การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอันตรายต่าง ๆ ภายนอก การดูแลและทำความสะอาดผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย มาเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับ การดูแลและทำความสะอาดผิว พร้อมกันกับ Hello คุณหมอ สิคะ

เรื่องเด่นประจำหมวด

การดูแลและทำความสะอาดผิว

รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไร สาเหตุของรูขุมขนกว้าง

ปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะคนผิวมัน คือ รูขุมขนกว้าง สาเหตุเกิดจากอะไร รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไรให้ได้ผล [embed-health-tool-bmi] รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร รูขุมขนกว้างเกิดจาก การทำงานของต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากเกินไป เมื่อต่อมผลิตไขมันใต้ผิวหนังเกิดการขยายใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลให้น้ำมันออกมามากขึ้น นอกจากรูขุมขนกว้างแล้ว จึงมีปัญหาหน้ามันร่วมด้วย โดยน้ำมันที่อุดตันรูขุมขนยิ่งทำให้เห็นรูขุมขนกว้างชัดขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างอาจมาจากกรรมพันธุ์ ประวัติของคนในครอบครัวผิวมัน เป็นสิว ถ่ายทอดมาทางยีน รูขุมขนกว้างยังอาจเกิดได้จากโครงสร้างของการเกิดเส้นขนใต้ผิวหนังมีปัญหา ทำให้รูขุมขนกว้าง โดยจะสังเกตปัญหารูขุมขนกว้างได้อย่างชัดเจนบริเวณใบหน้า ได้แก่ บริเวณ T-zone จมูก หน้าแก้ม หว่างคิ้ว บริเวณหน้าผาก เหนือปาก  สิ่งสำคัญที่ทำให้รูขุมขนกว้าง อาจเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะระดับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน ที่ไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของต่อมไขมัน ซึ่งจะมีระดับสูงขึ้นในช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนตัวนี้จะกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อสร้างไขมันมากขึ้นสู่ปากรูขุมขน จะเข้าไปผสมกับแบคทีเรีย รวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จนอุดตันกลายเป็นสิว ปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดรูขุมขนกว้าง อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณไม่กระชับ สารสำคัญใต้ผิวค่อย ๆ เสื่อมลง เช่น คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว แสงแดดและอากาศร้อน ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และส่งผลต่ออีลาสติน  รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไร หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ไปกระตุ้นหรือรบกวนรูขุมขน ได้แก่ ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่ควรถูหน้าอย่างรุนแรง ไม่ควรนวดหน้าหรือขัดหน้าบ่อยเกินไป ควรเลือกใช้การสครับที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า […]

สำรวจ การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับผิว

การเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน เพื่อช่วยดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ขาดน้ำ เช่น กรดไฮยาลูรอนิค ไนอะซินาไมด์ และควรหลีกเลี่ยงสารบางชนิดที่อาจระคายเคืองผิวที่แพ้และระคายเคืองได้ง่าย เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวมันอาจเกิดสิวได้ง่าย จึงควรดูแลผิวอย่างถูกวิธี เช่น ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หลบแดด ทาครีมกันแดด ล้างหน้าทุกครั้งก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันปัญหาผิวและช่วยให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี [embed-health-tool-bmi] ผิวมัน สังเกตได้อย่างไร ผิวมัน (Oily skin) เป็นสภาพผิวที่เกิดจากต่อมน้ำมันใต้ชั้นผิวหนังผลิตซีบัม (Sebum) หรือน้ำมันเคลือบผิวออกมามากเกินไป ทำให้ผิวหนังเป็นมันวาวหรือมันเร็วในระหว่างวัน มีรูขุมขนกว้างและเห็นรูขุมขนได้อย่างชัดเจน จนทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนหรือหยาบกว่าปกติ นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวมันยังเสี่ยงเกิดสิวได้ง่ายกว่าผู้ที่มีสภาพผิวแบบอื่น เนื่องจากอาจมีสิ่งต่าง ๆ เช่น เซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย สิ่งสกปรก ไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดการอักเสบ มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน แบบไหนถึงเหมาะ มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน (Oil-free) และควรมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ (Water base) มีเนื้อบางเบา ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการอุดตันรูขุมขนที่อาจทำให้ผิวมันมากกว่าเดิมและเกิดสิวได้ และอาจเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เซรั่มลดรอยสิว คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

เซรั่มลดรอยสิว เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเข้มข้นและมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา อาจเป็นเนื้อเจลหรือน้ำ จึงทำให้เซรั่มสามารถซึมเข้าสู่ผิวเพื่อจัดการกับปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การใช้เซรั่มอย่างถูกวิธียังอาจช่วยให้ส่วนผสมต่าง ๆ ซึมเข้าสู่ผิวเพื่อบำรุงสุขภาพผิวได้ดีขึ้น [embed-health-tool-vaccination-tool] เซรั่ม คืออะไร เซรั่ม คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ออกแบบมาให้มีสารออกฤทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อช่วยเติมเต็มสารอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่ผิว ซึ่งเซรั่มมีหลายชนิด เช่น ให้ความชุ่มชื้น ปรับผิวให้กระจ่างใส ลดริ้วรอย ลดรอยสิว โดยเซรั่มส่วนใหญ่มีลักษณะใส เนื้อสัมผัสเป็นเจลหรือเป็นของเหลวที่มีเนื้อเข้มข้นน้อยกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ จึงนิยมใช้เซรั่มทาผิวก่อนทามอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยเติมเต็มสารอาหารและกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ส่วนประกอบที่ควรมีใน เซรั่มลดรอยสิว ควรเลือกเซรั่มลดรอยสิวที่มีส่วนประกอบต่อไปนี้ เพื่อการรักษาและบำรุงสุขภาพผิวได้อย่างตรงจุด กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) เป็นสารที่นิยมใช้ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังเก่าที่เสื่อมสภาพ ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว ซึ่งอาจช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียน สม่ำเสมอ และกระจ่างใสมากขึ้น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) มีคุณสมบัติช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกในรูขุมขน ช่วยลดอาการบวมแดง และช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและสุขภาพดี กรดไพรูวิก (Pyruvic Acid) เป็นสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าจึงช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ รวมถึงช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น วิตามินซี มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยลดอาการบวมและรอยแดงบนผิวหนัง กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids หรือ AHA) […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เจลว่านหางจระเข้ ดีต่อสุขภาพผิวอย่างไร

เจลว่านหางจระเข้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวบอบบาง แพ้ง่าย จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว เช่น ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ รักษาแผลไหม้ ต้านสารอนุมูลอิสระ ลดความหมองคล้ำ บรรเทาอาการผื่นแดง คัน อาการแสบร้อนจากแสงแดด อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเกิดอาการแพ้เจลว่านหางจระเข้ได้ ดังนั้น หากพบว่ามีอาการของโรคผิวหนัง หรือมีอาการผื่นลมพิษเกิดขึ้น ควรเข้าพบคุณหมอ [embed-health-tool-vaccination-tool] เจลว่านหางจระเข้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวอย่างไร ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว มักใช้ในการรักษาแผลไฟไหม้และลดอาการอักเสบของผิวหนัง รวมทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวอีกมากมาย ดังนี้ ให้ความชุ่มชื้น เนื่องจากเจลว่านหางจระเข้ประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 96% จึงอาจช่วยเติมเต็มน้ำให้กับผิวหนังได้ นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้ผิวที่แห้งกร้านอ่อนนุ่มขึ้น ปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระ กรดอะมิโน เอนไซม์ แร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 12 มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยส่งเสริมการผลิตและการหลั่งคอลลาเจน เพื่อช่วยให้ผิวหนังแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยรักษาแผลและต้านการอักเสบ โดยเฉพาะแผลไหม้เล็กน้อย ผิวไหม้ รอยถลอกเล็กน้อย เนื่องจากเจลว่านหหางจระเข้มีสารบาร์บาโลอิน (Barbaloin) ซึ่งมีฤทธิ์ในการชำระล้างสิ่งสกปรก ฆ่าเชื้อ ช่วยรักษาและบรรเทาการอักเสบของผิวหนัง นอกจากนี้ ยังอาจช่วยลดรอยสิว ลดการอักเสบของสิว และลดริ้วรอยได้ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

Ceramide คืออะไร ประโยชน์และข้อควรระวังการใช้

Ceramide (เซราไมด์) คือ ส่วนประกอบที่ผสมอยู่ในสกินแคร์บำรุงผิวหน้า รวมถึงโลชั่น ครีม แชมพู  ที่อาจช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวและหนังศีรษะ เพื่อป้องกันผิวแห้งและฟื้นฟูเส้นผมแห้งเสีย ถึงแม้ว่าเซราไมด์จะมีประโยชน์แต่ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลเสียได้หากใช้ไม่ถูกวิธีเทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง ดังนั้นจึงควรศึกษาประโยชน์และข้อควรระวังก่อนใช้  [embed-health-tool-bmi] Ceramide คืออะไร Ceramide (เซราไมด์) คือ กลุ่มกรดไขมันที่พบได้ในเซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้า มีบทบาทสำคัญที่เป็นเกราะป้องกันผิวช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เสริมพัฒนาการสมอง ควบคุมการทำงานของเซลล์ให้เป็นไปตามปกติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ฟื้นฟูผมแห้งเสียลดผมร่วง นอกจากนี้ ปัจจุบันมีเซราไมด์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นและถูกผสมเข้าไปในครีม โลชั่น สกินแคร์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว รวมถึงแชมพูสระผม และแบ่งออกเป็น 12 ชนิดด้วยกัน โดยส่วนใหญ่เซราไมด์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นั้น มีดังนี้ เซราไมด์ 1 หรือที่เรียกว่าเซราไมด์ EOS เซราไมด์ 2 หรือที่เรียกว่าเซราไมด์ NS หรือ NG เซราไมด์ 3 หรือที่เรียกว่าเซราไมด์ NP เซราไมด์  6-II  หรือที่เรียกว่าเซราไมด์ AP เซราไมด์ 9 หรือที่เรียกว่าเซราไมด์ EOP ประโยชน์ของ Ceramide คืออะไร เซราไมด์ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หนังหัวลอก เกิดจากอะไร และวิธีการดูแลรักษา

หนังหัวลอก เป็นภาวะทางผิวหนังที่เกิดจากปัญหาหนังหัวแห้งและขาดความชุ่มชื้น จนส่งผลให้หนังหัวลอกเป็นขุย คัน ระคายเคือง และอาจมีอาการอักเสบร่วมด้วย ซึ่งปัญหาหนังหัวแห้งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคผิวหนัง รังแค สภาพอากาศแห้ง อายุที่มากขึ้น ดังนั้น การดูแลหนังศีรษะอย่างเหมาะสมจึงอาจช่วยป้องกันและบรรเทาอาการหนังหัวลอกและแห้งได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] หนังหัวลอก เกิดจากอะไร หนังหัวลอก เกิดจากการผลัดเซลล์ผิวบนหนังศีรษะที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหนังศีรษะแห้ง สูญเสียน้ำและความชื้นมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้มีอาการระคายเคือง คันและลอกได้ โดยปัญหาหนังหัวลอกอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ รังแค เป็นสาเหตุของหนังหัวลอกที่พบบ่อย โดยรังแคอาจเกิดขึ้นเพราะปัญหาผิวหนังอักเสบจากโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) โรคผื่นระคายสัมผัส การติดเชื้อรา การไม่สระผม ผิวแห้ง ฮอร์โมน ความเครียด ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น โดยรังแคเป็นสาเหตุที่ไม่ร้ายแรงสามารถหายได้หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม สภาพอากาศเย็นและแห้ง อาจทำให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้นและแห้งลอกได้ ผิวหนังอักเสบจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น แชมพู เจลแต่งผม สเปรย์ฉีดผม รวมทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขจัดเอาน้ำมันบนหนังศีรษะออกมากเกินไป การล้างแชมพูไม่หมด การสระผมบ่อยเกินไป อาจทำให้หนังหัวลอก แห้ง และระคายเคืองได้ อายุที่มากขึ้น เชื่อมโยงกับสภาพผิวหนังที่อ่อนแอลงทั่วร่างกาย ทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน ระคายเคืองง่ายและหลุดลอกง่าย โรคผิวหนัง เช่น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้ามันใช้อะไรดี และวิธีการดูแลผิวมัน

หลายคนที่มีปัญหาหน้ามันมากจนกระทบต่อการใช้ชีวิตและความมั่นใจ จึงอาจมีคำถามว่า หน้ามันใช้อะไรดี ที่จะช่วยลดความมันบนใบหน้า ปกป้องผิว และช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวให้แข็งแรง ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลดความมันส่วนเกิน และให้ความชุ่มชื้นกับผิวอยู่เสมอ รวมทั้งการดูแลสุขภาพผิวประจำวันอาจเป็นวิธีที่จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ [embed-health-tool-bmr] หน้ามัน เกิดจากอะไร หน้ามัน เกิดขึ้นเมื่อต่อมน้ำมันใต้รูขุมขนผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ส่งผลให้ผิวหน้ามีลักษณะมันวาว รูขุมขนกว้างและเป็นสิวง่าย เนื่องจากน้ำมันที่มากเกินไปสามารถผสมกับเซลล์ผิวเก่า เชื้อโรค และขนภายในรูขุมขนจนเกิดเป็นการอุดตันขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาหน้ามันยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก เช่น พันธุกรรม ความเครียด ฮอร์โมน แสงแดด สิ่งแวดล้อม การใช้ยาบางชนิด การใช้ชีวิตประจำวัน การดูแลผิว ผู้ที่มีหน้ามันควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันอาจมีคำถามว่า หน้ามันใช้อะไรดี เพื่อช่วยลดความมัน ปกป้องผิว และส่งเสริมสุขภาพผิวให้แข็งแรง ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนประกอบสำคัญต่อไปนี้อาจช่วยได้ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนผิวหนัง มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้ง นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบและลดการเกิดสิวอีกด้วย เรตินอยด์ (Retinoids) ช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนผิวและชะลอการผลิตน้ำมันในรูขุมขน รวมทั้งช่วยให้ผิวกระจ่างใสและต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวหนังเก่า พร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและสุขภาพดี ทั้งยังช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิว อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้มากเกินไปเพราะการผลัดเซลล์ผิวบ่อย […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน จึงจะช่วยบำรุงผิว และควรเลือกอย่างไร

หลายคนอาจมีคำถามว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน ถึงจะให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวที่ดี โดยทั่วไปควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ทันทีหลังทำความสะอาดผิว หรืออาจเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยการเช็ดโทนเนอร์หลังทำความสะอาดผิว จากนั้นทามอยเจอร์ไรเซอร์ตามทันที เพื่อให้มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวที่ลึกมากขึ้นและให้ประสิทธิภาพการบำรุงที่ดียิ่งขึ้น [embed-health-tool-vaccination-tool] มอยเจอร์ไรเซอร์ มีประโยชน์อย่างไร มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวลอก คัน และระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ยังอาจมีประโยชน์ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนังได้อีกด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน จึงจะเหมาะสม ช่วงเวลาในการทามอยเจอร์ไรเซอร์อาจเป็นสิ่งสำคัญ จึงอาจทำให้บางคนมีคำถามว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ทาตอนไหนถึงจะให้ผลดีที่สุด โดยทั่วไปควรทามอยเจอร์ไรเซอร์หลังจากการทำความสะอาดผิวทันที ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น หรือช่วงเวลาอื่น ๆ หลังล้างหน้า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ยังมีความชื้นอยู่บนผิว ทำให้มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถเคลือบผิวและกักเก็บน้ำไว้บนผิวได้มากสุด มอยเจอร์ไรเซอร์จึงอาจซึมเข้าผิวได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ การเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์ (Toner) หลังทำความสะอาดผิวก็อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของมอยเจอร์ไรเซอร์ได้เช่นกัน เนื่องจากโทนเนอร์อาจช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง และช่วยลดความมันบนใบหน้าที่โฟมล้างหน้าอาจกำจัดไม่หมด โดยอาจปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ ล้างทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนตามปกติ จากนั้นซับผิวให้แห้งพอหมาด เช็ดทำความสะอาดผิวด้วยโทนเนอร์กับสำลีอย่างเบามือ ทามอยเจอร์ไรเซอร์ตามทันทีให้ทั่วผิว จากนั้นใช้มือคลึงเบา ๆ ให้มอยเจอร์ไรเซอร์กระจายทั่วผิวหนัง เพื่อช่วยให้มอยเจอร์ไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ แสบ แดง เป็นผื่น หรือคัน ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการรักษา และเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดอื่นให้เหมาะสมกับสภาพผิวในขณะนั้น วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว สภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันจึงควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว ดังนี้ ทำความรู้จักกับสภาพผิวของตัวเอง เช่น ผิวแห้ง ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันและมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น สำหรับคนผิวมันควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของน้ำ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน ทาเพื่ออะไร

มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทาผิวหนังทั้งใบหน้าและร่างกายเพื่อรักษาความชุ่มชื้นมีทั้งรูปแบบครีม เจล หรือโลชั่น หากสงสัยว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน คำตอบคือ ควรทาหลังจากอาบน้ำหรือล้างหน้า ในขณะที่ผิวหนังยังเปียกชื้นอยู่ [embed-health-tool-ovulation] มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหนัง ในรูปแบบครีม เจล หรือโลชั่น มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นในเวลาเดียวกัน โดยทั่วไป มอยเจอร์ไรเซอร์ใช้ทาเพื่อป้องกันผิวแห้ง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่แห้งและเย็นในฤดูหนาว มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน มอยเจอร์ไรเซอร์ ควรทาประมาณ 2 ครั้ง/วัน หลังจากอาบน้ำ หรือหลังล้างหน้าหรือโกนหนวด โดยก่อนทา อาจเลือกขัดผิวเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาด เพื่อกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก และทำให้มอยเจอร์ไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่ชอบอาบน้ำอุ่นควรทามอยเจอร์ไรเซอร์หลังอาบน้ำอุ่นเพราะน้ำอุ่นจะชะล้างน้ำมันออกจากผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตกง่าย โดยมอยเจอร์ไรเซอร์จะช่วยป้องกันผิวแห้งและแตก ขั้นตอนการทามอยเจอร์ไรเซอร์ ขั้นตอนการทามอยเจอร์ไรเซอร์ มีดังต่อไปนี้ อาบน้ำหรือล้างหน้าให้สะอาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางออกจากผิวหนัง ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวโดยเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาที่สุดไปยังผลิตภัณฑ์ที่เนื้อหนักที่สุด ทามอยเจอร์ไรเซอร์ ขณะที่ผิวหนังยังเปียกชื้นอยู่ โดยแต้มมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นจุด ๆ แล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วเกลี่ยวนเป็นวงกลมรอบ ๆ ผิวหน้า หากทาตัวค่อย ๆ ลูบไล้ให้ทั่วร่างกาย มอยเจอร์ไรเซอร์ เลือกซื้ออย่างไร ปัจจุบัน มีมอยเจอร์ไรเซอร์จำนวนมากวางจำหน่ายตามร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ยากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ ทั้งนี้ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

คลีนเซอร์ คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

คลีนเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบหนึ่ง ใช้ทาบนใบหน้าแล้วล้างออกเพื่อขจัดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกให้หมดไป โดยทั่วไป นิยมใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นอันดับแรกในการทำความสะอาดผิวหน้าในตอนเช้า และมักใช้หลังจากเมคอัพรีมูฟเวอร์ในการทำความสะอาดใบหน้าก่อนนอน [embed-health-tool-ovulation] คลีนเซอร์คืออะไร คลีนเซอร์ (Cleanser) เป็นสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าชนิดหนึ่ง ใช้ทาลงบนใบหน้าแล้วล้างออก เพื่อกำจัดคราบเครื่องสำอางและกำจัดน้ำมัน เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว รวมทั้งมลภาวะต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนใบหน้า รวมทั้งใช้เพื่อป้องกันรูขุมขนอุดตันหรือลดความเสี่ยงเป็นสิว คลีนเซอร์มีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันอย่างไร คลีนเซอร์ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันนี้มีด้วยกัน 2 แบบ คือ คลีนเซอร์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก (Water-based Cleanser) และ คลีนเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก (Old-based Cleanser) โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้ คลีนเซอร์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เป็นคลีนเซอร์ที่มีสารลดแรงตึงผิวเป็นส่วนผสม และทำงานคล้ายสบู่ ช่วยกำจัดฝุ่นละอองและมลภาวะต่าง ๆ ให้หลุดจากผิวหน้าและล้างออกได้ง่าย ทั้งนี้ คลีนเซอร์แบบนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่หน้ามันหรือเป็นสิวง่าย เพราะมีคุณสมบัติกำจัดน้ำมันธรรมชาติออกจากใบหน้า ทำให้หน้ามันน้อยลง คลีนเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก โดยคลีนเซอร์แบบนี้เนื้อคลีนเซอร์จะละลายเข้ากับเครื่องสำอาง น้ำมัน หรือสิ่งสกปรกบนผิวหน้า เมื่อใช้ล้างหน้าจะทำให้คราบไคลต่าง ๆ หลุดออกจากใบหน้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ข้อดีของคลีนเซอร์แบบนี้ คืออ่อนโยนต่อผิวหน้า โดยเฉพาะกับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่ง คลีนเซอร์ใช้ ตอนไหน คลีนเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ควรใช้ทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน โดยในตอนเช้า ให้ใช้ล้างหน้าเพื่อกำจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกต่าง ๆ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

Debridement คือ อะไร ช่วยในการรักษาบาดแผลอย่างไร

Debridement คือ วิธีการกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและสิ่งแปลกปลอมออกจากแผล เพื่อช่วยให้แผลฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น โดยทั่วไป นิยมใช้วิธี Debridement กับแผลเรื้อรัง แผลที่ฟื้นฟูได้ช้ากว่าปกติ รวมถึงแผลจากไฟไหม้อย่างรุนแรง [embed-health-tool-heart-rate] Debridement คือ อะไร Debridement คือการกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและสิ่งแปลกปลอมออกจากแผล เพื่อช่วยให้แผลฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ ปกติแล้ว นิยมใช้วิธีการกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและสิ่งแปลกปลอมกับแผลแผลเรื้อรัง แผลที่ฟื้นฟูตัวเองช้ากว่าปกติ แผลติดเชื้อ แผลไฟไหม้รุนแรง รวมถึงแผลที่อาจทำให้เนื้อเยื่อตาย เช่น แผลบริเวณเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน Debridement มีกี่รูปแบบ การกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วและสิ่งแปลกปลอมมีหลายรูปแบบ ดังนี้ Autolytic Debridement Autolytic Debridement เป็นการปิดแผลด้วยผ้าพันแผลชนิดพิเศษ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูดซับสารคัดหลั่งช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ผู้ป่วยรู้สึกสบายแผล ไม่เจ็บปวด และทำให้ร่างกายจัดการเนื้อเยื่อที่ตายและสิ่งแปลกปลอมด้วยกระบวนการธรรมชาติ ทั้งนี้ Autolytic Debridement จะใช้เวลาหลายวัน และเหมาะกับแผลขนาดเล็กที่ไม่พบการติดเชื้อ รวมถึงแผลกดทับ Biological Debridement Biological Debridement หรือบางครั้งเรียกว่า หนอนบำบัด (Maggot Therapy) เป็นการปล่อยหนอนแมลงวันเข้าไปในแผล แล้วปิดด้วยผ้าพันแผล เพื่อให้หนอนกินเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว และหลั่งสารต้านแบคทีเรียออกมา โดยทั่วไป วิธี Biological Debridement จะใช้เวลาครั้งละประมาณ 24 ถึง 72 ชั่วโมง Enzymatic […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม