สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม ขมิ้นชัน สรรพคุณ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล มีสรรพคุณช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ระบบการเผาผลาญภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมุนไพรขมิ้นชันจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ผลข้างเคียง หากรับประทานขมิ้นชันในปริมาณสูงติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน  ขิง สรรพคุณ สารซิงเจอโรน (Zingerone) ในขิง เป็นสารประกอบที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ดังนั้นจึงมีความสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมได้ อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้สามารถควบคุมปริมาณในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ผลข้างเคียง ขิงเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้  แนะนำรับประทานไม่เกินวันละ 4 กรัม และในสตรีมีครรภ์ไม่เกินวันละ 1 กรัม  ส้มแขก สรรพคุณ หลายคนมักรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากส้มแขก เนื่องจากส้มแขกมีกรดมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (Hydroxycitric Acid: HCA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย และยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวน้อยลง  ผลข้างเคียง เวียนศีรษะ ปากแห้ง ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย  เม็ดแมงลัก […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารไม่ย่อย สัญญาณสะท้อนปัญหาสุขภาพ

อาหารไม่ย่อย เป็นอาการที่เกิดจากการรับประทานอาหารมากเกินพอดี รับประทานอาหารผิดเวลา หรือปัญหาสุขภาพบางอย่าง ทำให้อาหารไม่สามารถย่อยและเคลื่อนตัวต่อไปยังลำไส้เล็กได้อย่างปกติ อาหารไม่ย่อยอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ เช่น กรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร หรือนิ่วในถุงน้ำดี หากมีอาการอาหารไม่ย่อย อึดอัดแน่นท้อง หรือแสบร้อนในกระเพาะอาหาร ควรหาสาเหตุเพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที อาหารไม่ย่อย คืออะไร อาหารไม่ย่อย หรืออาการปวดท้องจากอาหารไม่ย่อย คืออาการแสบร้อนบริเวณท้องช่วงบน หรือบริเวณกระดูกทรวงอกช่วงล่าง อาจมีอาการปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งหรือบ่อยครั้ง บางครั้งอาจมีอาการแสบร้อนบริเวณภายในทรวงอก อาหารไม่ย่อยมักเป็นสัญญาณบอกถึงปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร และนิ่วในถุงน้ำดี แตกต่างกับอาการแสบร้อนกลางอกซึ่งมักก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้หรือท้องอืด อาการอาหารไม่ย่อยที่รุนแรงอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพของระบบย่อยอาหารอย่างถาวร เช่น ก่อให้เกิดแผลเป็นในหลอดอาหาร หรือทางเดินอาหารสู่กระเพาะ อาการอาหารไม่ย่อยเกิดขึ้นได้กับในทุกช่วงวัย ทั้งนี้อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ควบคู่ไปด้วย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มากเกินไป รับประทานยาแอสไพริน หรือยาแก้ปวดที่ระคายเคืองกระเพาะอาหารบ่อยครั้ง มีอาการที่สร้างความผิดปกติกับทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะอาหาร เครียดและวิตกกังวล อาการอาหารไม่ย่อย  อาการอาหารไม่ย่อยอาจเกิดขึ้นในระหว่างหรือหลังจากรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ความเครียดเเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อาการแย่ลง อาการต่อไปนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการอาหารไม่ย่อย รู้สึกอึดอัด ไม่่สบายและหนักท้อง เรอเปรี้ยว มีอาการไหลย้อนกลับของอาหารหรือของเหลวกลับสู่หลอดอาหาร ท้องอืด (มักไม่ปรากฏ) คลื่นไส้และอาเจียน (มักไม่ปรากฏ) แม้จะมีวิธีรักษาอาการอาหารไม่ย่อยและยาที่ช่วยรักษาอาการได้ก็ตาม แต่อาหารไม่ย่อยอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงอื่นๆ  ดังนั้น ควรพบแพทย์หากพบภาวะดังต่อไปนี้ร่วมด้วย อายุ 55 ปีหรือมากกว่า น้ำหนักตัวลดลงมากอย่างไม่มีสาเหตุ กลืนอาหารได้ยากลำบาก อาเจียนบ่อยครั้ง เป็นโรคโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็ก พบต่อมหรือก้อนในกระเพาะอาหาร อาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระมีเลือดปน สาเหตุของอาหารไม่ย่อย โดยปกติแล้วกระเพาะอาหารจะสร้างกรดขึ้นมาเพื่อช่วยในการย่อยอาหารที่ทานเข้าไป อย่างไรก็ตาม บางครั้งกรดอาจสร้างความเสียหายให้แก่ผนังลำไส้ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและระคายเคือง อาหารไม่ย่อยอาจได้รับการกระตุ้นหรือมีอาการแย่ลงจากปัจจัยอื่นๆ สาเหตุหลักของการเกิดอาหารไม่ย่อยคือการรับประทานอาหารมากเกินไปหรือเร็วเกินไป รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเกินไปหรือรับประทานอาหารขณะที่เกิดความเครียด อีกสาเหตุหนึ่งคือ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์หรือการสูบบุหรี่ รวมถึงความเครียดและความเหนื่อยล้าล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้อาการอาหารไม่ย่อยแย่ลง หากมีน้ำหนักตัวมากเกินปกติ ก็นับว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นอาหารไม่ย่อยเนื่องจากความดันที่เพิ่มขึ้นในกระเพาะอาหาร โรคที่ก่อให้เกิดการไหลย้อนของกรดในกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหารหรือเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารทำงานผิดปกติทำให้อาหารไหลย้อนกลับสู่หลอดอาหารได้ โรคบางอย่างที่ก่อให้เกิดอาหารไม่ย่อย […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ผักอินทรีย์กับผักปลอดสาร กินอย่างไรถึงได้ประโยชน์สูงสุด

หลายคนอาจทราบกันดีว่าการบริโภคผักและผลไม้เป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ เพราะการบริโภคผักและผลไม้วันละ 400 กรัมจะช่วงป้องกันโรคเรื้อรังอย่าง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วนและโรคมะเร็งได้ แต่ทุกวันนี้เมื่อต้องไปเดินตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อผักมารับประทาน หลายคนอาจจะสับสนในมาตรฐานของผัก รวมถึงจะรู้ได้อย่างไรว่าผักที่กำลังเลือกซื้ออยู่เป็น ผักอินทรีย์กับผักปลอดสาร วันนี้ Hello คุณหมอ มีบทความเรื่องนี้มาฝากกัน เครื่องหมายของ ผักอินทรีย์กับผักปลอดสาร ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่เครื่องหมายผักผลไม้ออร์แกนิก กันก่อนดีกว่า โดยปกติแล้วผักผลไม้ออร์แกนิก รวมถึงผักอินทรีย์กับผักปลอดสาร จะมีเครื่องหมาย ตรารับรองเกษตรอินทรีย์อย่าง ตรารับรองโดย มกท. (สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์) – Organic Thailand (Organic Agriculture Certification Thailand) ตรารับรองของสหรัฐอเมริกา – USDA Organic (United States Department of Agriculture) ตรารับรองโดยสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ –  IFOAM หรือ IFOAM Accredited (International Federation of Organic Agriculture Movements) โดยตรารับรองดังกล่าวหมายถึงผลผลิตทางการเกษตรจากการทำเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเป็นการรับรองจากสถาบันที่แตกต่างกันไป การทำเกษตรกรรมประเภทนี้จะปราศจากการใช้สารเคมีเลย ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ไปจนถึงการดูแล เก็บเกี่ยว เกษตรกรจะใช้วิถีธรรมชาติในการดูแลพืชพันธุ์ ทำให้พืชทางการเกษตรมีความหลากหลาย สิ่งแวดล้อมรอบข้างดีขึ้น และชุมชนเกษตรกรได้เอื้อเฟื้อกัน นอกจากนั้นการทำการเกษตรเช่นนี้ […]


โภชนาการพิเศษ

มังสวิรัติ ประโยชน์และข้อควรรู้ในการบริโภค

มังสวิรัติ (Vegetarian) คือ รูปแบบการกินอาหารที่งดเว้นเนื้อสัตว์ หลายคนอาจกินด้วยเหตุผลของความเชื่อเรื่องบุญ-บาป แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าการกินมังสวิรัติมีผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ก่อนกินอาหารมังสวิรัติ ควรศึกษาประโยชน์ ข้อควรระวัง และข้อควรรู้ในการบริโภคให้ดี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพ ข้อดีของอาหารมังสวิรัติ โปรตีน แหล่งโปรตีนสำหรับผู้ที่ที่กินมังสวิรัติคืออาหารจำพวกถั่วและธัญพืช ซึ่งมีข้อดีต่างจากโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ คือ เป็นโปรตีนที่มีไขมันน้อยกว่า และมักมีใยอาหารสูง วิตามิน ผักผลไม้หลายชนิดมีวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและโรคมะเร็ง ไขมัน ไขมันไม่อิ่มตัวพบในน้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสง และน้ำมันดอกทานตะวัน เนื่องจากผู้ที่กินมังสวิรัติเน้นบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชหรือนมขาดมันเนย จึงมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงที่อาจนำไปสู่โรคหัวใจได้น้อยกว่าผู้ที่ที่กินไขมันจากสัตว์ เพราะคอเลสเตอรอลจะพบในแหล่งอาหารจากสัตว์เท่านั้น ข้อด้อยของอาหารมังสวิรัติ วิตามินบี 12 อาจได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ เพราะวิตามินชนิดนี้พบในอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์เท่านั้น โปรตีน ปริมาณและคุณภาพของโปรตีนอาจเทียบเคียงกับโปรตีนที่มาจากสัตว์ไม่ได้ เนื่องจาก 1 ใน 4 ของโปรตีนมาจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นธัญพืชและถั่ว ซึ่งโปรตีนจากอาหารประเภทนี้มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายไม่ครบถ้วน หรือที่เรียกว่า โปรตีนชนิดไม่สมบูรณ์ (Incomplete Protein) โปรตีนที่มีคุณภาพดีและมีกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการครบถ้วน หรือที่เรียกว่าโปรตีนชนิดสมบูรณ์ (Complete Protein) ส่วนมากจะมาจากเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ เนื้อ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

คุณจำเป็นต้องกิน เวย์โปรตีน เพื่อเพิ่มกล้าม จริงหรือไม่

เวย์โปรตีน มีกรดอะมิโนจำเป็นจำนวนมาก ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว งานวิจัยหลายงานวิจัยชี้ว่าเวย์โปรตีน สามารถเพิ่มความแข็งแรงและช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึง เวย์โปรตีน มีส่วนช่วยในการลดไขมันอย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้ Hello คุณหมอ ชวนมาไขข้อข้องใจว่าความจริงแล้ว คุณจำเป็นต้องกินเวย์โปรตีน เพื่อเพิ่มกล้ามหรือเปล่า เวย์โปรตีน (Whey protein) คืออะไร เวย์โปรตีนเป็นหนึ่งในโปรตีนหลัก ที่พบในผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว โดยได้มาจากกระบวนการผลิตชีส ซึ่งในเวย์โปรตีนมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย โดยปกติเราจะกินเวย์โปรตีนเพื่อทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นกีฬาดีขึ้น และเพื่อเพิ่มสารอาหารในกรณีที่ขาดสารอาหาร หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการขาดโปรตีน ประโยชน์ของเวย์โปรตีน อาหารเสริมเวย์โปรตีน ขึ้นชื่อในเรื่องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เวย์โปรตีนจึงเป็นที่นิยมสำหรับนักกีฬา นักกล้าม นายแบบหรือนางแบบที่ต้องโชว์ร่างกาย รวมถึงผู้ที่ต้องการทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายดีขึ้น โดยประโยชน์ของเวย์โปรตีนต่อกล้ามเนื้อ มีดังนี้ เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ในขณะที่มีงานวิจัยที่แนะนำว่า การกินเวย์โปรตีนควบคู่กับการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น แต่ก็มีงานวิจัยที่ชี้ว่าเวย์โปรตีนไม่ได้ส่งผล นอกจากนี้เวย์โปรตีนยังอาจช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น หลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เวย์โปรตีนมีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเติบโตของกล้ามเนื้อ เมื่อบริโภคอย่างเหมาะสมก่อน หลัง และระหว่างออกกำลังกาย นอกจากนี้ การสังเคราะห์โปรตีนของกล้ามเนื้อมักจะสูงที่สุดในช่วงเวลาหลังออกกำลังกาย มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก อย่างที่ทราบกันดีว่าโปรตีนสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากมีงานวิจัยที่ชี้ว่า โปรตีนสามารถเพิ่มการใช้พลังงานได้ 80–100 แคลอรี่ต่อวัน และทำให้กินอาหารน้อยลงโดยอัตโนมัติ 441 แคลอรี่ต่อวัน และยังมีงานวิจัยที่ให้ข้อมูลว่า การกินโปรตีนเพิ่มขึ้น 25% ของแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน สามารถลดความอยากอาหารได้ 60% และลดความอยากกินของหวานในตอนกลางคืนได้ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารบำรุงสมองผู้สูงอายุ ลดความเสี่ยงสมองเสื่อม เพิ่มความจำ

เมื่ออายุมากขึ้นหรือเริ่มเข้าสู่วัยชรา สุขภาพร่างกายก็เริ่มอ่อนแอ ปัญหาหนึ่งที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องเผชิญก็คือ การทำงานของสมองเสื่อมถอย หรือที่เรียกว่าภาวะสมองเสื่อม นั่นเอง แต่ผู้สูงอายุก็สามารถลดความเสี่ยงสมองเสื่อม ความจำเสื่อมได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดี ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมไปถึงการหันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม อาหารบำรุงสมองผู้สูงอายุ ที่ช่วยเพิ่มความทรงจำ และช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นเหล่านี้ [embed-health-tool-bmr] 1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เชอร์รี่ แครนเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่หรือลูกหม่อน ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ยังจัดเป็นสุดยอดอาหารบำรุงสมองเพราะอุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน (anthocyanin) และฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ที่ช่วยเพิ่มความจำและช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้สูงอายุควรกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ครั้งละประมาณ 1 กำมือ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หากใครหาซื้อผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สดไม่ได้ Hello คุณหมอ แนะนำว่าซื้อแบบแช่แข็งก็ได้ เพราะได้ประโยชน์เช่นกัน 2. กรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากอาหารที่กินเข้าไปเท่านั้น ผลการศึกษาวิจัยพบว่า หากมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในเลือดต่ำ จะส่งผลให้การทำงานของสมองเสื่อมถอยและปริมาณเนื้อสมองลดลง การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาทู สาหร่ายทะเล วอลนัต […]


ข้อมูลโภชนาการ

ปลานิล จะเผาหรือทอดก็อร่อย ความจริงแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

ปลานิล เป็นอาหารเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะไม่ว่าจะเอามาทำเป็นปลาเผา ปลาทอด หรือปลาย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ หรือกินเป็นเมี่ยงปลาเผาก็อร่อย Hello คุณหมอ บทความนี้จึงมีข้อมูลโภชนาการของปลานิล รวมถึงความเสี่ยงที่ควรระวังเวลากินปลานิล ข้อมูลโภชนาการของปลานิล ปลานิล เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี โดยโปรตีนประมาณ 100 กรัม มีโปรตีน 26 กรัม และมีพลังงานเพียง 128 แคลอรี่ จึงถือว่าเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ นอกจากนี้ปลานิลยังมีสารอาหารมากมาย โดยปลานิลจะอุดมไปด้วยไนอะซิน (Niacin) วิตามินบี 12 ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม และโพแทสเซียม ซึ่งปลานิล 100 กรัมมีสารอาหารดังต่อไปนี้ โปรตีน 26 กรัม ไขมัน 3 กรัม ไนอะซิน 24% ของปริมาณไนอะซินที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินบี 12 31% ของปริมาณวิตามินบี 12 ที่ควรได้รับต่อวัน ฟอสฟอรัส 20% ของปริมาณฟอสฟอรัสที่ควรได้รับต่อวัน ซีลีเนียม 78% ของปริมาณซีลีเนียมที่ควรได้รับต่อวัน โพแทสเซียม 20% ของปริมาณโพแทสเซียมที่ควรได้รับต่อวัน ปลานิลมีโอเมก้า 3 น้อยกว่าปลาแซลมอน 10 เท่า แม้ว่า […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

Intermittent Fasting หรือ IF แบบ 16/8 ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ

การอดอาหารเป็นช่วงเวลา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Intermittent Fasting (IF) เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย หรือกำลังลดน้ำหนัก ทั้งนี้ การอดอาหารเป็นช่วงเวลานั้นสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ และวิธีการที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ควรศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] Intermittent Fasting คืออะไร Intermittent Fasting คือ การอดอาหารเป็นพัก ๆ แบบไม่ต่อเนื่อง ซึ่งปกติแล้วมีหลากหลายแบบ โดยวิธีที่เป็นที่นิยม ได้แก่ 16/8 – การอดอาหาร 16 ชั่วโมง และกินภายในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง 20/4 – การอดอาหาร 20 ชั่วโมง และกินภายในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง Eat Stop Eat – การอดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 วันต่อสัปดาห์ Warrior Diet – การอดอาหารแบบนักรบ คือกินเพียง 1 มื้อใหญ่ต่อวัน Alternate-Day Fasting […]


ข้อมูลโภชนาการ

น้ำตาล เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็งจริงหรือ

น้ำตาล อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เนื่องจาก น้ำตาลถือเป็นพลังงานที่ส่งผลให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว การจำกัดน้ำตาลออกจากอาหารอาจช่วยหยุดการเจริญเติบโตของมะเร็ง หรืออาจหยุดการพัฒนาเซลล์มะเร็งตั้งแต่แรกเริ่ม แต่น้ำตาลไม่ได้เป็นเพียงอาหารของเซลล์มะเร็งเท่านั้น แต่ยังมีความจำเป็นต่อเซลล์ที่แข็งแรงของร่างกายอีกด้วย ดังนั้น การจำกัดน้ำตาลก็อาจส่งผลเสียต่อเซลล์ของร่างกายได้เช่นกัน นอกจากนั้น ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การรับประทานอาหารที่ปราศจากน้ำตาลอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตรอดได้ อาหารที่มีน้ำตาลไม่ได้มีแต่ของหวาน เซลล์ในร่างกายต้องการน้ำตาลจากอาหาร แต่ไม่ใช่แค่อาหารประเภทของหวานเพียงอย่างเดียว เพราะร่างกายอาจได้รับน้ำตาลจากแหล่งอาหารเหล่านี้ ผลไม้ (น้ำตาลฟรุกโตส) ผัก (กลูโคส) ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว (แลคโตส) อาหารในหมู่คาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปัง พาสต้า และข้าว บางคนอาจสงสัยว่า ถ้าเลิกรับประทานน้ำตาลหรือลดการบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้หรือไม่ ความจริงแล้วในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การรับประทานอาหารที่ปราศจากน้ำตาลและอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตรอดได้ น้ำตาล เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็งหรือเปล่า ในปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่า น้ำตาลอาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง ทั้งยังไม่มีหลักฐานที่พอจะพิสูจน์ได้ว่า น้ำตาลเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รับประทานเข้าไปในแต่ละมื้ออาจส่งผลอย่างมากต่อความเสี่ยงในการพัฒนาโรคมะเร็ง เพราะหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง คือ ความอ้วน หรือน้ำหนักเกิน การรับประทานฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารแปรรูปประเภทอื่น ๆ ที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ช็อกโกแลต ของหวาน สามารถทำให้น้ำหนักเพิ่ม และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พบว่า ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำ หรือดื่มในปริมาณมากอาจเชื่อมโยงกับการมีน้ำหนักขึ้น ส่วนสารให้ความหวานแทนน้ำตาล (Artificial […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เป็นโรคสะเก็ดเงิน อาหารอะไรควรกิน อะไรควรเลี่ยง มาดูกัน

โรคสะเก็ดเงิน ความผิดปกติของผิวหนังชนิดเรื้อรัง ที่ส่งผลกระทบกับทั้งผิวหนังและอวัยวะภายในอย่างข้อต่อ นอกจากจะทำให้เจ็บปวด รู้สึกไม่สบายตัว ยังอาจทำให้ผู้ป่วยบางรายรู้สึกอับอายหรือกังวลเกี่ยวกับผิวพรรณหรือภาพลักษณ์ของตัวเองได้ด้วย แม้จะฟังดูน่ากลัวแต่ผู้ป่วยก็สามารถรับมือกับโรคสะเก็ดเงินเบื้องต้นได้ด้วยการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นให้อาการของโรคสะเก็ดเงินกำเริบ เช่น สภาพอากาศ ความเครียด และที่เด่นชัดที่สุดก็คือ อาหาร หากคุณป่วย เป็นโรคสะเก็ดเงิน คุณควรกินอาหารอะไร และควรเลี่ยงอาหารอะไร เพื่อไม่ให้อาการของโรคกำเริบ หรือเกิดโรคแทรกซ้อน Hello คุณหมอมีมาฝากแล้ว [embed-health-tool-bmi] อาหารที่ควรกินเมื่อ เป็นโรคสะเก็ดเงิน ปลาที่อุดมด้วยไขมันดี ปลาที่อุดมไปด้วยไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาทู ปลาเทราต์ เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยต้านการอักเสบ และอาจช่วยให้อาการของโรคสะเก็ดเงินดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินควรหันมาบริโภคน้ำมันพืชที่มีโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกคำฝอย เพราะนอกจากจะช่วยลดการอักเสบแล้วยังดีต่อสุขภาพหัวใจอีกด้วย ผักและผลไม้ ผักและผลไม้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชันและลดอาการอักเสบ จึงเหมาะสำหรับโรคที่มีการอักเสบอย่างสะเก็ดเงิน โดยผักและผลไม้ที่ผู้เป็นโรคสะเก็ดเงินควรบริโภค เช่น ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว (Brussels Sprout) ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

กินอย่างไรเมื่อ ระบบย่อยอาหาร มีปัญหา

ระบบย่อยอาหาร มีปัญหามักจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว เช่นเวลาที่คุณมีอาการท้องอืด จุกเสียด ปวดท้อง มีแก๊ส ท้องเสีย และท้องผูก อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการที่พบบ่อย ซึ่งการกินอาหารส่งผลอย่างมาก และหลายคนมักจะกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรืออาหารแปรรูป ไม่ค่อยกินผักและผลไม้ รวมถึงบางคนกินอาหารไม่ตรงเวลา ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ระบบย่อยอาหารมีปัญหา Hello คุณหมอ แนะนำว่าให้ลองกินอาหารเหล่านี้ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น โยเกิร์ต โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย ที่เรียกว่า โพรไบโอติก (probiotics) ที่จะอยู่ในทางเดินอาหาร ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการย่อยอาหาร และรักษาสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้โพรไบโอติก ยังมีส่วนช่วยทำให้อาการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารดีขึ้น เช่น ท้องอืด ท้องผูก และท้องเสีย มากไปกว่านั้นยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า โพรไบโอติกช่วยทำให้การย่อยแลคโตส หรือย่อยน้ำตาลได้ดีขึ้น ผักใบเขียว ผักใบเขียวอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำ (insoluble fiber) ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดที่เพิ่มขนาดความหนาและความนุ่มของอุจจาระ ส่งผลให้การขับถ่ายดีขึ้น นอกจากนี้ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งช่วยบรรเทาซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูก โดยการทำให้การหดตัวของกล้ามเนื้อในทางเดินอาหารดีขึ้น ดังนั้นจึงควรเพิ่มการกินผักใบเขียวในมื้ออาหาร เช่น ผักโขม บล็อกโคลี ผักคะน้า แอปเปิ้ล แอบเปิ้ลอุดมไปด้วยเพกทิน (pectin) ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำ ที่ช่วยเพิ่มปริมาตรอุจจาระ จึงมีส่วนช่วยทำให้อาการท้องผูกและท้องเสียดีขึ้น และยังมีหลักฐานที่ชี้ว่า สามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในลำไส้ด้วย มะละกอ มะละกอมีเอนไซม์ที่เรียกว่า ปาเปน (papain) ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน