โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อแต่ติดตัว แค่ปรับไลฟ์สไตล์ก็เลี่ยงได้

ยุคนี้ อะไรๆ ก็ด่วนเร่งรีบไปหมด จนบางครั้งคนเราก็ต้องทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน บางคนกินข้าวขณะทำงานหรือเดินทาง บางคนกินอาหารจากร้านสะดวกซื้อหรือฟาสต์ฟู้ดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไหนจะความเครียดสะสมจากการทำงาน ไหนจะนอนดึกตื่นเช้าจนไม่ได้พักผ่อน รวมไปถึงไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์เหล่านี้นำไปสู่การเกิดกลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึง 74% ของการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศ โรค NCDs คือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคหรือการแพร่กระจายแต่อย่างใด โดยตัวอย่างโรคในกลุ่มโรค NCDs ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง โรคอ้วนลงพุง และโรคมะเร็ง1 แม้โรคเหล่านี้จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จากสถิติในปีพ.ศ. 2566 เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยโรค NCDs ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง2 อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยกลุ่มโรคดังกล่าวก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ที่น่าตกใจคือคนวัยทำงานส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรค NCDs3 ด้วยความที่โรค NCDs คือโรคที่เป็นผลจากพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ เครียดและนอนหลับไม่เพียงพอ หากต้องการจะหลีกเลี่ยงโรค NCDs ก็อยู่ที่การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้นั่นเอง จากการสำรวจพบว่าพฤติกรรมเสี่ยงอันดับ 1 ต่อการเกิดโรค NCDs ในประชากรไทย คือการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม โดยคนไทยมีสถิติการบริโภคแอลกอฮอล์สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังบริโภคเกลือและน้ำตาลสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ถึง […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โภชนาการพิเศษ

น้ำตาลในเลือดสูง ควรกินอะไร และควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไร

การรับประทานอาหารส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนเสี่ยงเกิดภาวะก่อนเบาหวาน รวมไปถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาจสงสัยว่า น้ำตาลในเลือดสูง ควรกินอะไร โดยทั่วไป ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เน้นผักพร่องแป้ง ผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เนื้อสัตว์ไม่ติดมันและหนัง เป็นต้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับให้เพียงพอ อาจช่วยลดความเสี่ยงและช่วยควบคุมภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ [embed-health-tool-bmi] น้ำตาลในเลือดสูง คืออะไร น้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดเกิน 99 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ทั่วไปที่ประมาณ 70-99 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เกิดจากร่างกายไม่สามารถใช้ฮอร์โมนอินซูลินในการพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ เพื่อไปเป็นพลังงานให้กับร่างกายได้ หรือร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการทำงานของอินซูลิน ทำให้มีน้ำตาลสะสมอยู่ในกระแสเลือดในปริมาณมาก จนนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หากมีระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่ 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตรเรื้อรัง อาจเสี่ยงเกิดภาวะก่อนเบาหวาน และหากมีระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไปเรื้อรัง ถือว่าเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีต่อสุขภาพ เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย โดยทั่วไป คือ ไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร […]


โภชนาการพิเศษ

อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง และปริมาณที่เหมาะในการบริโภค

โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ หัวใจ ไต การรับประทาน อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับสารอาหารชนิดนี้อย่างเพียงพอ จะช่วยรักษาสมดุลของระดับโพแทสเซียมในร่างกาย โดยทั่วไปโพแทสเซียมจะพบในอาหารตามธรรมชาติอย่างผักใบเขียว ผลไม้ต่าง ๆ พืชตระกูลถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี เป็นต้น ทั้งนี้ ควรรับโพแทสเซียมในปริมาณพอเหมาะ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] โพแทสเซียม มีประโยชน์อย่างไร โพแทสเซียมเป็นอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) หรือสารนำไฟฟ้าที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบในร่างกาย ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ รักษาความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ ควบคุมความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย ลำเลียงสารอาหารเข้าสู่เซลล์ เสริมสร้างการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อบีบรัดตัวและหัวใจเต้นเป็นปกติ เป็นต้น โดยปกติแล้วร่างกายจะไม่สามารถสร้างโพแทสเซียมขึ้นมาเองได้ จำเป็นต้องได้รับผ่านการรับประทานอาหารเท่านั้น โพแทสเซียมสามารถพบได้ในอาหารหลากหลายชนิด ในแต่ละวันจึงควรรับประทานอาหารให้หลากหลายและมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายได้รับโพแทสเซียมและสารอาหารอื่น ๆ เพียงพอต่อความต้องการ อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง มีอะไรบ้าง อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ผักต่าง ๆ เช่น บรอกโคลี มะเขือเทศ หัวผักกาด กะหล่ำดอก กะหล่ำปลีม่วง หัวปลี กระชาย กระถิน รากบัว แครอท ฟักทอง ลูกยอและน้ำลูกยอ ใบขี้เหล็ก […]


โภชนาการพิเศษ

นกเขาไม่ขัน กินอะไรดี เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ

นกเขาไม่ขัน หรือภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้เมื่อผู้ชายอายุมากขึ้น รวมทั้งอาจมีสาเหตุจากโรคอ้วน การสูบบุหรี่ ความเครียด รวมถึงการใช้ยาบางชนิด หากถามว่า นกเขาไม่ขัน กินอะไรดี? คำตอบคือ ควรเลือกบริโภคอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงบริเวณองคชาตได้สะดวกเพื่อช่วยให้องคชาตแข็งตัว เช่น กาแฟ ถั่วพิสตาชิโอ แตงโม [embed-health-tool-bmr] นกเขาไม่ขัน คืออะไร นกเขาไม่ขัน หมายถึง ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย หรือภาวะที่องคชาตไม่แข็งตัวเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ หรือแข็งตัวได้ไม่นานเท่าปกติ ทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้ หรือไม่สามารถสร้างความสุขทางเพศได้ ซึ่งมักส่งผลให้ขาดความมั่นใจ รวมถึงอาจกระทบต่อการรักษาความสัมพันธ์กับคู่นอนหรือภรรยา โดยทั่วไป นกเขาไม่ขันมักพบในผู้ชายที่มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม อาจพบได้ในวัยรุ่นบางราย นอกจากนี้ นกเขาไม่ขันยังสัมพันธ์กับอารมณ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกาย และการไหลเวียนของเลือดไปยังองคชาต โดยปัจจัยเสี่ยงของปัญหาสุขภาพนี้ ได้แก่ ความเครียด การสูบบุหรี่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงการใช้ยาต้านเศร้าและยาต้านฮิสทามีน นกเขาไม่ขัน กินอะไรดี เมื่อมีอาการนกเขาไม่ขัน ผู้ชายควรเลือกบริโภคอาหารต่อไปนี้ ซึ่งอาจช่วยให้อาการนกเขาไม่ขันดีขึ้นได้ กาแฟ คาเฟอีนในกาแฟมีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือดแดงและกล้ามเนื้อเรียบบริเวณองคชาต ซึ่งส่งผลให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงองคชาตมากขึ้น การดื่มกาแฟจึงอาจช่วยให้องคชาตสามารถแข็งตัวได้ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องบทบาทของคาเฟอีนต่ออาการนกเขาไม่ขันในผู้ชายอเมริกัน เผยแพร่ในวารสาร PLoS One ปี พ.ศ. 2558 นักวิจัยได้ศึกษาข้อมูลของผู้ชายจำนวน 3,724 […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

ไดเอ็ท หรือการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ทำได้อย่างไรบ้าง

ไดเอ็ท หรือการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารโปรตีนสูง การบริโภคอาหารแบบนับพลังงานแคลอรี่ หรือการหลีกเลี่ยงรับประทานคาร์โบไฮเดรตขัดสี นอกจากนั้น เพื่อให้การไดเอ็ทได้ผลและมีประสิทธิภาพ ควรนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน [embed-health-tool-bmi] ไดเอ็ท คืออะไร ไดเอ็ท ทับศัพท์มาจากคำว่า Diet ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าอาหาร อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ไดเอ็ท หมายถึง การควบคุมอาหารหรือเลือกรับประทานอาหารเพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก ไดเอ็ท ทำได้อย่างไรบ้าง การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้นทำได้หลายวิธี ดังนี้ บริโภคอาหารให้ได้พลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ ร่างกายต้องการพลังงานเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อย่อยสลายและเปลี่ยนสารอาหารต่าง ๆ เป็นพลังงาน แต่หากร่างกายได้รับพลังงานเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวัน ทำให้เกิดการสะสมพลังงานส่วนเกินในรูปแบบของไขมัน เมื่อไขมันเพิ่มขึ้น น้ำหนักและขนาดตัวก็จะเพิ่มตาม ทำให้เสี่ยงมีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ทั้งนี้ ผู้ชายควรได้รับพลังงานจากอาหารประมาณ 2,500 แคลอรี่/วัน ส่วนผู้หญิงควรได้รับพลังงานจากอาหารประมาณ 2,000 แคลอรี่/วัน หากร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารน้อยลง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้นำมาใช้เป็นพลังงาน ซึ่งจะทำให้น้ำหนักตัวค่อย ๆ ลดลง อย่างไรก็ตาม ในการควบคุมน้ำหนักด้วยการนับจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน ไม่ควรน้อยกว่า 1,200 แคลอรี่/วัน เพราะหากร่างกายได้รับพลังงานน้อยเกินไป ระดับการเผาผลาญพลังงานจะต่ำลง ซึ่งส่งผลให้การ ลดน้ำหนัก เป็นไปได้ยากขึ้น อีกทั้งอาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้าได้ง่าย เลือกบริโภคอาหารโปรตีนสูง การบริโภคอาหารโปรตีนสูง หรือการเลือกรับประทานอาหารประเภทโปรตีนเป็นหลัก จะช่วยให้ระดับฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอิ่มท้องเพิ่มสูงขึ้น […]


ข้อมูลโภชนาการ

โปรตีนมีอะไรบ้าง และสำคัญต่อร่างกายอย่างไร

โปรตีนมีความสำคัญต่อการทำงานที่เป็นปกติของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ การทำงานของระบบประสาทและสมอง ระบบภูมิคุ้มกัน จึงจำเป็นที่จะต้องรับประทานโปรตีนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งหลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า โปรตีนมีอะไรบ้าง และควรรับประทานในปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่ดี [embed-health-tool-bmi] โปรตีนสำคัญต่อร่างกายอย่างไร โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องได้รับเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการต่อการทำงานของเซลล์ในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมเนื้อเยื่อและอวัยวะของร่างกาย ซึ่งโปรตีนประกอบด้วยกรดอะมิโน 20 ชนิด เช่น ฮิสติดีน (Histidine) ไอโซลิวซีน (Isoleucine) ลิวซีน (Leucine) ไลซีน (Lysine) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติ ดังนี้ ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยควบคุมการทำงานของแอนติบอดีในการดักจับสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ควบคุมการทำงานของเอนไซม์ ในการทำปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ เช่น กระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) ที่เป็นกระบวนการทางเคมีในการสังเคราะห์และเผาผลาญพลังงาน เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยสร้างโมเลกุลใหม่ทางพันธุกรรมที่เก็บไว้ในดีเอ็นเอ ความสมดุลของฮอร์โมน โดยฮอร์โมนบางชนิดทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณเพื่อประสานการทำงานระหว่างเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่าง ๆ ช่วยเป็นองค์ประกอบและโครงสร้าง โดยโปรตีนทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของเซลล์และเป็นองค์ประกอบของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้ ปริมาณโปรตีนที่แนะนำในแต่ละวัน ควรได้รับอย่างน้อย 0.8 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน […]


ข้อมูลโภชนาการ

แร่ธาตุ มีอะไรบ้าง และสำคัญต่อร่างกายอย่างไร

แร่ธาตุ เป็นสารอาหารรองที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย อาจพบได้ในอาหารตามธรรมชาติ เช่น อาหารทะเล ผักและผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสีเต็มเมล็ด ซึ่งแร่ธาตุมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของร่างกายในหลายส่วน เช่น การเจริญเติบโต ความแข็งแรงของกระดูกและฟัน การทำงานของระบบประสาท จึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุอย่างเพียงพอเป็นประจำทุกวัน เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง [embed-health-tool-bmi] แร่ธาตุ สำคัญต่อร่างกายอย่างไร แร่ธาตุ เป็นสารอาหารรองที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย เพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ช่วยสร้างกระดูกและฟัน ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยควบคุมการหลั่งสารสื่อประสารและฮอร์โมน โดยแร่ธาตุจำเป็นที่ร่างกายต้องการมีทั้งหมด 16 ชนิด แบ่งออกเป็นแร่ธาตุหลักและแร่ธาตุรอง ซึ่งแร่ธาตุแต่ละชนิดมีความสำคัญ หน้าที่ และปริมาณที่ควรได้รับแตกต่างกัน แร่ธาตุแต่ละชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร แร่ธาตุทั้ง 16 ชนิดอาจมีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ อาจมี ดังนี้ โพแทสเซียม ช่วยสนับสนุนการทำงานของเส้นประสาทและเซลล์ประสาท และช่วยรักษาระดับของเหลวภายในเซลล์ อาจพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ มะเขือเทศ ผักปวยเล้ง บร็อคโคลี่ อะโวคาโด มันฝรั่ง กล้วย ลูกเกด แอปริคอต ไก่ แซลมอน […]


ข้อมูลโภชนาการ

กรดอะมิโน 20 ชนิด มีอะไรบ้าง และสำคัญกับร่างกายอย่างไร

กรดอะมิโน 20 ชนิด เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในโปรตีน ซึ่งแต่ละชนิดมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน โดยกรดอะมิโนบางชนิดร่างกายสามารถสร้างเองได้ แต่บางชนิดจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน เพื่อให้ได้รับกรดอะมิโนอย่างเพียงพอในการช่วยส่งเสริมกระบวนการทำงานของร่างกาย [embed-health-tool-bmi] กรดอะมิโน มีความสำคัญกับร่างกายอย่างไร ร่างกายจำเป็นต้องได้รับกรดอะมิโนเพื่อเป็นส่วนประกอบในการสร้างโปรตีนให้กับร่างกาย เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ และเป็นแหล่งพลังงาน โดยกรดอะมิโนจะมีด้วยกัน 20 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดอาจมีความสำคัญและมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน เช่น ช่วยย่อยอาหาร สร้างฮอร์โมนและสารสื่อประสาท รักษาสุขภาพผิว รักษาสุขภาพผมและสุขภาพเล็บ เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน รักษาระบบย่อยอาหาร กรดอะมิโน 20 ชนิด มีอะไรบ้าง กรดอะมิโน 20 ชนิด มีความสำคัญต่อร่างกายแตกต่างกัน โดยจะแบ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acids) 9 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้และต้องได้รับจากการรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน ดังนี้ ฮิสทิดีน (Histidine) ช่วยสร้างสารสื่อประสาท ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหาร การนอนหลับ และสุขภาพทางเพศ ไอโซลิวซีน (Isoleucine) ช่วยในการเผาผลาญของกล้ามเนื้อ การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายสร้างฮีโมโกลบินที่เป็นส่วนประกอบของเลือด และช่วยควบคุมพลังงาน ลิวซีน (Leucine) ช่วยในการสร้างโปรตีนและฮอร์โมนการเจริญเติบโต ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ช่วยในการสมานแผล […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

หมากฝรั่ง ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

หมากฝรั่ง เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเคี้ยวที่ผลิตขึ้นจากยางสังเคราะห์ (Gum) ถูกเติมแต่งด้วยสารให้ความหวาน สารเติมแต่งกลิ่นและรสชาติ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความเครียด ปรังปรุงความจำ ลดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ ช่วยให้ตื่นตัว และอาจช่วยเลิกบุหรี่ได้ อย่างไรก็ตาม ควรเคี้ยวหมากฝรั่งในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันปัญกรามที่อาจเกิดขึ้น [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของการเคี้ยว หมากฝรั่ง หมากฝรั่งหลายชนิดมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรและจุดประสงค์การขายของผู้ผลิต โดยส่วนผสมพื้นฐานของหมากฝรั่งที่อาจพบได้บ่อย ได้แก่ ยางสังเคราะห์ สารให้ความแข็งแรงและความคงตัวของหมากฝรั่ง (Resin) สารปรุงแต่งเนื้อสัมผัส (Fillers) สารทำให้อ่อนตัว (Softeners) สารกันบูด สารให้ความหวาน สารเติมแต่งกลิ่นและรสชาติ การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยปรับปรุงหน่วยความจำ การเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างต่อเนื่องอาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการช่วยปรับปรุงหน่วยจำของสมอง อาจช่วยให้ตื่นตัว ในขณะที่ร่างกายเหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลีย การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ อาจช่วยบรรเทาอาการปากแห้ง การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลาย ซึ่งช่วยให้ช่องปากชุ่มชื้นและบรรเทาอาการปากแห้งได้ อาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการเมารถหรือแพ้ท้อง การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยผลิตน้ำลายในช่องปากให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้ช่องปากมีความชุ่มชื้น และมีรสชาติภายในปากที่ดีขึ้น รวมถึงอาจช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ อาจช่วยปกป้องฟันและลดกลิ่นปาก การเคี้ยวหมากฝรั่งที่ไม่มีน้ำตาล อาจช่วยขจัดเศษอาหารตามซอกฟัน ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาฟันผุได้ นอกจากนี้ หมากฝรั่งยังมีส่วนผสมของไซลิทอล (Xylitol) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งอาจช่วยลดกลิ่นปากได้ อาจช่วยแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ ปัจจุบันมีการผลิตหมากฝรั่งนิโคตินขึ้นมาเพื่อช่วยในการเลิกสูบบุหรี่ โดยในหมากฝรั่งจะมีส่วนผสมของนิโคติน […]


ข้อมูลโภชนาการ

ข้าวกล้อง ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

ข้าวกล้อง คือข้าวที่สีเอาเปลือกออกแต่ยังเหลือเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและปลายจมูกข้าวไว้ ทำให้มีสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินต่าง ๆ หลงเหลืออยู่มากกว่าข้าวขาวที่ผ่านการขัดสี เช่น โปรตีน ใยอาหาร วิตามินบี  ทั้งนี้ การบริโภคข้าวกล้องอาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ช่วยควบคุมน้ำหนัก [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ ข้าวกล้อง ข้าวกล้องหุงแล้ว 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 123 กิโลแคลอรี่ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 25.6 กรัม โปรตีน 2.74 กรัม ใยอาหาร 1.6 กรัม ไขมัน 0.97 กรัม ฟอสฟอรัส 103 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 86 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 39 มิลลิกรัม โคลีน (Choline) 9.2 มิลลิกรัม โซเดียม 4 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ข้าวกล้องยังประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

อาหารที่ไม่มีประโยชน์ เป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปจนอาจทำให้ไม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เต็มไปด้วยโซเดียม น้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์มากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง [embed-health-tool-bmr] อาหารที่ไม่มีประโยชน์ คืออะไร อาหารที่ไม่มีประโยชน์ คือ อาหารที่ขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร รวมถึงเต็มไปด้วยโซเดียม น้ำตาล และไขมันอิ่มตัวที่มากเกินไป เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วอาจทำให้ผู้เสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น น้ำหนักเกิน โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคไขมันพอกตับ ตัวอย่างอาหารที่ไม่มีประโยชน์และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ได้แก่ เบเกอรี่ เช่น เค้ก ขนมปังกรอบ ขนมอบ คุกกี้ คัพเค้ก โดนัท ช็อกโกแลต อาหารจานด่วน เช่น เฟรนช์ฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า นักเก็ต เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น เบคอน แฮม ไส้กรอก ของว่าง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน