โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อแต่ติดตัว แค่ปรับไลฟ์สไตล์ก็เลี่ยงได้

ยุคนี้ อะไรๆ ก็ด่วนเร่งรีบไปหมด จนบางครั้งคนเราก็ต้องทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน บางคนกินข้าวขณะทำงานหรือเดินทาง บางคนกินอาหารจากร้านสะดวกซื้อหรือฟาสต์ฟู้ดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไหนจะความเครียดสะสมจากการทำงาน ไหนจะนอนดึกตื่นเช้าจนไม่ได้พักผ่อน รวมไปถึงไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์เหล่านี้นำไปสู่การเกิดกลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึง 74% ของการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศ โรค NCDs คือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคหรือการแพร่กระจายแต่อย่างใด โดยตัวอย่างโรคในกลุ่มโรค NCDs ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง โรคอ้วนลงพุง และโรคมะเร็ง1 แม้โรคเหล่านี้จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จากสถิติในปีพ.ศ. 2566 เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยโรค NCDs ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง2 อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยกลุ่มโรคดังกล่าวก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ที่น่าตกใจคือคนวัยทำงานส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรค NCDs3 ด้วยความที่โรค NCDs คือโรคที่เป็นผลจากพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ เครียดและนอนหลับไม่เพียงพอ หากต้องการจะหลีกเลี่ยงโรค NCDs ก็อยู่ที่การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้นั่นเอง จากการสำรวจพบว่าพฤติกรรมเสี่ยงอันดับ 1 ต่อการเกิดโรค NCDs ในประชากรไทย คือการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม โดยคนไทยมีสถิติการบริโภคแอลกอฮอล์สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังบริโภคเกลือและน้ำตาลสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ถึง […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

อาหารที่มีวิตามินดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

การรับประทาน อาหารที่มีวิตามินดี เช่น ไข่แดง ปลาน้ำเค็ม เห็ด และอาหารที่เติมวิตามินดี เช่น นม น้ำส้ม ซีเรียล รวมไปถึงวิตามินดีในรูปแบบอาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างกระบวนสร้างกระดูกและฟัน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจช่วยลดความในการเสี่ยงการเกิดภาวะขาดวิตามินดีได้ จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีเป็นประจำและควรออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน วิตามินดี สำคัญต่อร่างกายอย่างไร วิตามินดี (Vitamin D) เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยในกระบวนการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ มีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ สมอง และระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น หากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพออาจทำให้ขาดแคลเซียมไปด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพกระดูก อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกอ่อน (Rickets) เป็นต้น ทั้งนี้ ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองและจำเป็นต้องรับจากภายนอกเท่านั้น โดยทั่วไปสามารถรับวิตามินดีเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ดังนี้ รับวิตามินดีผ่านการรับประทานอาหาร อาหารที่มีวิตามินดี เช่น ไข่แดง เห็ด นมเสริมวิตามินดี ซีเรียลเสริม ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน รับวิตามินดีผ่านแสงแดด ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้ตามธรรมชาติหลังจากสัมผัสกับแสงแดด อย่างไรก็ตาม […]


โภชนาการพิเศษ

วิธีแก้แฮงค์ ด้วยอาหารและเครื่องดื่ม มีอะไรบ้าง

แฮงค์ หรือเมาค้าง หมายถึง อาการของร่างกายหลังจากตื่นนอนในเช้าวันรุ่งขึ้นต่อจากคืนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เช่น ปวดหัว กระหายน้ำ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดท้อง ทั้งนี้ วิธีแก้แฮงค์ นั้นมีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำมาก ๆ การรับประทานอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 3 และสังกะสี เช่น อะโวคาโด มันฝรั่ง อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากแฮงค์หรือเมาค้าง อาจรับประทานอาหารให้ท้องไม่ว่างก่อนดื่ม ดื่มให้ช้าลง จำกัดปริมาณการดื่ม หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มสีเข้มอย่างบรั่นดี ไวน์แดง วิสกี้ หรือเบอร์เบิน เป็นต้น [embed-health-tool-bmi] แฮงค์คืออะไร แฮงค์ หรือแฮงค์โอเวอร์ (Hangover) หมายถึง กลุ่มของอาการที่ร่างกายแสดงออกมาในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากคืนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป โดยอาการมักแสดงออกดังนี้ เหนื่อยล้า อ่อนแรง กระหายน้ำ ปวดหัว บ้านหมุน ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ ปวดท้อง ไวต่อแสงและเสียง วิตกกังวล เหงื่อออก ความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ อาการแฮงค์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ซึ่งเกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่มีต่อร่างกายดังต่อไปนี้ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ […]


โรคอ้วน

โฮลวีท ลดความอ้วน ได้หรือไม่ เพราะอะไร

โฮลวีท (Whole Wheat) หมายถึงข้าวสาลีเต็มเมล็ดที่ยังไม่ผ่านการขัดสี ซึ่งมักถูกนำไปแปรรูปเป็นแป้งหรือขนมปัง หากถามว่าการบริโภค โฮลวีท ลดความอ้วน ได้หรือไม่? คำตอบคือการบริโภคโฮลวีทในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยลดความอ้วนได้เพราะโฮลวีทมีสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย เช่น วิตามินบี วิตามินดี แมงกานีส แมกนีเซียม และยังอุดมไปด้วยใยอาหารที่ช่วยให้อิ่มท้องนาน ลดความอยากอาหาร และลดการบริโภคพลังงานส่วนเกิน [embed-health-tool-bmi] โฮลวีท คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง โฮลวีท หมายถึงข้าวสาลีเต็มเมล็ดหรือเมล็ดข้าวสาลีที่ยังไม่ผ่านการขัดสี หากปรากฏบนบรรจุภัณฑ์ของแป้งหรือขนมปัง จะหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ทำจากส่วนประกอบทั้งหมดของเมล็ดข้าวสาลี ซึ่งได้แก่ จมูกเมล็ด (Germ) เป็นส่วนของเมล็ดที่จะเจริญเติบโตเป็นต้นพืช อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมายที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น เช่น วิตามินบี แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส รวมทั้งวิตามินอี ไขมันดี สารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและลดการอักเสบภายในร่างกาย รำ (Bran) หรือเยื่อหุ้มเนื้อเมล็ด เป็นส่วนที่จะถูกนำออกจากเมล็ดพืชต่าง ๆ เมื่อเข้าสู่กระบวนการขัดสี มีวิตามินบีและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมทั้งอุดมไปด้วยใยอาหารที่ช่วยให้อิ่มท้องนานและช่วยลดความอยากอาหาร เอนโดสเปิร์ม […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

กาแฟดํา ช่วยเผาผลาญ ได้จริงหรือไม่

คนส่วนใหญ่ดื่มกาแฟดำเพื่อช่วยให้ตื่นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนง่วงนอน แต่บางคนก็อาจเลือกดื่มกาแฟดำเพื่อช่วยในการควบคุมน้ำหนัก แต่เคยสงสัยไหมว่า กาแฟดํา ช่วยเผาผลาญ ได้จริงหรือไม่ กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลเป็นเครื่องดื่มคาเฟอีนที่มีแคลอรีต่ำ และมีประโยชน์หลายประการ เช่น มีฤทธิ์ต้านอนมูลอิสระ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต รวมถึงช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานหลังออกกำลังกายได้มากขึ้น การรับประทานกาแฟดำเป็นประจำจึงอาจเป็นผลดีกับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำและต้องการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทั้งนี้ ควรบริโภคกาแฟดำในปริมาณพอเหมาะ หรือไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ความดันโลหิตสูง [embed-health-tool-bmr] คุณค่าทางโภชนาการของกาแฟดำ ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า กาแฟดำ 1 แก้ว ปริมาณ 240 กรัม ให้พลังงาน 2.4 กิโลแคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น โปรตีน 300 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 118 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 7.2 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส […]


โรคอ้วน

Triglyceride คืออะไร ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

Triglyceride (ไตรกลีเซอไรด์) คือ ไขมันชนิดหนึ่งที่อยู่ในกระแสเลือด ส่วนใหญ่มาจากอาหารที่รับประทานในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากสะสมในร่างกายมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ดังนั้น จึงควรควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเป็นประจำ [embed-health-tool-bmi] Triglyceride คืออะไร ไตรกลีเซอไรด์ คือ ไขมันชนิดหนึ่งในกระแสเลือดที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นในตับ รวมถึงได้จากอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาลสูง เช่น เนย ข้าวขาว คุกกี้ ไอศกรีม พุดดิ้ง น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ร่างกายจะเก็บไตรกลีเซอไรด์สะสมไว้ในเซลล์ไขมันตามส่วนต่าง ๆ  เช่น สะโพก แขน ขา หน้าท้อง เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่ไตรกลีเซอไรด์จะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อร่างกายเกิดการเผาผลาญเท่านั้น ถ้าหากไม่มีการเผาผลาญก็อาจก่อให้เกิดการสะสมของไตรกลีเซอไรด์ในปริมาณมาก จนส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มและอ้วนขึ้น เหตุผลที่ควรลด Triglyceride เนื่องจาก ไตรกลีเซอไรด์จัดอยู่ในกลุ่มไขมันไม่ดี หากร่างกายมีปริมาณของไตรกลีเซอไรด์สูงเกินกว่า 150-500 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ไขมันอุดตันในหลอดเลือด น้ำตาลในเลือดสูง […]


ข้อมูลโภชนาการ

Creatine คืออะไร มีประโยชน์ และข้อควรระวังการบริโภคอย่างไร

Creatine (ครีเอทีน) คือ กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นหรือได้รับจากอาหาร อีกทั้งยังมีในรูปแบบอาหารเสริมที่ง่ายต่อการรับประทาน การรับประทานครีเอทีนอาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทาน [embed-health-tool-bmi] Creatine คืออะไร Creatine คือ กรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างขึ้นภายในตับและไต หรืออาจได้รับจากอาหาร เช่น เนื้อแดง อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ปัจจุบันครีเอทีนยังมีในรูปแบบอาหารเสริมที่สามารถนำมาชงผสมกับเครื่องดื่มเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการรับประทาน เมื่อร่างกายได้รับครีเอทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นฟอสโฟครีเอทีน (Phosphocreatine) ซึ่งเป็นสารให้พลังงานสูงที่กักเก็บอยู่ในสมองและกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานในแต่ละวัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จึงเหมาะสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ประโยชน์ของ Creatine คืออะไร ครีเอทีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของครีเอทีนในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อ การรับประทานอาหารที่มีครีเอทินสูงหรือการรับประทานครีเอทีนในรูปแบบอาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยเพิ่มพลังงาน เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อ รวมไปถึงอาจช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บ โดยเฉพาะนักกีฬาที่ฝึกฝนอย่างหนัก จากการศึกษาในวารสาร Nutrients ปี พ.ศ. 2565 ที่ศึกษาเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเสริมครีเอทีนเพื่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ โดยทบทวนการทดลอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555-2564 พบว่า การรับประทานอาหารเสริมครีเอทีนอาจมีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ รวมถึงเพิ่มสมรรถภาพการออกกำลังกายในประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดี แต่ยังจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการรับประทานอาหารเสริมครีเอทีนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัย อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความจำ ครีเอทีนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยเฉพาะด้านความจำ ความรู้และความเข้าใจ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ จากการศึกษาในวารสาร Experimental Gerontology ปี […]


ข้อมูลโภชนาการ

5 อาหารที่มีแคลเซียม ประโยชน์ และข้อควรระวังในการรับประทาน

อาหารที่มีแคลเซียม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ถั่วเหลือง ผักใบเขียว เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากอาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคมะเร็งลำไส้ และปรับปรุงการทำงานของระบบประสาท อย่างไรก็ตามควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และการทำงานของสมองผิดปกติที่อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ [embed-health-tool-bmi] ทำไมถึงควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม อาหารที่มีแคลเซียม เป็นหนึ่งในอาหารที่ร่างกายต้องการ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน ช่วยควบคุมหรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมอง กล้ามเนื้อ รวมถึงหัวใจและหลอดเลือด หากร่างกายขาดแคลเซียมอาจส่งผลให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อกระตุกบ่อย กระดูกเปราะบางแตกหักง่าย มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ อาการชัก รวมถึงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน นิ่วในไต ไตวาย และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ 5 อาหารที่มีแคลเซียม ที่ควรรับประทาน 5 อาหารที่มีแคลเซียม มีดังนี้ โยเกิร์ต โยเกิร์ต 100 กรัม เป็นอาหารที่มีแคลเซียม 110 มิลลิกรัม ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกแตกหักง่าย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของหัวใจ และการดูดซึมสารอาหารอื่น ๆ จากการศึกษาหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Osteoporosis International ปี พ.ศ. 2560 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการรับประทานโยเกิร์ตมากขึ้นกับการเพิ่มขึ้นของความหนาแน่นของกระดูกและการทำงานของร่างกายในผู้สูงอายุ โดยวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกบริเวณสะโพก […]


โภชนาการพิเศษ

เมนูอาหารหลังผ่าตัดมดลูก มีอะไรบ้าง ที่ควรกินเพื่อฟื้นฟูร่างกาย

สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาหรือผ่าตัดมดลูก เมนูอาหารหลังผ่าตัดมดลูก ควรเน้นเป็นอาหารที่หลากหลาย โดยเน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่มาจากธรรมชาติ ผ่านกระบวนการปรุงแต่งและแปรรูปน้อยที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการสมานแผลและฟื้นฟูร่างกาย นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารบางชนิด เช่น อาหารไขมันสูง คาเฟอีน อาหารรสเผ็ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันปัญหาระบบย่อยอาหารและอาการไม่พึงประสงค์หลังผ่าตัด [embed-health-tool-ovulation] เมนูอาหารหลังผ่าตัดมดลูก เมนูอาหารหลังผ่าตัดมดลูก ที่ควรกินเพื่อปรับปรุงสุขภาพและช่วยในการสมานแผล อาจมีดังนี้ อาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักและผลไม้ต่าง ๆ พืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืช เพื่อปรับปรุงสุขภาพลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกที่อาจทำให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อแผลผ่าตัด ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น บร็อคโคลี่ สตรอว์เบอร์รี่ มะระขี้นก พริกหยวก ส้ม สับปะรด ฝรั่ง ลิ้นจี่ มะละกอ ธัญพืชและโปรตีนที่อุดมไปด้วยสังกะสี เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ อาหารทะเล หอยนางรม หอย กุ้ง ปู ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีนกระป๋อง ผักปวยเล้ง ถั่ว เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารที่มีโปรตีนเพียงพอตลอดทั้งวัน […]


ข้อมูลโภชนาการ

หอยแมลงภู่ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

หอยแมลงภู่ เป็นอาหารทะเลที่นิยมนำไปลวกรับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น หอยแมลงภู่อบใบโหระพา ยำขนมจีนใส่หอยแมลงภู่ แกงหอยแมลงภู่ใบชะพลู ซึ่งหอยแมลงภู่อุดมไปด้วยโปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ รวมทั้งเหล็ก และวิตามินบี 12 ที่มีบทบาทช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และอาจช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของหอยแมลงภู่ หอยแมลงภู่ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 172 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น น้ำ 60.5 กรัม โปรตีน 24 กรัม คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม ไขมัน 4.5 กรัม โพแทสเซียม 268 มิลลิกรัม นอกจากนี้ หอยแมลงภู่ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โซเดียม สังกะสี ทองแดง ซีลีเนียม (Selenium) โฟเลต (Folate) วิตามินซี วิตามินบี 1 […]


ข้อมูลโภชนาการ

สลัดผัก ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

สลัดผัก เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยผักหลายชนิด เช่น ผักโขม ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ผักคอส (Cos) ข้าวโพด ฟักทอง อะโวคาโด โดยสามารถเลือกผักที่ชื่นชอบมาเป็นส่วนประกอบให้สลัดผักมีสีสันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ซึ่งผักแต่ละชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกัน จึงอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพในหลายด้าน เช่น ปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร ลดความดันโลหิต ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ควบคุมโรคเบาหวาน และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย ประโยชน์ของสลัดผักต่อสุขภาพ สลัดผัก อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของสลัดผักในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร สลัดผักอุดมไปด้วยใยอาหารที่สามารถพองตัว ช่วยดูดซับน้ำและไขมันเมื่อผ่านระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร เพิ่มความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก และอาจช่วยป้องกันอาการลำไส้แปรปรวนได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ศึกษาเกี่ยวกับใยอาหาร จุลินทรีย์ในลำไส้ และการควบคุมการเผาผลาญ พบว่า การรับประทานผักที่มีเส้นใยสูงสามารถช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ในการช่วยย่อยอาหารและรักษาความเป็นปกติของสุขภาพทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก นอกจากนี้ ใยอาหารจะถูกหมักด้วยจุลินทรีย์ในลำไส้ และเพิ่มการผลิตกรดไขมันสายสั้นที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด รวมถึงช่วยควบคุมการเผาผลาญภายในร่างกาย จึงช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการเผาผลาญ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด อาจช่วยลดความดันโลหิต การรับประทานสลัดผักที่อุดมไปด้วยผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียม เช่น ลูกเกด ลูกพรุน แครอท […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน