โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อแต่ติดตัว แค่ปรับไลฟ์สไตล์ก็เลี่ยงได้

ยุคนี้ อะไรๆ ก็ด่วนเร่งรีบไปหมด จนบางครั้งคนเราก็ต้องทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน บางคนกินข้าวขณะทำงานหรือเดินทาง บางคนกินอาหารจากร้านสะดวกซื้อหรือฟาสต์ฟู้ดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไหนจะความเครียดสะสมจากการทำงาน ไหนจะนอนดึกตื่นเช้าจนไม่ได้พักผ่อน รวมไปถึงไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์เหล่านี้นำไปสู่การเกิดกลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึง 74% ของการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศ โรค NCDs คือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคหรือการแพร่กระจายแต่อย่างใด โดยตัวอย่างโรคในกลุ่มโรค NCDs ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง โรคอ้วนลงพุง และโรคมะเร็ง1 แม้โรคเหล่านี้จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จากสถิติในปีพ.ศ. 2566 เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยโรค NCDs ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง2 อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยกลุ่มโรคดังกล่าวก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ที่น่าตกใจคือคนวัยทำงานส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรค NCDs3 ด้วยความที่โรค NCDs คือโรคที่เป็นผลจากพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ เครียดและนอนหลับไม่เพียงพอ หากต้องการจะหลีกเลี่ยงโรค NCDs ก็อยู่ที่การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้นั่นเอง จากการสำรวจพบว่าพฤติกรรมเสี่ยงอันดับ 1 ต่อการเกิดโรค NCDs ในประชากรไทย คือการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม โดยคนไทยมีสถิติการบริโภคแอลกอฮอล์สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังบริโภคเกลือและน้ำตาลสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ถึง […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โภชนาการพิเศษ

ท้องเสียกินอะไรดี เพื่อให้หายท้องเสีย และไม่ควรกินอะไรบ้าง

ท้องเสียกินอะไรดี? เมื่อท้องเสีย ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่รบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหารมากนัก เช่น กล้วย ข้าวโอ๊ต ข้าว แอปเปิล ต้มจืด น้ำซุป โยเกิร์ต และควรดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีเกลือเป็นส่วนผสม เพื่อป้องกันการขาดน้ำ เนื่องจากการขับถ่ายบ่อยจะทำให้ร่างกายเสียน้ำในปริมาณมากกว่าปกติ นอกจากนี้ ผู้ที่ท้องเสียไม่ควรรับประทานอาหารที่ย่อยยากหรือไปกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก เพราะจะทำให้อาการท้องเสียแย่ลงหรือหายช้า เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ ผักสดบางชนิดอย่างถั่ว กะหล่ำปลี เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมทั้งเครื่องดื่มที่หวานจัดเพราะน้ำตาลอาจทำให้อาการท้องเสียแย่ลงได้ [embed-health-tool-bmr] ท้องเสีย มีอาการอย่างไร ท้องเสีย หรืออุจจาระร่วง หมายถึง การถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำติดต่อกันหลายครั้ง เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อภายในร่างกาย ผลข้างเคียงจากการใช้ยา การแพ้สารประกอบในอาหาร รวมถึง ปัญหาระบบทางเดินอาหารอย่างโรคลำไส้อักเสบ โรคลำไส้แปรปรวน ขณะท้องเสีย ผู้ป่วยอาจมีอาการตัวร้อน ปวดเมื่อยร่างกายร่วมด้วย แต่อาการเหล่านี้มักจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 วันโดยไม่ต้องไปหาหมอ อย่างไรก็ตาม หากท้องเสียไม่หยุด ปวดท้องรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด อาเจียน มีไข้สูงร่วมด้วย ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง ท้องเสียกินอะไรดี เมื่อท้องเสีย […]


โภชนาการพิเศษ

อาหารสําหรับคนเป็นโรคไต มีอะไรบ้าง

อาหารสําหรับคนเป็นโรคไต หมายถึง อาหารที่มีโซเดียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัสในระดับต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต หรืออาจรวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือมีภาวะความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ เมื่อเป็นโรคไต ไตของผู้ป่วยจะเสื่อมสภาพและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพจึงไม่สามารถกำจัดโซเดียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัสส่วนเกินได้ตามปกติ จึงควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารให้เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] โรคไต คืออะไร มีอาการอย่างไร โรคไตเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง มักเกิดจากการที่ไตได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเมื่อเป็นโรคเบาหวาน หรือเมื่อมีภาวะความดันโลหิตสูง หรือติดเชื้อบริเวณไตบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลให้ไตไม่สามารถทำหน้าที่กรองของเสียจากเลือดได้ตามปกติ จนทำให้ร่างกายสะสมของเหลวหรือสารอาหารส่วนเกินไว้ในปริมาณมาก และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ป่วยโรคไตมักมีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หน้าและเท้าบวม ผิวแห้งและคัน ผิวซีด อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปากขม ไม่สามารถรับรสอาหารได้ตามปกติ เจ็บหน้าอก หากสงสัยว่าตนเองอาจป่วยเป็นโรคไต ควรไปหาคุณหมอเพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียด อาหารสําหรับคนเป็นโรคไต ควรเป็นอย่างไร เมื่อเป็นโรคไต คุณหมอมักแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสารอาหารบางชนิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้ โซเดียม เป็นธาตุอาหารที่ช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกาย ผู้ป่วยโรคไตควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน เพราะไตของผู้ป่วยไม่สามารถกรองและขับโซเดียมออกจากร่างกายได้ตามปกติ ทำให้ระดับของเหลวในร่างกายมีปริมาณสูงขึ้น และอาจนำไปสู่อาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น แข้งบวม ความดันโลหิตสูง หายใจไม่ออก โพแทสเซียม เมื่อเป็นโรคไต […]


โรคอ้วน

น้ำหนักมาตรฐาน ผู้หญิง อยู่ที่เท่าไหร่ มีวิธีป้องกันน้ำหนักเกินอย่างไรบ้าง

น้ำหนักมาตรฐาน ผู้หญิง อาจใช้ดัชนีมวลกายเป็นตัวชี้วัด ซึ่งเป็นการคำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูง เพื่อให้ทราบว่าน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ และสามารถลดหรือเพิ่มน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคขาดสารอาหาร โรคโลหิตจาง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง น้ำหนักมาตรฐาน ผู้หญิง อยู่ที่เท่าไหร่ น้ำหนักมาตรฐานสำหรับผู้หญิง อาจใช้ค่าดัชนีมวลกายเป็นตัวชี้วัด โดยมีสูตรการคำนวณคือ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง ยกตัวอย่าง น้ำหนัก 55 กิโลกรัม ความสูง 1.65 เมตร (165 เซนติเมตร) วิธีคำนวณ 55 ÷ (1.65)2 = 20.20 [embed-health-tool-bmi] จากนั้น นำมาอ่านค่าผลลัพธ์ตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้ น้ำหนักมาตรฐานผู้หญิง เกณฑ์น้ำหนัก ส่วนสูง ผู้หญิง จะมีค่าดัชนีมวลกายอยู่ที่ 18.5-22.90 ที่ถือเป็นเกณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ และควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์นี้ไปเรื่อย ๆ น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ของผู้หญิง จะมีค่าดัชนีมวลกายต่ำกว่า 18.5 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มบุคคลที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคขาดสารอาหาร โรคโลหิตจาง โรคกระดูกพรุน […]


ข้อมูลโภชนาการ

ข้าวฟ่าง ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

ข้าวฟ่าง เป็นธัญพืชที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ต้นและใบทำเป็นหญ้าแห้งหรือหญ้าหมักสำหรับเลี้ยงสัตว์ ส่วนเมล็ดนำมาหุงเป็นข้าว ทำขนมปัง ซีเรียล หรือใช้สำหรับหมักเบียร์ นิยมเพาะปลูกมากในประเทศอินเดีย และประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียและแอฟริกา ข้าวฟ่างมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหาร เช่น โปรตีน ไฟเบอร์ วิตามินบี สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นระบุว่า การบริโภคข้าวฟ่างอาจช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และช่วยลดน้ำหนักได้ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ ข้าวฟ่าง ข้าวฟ่าง 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 378 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 72.8 กรัม โปรตีน 11 กรัม ไขมัน 4.22 กรัม ฟอสฟอรัส 285 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 195 มิลลิกรัม แคลเซียม 147 มิลลิกรัม […]


ข้อมูลโภชนาการ

ละหุ่ง ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ละหุ่ง (Castor) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กในวงศ์ยางพารา นิยมนำเมล็ดมาสกัดเป็นน้ำมัน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและการอักเสบ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว อาจช่วยรักษาโรคท้องผูก รักษาและบรรเทาอาการปวดข้อเข่า บรรเทาอาการแผลเรื้อรัง และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ ประโยชน์ต่อสุขภาพของ ละหุ่ง น้ำมันละหุ่ง ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี และอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น วิตามินอี กรดไขมันโอเมก้า 6 (Omega-6 Fatty Acid) กรดไขมันโอเมก้า 9 (Omega-9 Fatty Acid) โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของละหุ่ง ดังนี้ อาจช่วยบรรเทาอาการท้องผูก น้ำมันละหุ่งมีกรดริซิโนเลอิก (Ricinoleic acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ออกฤทธิ์เป็นยาระบาย ทั้งยังมีฤทธิ์ร้อนที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหารและการทำงานของลำไส้เล็ก การรับประทานน้ำมันละหุ่งและการนวดหน้าท้องด้วยผ้าชุบน้ำมันละหุ่งอาจช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ ละหุ่งยังถูกนำไปใช้ทำความสะอาดลำไส้ก่อนการวินิจฉัยโรคและการผ่าตัดลำไส้ และช่วยสวนล้างลำไส้ของผู้ป่วยให้สะอาดก่อนรับการผ่าตัดได้ด้วย งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Complementary Therapies in Clinical Practice เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ศึกษาเกี่ยวกับการทดสอบประสิทธิภาพของการแพคน้ำมันละหุ่ง (Castor oil pack) […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของเกลือ และข้อควรระวังในการบริโภค

เกลือเป็นสารให้รสเค็มที่นิยมนำมาประกอบอาหารและถนอมอาหาร ประโยชน์ของเกลือ ต่อสุขภาพ มีหลายประการ เช่น ช่วยในการทำงานของต่อมไทรอยด์ อาจช่วยรักษาระดับของเหลวในร่างกาย มีส่วนช่วยป้องกันความดันโลหิตต่ำ และช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทั้งนี้ ควรบริโภคเกลือในปริมาณที่เหมาะสม หรือไม่เกิน 1 ช้อนชา/วัน เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพเนื่องจากร่างกายมีปริมาณโซเดียมมากเกินไป เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไตวายเรื้อรัง [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของเกลือ ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า เกลือเสริมไอโอดีนประมาณ 100 กรัม อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น เถ้า (Ash) 99 กรัม โซเดียม 38.7 กรัม แคลเซียม 50 มิลลิกรัม ไอโอดีน 5.08 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 2 มิลลิกรัม แมงกานีส 0.032 มิลลิกรัม ปริมาณเกลือที่ควรบริโภคต่อวัน เกลือประกอบด้วยแร่ธาตุ 2 […]


ข้อมูลโภชนาการ

แมกนีเซียม อาหาร มีอะไรบ้าง และประโยชน์ที่ควรรู้

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น  หัวใจ กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นประสาท ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตแมกนีเซียมเองได้ จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงเพื่อให้ได้รับแร่ธาตุชนิดนี้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน แหล่ง แมกนีเซียม อาหาร อาจพบได้ในพืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืชเต็มเมล็ด ผักใบเขียว ปลาบางชนิด นม โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์จากนม ดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น ประโยชน์ของแมกนีเซียมต่อสุขภาพ แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทั้งยังใช้เสริมสร้างโปรตีน กระดูก และดีเอ็นเอให้สมบูรณ์แข็งแรงด้วย หากร่างกายขาดแมกนีเซียมเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับแคลเซียมและโพแทสเซียมน้อยลงตามไปด้วย เนื่องจากแมกนีเซียมมีหน้าที่ช่วยดูดซึมแร่ธาตุสองชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายและลำเลียงแคลเซียมและโพแทสเซียมเข้าและออกจากเซลล์ต่าง ๆ อีกทั้งการขาดแมกนีเซียมยังอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง เป็นต้น หากมีภาวะขาดแมกนีเซียมรุนแรง อาจทำให้เกิดอาการชา ปวดกล้ามเนื้อ ชัก บุคลิกเปลี่ยนแปลง และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ผู้ที่มีภาวะขาดแร่ธาตุแมกนีเซียม อาจมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะต่อไปนี้ ระดับความดันโลหิตสูง อาการไมเกรน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคกระดูกพรุน ปริมาณแมกนีเซียมที่ร่างกายต้องการต่อวัน ปริมาณแมกนีเซียมที่ร่างกายต้องการต่อวันของคนในแต่ละช่วงวัย […]


โภชนาการพิเศษ

เป็นเมนส์ห้ามกินอะไร และอาหารที่เหมาะสำหรับคนเป็นเมนส์

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะเป็นเมนส์หรือมีประจำเดือนอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว เช่น ปวดท้องเมนส์ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย อารมณ์แปรปรวน ซึ่งนอกจากจะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแล้ว อาหารที่กินเข้าไปก็อาจส่งผลให้เกิดอาหารเหล่านี้ได้เช่นกัน หลายคนจึงอาจสงสัยว่า เป็นเมนส์ห้ามกินอะไร ถึงจะช่วยไม่ให้อาการขณะเป็นเมนส์แย่ลง โดยทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม อาหารรสเผ็ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื้อสัตว์ติดมัน เป็นต้น ทั้งนี้ การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น ผักใบเขียว โยเกิร์ต อาจช่วยบรรเทาอาการระหว่างเป็นเมนส์ให้บางเบาลงได้ [embed-health-tool-ovulation] เป็นเมนส์ห้ามกินอะไร อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงที่เป็นเมนส์ อาจมีดังนี้ อาหารรสเค็ม ร่างกายต้องการโซเดียมในปริมาณไม่เกิน 500 มิลลิกรัม/วันเท่านั้น แต่อาหารรสเค็ม เช่น หอยดอง ไส้กรอกอีสาน กะปิ ไข่เค็ม ผลไม้ดอง มีโซเดียมสูง อาจทำให้ร่างกายเก็บกักน้ำไว้ในปริมาณมาก ส่งผลให้ท้องอืดมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคไต โรคหัวใจได้ด้วย อาหารรสเผ็ด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงมีเมนส์อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรือท้องอืดได้ การรับประทานอาหารรสเผ็ด เช่น ส้มตำปลาร้า ต้มยำ ต้มแซ่บ อาจทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารและอาการท้องอืดหรือท้องเสียในช่วงเป็นเมนส์แย่ลงได้ ทั้งยังอาจส่งผลให้กระเพาะอาหารอักเสบได้ด้วย เนื้อสัตว์ติดมัน ขณะเป็นเมนส์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวเพื่อทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นเมนส์ในแต่ละรอบเดือน หากมีฮอร์โมนชนิดนี้มากเกินไป จะทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย ยิ่งหากกินเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น […]


โภชนาการพิเศษ

โกโก้ลดน้ำหนัก ได้จริงหรือไม่ และคำแนะนำในการบริโภค

โกโก้ (Cocoa) เป็นผลผลิตจากต้นโกโก้ที่นิยมนำไปทำเป็นอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ดาร์กช็อกโกแลต เครื่องดื่มโกโก้ น้ำมันโกโก้ ครีมเนยโกโก้ มาอย่างช้านาน หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า โกโก้ลดน้ำหนัก ได้จริงหรือไม่ การบริโภคโกโก้อาจช่วยลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักตัวได้ เนื่องจากโกโก้มีสารต้านอนมุลอิสระที่ช่วยควบคุมระดับไขมันและน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ และช่วยลดระดับคอเรลเตอรอล ทั้งยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 โฟเลต ทั้งนี้ ควรบริโภคโกโก้ในปริมาณและรูปแบบที่เหมาะสม คุณค่าทางโภชนาการของโกโก้ ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า ผงโกโก้ชนิดไม่หวานปริมาณประมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 228 กิโลแคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น คาร์โบไฮเดรต 57.9 กรัม โปรตีน 19.6 กรัม ไขมัน 13.7 กรัม โพแทสเซียม […]


ข้อมูลโภชนาการ

บร็อคโคลี่ ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

บร็อคโคลี่ เป็นผักในตระกูลกะหล่ำปลี นิยมบริโภคส่วนที่เป็นดอกโดยนำมาต้ม นึ่ง หรือผัด บร็อคโคลี่อุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินเค และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อควรระวังในการบริโภคบร็อคโคลี่สำหรับผู้ที่เป็นโรคบางชนิด เช่น ผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ บร็อคโคลี่ บร็อคโคลี่ 100 กรัม ให้พลังงานและสารอาหารสำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้ พลังงาน 34 กิโลแคลอรี โปรตีน 2.82 กรัม ไขมัน 0.37 กรัม โพแทสเซียม 316 มิลลิกรัม วิตามินซี 89.2 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 66 มิลลิกรัม แคลเซียม 47 มิลลิกรัม โซเดียม 33 มิลลิกรัม แมกนีเซียม […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน