โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

Sedentary Lifestyle เลิกได้ เลิก! รู้จัก “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ต้นเหตุของผลเสียต่อสุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ  จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle” “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของน้ำมันตับปลา และข้อควรระวังในการบริโภค

น้ำมันตับปลา คือ น้ำมันที่สกัดมาจากตับของปลาทะเล โดยน้ำมันตับปลาอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินดีและกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้ อย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบไปด้วย กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA) และกรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA) ที่อาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคต้อหิน ช่วยบำรุงกระดูก ลดภาวะซึมเศร้า ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และอาจช่วยเสริมการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อควรระวังบางประการในการบริโภค อีกประเด็นที่สำคัญก็คือน้ำมันตับปลากับน้ำมันปลาทะเลไม่เหมือนกัน จึงควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทาน โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งครรภ์และผู้ที่ใช้ยาบางชนิด [embed-health-tool-bmr] ประโยชน์ของน้ำมันตับปลา น้ำมันตับปลา มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของน้ำมันตับปลาในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยป้องกันโรคต้อหิน น้ำมันตับอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินเอที่อาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคต้อหินได้ เนื่องจาก วิตามินเอมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพดวงตา ส่วนกรดไขมันโอเมก้า 3 อาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการไหลเวียนเลือดในลูกตาได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Ophthalmology เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 ศึกษาเกี่ยวกับอาหารเสริมน้ำมันตับปลาอาจช่วยป้องกันโรคต้อหิน พบว่า น้ำมันตับปลาอุดมไปด้วยสารประกอบอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินเอ ที่อาจมีประโยชน์ในการป้องกันโรคต้อหินได้ เนื่องจากวิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพดวงตาและการมองเห็น ทั้งยังอาจช่วยรักษาความสมบูรณ์ของผิวตาและกระจกตา นอกจากนี้ […]


โภชนาการพิเศษ

แน่นท้อง เกิดจากอะไร ควรรับประทานอาหารอย่างไร

แน่นท้อง เป็นอาการปวดท้องส่วนบน มีแก๊สในกระเพาะอาหาร เรอบ่อย บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แสบร้อนหน้าอกร่วมด้วย โดยอาการแน่นท้องอาจมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารบางชนิด แพ้อาหาร รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ดังนั้น หากเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและไม่เป็นตัวกระตุ้น อาจช่วยบรรเทาอาการแน่นท้องได้ นอกจากนี้ อาจสังเกตตัวเองอยู่เสมอว่ามีอาการแพ้อาหารหรือมีอาการแน่นท้องเกิดขึ้นเมื่อรับประทานอะไร ซึ่งอาจช่วยป้องกันอาการแน่นท้องที่อาจเกิดขึ้นได้ [embed-health-tool-bmr] แน่นท้อง เกิดจากอะไร แน่นท้อง คือ อาการที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดท้องส่วนบน มีแก๊สในกระเพาะอาหาร เรอบ่อย บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แสบร้อนหน้าอก อิ่มเร็วแม้จะรับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย โดยอาการแน่นท้องอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร การรับประทานยาบางชนิด แพ้อาหาร การรับประทานอาหารบางชนิด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารโดยตรง ส่งผลทำให้ทางเดินอาหารอักเสบหรือทำงานมากเกินไปจนเกิดเป็นอาการแน่นท้องในที่สุด อาหารที่ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง อาหารที่ควรระวังในการรับประทานเพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแน่นท้อง อาจมีดังนี้ นมและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีน้ำตาลแลคโตส น้ำตาล เช่น น้ำตาลฟรุกโตส สารให้ความหวานเทียมอย่างซอร์บิทอล (Sorbitol) ผักและผลไม้ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง บร็อคโคลี่ กะหล่ำดาว กะหล่ำปลี แครอท มะเขือยาว หัวหอม ลูกเกด ลูกพรุน แอปเปิ้ล แอปริคอท ลูกพีช ลูกแพร์ […]


ข้อมูลโภชนาการ

Zinc (สังกะสี) คุณประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

Zinc หรือ สังกะสี จัดเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม สมานบาดแผลให้หายเร็วขึ้น ควบคุมการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะ โดยทั่วไป สังกะสีพบได้ในเนื้อสัตว์ ผักและอาหารทะเลบางชนิด ผลิตภัณฑ์จากนม รวมถึงธัญพืชและถั่วต่าง ๆ ทั้งนี้ หากร่างกายขาดธาตุสังกะสี อาจเกิดความผิดปกติของภาวะสุขภาพ อาทิ ผมร่วง สมรรถภาพทางเพศหย่อนยาน เบื่ออาหาร เจ็บป่วยง่าย อย่างไรก็ตาม ร่างกายควรได้รับสังกะสีในปริมาณที่พอดี เพราะหากร่างกายได้รับมากเกินไป อาจเกิดเป็นพิษและก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-bmi] Zinc คืออะไร Zinc หรือแร่สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่อยู่ในอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย มีประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญพลังงานของเซลล์ การสังเคราะห์โปรตีนและสารพันธุกรรมในร่างกาย การรักษาบาดแผล รวมถึงเสริมสร้างความสมบูรณ์ของระบบภูมิคุ้มกัน สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า ผู้ชายอายุ 19 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ ควรบริโภคสังกะสีอย่างน้อย 11 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่ผู้หญิงอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรบริโภคอย่างน้อย 8 มิลลิกรัม/วัน ทั้งนี้ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ถั่วเหลือง ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ถั่วเหลือง เป็นพืชล้มลุก ต้นเป็นพุ่มเตี้ย เมล็ดเป็นสีเหลือง สามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารได้หลายอย่าง เช่น นมถั่วเหลือง เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ ถั่วหมัก ถั่วเหลืองให้โปรตีนสูงและอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองดิบ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 446 กิโลแคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ โปรตีน 36.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 30.2 กรัม ไขมัน 19.9 กรัม โพแทสเซียม 1,800 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 704 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 280 มิลลิกรัม แคลเซียม 277 มิลลิกรัม ซีลีเนียม (Selenium) 17.8 มิลลิกรัม เหล็ก 15.7 มิลลิกรัม เบต้าแคโรทีน 13 ไมโครกรัม นอกจากนี้ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ใบโหระพา คุณค่าทางโภชนาการ ประโยชน์ และข้อควรระวังการรับประทาน

ใบโหระพา เป็นสมุนไพรที่อยู่ในวงศ์กะเพรา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย และแถบทวีปเอเชียและแอฟริกา ใบโหระพามีลักษณะเป็นใบสีเขียว บางสายพันธุ์อาจมีสีม่วงหรือสีแดง มีกลิ่นหอมเฉพาะ นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู อีกทั้งใบโหระพายังมีสารอาหารสำคัญ เช่น ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) แคลเซียม วิตามินเอ ที่อาจช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของใบโหระพา ใบโหระพา 5 กรัม หรือ 2 ช้อนโต๊ะ อาจให้พลังงาน 1.22 กิโลแคลอรี่ และคุณค่าโภชนาการ ดังนี้ โพแทสเซียม 15.6 มิลลิกรัม แคลเซียม 9.38 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 3.39 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 2.97 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ใบโหระพายังมีวิตามินเอ วิตามินเค ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 ลูทีน และซีแซนทีน ที่อาจช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังได้ ประโยชน์ของใบโหระพาต่อสุขภาพ ใบโหระพามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของใบโหระพาในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ใบโหระพา มีแร่ธาตุสำคัญอย่าง แมกนีเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ […]


โภชนาการพิเศษ

4 วิตามินผิว ที่ได้จากการรับประทานอาหาร

วิตามินผิว สามารถพบได้ในแหล่งอาหารตามธรรมชาติหลายชนิด เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไขมันจากสัตว์และพืช ซึ่งอาจมีความสำคัญต่อการบำรุงผิวให้แข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดดและต้านการอักเสบของผิวหนัง อาจช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและความหย่อนคล้อย ลดจุดด่างดำ ช่วยสมานแผลและช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้น [embed-health-tool-bmr] 4 วิตามินผิว ที่รับประทานแล้วดีต่อสุขภาพผิว การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินผิว อาจช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนประสิทธิภาพของวิตามินผิวในอาหาร ดังนี้ วิตามินเอ การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ เช่น แครอท แตงโม ฟักทอง มันเทศ มะม่วง มะเขือเทศ มะละกอ สาหร่าย ยีสต์ เคย กุ้ง กั้ง ตับ นม ไข่แดง ชีส ปลาที่มีไขมันอย่างปลาแซลมอน ทูน่า ปลาแมคเคอเรล อาจมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของผิว โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและต้านการทำลายคอลลาเจนในผิว ส่งผลทำให้ผิวเต่งตึงมากขึ้น ลดการเกิดริ้วรอย อาจช่วยลดการอักเสบและอาจช่วยให้แผลสมานตัวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดดที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหาริ้วรอยและผิวหมองคล้ำ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Dermato-Endocrinology เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างโภชนาการกับความชราของผิว พบว่า การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอที่มีสารประกอบเป็นแคโรทีนอยด์ […]


ข้อมูลโภชนาการ

สารอาหารที่ให้พลังงานได้แก่อะไรบ้าง

สารอาหารที่ให้พลังงานได้แก่อะไรบ้าง อาจเป็นคำถามที่หลายคนกำลังสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องออกแรงในการทำงาน หรือการออกกำลังกาย สารอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกบริโภคชนิดของสารอาหารที่ให้พลังงานให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี โดยสารอาหารที่ให้พลังงานแต่ละชนิดอาจมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป เพื่อรักษาสมดุลของกระบวนการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การสร้างเนื้อเยื่อ การเจริญเติบโต เป็นแหล่งพลังงานสำรอง ช่วยสร้างความอบอุ่น [embed-health-tool-bmr] สารอาหารที่ให้พลังงานได้แก่อะไรบ้าง 1. คาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ น้ำตาล แป้งและใยอาหาร โดยร่างกายต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักให้กับเซลล์ในกระบวนการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย หากขาดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายอาจเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานหลัก หรือเรียกว่า ภาวะคีโตซีส (Ketosis) ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว มีกลิ่นปาก นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย มึนงง ทั้งยังอาจดึงเอาโปรตีนมาใช้เป็นพลังงานหลักด้วย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการทำงานอื่น ๆ ของร่างกายที่จำเป็นต้องใช้โปรตีนเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ ใยอาหารยังเป็นคาร์โบไฮเดรตอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหารและการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงอาจช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นอีกด้วย ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายต้องการ คือ ประมาณ 45-65% ของพลังงานทั้งหมดที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ส่วนสูง สุขภาพ […]


ข้อมูลโภชนาการ

กล้วยหอม ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

กล้วยหอม เป็นกล้วยชนิดหนึ่ง มีผลขนาดใหญ่ เปลือกค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับกล้วยชนิดอื่น ๆ นิยมรับประทานกล้วยหอมสดและใช้ทำขนมหรือของหวาน เช่น เค้กกล้วยหอม ไอศกรีมรสกล้วย กล้วยหอมอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ สารพฤกษเคมี และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยอาจช่วยควบคุมความดันโลหิต อาจช่วยควบคุมน้ำหนัก เป็นต้น [embed-health-tool-bmr] คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยหอม กล้วยหอมสด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 98 กิโลแคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 21.2 กรัม โปรตีน 0.74 กรัม ไขมัน 0.29 กรัม โพแทสเซียม 326 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 28 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม วิตามินซี 12.3 มิลลิกรัม แคลเซียม 5 มิลลิกรัม โฟเลต (Folate) 14 ไมโครกรัม นอกจากนี้ กล้วยหอม […]


ข้อมูลโภชนาการ

อินทผาลัมสด ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

อินทผาลัม หรือ อินทผลัม เป็นพืชตระกูลปาล์ม ซึ่งนิยมปลูกในหลายทวีปทั่วโลกทั้งแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานอินทผาลัมแห้ง แต่อินทผาลัมสดนั้นให้พลังงานและมีน้ำตาลน้อยกว่า โดยทั่วไป อินทผาลัมสด มักมีรสชาติหวานและฝาด เปลือกมีสีเหลืองไปจนถึงแดงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ทั้งนี้ อินทผาลัมอุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินมากมาย เช่น ไฟเบอร์ ทองแดง แมงกานีส วิตามินบี 6 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ อินทผาลัมสด อินทผาลัมสด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 277 กิโลแคลอรี่ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 21.3 กรัม และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 75 กรัม โปรตีน 1.81 กรัม ไขมัน 0.15 กรัม โพแทสเซียม 696 มิลลิกรัม แคลเซียม 64 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 62 […]


ข้อมูลโภชนาการ

ถั่วลิสง ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ถั่วลิสง เป็นพืชตระกูลถั่ว นิยมใช้เป็นส่วนประกอบเมนูอาหารที่หลากหลาย เช่น มัสมั่น ยำวุ้นเส้น ส้มตำไทย ต้มจืด อีกทั้งรับประทานเป็นของขบเคี้ยวหรือเครื่องเคียง เช่น ถั่วลิสงต้ม ถั่วลิสงอบกรอบ ถั่วกรอบแก้ว รวมทั้งแปรรูป เช่น เนยถั่ว เมื่อแกะเปลือกแข็งด้านนอกออก สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกที่หุ้มตัวเมล็ดอยู่ โดยเปลือกมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารพฤกษเคมีเช่นเดียวกับส่วนของเนื้อถั่วลิสง นอกจากนั้น ถั่วลิงสงยังอุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินต่าง ๆ ทั้งโปรตีน ไขมัน ไฟเบอร์ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม วิตามินบีรวม วิตามินอี ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ต้านมะเร็ง ป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดี และอาจช่วยควบคุมน้ำหนัก [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ ถั่วลิสง ถั่วลิสง 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 567 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ ไขมัน 49.2 กรัม โปรตีน 25.8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 16.1 กรัม โพแทสเซียม […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน