โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

Sedentary Lifestyle เลิกได้ เลิก! รู้จัก “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ต้นเหตุของผลเสียต่อสุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ  จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle” “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

ปลาทะเล ประโยชน์และข้อควรระวังในการรับประทาน

ปลาทะเล อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย พัฒนาการทางสมองทั้งการเรียนรู้ ความทรงจำและการมองเห็น โดยเฉพาะในเด็ก นอกจากนี้ ยังอาจช่วยต้านการอักเสบ บำรุงสุขภาพผิวและสุขภาพหัวใจ ดังนั้น การรับประทานปลาทะเลที่มีไขมันสูงในปริมาณที่พอเหมาะ จึงอาจส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ประโยชน์ในการรับประทานปลาทะเล ปลาทะเลมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของปลาทะเลในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ปลาทะเลและอาหารทะเลอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างกรดไอโคซาเพนตาอีโนอิกหรือกรดไขมันอีพีเอ (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิกหรือดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่พบได้มากในปลาทะเลและอาหารทะเลหลายชนิด เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า กุ้ง กุ้งก้ามกราม หอยแมลงภู่ ปลาหมึก หอยเป๋าฮื้อ ที่อาจมีประโยชน์ในการช่วยต้านการอักเสบ บำรุงสุขภาพผิว บำรุงสุขภาพหัวใจ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทำงานของสมอง การเรียนรู้และความจำ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Molecular Sciences เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ศึกษาเกี่ยวกับกรดไขมันสำหรับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด พบว่า […]


โรคอ้วน

วิธีลด เหนียง กระชับใบหน้าให้เรียว ทำได้อย่างไร

วิธีลด เหนียง เป็นวิธีที่อาจช่วยลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใต้คาง ลดปัญหาผิวหนังใต้คางหย่อนคล้อยเนื่องจากการสะสมของไขมันที่มากเกินไป รวมถึงลดเหนียงที่เกิดขึ้นตามวัย ซึ่งวิธีลดเหนียงอาจทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และวิธีทางการแพทย์ เหนียง เกิดจากอะไร เหนียง คือ ลักษณะผิวหนังหย่อนคล้อยบริเวณใต้คาง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่อาจเกิดจากไขมันใต้ผิวหนังที่สะสมในปริมาณมากบริเวณใบหน้าและใต้คาง พบบ่อยในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากหรือเป็นโรคอ้วน นอกจากนี้ เหนียงยังอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้ พันธุกรรม ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีลักษณะใบหน้าสั้นหรือมีเหนียงตั้งแต่กำเนิด อาจส่งต่อทางพันธุกรรมได้ อายุ การสะสมของไขมันบริเวณผิวหนังใต้คางร่วมกับความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ลดลงตามอายุ อาจทำให้ผิวหนังใต้คางหย่อนคล้อยและเกิดเป็นเหนียงได้ ลักษณะทางกายภาพและการเผาผลาญไขมัน แต่ละคนมีการเผาผลาญไขมันและการสะสมของไขมันในร่างกายที่แตกต่างกัน ในบางคนอาจมีรูปร่างผอมและไขมันสะสมมากที่บริเวณใบหน้าและใต้คาง ส่งผลให้คนผอมอาจมีเหนียงได้เช่นกัน พฤติกรรมท่าทางที่ทำซ้ำ ๆ เช่น การก้มหน้าเล่นมือถือเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังบริเวณใต้คางถูกกดทับซ้ำ ๆ จนเกิดความอ่อนตัว และเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ผิวหนังใต้คางหย่อนคล้อย สูญเสียความยืดหยุ่นจนกลายเป็นเหนียง การรับประทานอาหาร เหนียงอาจมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันในปริมาณมาก เช่น เนื้อสัตว์ติดมันและหนัง อาหารแปรรูป ของทอด จึงอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันใต้คางมากขึ้น วิธีลด เหนียง วิธีลด เหนียง อาจมีเป้าหมายเพื่อลดการสะสมของไขมันใต้คาง ซึ่งสามารถช่วยลดเหนียงได้ในระยะยาว โดยวิธีลดเหนียงอาจทำได้ ดังนี้ การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอาจเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันทั่วทั้งร่างกาย รวมทั้งช่วยลดไขมันบริเวณใต้คาง โดยควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ […]


โภชนาการพิเศษ

สมุนไพร แก้เบาหวาน สรรพคุณ มีอะไรบ้าง

สมุนไพร แก้เบาหวาน สรรพคุณ หมายถึง สมุนไพรที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการเบาหวาน โดยผู้ป่วยเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเนื่องจากความบกพร่องของตับอ่อนในการผลิตฮอร์โมนอินซูลินสำหรับควบคุมระดับน้ำตาลของร่างกาย ทั้งนี้ สมุนไพร แก้เบาหวาน มีสรรพคุณที่สำคัญ ได้แก่ การช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับไขมันในเลือด และช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต โดยสมุนไพรที่อาจมีสรรพคุณดังกล่าว ได้แก่ ขิง ว่านหางจระเข้ อบเชย ใบกะเพรา [embed-health-tool-bmr] เบาหวานคืออะไร เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไป เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดบกพร่อง ส่งผลให้น้ำตาลสะสมในกระแสเลือดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่มีสุขภาพดีจะอยู่ระหว่าง 70-100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หากตรวจพบว่าระดับน้ำตาลสูงกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร อาจหมายความว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ผนังหลอดเลือดมักเกิดความเสียหาย และเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะเบาหวานขึ้นตา ปลายประสาทอักเสบ สมุนไพร แก้เบาหวาน สรรพคุณ ในประเทศไทย มีสมุนไพรหลายชนิดที่มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ว่าอาจช่วยต้านหรือบรรเทาโรคเบาหวานได้ โดยสมุนไพร แก้เบาหวาน ได้แก่ ขิง ขิงมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส […]


โรคอ้วน

Cushing syndrome คืออะไร มีสาเหตุและอาการอะไรบ้าง

Cushing syndrome (กลุ่มอาการคุชชิง) คือ ภาวะที่เกิดจากการที่ร่างกายมีฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) มากเกินไป จนทำให้เกิดความบกพร่องในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการทำงานของระบบการเผาผลาญ จนอาจส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่ม มีไขมันสะสม และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน หากสังเกตว่ามีอาการเหนื่อยล้า น้ำหนักขึ้นผิดปกติ มีไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวน ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาทันที [embed-health-tool-bmi] Cushing syndrome คืออะไร  Cushing syndrome คือ ความผิดปกติของร่างกาย่ที่เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายมีระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเกินไป โดยฮอร์โมนคอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนถูกสร้างขึ้นจากต่อมหมวกไต มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และการเผาผลาญไขมันในอาหารให้เป็นพลังงาน แต่หากมีปริมาณมากก็อาจทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล จนเสี่ยงก่อให้เกิดโรค Cushing syndrome ที่ส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น อ้วนลงพุง มีไขมันสะสมบนใบหน้า อีกทั้งยังอาจเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และอาจสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและกระดูกได้ สาเหตุของ Cushing syndrome สาเหตุของ Cushing syndrome มีดังนี้ ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เช่น เพรดนิโซน (Prednisone) เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) เมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone) ที่นิยมใช้รักษาโรคหอบหืด โรคลูปัส (Systemic Lupus […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เป็นริดสีดวงห้ามกินอะไร และอาหารแบบไหนที่ควรกิน

ริดสีดวงทวารหนัก คือ โรคที่เกิดจากหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักขยายตัวจนเกิดเป็นติ่งเนื้อบริเวณขอบทวารหนัก หรืออาจเกิดจากเนื้อเยื่อภายในปากรูทวารหนักหย่อนยาน จนบวม แดง หรือแสบร้อน และบางครั้ง การเบ่งถ่ายอุจจาระก็อาจทำให้หลอดเลือดฉีกขาดจนมีเลือดออกได้ด้วย โรคนี้พบได้บ่อย และหลายคนอาจสงสัยว่า เป็นริดสีดวงห้ามกินอะไร โดยทั่วไป ผู้ที่เป็นริดสีดวงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ทำให้ท้องผูก เพราะอาจไปกระตุ้นให้ริดสีดวงอักเสบ และควรกินอาหารที่มีใยอาหารสูงและย่อยง่าย ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นประจำ ถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดริดสีดวงและช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงได้ เป็นริดสีดวงห้ามกินอะไร ริดสีดวงมักเกิดจากหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักขยายตัวจนอักเสบและบวม พฤติกรรมการกินอาหารอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นการอักเสบหรือทำให้อาการแย่ลงได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นโรคริดสีดวง มีดังนี้ ธัญพืชขัดสี ธัญพืชที่ผ่านการขัดสี เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว พาสต้า บะหมี่ มีใยอาหารน้อยและย่อยได้ยาก อาจทำให้ท้องผูกหรืออุจจาระไม่ออก จนเกิดริดสีดวงหรือกระตุ้นให้ริดสีดวงอักเสบได้ อาหารแปรรูป อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม แหนม มักมีไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้ท้องผูก และทำให้อาการของโรคริดสีดวงแย่ลงได้ แอลกอฮอล์และคาเฟอีน ผู้ที่เป็นริดสีดวงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม เนื่องจากแอลกอฮอล์และคาเฟอีนกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ลำไส้ดูดน้ำจากอาหารที่ย่อยแล้วจนทำให้อุจจาระแห้งและแข็ง ส่งผลให้ขับของเสียออกจากร่างกายได้ยากขึ้น จนอาจเกิดอาการท้องผูกที่ทำให้อาการริดสีดวงแย่ลงได้ เนื้อแดง เนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

คีโตกินอะไรได้บ้าง และอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง

การรับประทานอาหารแบบคีโต หรือ คีโตเจนิค (Ketogenic Diets) เป็นการรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนัก โดยเน้นการบริโภคอาหารที่มีไขมันและโปรตีน โดยบริโภคคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่น้อยที่สุด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่เป็นพลังงาน และทำให้น้ำหนักตัวลดลง หากถามว่า คีโตกินอะไรได้บ้าง คำตอบคือ เนื้อสัตว์ อาหารทะเลต่าง ๆ ผักที่มีสัดส่วนคาร์โบไฮเดรตน้อย เครื่องดื่มที่ไม่เติมน้ำตาล ถั่วและเมล็ดพืชบางชนิด ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารแบบคีโตควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือมีน้ำตาลสูง เช่น ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ มะม่วง ส้ม ฟักทอง มันฝรั่ง มันเทศ น้ำผึ้ง [embed-health-tool-bmi] คีโต คืออะไร การรับประทานอาหารแบบคีโต หรือ คีโตเจนิค สามารถรับประทานไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้หลายรูปแบบ แต่หลักการ คือ จะเน้นบริโภคอาหารที่มีไขมันดี ในอัตราส่วน 75 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยโปรตีนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ และคาร์โบไฮเดรตเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ การรับประทานอาหารแบบคีโต จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายเผาผลาญไขมันเป็นพลังงาน ส่งผลให้มวลไขมันที่สะสมอยู่ลดลง และน้ำหนักตัวโดยรวมลดลงตามไปด้วย คีโตกินอะไรได้บ้าง การรับประทานอาหารแบบคีโต ควรเลือกรับประทานอาหารต่าง […]


ข้อมูลโภชนาการ

มะกรูด ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค

มะกรูด (Kaffir Lime) เป็นพืชตระกูลส้มชนิดหนึ่ง มีต้นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตอนใต้ของประเทศจีน มีเปลือกสีเขียวเข้ม ผิวขรุขระ ส่วนเนื้อเป็นสีเขียวอ่อน รสชาติเปรี้ยวเหมือนมะนาวแต่มีรสฝาดเล็กน้อย มะกรูดนิยมใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารไทยหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะในเครื่องพริกแกง นอกจากนั้น น้ำมันหอมระเหยจากมะกรูดยังนิยมใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำหอม มะกรูดประกอบด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ นานาชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของ มะกรูด มะกรูด 1 ผล หรือ 67 กรัม ให้พลังงานประมาณ 20 กิโลแคลอรี่ รวมถึงมีสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม วิตามินซี 28.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 20 มิลลิกรัม โซเดียม 1 มิลลิกรัม นอกจากนี้ มะกรูดยังมีสารอาหารอื่น ๆ ด้วย คือ ใยอาหาร วิตามินเอ เหล็ก น้ำตาลกลูโคส ประโยชน์ต่อสุขภาพของ มะกรูด มะกรูด อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของมะกรูด […]


ข้อมูลโภชนาการ

พริกหวาน ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

พริกหวาน หรือ พริกหยวก (Bell Peppers) จัดอยู่ในกลุ่มผลไม้ ที่มีสีเขียว เหลือง แดง และส้ม นิยมนำมาปรุงอาหารและรับประทานสด พริกหวานมีรสชาติหวานอ่อน ๆ และมีความเผ็ดน้อยกว่าพริกอื่น ๆ นอกจากนี้ พริกหวานยังมีสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี โพแทสเซียม ที่อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบทางเดินอาหารและอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของพริกหวาน พริกหวานหนึ่งถ้วย อาจให้พลังงาน 30 แคลอรี่ และมีคาร์โบไฮเดรต 7 กรัม ที่ประกอบด้วยน้ำตาล 3.5 กรัม ไฟเบอร์ 2.5 กรัม และสารอาหารอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 6 โพแทสเซียม โฟเลต นอกจากนี้ พริกหวานยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีน (Lutein) แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

Paleo diet คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่

Paleo diet คือ การรับประทานอาหารแบบยุคหิน เป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่เน้นผัก ผลไม้ ถั่ว เนื้อสัตว์ คล้ายกับอาหารที่คนในยุคหินรับประทาน ซึ่งอาจช่วยควบคุมน้ำหนักได้ อีกทั้งยังอาจช่วยลดระดับความดันโลหิต ป้องกันโรคเบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม หากรับประทานไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหาร ท้องร่วง หรือท้องผูกได้ จึงควรปรึกษาคุณหมอเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารให้เหมาะสมก่อน [embed-health-tool-bmi] Paleo diet คืออะไร Paleo diet คือ การรับประทานอาหารแบบมนุษย์ยุคหิน หรือเมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อน ที่เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ ถั่ว เนื้อสัตว์ และเนื้อปลา เนื่องจากเป็นอาหารที่คนในยุคนั้นหารับประทานได้ง่าย หลีกเลี่ยงการรับประทานคาร์โบไฮเดรตแปรรูป ธัญพืชที่ผ่านการขัดสี น้ำตาล ผลิตภัณฑ์จากนม และน้ำมัน ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ น้ำมันต่าง ๆ ชีส มันฝรั่ง น้ำอัดลม กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารในรูปแบบ Paleo diet ยังอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบภูมิคุ้มกัน ลดความดันโลหิตที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่อาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้อีกด้วย ผู้ที่อาจเหมาะกับ […]


ข้อมูลโภชนาการ

อาหารหลัก 5 หมู่และประโยชน์ของสารอาหาร

อาหารหลัก 5 หมู่ คือ กลุ่มอาหารที่ร่างกายควรได้รับอย่างครบถ้วนในแต่ละวัน ประกอบไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ วิตามินและไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย [embed-health-tool-bmi] ทำไมจึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน ช่วยทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการทำงานตามปกติ อีกทั้งยังอาจช่วยเพิ่มพลังงาน ลดอาการเหนื่อยล้า ควบคุมน้ำหนัก ป้องกันภาวะทุพโภชนาการหรือโรคขาดสารอาหาร และอาจลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน อาหารหลัก 5 หมู่และประโยชน์ของสารอาหาร อาหารหลัก 5 หมู่และประโยชน์ของสารอาหาร มีดังนี้ หมู่ที่ 1 โปรตีน อาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อไก่ พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้ ไข่ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพในร่างกาย ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยนำส่งออกซิเจนที่อยู่ในเลือด ให้ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย และมีความสำคัญต่อการสร้างแอนติบอดี ที่ทำหน้าที่ในการต่อสู่กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการติดเชื้อจนเจ็บป่วย หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้เซลล์ประสาทเสียหาย […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน