ข้อมูลโภชนาการ

สิ่งที่เรารับประทานเข้าไป มีผลโดยตรงต่อความรู้สึกและประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละวัน การเรียนรู้เกี่ยวกับ ข้อมูลโภชนาการ จะช่วยให้เรารู้จักระมัดระวังมากขึ้นก่อนการรับประทานอาหาร และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

ข้อมูลโภชนาการ

หัวปลี สารอาหารสำคัญ สรรพคุณทางยา และประโยชน์ของหัวปลี

หัวปลี เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปลีกล้วย คนไทยมักจะนำหัวปลีมาประกอบเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ช่วยเสริมรสชาติให้กับเมนูอาหาร ทั้งยังอุดมด้วยคุณประโยชน์มากมาก และมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย [embed-health-tool-bmi] สารอาหารสำคัญใน หัวปลี ปลีกล้วยหรือหัวปลี มีสารอาหารสำคัญ ดังนี้ แคลเซียม  ธาตุเหล็ก  ฟอสฟอรัส  แมกนีเซียม  โปรตีน  วิตามินซี  เบตาแคโรทีน ประโยชน์จากหัวปลี หัวปลีเป็นส่วนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทุกเพศทุกวัย เช่น  ปลีกล้วยมีสารซาโปนิน (Saponins) และแทนนิน(Tannins) ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ในทางการแพทย์แผนไทย  อุดมด้วยแคลเซียม ที่มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า ดีต่อกระดูกและฟัน อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ หัวปลีเป็นผักฤทธิ์เย็น ดีต่อสุขภาพในช่วงหน้าร้อน ปรับสมดุลร่างกายให้เย็นขึ้น ช่วยแก้อาการร้อนในได้ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ดีต่อผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย มีสารแมกนิเซียมที่ช่วยปรับสมดุลของสภาวะทางอารมณ์ ช่วยบรรเทาอาการเศร้า  มีสารเอทานอล ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคได้ ประโยชน์ที่สำคัญของหัวปลียังดีต่อแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอด ดังนี้  ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอด มีสรรพคุณทางยา กระตุ้นต่อมน้ำนม ให้ร่างกายแม่ตั้งครรภ์สร้างน้ำนมหลังคลอด จึงควรรับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดเพื่อช่วยขับน้ำนม ตัวอย่างเมนูจากหัวปลี หัวปลีมีรสฝาด สามารถกินสด ๆ ได้ […]

สำรวจ ข้อมูลโภชนาการ

ข้อมูลโภชนาการ

เลซิติน ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

เลซิติน (Lecithin) เป็นไขมันชนิดหนึ่งในกลุ่มฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) ที่สามารถพบได้ในอาหารต่าง ๆ เช่น ถั่วเหลือง ผักใบเขียว อาหารทะเล เลซิตินมีความจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท สมอง และหัวใจ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานเลซิตินในรูปแบบอาหารเสริม เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น ท้องร่วง ปวดท้องรุนแรง [embed-health-tool-bmi] เลซิติน คืออะไร เลซิติน คือ ไขมันชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในอาหารต่าง ๆ เช่น ถั่วเหลือง ไข่ จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง ตับ เมล็ดทานตะวัน น้ำมันคาโนลา เนื้อแดง ผักใบเขียว อาหารทะเล เลซิตินอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท สมอง หัวใจ และการไหลเวียนโลหิต อีกทั้งยังอาจช่วยลด คอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ และลดความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ ปัจจุบันมีเลซิตินในรูปแบบอาหารเสริมแบบแคปซูลและซอฟเจล เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลโภชนาการของเลซิตินหรือขอคำแนะนำจากคุณหมอก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัย ประโยชน์ของเลซิติน เลซิตินมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของเลซิตินในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันโรคหัวใจ การรับประทานเลซิตินอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดโรคหัวใจ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cholesterol เมื่อปี พ.ศ. 2553 ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของเลซิตินในถั่วเหลืองต่อภาวะไขมันในเลือดสูง […]


ข้อมูลโภชนาการ

Folic acid คือ อะไร ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

Folic acid หรือกรดโฟลิก คือ โฟเลตหรือวิตามินบี 9 (Vitamin B9) ในรูปแบบวิตามินสังเคราะห์ ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าโฟเลตตามธรรมชาติ โดยทั่วไป ผู้หญิงตั้งครรภ์จำเป็นต้องได้รับ Folic acid อย่างเพียงพอ เพราะเป็นวิตามินที่ช่วยในกระบวนการสร้างตัวอ่อน บำรุงสารพันธุกรรม ควบคุมการสร้างและสลายกรดอะมิโน ทั้งยังอาจช่วยป้องกันความพิการแต่กำเนิดของทารก ป้องกันภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ และอาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในคนทั่วไปได้ด้วย [embed-health-tool-bmi] Folic acid คือ อะไร Folic acid หรือ กรดโฟลิก คือ วิตามินบี 9 (โฟเลต) ในรูปแบบสังเคราะห์ มีชื่อทางเคมีว่า กรดพเทโรอิลโมโนกลูทามิก (Pteroylmonoglutamic acid) เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ เช่น ผิวหนัง ผม และเล็บ และช่วยผลิตและซ่อมแซมดีเอ็นเอและสารพันธุกรรมอื่น ๆ ถือเป็นวิตามินที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์และกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากกรดโฟลิกจะช่วยในกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์ตัวอ่อน ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะท่อประสาทบกพร่องที่อาจกระทบต่อพัฒนาการของสมองและกระดูกสันหลังของทารก และอาจป้องกันภาวะแท้งบุตรได้ การรับประทานกรดโฟลิกให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงอาจช่วยให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ คนโดยทั่วไปจะได้รับโฟเลตตามธรรมชาติจากการรับประทานในแต่ละวัน โฟเลตพบได้มากในผักใบแทบทุกชนิด ผลไม้ ธัญพืชเครื่องในสัตว์ เป็นต้น แต่สำหรับผู้หญิงที่ต้องการตั้งครรภ์หรือกำลังตั้งครรภ์ คุณหมอจะแนะนำให้รับประทานโฟเลตในรูปแบบสังเคราะห์อย่าง Folic […]


ข้อมูลโภชนาการ

อาหารที่มีวิตามินดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

การรับประทาน อาหารที่มีวิตามินดี เช่น ไข่แดง ปลาน้ำเค็ม เห็ด และอาหารที่เติมวิตามินดี เช่น นม น้ำส้ม ซีเรียล รวมไปถึงวิตามินดีในรูปแบบอาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างกระบวนสร้างกระดูกและฟัน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจช่วยลดความในการเสี่ยงการเกิดภาวะขาดวิตามินดีได้ จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีเป็นประจำและควรออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน วิตามินดี สำคัญต่อร่างกายอย่างไร วิตามินดี (Vitamin D) เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยในกระบวนการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ มีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ สมอง และระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น หากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพออาจทำให้ขาดแคลเซียมไปด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพกระดูก อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกอ่อน (Rickets) เป็นต้น ทั้งนี้ ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองและจำเป็นต้องรับจากภายนอกเท่านั้น โดยทั่วไปสามารถรับวิตามินดีเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ดังนี้ รับวิตามินดีผ่านการรับประทานอาหาร อาหารที่มีวิตามินดี เช่น ไข่แดง เห็ด นมเสริมวิตามินดี ซีเรียลเสริม ปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน รับวิตามินดีผ่านแสงแดด ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้ตามธรรมชาติหลังจากสัมผัสกับแสงแดด อย่างไรก็ตาม […]


ข้อมูลโภชนาการ

Creatine คืออะไร มีประโยชน์ และข้อควรระวังการบริโภคอย่างไร

Creatine (ครีเอทีน) คือ กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นหรือได้รับจากอาหาร อีกทั้งยังมีในรูปแบบอาหารเสริมที่ง่ายต่อการรับประทาน การรับประทานครีเอทีนอาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทาน [embed-health-tool-bmi] Creatine คืออะไร Creatine คือ กรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างขึ้นภายในตับและไต หรืออาจได้รับจากอาหาร เช่น เนื้อแดง อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ปัจจุบันครีเอทีนยังมีในรูปแบบอาหารเสริมที่สามารถนำมาชงผสมกับเครื่องดื่มเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการรับประทาน เมื่อร่างกายได้รับครีเอทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นฟอสโฟครีเอทีน (Phosphocreatine) ซึ่งเป็นสารให้พลังงานสูงที่กักเก็บอยู่ในสมองและกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานในแต่ละวัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จึงเหมาะสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ประโยชน์ของ Creatine คืออะไร ครีเอทีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของครีเอทีนในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อ การรับประทานอาหารที่มีครีเอทินสูงหรือการรับประทานครีเอทีนในรูปแบบอาหารเสริมในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยเพิ่มพลังงาน เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อ รวมไปถึงอาจช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บ โดยเฉพาะนักกีฬาที่ฝึกฝนอย่างหนัก จากการศึกษาในวารสาร Nutrients ปี พ.ศ. 2565 ที่ศึกษาเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเสริมครีเอทีนเพื่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ โดยทบทวนการทดลอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555-2564 พบว่า การรับประทานอาหารเสริมครีเอทีนอาจมีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ รวมถึงเพิ่มสมรรถภาพการออกกำลังกายในประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดี แต่ยังจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการรับประทานอาหารเสริมครีเอทีนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัย อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความจำ ครีเอทีนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยเฉพาะด้านความจำ ความรู้และความเข้าใจ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ จากการศึกษาในวารสาร Experimental Gerontology ปี […]


ข้อมูลโภชนาการ

5 อาหารที่มีแคลเซียม ประโยชน์ และข้อควรระวังในการรับประทาน

อาหารที่มีแคลเซียม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ถั่วเหลือง ผักใบเขียว เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากอาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคมะเร็งลำไส้ และปรับปรุงการทำงานของระบบประสาท อย่างไรก็ตามควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และการทำงานของสมองผิดปกติที่อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ [embed-health-tool-bmi] ทำไมถึงควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม อาหารที่มีแคลเซียม เป็นหนึ่งในอาหารที่ร่างกายต้องการ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน ช่วยควบคุมหรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมอง กล้ามเนื้อ รวมถึงหัวใจและหลอดเลือด หากร่างกายขาดแคลเซียมอาจส่งผลให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อกระตุกบ่อย กระดูกเปราะบางแตกหักง่าย มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ อาการชัก รวมถึงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน นิ่วในไต ไตวาย และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ 5 อาหารที่มีแคลเซียม ที่ควรรับประทาน 5 อาหารที่มีแคลเซียม มีดังนี้ โยเกิร์ต โยเกิร์ต 100 กรัม เป็นอาหารที่มีแคลเซียม 110 มิลลิกรัม ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกแตกหักง่าย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของหัวใจ และการดูดซึมสารอาหารอื่น ๆ จากการศึกษาหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Osteoporosis International ปี พ.ศ. 2560 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการรับประทานโยเกิร์ตมากขึ้นกับการเพิ่มขึ้นของความหนาแน่นของกระดูกและการทำงานของร่างกายในผู้สูงอายุ โดยวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกบริเวณสะโพก […]


ข้อมูลโภชนาการ

หอยแมลงภู่ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

หอยแมลงภู่ เป็นอาหารทะเลที่นิยมนำไปลวกรับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น หอยแมลงภู่อบใบโหระพา ยำขนมจีนใส่หอยแมลงภู่ แกงหอยแมลงภู่ใบชะพลู ซึ่งหอยแมลงภู่อุดมไปด้วยโปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ รวมทั้งเหล็ก และวิตามินบี 12 ที่มีบทบาทช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และอาจช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของหอยแมลงภู่ หอยแมลงภู่ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 172 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น น้ำ 60.5 กรัม โปรตีน 24 กรัม คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม ไขมัน 4.5 กรัม โพแทสเซียม 268 มิลลิกรัม นอกจากนี้ หอยแมลงภู่ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โซเดียม สังกะสี ทองแดง ซีลีเนียม (Selenium) โฟเลต (Folate) วิตามินซี วิตามินบี 1 […]


ข้อมูลโภชนาการ

สลัดผัก ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

สลัดผัก เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยผักหลายชนิด เช่น ผักโขม ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ผักคอส (Cos) ข้าวโพด ฟักทอง อะโวคาโด โดยสามารถเลือกผักที่ชื่นชอบมาเป็นส่วนประกอบให้สลัดผักมีสีสันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ซึ่งผักแต่ละชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกัน จึงอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพในหลายด้าน เช่น ปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร ลดความดันโลหิต ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ควบคุมโรคเบาหวาน และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย ประโยชน์ของสลัดผักต่อสุขภาพ สลัดผัก อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของสลัดผักในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร สลัดผักอุดมไปด้วยใยอาหารที่สามารถพองตัว ช่วยดูดซับน้ำและไขมันเมื่อผ่านระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร เพิ่มความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก และอาจช่วยป้องกันอาการลำไส้แปรปรวนได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ศึกษาเกี่ยวกับใยอาหาร จุลินทรีย์ในลำไส้ และการควบคุมการเผาผลาญ พบว่า การรับประทานผักที่มีเส้นใยสูงสามารถช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ในการช่วยย่อยอาหารและรักษาความเป็นปกติของสุขภาพทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก นอกจากนี้ ใยอาหารจะถูกหมักด้วยจุลินทรีย์ในลำไส้ และเพิ่มการผลิตกรดไขมันสายสั้นที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด รวมถึงช่วยควบคุมการเผาผลาญภายในร่างกาย จึงช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของการเผาผลาญ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด อาจช่วยลดความดันโลหิต การรับประทานสลัดผักที่อุดมไปด้วยผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียม เช่น ลูกเกด ลูกพรุน แครอท […]


ข้อมูลโภชนาการ

ผักกูด ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ผักกูด เป็นพืชตระกูลเฟิร์นที่สามารถรับประทานได้ นิยมรับประทานยอดอ่อนเป็นผักเคียง ใช้ทำสลัด และนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น ผักกูดน้ำมันหอย แกงส้มผักกูด ยำผักกูด ซึ่งผักกูดอุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย เช่น แคลเซียม โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยต้านการอักเสบ ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ต้านโรคเบาหวาน และอาจช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาจช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ ประโยชน์ของผักกูดต่อสุขภาพ ผักกูด มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของผักกูดในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย ผักกูดเป็นผักที่แนะนำให้รับประทานเนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ใยอาหาร น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต กรดไขมันอิสระ โปรตีน จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Prospects in Bioscience: Addressing the Issues เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับผักกูด พบว่า ผักกูดเป็นพืชตระกูลเฟิร์นที่นิยมรับประทานยอดอ่อน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย เช่น ใยอาหาร น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต กรดไขมันอิสระ โปรตีน และอุดมไปด้วยสารอาหารรอง เช่น […]


ข้อมูลโภชนาการ

ปลากระป๋อง ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ปลากระป๋อง เป็นอาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋องที่มีปลาเป็นวัตถุดิบหลัก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า อาจบรรจุมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศ น้ำเกลือ น้ำแร่ น้ำมันพืชหรืออื่น ๆ สามารถเปิดรับประทานได้ทันทีหรืออาจนำไปประกอบอาหารด้วยการเติมพริก มะนาว หอมแดง และน้ำปลาเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งปลากระป๋องอุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียมที่ดีต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้พลังงาน และส่งเสริมสุขภาพกระดูก นอกจากนี้ ยังอาจดีต่อสุขภาพหัวใจ และส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคปลากระป๋องในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmr] ประโยชน์ของปลากระป๋องต่อสุขภาพ ปลากระป๋อง มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนประโยชน์ของปลากระป๋องในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูก ปลากระป๋องอุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินดีที่มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างของกระดูก โดยเฉพาะปลากระป๋องที่มีปลาซาร์ดีนเป็นส่วนประกอบ เพราะสามารถรับประทานได้ทั้งเนื้อและกระดูก จึงอาจช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 ศึกษาเกี่ยวกับสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับโรคกระดูกพรุน พบว่า แคลเซียมและวิตามินดีเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างกระดูก และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก การเสริมแคลเซียมให้กับร่างกายด้วยการรับประทานอาหาร เช่น นม ผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ต ชีส พืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช ปลาทะเล โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนที่สามารถรับประทานกระดูกได้ จึงดีต่อสุขภาพกระดูก ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนและกระดูกหัก อาจดีต่อสุขภาพหัวใจ การรับประทานปลากระป๋องที่มีวัตถุดิบหลักเป็นปลาทะเล เช่น ปลาทูน่า […]


ข้อมูลโภชนาการ

น้ำมันปลา ช่วยอะไร ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ปัจจุบันน้ำมันปลามีจำหน่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมาย หลายคนจึงอาจมีความสงสัยว่า น้ำมันปลา ช่วยอะไร น้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 จากอาหารที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้ ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ลดอาการตาแห้ง ดีต่อสุขภาพหัวใจ บำรุงสุขภาพครรภ์และสุขภาพของทารกในครรภ์ บำรุงกระดูก ลดไขมันในตับ บำรุงผิว ซึ่งการรับประทานน้ำมันปลาเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสมอาจส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม น้ำมันปลา คืออะไร น้ำมันปลา คือ ไขมันหรือน้ำมันที่สกัดจากเนื้อเยื่อปลา โดยมักสกัดจากปลาทะเลบางชนิด เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาแอนโชวี่ น้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้ และสำคัญต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย เช่น ช่วยส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อ ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ลดความหนืดของเลือดและทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น ในปัจจุบัน น้ำมันปลามีจำหน่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่บรรจุในแคปซูล ซอฟเจล หรือยาเม็ด เพื่อให้ผู้บริโภคสะดวกต่อการรับประทาน น้ำมันปลา ช่วยอะไร น้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สำคัญ 2 ชนิด คือ กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิกหรืออีพีเอ (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิกหรือดีเอชเอ (Docosahexaenoic […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน