โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

Sedentary Lifestyle เลิกได้ เลิก! รู้จัก “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ต้นเหตุของผลเสียต่อสุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ  จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle” “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

ชา 5 ชนิด ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ และข้อควรระวังในการดื่ม

ชา ทำมาจากพืชตากแห้งชนิดต่าง ๆ มีกลิ่นหอม นิยมนำมาชงหรือต้มกับน้ำร้อนเพื่อดื่มดับกระหาย เพิ่มความสดชื่น ทั้งยังอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจาก ชาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย อาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองและอาจช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของผิวหนังได้ นอกจากนี้ ชายังอาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งดีต่อการควบคุมน้ำหนัก สุขภาพลำไส้และการขับถ่ายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรดื่มชาในปริมาณที่เหมาะสมเพราะหากดื่มมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน [embed-health-tool-bmr] ชา 5 ชนิด ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ชาเป็นเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์กับสุขภาพ แต่ชาทุกชนิดมีคาเฟอีนเป็นส่วนผสมในปริมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของชา อุณหภูมิน้ำและระยะเวลาการต้ม ซึ่งร่างกายควรได้รับคาเฟอีนในปริมาณปานกลางไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน หรือประมาณ 3-4 ถ้วย/วัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงของคาเฟอีน เช่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล ใจสั่น โดยชาที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพอาจมีดังนี้ ชาดำ ชาดำทำมาจากพืชตระกูลคาเมเลีย ไซเนนซิส (Camellia Sinensis) ซึ่งเป็นต้นชาชนิดเดียวกับที่ใช้ทำชาเขียว ชาขาว และชาอู่หลง โดยผ่านกระบวนการตากแห้งเป็นเวลานานก่อนนำไปผ่านความร้อน ทำให้ชามีสีดำ มีรสชาติเข้มและมีคาเฟอีนสูงกว่าชาชนิดอื่น นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) โพลีฟีนอล (Polyphenols) คาเทชิน (Catechins) […]


ข้อมูลโภชนาการ

กะเพรา สรรพคุณ และคุณค่าทางโภชนาการ

กะเพรา เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นิยมใช้นำมาเป็นเครื่องปรุงและส่วนประกอบของอาหารในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์มาตั้งแต่โบราณ และยังเป็นแหล่งแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งแคลเซียม วิตามิน เหล็ก แมกนีเซียม โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นรองรับว่า กะเพราอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น บรรเทาอาการวิตกกังวล ลดระดับน้ำตาลในเลือด ยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง คุณค่าทางโภชนาการของ กะเพรา ใบกะเพราประมาณ ¼ ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 1.38 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ โปรตีน 0.189 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0.159 กรัม ใยอาหาร 0.096 กรัม ไขมัน 0.038 กรัม น้ำตาล 0.018 กรัม นอกจากนี้ กะเพรายังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินเค แมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี โพแทสเซียม ประโยชน์ของกะเพราต่อสุขภาพ กะเพรา อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของกะเพรา ดังนี้ อาจช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและความเครียด กะเพราอาจช่วยบรรเทาอาการของโรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder) โดยมีงานวิจัยที่สนับสนุนว่ากะเพราอาจมีฤทธิ์ในการคลายกังวลเทียบเท่ากับยานอนหลับและยาต้านเศร้า งานวิจัยหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสาร […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของปลา และข้อควรระวังในการบริโภค

ปลาเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีโปรตีนและไขมันดีสูง โดยเฉพาะไขมันไม่อิ่มตัวอย่างกรดโอเมก้า 3 ประโยชน์ของปลา ต่อสุขภาพของผู้บริโภคมีหลายประการ เช่น อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคหอบหืด ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานในเด็ก ทั้งนี้ ควรศึกษาข้อควรระวังของการบริโภคปลา เพื่อหลีกเลี่ยงอาการที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรับประทานปลาไม่ถูกวิธี คุณค่าทางโภชนาการของปลา ปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยในการทำงานของร่างกาย เช่น วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) วิตามินดี เหล็ก ฟอสฟอรัส ปลามีส่วนช่วยในการบำรุงกล้ามเนื้อ อวัยวะ และหลอดเลือด ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง นอกจากนี้ โปรตีนในปลายังมีส่วนช่วยในการแบ่งตัวของเซลล์ และการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งปลายังอุดมไปด้วยไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง การบริโภคปลาจึงช่วยเพิ่มปริมาณไอโอดีนที่ส่งผลดีต่อการทำงานของระบบต่อมไทรอยด์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น ความอยากอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน ให้เป็นปกติ ปลาที่นิยมบริโภคมีด้วยกันหลายชนิด ทั้งปลาน้ำจืดและปลาน้ำเค็ม ปลาน้ำจืดที่คนนิยมบริโภค เช่น ปลาดุก ปลาสวาย ปลานิล ปลาทับทิม ส่วนปลาน้ำเค็มที่คนนิยมบริโภค เช่น ปลาแซลมอน ปลาเก๋า ปลากะพง ปลาสำลี ทั้งนี้ คุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ของปลาแต่ละตัวอาจแตกต่างกันไป […]


ข้อมูลโภชนาการ

biotin ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

biotin หรือไบโอติน เป็นวิตามินชนิดหนึ่ง เรียกว่าวิตามินบี 7 หรือวิตามิน H ซึ่งเป็นประเภทวิตามินบีรวมที่ละลายในน้ำ พบได้ในอาหารจำพวกผักและธัญพืช เช่น กะหล่ำ เห็ด ถั่วลิสง และในรูปแบบอาหารเสริม มีความสำคัญต่อการทำงานของเอนไซม์ ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีนนอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์และสนับสนุนการทำงานของยีนในร่างกายอีกด้วย [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของ biotin ไบโอตินมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของ ไบโอตินในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยจัดการโรคเบาหวาน การรับประทาน biotin อาจมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดไขมันในเลือด ซึ่งอาจช่วยจัดการกับโรคเบาหวานได้ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของไบโอตินต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความเข้มข้นของไขมันในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ตีพิมพ์ใน Oman Medical Journal พ.ศ. 2556 นักวิจัยให้ผู้ป่วยรับประทานยาเสริมไบโอตินเป็นระยะเวลา 3 เดือน เมื่อการทดลองสิ้นสุดลง พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานยาเสริมไบโอตินมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย จึงสรุปว่า การรับประทานไบโอตินอาจมีส่วนช่วยลดความเข้มข้นของไขมันในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพเส้นผม ผิวและเล็บ biotin มีคุณสมบัติเสริมความแข็งแรงให้รากผม จึงช่วยป้องกันอาการผมร่วง ผมบาง เล็บเปราะและเป็นผื่นผิวหนังได้ ดังนั้น การรับประทาน ไบโอตินจึงอาจช่วยเสริมความแข็งแรงของผมและทำให้ผมมีสุขภาพดีขึ้น งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของไบโอตินสำหรับผมร่วง […]


ข้อมูลโภชนาการ

ไบโอติน คืออะไร มีประโยชน์และข้อควรระวังอะไรบ้าง

ไบโอติน (Biotin) คือ วิตามินบี 7 สามารถพบได้ในอาหารต่าง ๆ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา พืชตระกูลถั่ว และผักบางชนิด นอกจากนี้ ยังมีในรูปแบบอาหารเสริมแบบเม็ดหรือแคปซูลที่สะดวกต่อการรับประทาน ไบโอตินมีบทบาทสำคัญที่อาจช่วยบำรุงเส้นผมและดวงตา และอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท [embed-health-tool-bmi] ไบโอติน คืออะไร ไบโอติน คือ วิตามินบี 7 มีบทบาทสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน อีกทั้งยังอาจช่วยบำรุงผิวหนัง เล็บ เส้นประสาท ทางเดินอาหาร และเซลล์เนื้อเยื่อทั่วทั้งร่างกาย ช่วยป้องกันเล็บเปราะบาง อย่างไรก็ตาม ไบโอตินเป็นวิตามินที่สามารถละลายน้ำได้ ร่างกายจึงไม่สามารถกักเก็บวิตามินชนิดนี้ไว้ได้นาน ทำให้จำเป็นต้องได้รับจากอาหารที่รับประทาน เช่น ไข่ ปลา เนื้อสัตว์ พืชตระกูลถั่ว ผักใบเขียว ธัญพืช เห็ด ชีส แครอท หากร่างกายขาดไบโอติน อาจส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหาร ผมร่วง ผื่นผิวหนัง ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ระดับคอเลสเตอรอลสูง เหนื่อยล้า และกล้ามเนื้ออ่อนแอลง ที่อาจนำไปสู่ภาวะอัมพาตครึ่งซีกได้ ประโยชน์ของการรับประทานไบโอติน ไบโอตินมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของไบโอติน ในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยบำรุงเล็บ การรับประทานไบโอตินอาจช่วยบำรุงเล็บ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ชาดำ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ชาดำ เป็นชาจากการนำใบชาสายพันธุ์ Camellia sinensis ไปหมักบ่มแล้วนำไปตากแห้งหรืออบแห้ง จนได้ชาที่มีลักษณะเป็นสีแดงเข้มไปจนถึงเกือบดำ และมีรสขมเล็กน้อย ชาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและลำไส้ และอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อย่างไรก็ตาม ชาดำอาจมีคาเฟอีนสูง การดื่มชาดำมากเกินไปจึงอาจส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หายใจเร็ว นอนหลับยาก เพื่อความปลอดภัยจึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmr] คุณค่าทางโภชนาการของชาดำ ชาดำมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยป้องกันการอักเสบจากอนุมูลอิสระที่อาจส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังอาจมีสารประกอบต่าง ๆ ดังนี้ คาเฟอีน กรดอะมิโน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ธีโอฟิลลีน (Theophylline) ธีโอโบรมีน (Theobromine) คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)  ฟลูออไรด์ (Fluoride) อะลูมิเนียม (Aluminium) ประโยชน์ของชาดำ ชาดำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของชาดำในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจช่วยเพิ่มสมาธิ ชาดำมีคาเฟอีนและกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (L-Theanine) ที่อาจช่วยทำให้ร่างกายและสมองตื่นตัว ทำให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบทางจิตของสารประกอบในชาอย่าง คาเฟอีนและแอล-ธีอะนีน ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition Reviews ปี พ.ศ. 2551 […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

Atkins diet คืออะไร มีความเสี่ยงอย่างไร

Atkins diet หรืออาหารแบบแอตกินส์ คือ รูปแบบการรับประทานอาหารโดยการลดอาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าวขาว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น มันฝรั่ง กล้วย แอปเปิ้ล โดยมีจุดประสงค์เพื่อการลดน้ำหนักและเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารแบบแอตกินส์อาจส่งผลให้ร่างกายขาดพลังงาน และอาจมีอาการปวดหัว อ่อนเพลีย และระดับน้ำตาลในเลือดต่ำได้ [embed-health-tool-bmr] Atkins diet คืออะไร Atkins diet หรืออาหารแบบแอตกินส์ คือ การรับประทานอาหารที่จำกัดการรับประทานอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แต่เน้นการรับประทานโปรตีนและไขมันแทน เป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย ดร.โรเบิร์ต ซี แอตกินส์ (Robert C. Atkins) ปี พ.ศ. 2515 โดยมีจุดประสงค์เพื่อการลดน้ำหนัก และป้องกันหรือปรับปรุงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะเมแทบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อถกเถียงว่า การรับประทานอาการแบบแอดกินส์อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิด ภาวะคีโตซีส (Ketosis) เนื่องจากร่างกายมีคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแหล่งพลังงานหลักไม่เพียงพอต่อการเผาผลาญจึงดึงเอาไขมันสะสมมาเผาผลาญเพื่อใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งเป็นการลดน้ำหนักอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เหนื่อยล้า […]


ข้อมูลโภชนาการ

มะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

มะม่วงหิมพานต์ หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มีผลลักษณะคล้ายชมพู่หรือลูกแพร์ ปลายผลมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด ซึ่งสามารถรับประทานได้ทั้งผลและเมล็ด มะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารหลายชนิดที่อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี และอาจช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงหิมพานต์ มะม่วงหิมพานต์ ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 553 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น ไขมัน 43.85 กรัม คาร์โบไฮเดรต 30.19 กรัม โปรตีน 18.22 กรัม น้ำตาล 5.91 กรัม ไฟเบอร์ 3.3 กรัม นอกจากนี้ มะม่วงหิมพานต์ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี ทองแดง ซีลีเนียม (Selenium) ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก แคลเซียม โซเดียม ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่มีต่อสุขภาพ มะม่วงหิมพานต์มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของมะม่วงหิมพานต์ในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ส้มโอ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ส้มโอ เป็นผลไม้ตระกูลส้ม มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด นำมาเชื่อมเป็นของหวาน หรือกวนแล้วปรุงรสเป็นส้มโอ 3 รสก็ได้เช่นกัน ส้มโออุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ทั้งยังอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยต้านริ้วรอย ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อราและอาจช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วย [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของส้มโอ ส้มโอ ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 38 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต 10 กรัม ไฟเบอร์ 1 กรัม โปรตีน 0.8 กรัม วิตามินซี 61 มิลลิกรัม แคลเซียม 4 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ส้มโอยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ธาตุเหล็ก โซเดียม แมงกานีส แมกนีเซียม ทองแดง ประโยชน์ของส้มโอที่มีต่อสุขภาพ ส้มโอมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของส้มโอในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อาจดีต่อสุขภาพหัวใจ เปลือกส้มโออุดมไปด้วยสารประกอบหลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) คูมาริน […]


โภชนาการพิเศษ

ข้อเข่าเสื่อม ควรรับประทานอาหารเสริมอะไร เพื่อส่งเสริมสุขภาพกระดูก

ผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อม ควรรับประทานอาหารเสริมหรือแหล่งอาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินเค วิตามินซี วิตามินดี เบต้าแคโรทีน แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี ไขมันดี กรดไขมันโอเมก้า 3 และไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงรักษามวลกระดูก เสริมความแข็งแรงและป้องกันการอักเสบ ทั้งยังอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการข้อเข่าเสื่อม และอาจช่วยป้องกันการเกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมได้ด้วย ข้อเข่าเสื่อม คืออะไร ข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis หรือ OA) คือ โรคที่ส่งผลกระทบต่อข้อต่อขนาดใหญ่ เช่น หัวเข่า สะโพก ข้อมือ ข้อต่อหัวแม่มือ กระดูกสันหลัง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสลายตัวและการอักเสบของกระดูกอ่อนข้อต่อ ส่งผลทำให้มีอาการเจ็บปวด ไม่สบายตัว และอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วย ข้อเข่าเสื่อม ควรรับประทานอาหารเสริมอะไร ข้อเข่าเสื่อมควรรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มมวลกระดูก รักษาความแข็งแรงและป้องกันการอักเสบของกระดูกข้อต่อ ซึ่งอาจมีดังนี้ วิตามินเค วิตามินเคอาจช่วยป้องกันการเกิดหินปูนและการอักเสบของกระดูกอ่อนข้อต่อ จึงอาจช่วยป้องกันข้อเข่าเสื่อมได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ศึกษาเกี่ยวกับวิตามินเคกับโรคข้อเข่าเสื่อม พบว่า วิตามินเคเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยกระตุ้นการปล่อยโปรตีนที่ช่วยควบคุมการเกิดหินปูนในข้อต่อกระดูกอ่อน นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งการอักเสบของเซลล์เม็ดเลือดขาว จึงอาจช่วยป้องกันการอักเสบและอาจป้องกันการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ โดยปริมาณวิตามินเคที่ควรได้รับในแต่ละวัน คือ 120 มิลลิกรัม/วัน โดยแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเค ได้แก่ ไข่แดง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน