โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม

สมุนไพรลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะสารสกัดในสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคทุกครั้ง  [embed-health-tool-bmi] สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม ขมิ้นชัน สรรพคุณ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ระบบการเผาผลาญภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมุนไพรขมิ้นชันจึงเป็นอีกกนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ผลข้างเคียง หากรับประทานขมิ้นชันในปริมาณสูงติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน  ขิง สรรพคุณ สารซิงเจอโรน ((Zingerone) ในขิงเป็นสารประกอบที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้สามารถควบคุมปริมาณในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ผลข้างเคียง ขิงเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้  แนะนำรับประทานไม่เกินวันละ 4 กรัม และในสตรีมีครรภ์ไม่เกินวันละ 1 กรัม  ส้มแขก สรรพคุณ หลายคนมักรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากส้มแขก เนื่องจากส้มแขกมีกรดมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (Hydroxycitric Acid: HCA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย และยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวน้อยลง  ผลข้างเคียง เวียนศีรษะ ปากแห้ง ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย  เม็ดแมงลัก สรรพคุณ เม็ดแมงลักเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

อกไก่ 100 กรัม โปรตีน และพลังงานเท่าไหร่ ประโยชน์ และข้อควรระวังการรับประทาน

อกไก่ 100 กรัม แบบปรุงสุก อุดมไปด้วย โปรตีน สังกะสี ทองแดง วิตามินบี และมีไขมันน้อย ที่อาจให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานอกไก่ในปริมาณที่เหมาะสม และควรรับประทานควบคู่กับอาหารประเภทอื่น ๆ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของอกไก่ 100 กรัม แบบปรุงสุก อกไก่สุก 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 158 กิโลแคลอรี และสารอาหารอื่น ๆ ดังนี้ โปรตีน 32.1 กรัม ไขมัน 3.24 กรัม โพแทสเซียม 343 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 241 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 32 มิลลิกรัม แคลเซียม 6 มิลลิกรัม นอกจากนี้ อกไก่ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ […]


โภชนาการพิเศษ

อบเชย เบาหวาน ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

อบเชย เป็นเปลือกไม้ชั้นในที่แห้งแล้วของต้นอบเชย โดยจัดเป็นเครื่องเทศซึ่งนิยมบริโภคในฐานะสมุนไพรเพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น มีคุณสมบัติกระตุ้นเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้สามารถตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น [embed-health-tool-bmi] เบาหวานคืออะไร เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนทั่วไป เนื่องจากตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าความต้องการของร่างกายหรือไม่ได้เลย หรืออาจเกิดจากการที่เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดีทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดบกพร่อง ส่งผลให้น้ำตาลสะสมในกระแสเลือดมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานโดยไม่ควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะเบาหวานขึ้นตา ปลายประสาทอักเสบ อบเชย เบาหวาน มีประโยชน์อย่างไร อบเชย เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลาย นิยมใช้บริโภคเพื่อเป็นยาและใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารมายาวนานกว่าพันปี อบเชยมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยการกระตุ้นให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายสามารถตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพระยะสั้นของการบริโภคอบเชยต่อความต้านทานกลูโคส เผยแพร่ในวารสาร Diabetes, Obesity and Metabolism ปี พ.ศ. 2550 นักวิจัยให้อาสาสมัครเพศชายที่มีอายุประมาณ 26 ปีและมีค่าดัชนีมวลกายประมาณ 24.5 จำนวน 7 ราย ทดสอบความต้านทานกลูโคส หรือประสิทธิภาพในการจัดการระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกาย จำนวน 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้ง อาสาสมัครจะบริโภคสารละลายกลูโคสควบคู่กับไปของกินที่แตกต่างกัน ดังนี้ การทดสอบครั้งที่ 1 บริโภคสารละลายกลูโคสพร้อมกับยาหลอก […]


ข้อมูลโภชนาการ

อบเชย ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

อบเชย เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ให้กลิ่นหอม และใช้เป็นยาสมุนไพรมานานนับพันปี มีลักษณะเป็นแท่งไม้แห้ง ๆ ขนาดสั้น นอกจากนั้น ยังมีการนำเปลือกอบเชยมาบดเป็นผงสีน้ำตาล ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและขนม ในงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า อบเชยมีสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิด เช่น แคโรทีน วิตามินเอ แคลเซียม โพแทสเซียม และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง รักษาโรคอัลไซเมอร์ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ อบเชย อบเชย 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 247 กิโลแคลอรี่ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 80.6 กรัม โปรตีน 3.99 กรัม ไขมัน 1.24 กรัม แคลเซียม 1,000 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 431 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 64 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 60 มิลลิกรัม โซเดียม 10 […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของโกโก้ และข้อควรระวังในการรับประทาน

โกโก้ เป็นผลผลิตจากต้นคาเคา (Cacao) มีแหล่งกำเนิดมาจากอเมริกาใต้ มักถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานและเครื่องดื่ม ประโยชน์ของโกโก้มีมากมายเนื่องจากโกโก้อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น เหล็ก แมกนีเซียม ซีลีเนียม สังกะสี อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการรับประทานโกโก้ในปริมาณมากเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของโกโก้ ผงโกโก้ 1 ถ้วย (86 กรัม) อาจให้พลังงาน 196 กิโลแคลอรี และมีโปรตีน 16.9 กรัม ไฟเบอร์ 31.8 กรัม และสารอาหารอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ โพแทสเซียม 1,310 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 631 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 429 มิลลิกรัม แคลเซียม 110 มิลลิกรัม เหล็ก 12 มิลลิกรัม สังกะสี 6 มิลลิกรัม ซีลีเนียม (Selenium) 3 ไมโครกรัม นอกจากนี้ ประโยชน์ของโกโก้ ยังมีอีกมากมายเนื่องจากโกโก้มีลูทีน ซีแซนทีน […]


ข้อมูลโภชนาการ

ขนมปังโฮลวีท ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

ขนมปังโฮลวีท เป็นขนมปังที่ทำจากแป้งข้าวสาลีเต็มเมล็ดหรือข้าวสาลีที่ยังไม่ขัดสี ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกว่าขนมปังขัดขาว หากเลือกรับประทานถูกชนิดและรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmr] คุณค่าทางโภชนาการของ ขนมปังโฮลวีท ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า ขนมปังโฮลวีท 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 254 กิโลแคลอรี่ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 43.1 กรัม โปรตีน 12.3 กรัม ไขมัน 3.55 กรัม โซเดียม 450 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 212 มิลลิกรัม แคลเซียม 163 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 76.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 55 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม โคลีน (Choline) 27.2 […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของวิตามิน มีอะไรบ้าง ช่วยส่งเสริมสุขภาพอย่างไร

ประโยชน์ของวิตามิน มีมากมาย โดยเฉพาะมีความสำคัญต่อการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย การทำงานของเซลล์ประสาท ช่วยควบคุมการเผาผลาญ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามินแต่ละชนิดในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ รวมถึงช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ประโยชน์ของวิตามิน วิตามินเป็นสารอาหารรองที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย เพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ช่วยควบคุมการเผาผลาญ สร้างเซลล์เม็ดเลือด ส่งเสริมการมองเห็น ช่วยสังเคราะห์เนื้อเยื่อกระดูก ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยวิตามินอาจแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก คือ วิตามินที่ละลายในน้ำและวิตามินที่ละลายในไขมัน โดยมีรายละเอียดดังนี้ วิตามินที่ละลายในน้ำ วิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในน้ำเพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย สำหรับวิตามินส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้ดูดซึมไปใช้งานได้จะถูกขับออกทางปัสสาวะจึงไม่สะสมในร่างกาย อย่างไรก็ตาม วิตามินที่ละลายในน้ำบางชนิดอาจสูญเสียไประหว่างการปรุงอาหาร ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับวิตามินลดน้อยลง โดยวิตามินที่ละลายในน้ำ มีดังนี้ วิตามินซี วิตามินซี หรือแอสคอร์บิก แอซิด (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สามารถพบได้ในอาหารตามธรรมชาติทั่วไป เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มะเขือเทศ มันฝรั่ง บร็อคโคลี่ ซึ่งร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เองจึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร โดยร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามินซีเพื่อใช้ในการทำงานในส่วนต่าง ๆ เช่น ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจนและสารสื่อประสาท ช่วยรักษาบาดแผล ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก และช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอย ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวัน […]


โภชนาการพิเศษ

ลําไส้อักเสบ ห้ามกินอะไร และวิธีดูแลตัวเองที่เหมาะสม

ลําไส้อักเสบ ห้ามกินอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โรคลำไส้อักเสบเป็นโรคที่ทำให้เยื่อบุลำไส้ใหญ่และไส้ตรงอักเสบ อาจทำให้ผู้ป่วยมีไข้ รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง รวมไปถึงท้องเสียอย่างรุนแรง จนอ่อนเพลียและสูญเสียน้ำได้ ผู้ป่วยจึงควรดื่มน้ำให้มาก ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้อาการลำไส้อักเสบแย่ลง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน เนื้อสัตว์ติดหนังและติดมัน อาหารเผ็ด [embed-health-tool-bmr] ลําไส้อักเสบ ห้ามกินอะไร ผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการกินอาหารบางชนิดที่ส่งผลต่อสุขภาพลำไส้และระบบทางเดินอาหาร และอาจทำให้โรคลำไส้อักเสบมีอาการรุนแรงขึ้น ดังนี้ เนื้อสัตว์ไขมันสูง การกินเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อหมูติดมัน ข้าวมันไก่ติดหนัง หมูกรอบ ในขณะที่อาการลำไส้อักเสบกำเริบ อาจทำให้ลำไส้ใหญ่ไม่สามารถดูดซับไขมันจากเนื้อสัตว์ได้เต็มที่ นอกจากนี้ เนื้อแดงอาจมีซัลเฟต (Sulfate) ในปริมาณสูง ซัลเฟตอาจก่อให้เกิดแก๊สในร่างกายและทำให้เยื่อบุผนังลำไส้ใหญ่เสียหาย จนอาการลำไส้อักเสบแย่ลงได้ อาหารรสชาติเผ็ด อาหารรสชาติเผ็ดมีสารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณเนื้อเยื่อในช่องปากและทางเดินอาหาร เยื่อบุผนังกระเพาะอาหารหรือเยื่อบุผนังลำไส้ใหญ่ระคายเคือง จนอาจส่งผลให้อาการลำไส้อักเสบแย่ลงได้ พืชตระกูลถั่ว พืชตระกูลถั่ว เช่น อัลมอนด์ ถั่วเหลือง ถั่วแระญี่ปุ่น มีเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำในปริมาณมาก หากกินมากไปอาจย่อยยาก ทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ใหญ่ และทำให้อาการลำไส้อักเสบแย่ลงได้ อย่างไรก็ตาม พืชตระกูลถั่วมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย จึงไม่ควรหยุดกินถั่วเลย แต่อาจเลือกกินถั่วที่ปรุงสุกจนอ่อนนุ่มแล้ว อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น […]


ข้อมูลโภชนาการ

ไซเลี่ยมฮัสค์ ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ไซเลี่ยมฮัสค์ (Psyllium Husk) เป็นเส้นใยอาหารตามธรรมชาติจากเมล็ดต้นเทียนเกล็ดหอยที่นิยมใช้บรรเทาอาการท้องผูกเนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย โดยเส้นใยไซเลี่ยมฮัสค์จะดูดซับของเหลวภายในลำไส้และขยายตัวใหญ่ขึ้น จึงช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหารในลำไส้ (Bulk-forming laxatives) ช่วยให้อุจจาระจับตัวกันเป็นก้อน เพิ่มขนาดอุจจาระ ทำให้ขับอุจจาระออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ เช่น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล จึงอาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคไซเลี่ยมฮัสค์อย่างระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อาการแพ้ คลื่นไส้ อาเจียน ไซเลี่ยมฮัสค์ (Psyllium Husk) คืออะไร ไซเลี่ยมฮัสค์ เป็นเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ทำมาจากเปลือกหุ้มเมล็ดไซเลี่ยมฮัสค์ หรือต้นเทียนเกล็ดหอย  (Plantago Ovata) มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็ก ๆ สีขาวขุ่น ไม่มีรสชาติและแทบไม่มีกลิ่น มักใช้เป็นยาระบาย โดยนำไปละลายกับน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ  ไซเลี่ยมฮัสค์จะกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยในการขับถ่าย นอกจากนี้ ยังใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารทั่วไป เช่น ซีเรียล และใช้เป็นอาหารเสริมในรูปแบบแคปซูล ผงสำหรับชงดื่ม อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจใช้ยาระบายเพื่อแก้ไขปัญหาท้องผูก ควรดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ออกกำลังกายและขยับร่างกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผัก ผลไม้ คุณค่าทางโภชนาการของไซเลี่ยมฮัสค์ ไซเลี่ยมฮัสค์ประมาณ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ทานตะวัน ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ทานตะวัน เป็นไม้ดอกที่มีดอกสีเหลืองสดใสเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย นอกจากจะนำดอกไปประดับตกแต่งแล้ว ยังนิยมรับประทานเมล็ดทานตะวันเป็นของว่างเพื่อสุขภาพ และนำเมล็ดทานตะวันมาสกัดน้ำมันไปประกอบอาหารและทาบำรุงผิว เนื่องจากมีโปรตีนสูง อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังสามารถนำต้นอ่อนทานตะวันมาประกอบอาหารได้ด้วย การบริโภคทานตะวันในปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยในการลดระดับความดันโลหิต อาจควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และอาจช่วยลดการอักเสบได้ คุณค่าทางโภชนาการของ ทานตะวัน ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า เมล็ดทานตะวัน 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 584 กิโลแคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น ไขมัน 51.5 กรัม โปรตีน 20.8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 20 กรัม ฟอสฟอรัส 660 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 645 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 325 มิลลิกรัม แคลเซียม 78 มิลลิกรัม โซเดียม 9 มิลลิกรัม นอกจากนี้ […]


ข้อมูลโภชนาการ

หล่อฮังก๊วย ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

หล่อฮังก๊วย เป็นสมุนไพรจีนที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มร้อนเพื่อรักษาอาการเจ็บคอและขับเสมหะ นอกจากนี้ หล่อฮังก๊วยยังให้รสหวานที่มากกว่าน้ำตาลในธรรมชาติ 250 เท่า จึงมักใช้เป็นสารให้ความหวานทดแทนที่อาจช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคเบาหวาน รวมถึงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยป้องกันการพัฒนาของเซลล์มะเร็งได้ ประโยชน์ของหล่อฮังก๊วยต่อสุขภาพ อาจดีต่อการลดน้ำหนัก หล่อฮังก๊วย เป็นพืชที่ไม่มีแคลอรี่ แป้ง และไขมัน การรับประทานหล่อฮังก๊วยจึงไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และไม่ทำให้เกิดไขมันสะสมในร่างกาย จึงสามารถรับประทานหล่อฮังก๊วยเป็นสารให้ความหวานทดแทนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะน้ำหนักเพิ่มขึ้น อาจปลอดภัยต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน หล่อฮังก๊วยมีสารโมโกรไซด์ ซึ่งเป็นสารให้ความหวานตามธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเพื่อเป็นทางเลือกในการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Yao Xue Xue Bao เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ศึกษาเกี่ยวกับสารโมโกรไซด์จากหล่อฮังก๊วยต่อการกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน พบว่า หล่อฮังก๊วยมีสารให้ความหวานตามธรรมชาติอย่างสารโมโกรไซด์ที่อาจช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินได้ อย่างไรก็ตาม เป็นข้อมูลในห้องทดลอง ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป อาจช่วยต้านมะเร็ง หล่อฮังก๊วยอาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็งได้ เนื่องจากสารโมโกรไซด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอาจช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย และอาจช่วยต้านการพัฒนาของเซลล์มะเร็ง โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 ศึกษาเกี่ยวกับการต้านการพัฒนาของเซลล์มะเร็งของหล่อฮังก๊วย พบว่า สารโมโกรไซด์ที่พบในหล่อฮังก๊วยเป็นสารให้ความหวานในกลุ่มไตรเทอร์พีน ไกลโคไซด์ (Triterpene Glycosides) ที่มีฤทธิ์ต้านเนื้องอก อาจช่วยต้านการพัฒนาของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งลำคอ และมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ ทั้งนี้ เป็นเพียงการทดลองในหลอดทดลอง ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์ต่อไป ข้อควรระวังในการบริโภคหล่อฮังก๊วย แม้อาการแพ้หล่อฮังก๊วยอาจเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากหล่อฮังก๊วยเป็นพืชตระกูลน้ำเต้า โดยผู้ที่มีอาการแพ้น้ำเต้าหรือพืชชนิดอื่น ๆ ที่อยู่ในตระกูลนี้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน