backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 22/07/2020

กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid)

กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) หรือ วิตามินซี (Vitamin C) คือยาวิตามินซีที่ละลายน้ำได้ มักใช้สำหรับการขาดวิตามินซี เพิ่มการขับธาตุเหล็กจากการรักษาโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ด้วยการใช้ร่วมกับยาดีเฟอร็อกซามีน (Desferrioxamine)

ข้อบ่งใช้

กรดแอสคอร์บิก ใช้สำหรับ

กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) หรือ วิตามินซี (Vitamin C) คือยาวิตามินซีที่ละลายน้ำได้ มักใช้สำหรับ

  • ป้องกันและรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินซี
  • สำหรับการเพิ่มการขับธาตุเหล็กจากการรักษาโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ด้วยการใช้ร่วมกับยาดีเฟอร็อกซามีน (Desferrioxamine)
  • ภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือดที่ไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic methemoglobinemia) เมื่อไม่มียาเมทิลีน บลู (Methylene blue)
  • ไข้หวัด แผลที่ฟื้นฟูได้รวดเร็ว ป้องกันโรคมะเร็ง (ยังไม่มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้)
  • วิธีการใช้ กรดแอสคอร์บิก

    ในรูปแบบรับประทาน คุณควรทำดังนี้

    • รับประทานกรดแอสคอร์บิก ตามขนาดยา และตารางการกินยาที่แพทย์กำหนด
    • อ่านฉลากยาอย่างละเอียดก่อนใช้กรดแอสคอร์บิก
    • ปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉลากยาที่คุณไม่เข้าใจ
    • การเก็บรักษายากรดแอสคอร์บิก

      กรดแอสคอร์บิกควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง กรดแอสคอร์บิกบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

      ไม่ควรทิ้งกรดแอสคอร์บิกลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร

      ข้อควรระวังและคำเตือน

      ข้อควรรู้ก่อนใช้ยากรดแอสคอร์บิก

      ก่อนใช้กรดแอสคอร์บิก แจ้งให้แพทย์ทราบในกรณีต่อไปนี้

      • มีประวัติแพ้ยากรดแอสคอร์บิกและกระสายยาสำหรับยาที่มีส่วนประกอบกรดแอสคอร์บิก
      • แพ้ยาอื่น อาหาร สีย้อม สารกันบูด หรือสัตว์
      • เป็นเด็ก
      • เป็นผู้สูงอายุ
      • ใช้ยาสำหรับโรคอื่นๆ ที่มีปฏิกิริยากับกรดแอสคอร์บิก

      ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

      วิตามินซีสามารถส่งผ่านรกไปยังทารกในครรภ์ได้ แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยทั้งในสัตว์และหญิงตั้งครรภ์ และยังไม่มีผลกระทบให้เห็นหากได้รับวิตามินซีน้อยกว่าความต้องการในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม การดื่มวิตามินซีปริมาณมากขณะตั้งครรภ์อาจเพิ่มความต้องการวิตามินซี และส่งผลให้เกิดโรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) ในเด็กทารกได้

      วิตามินซีสามารถแพร่กระจายเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ โดยผู้ที่รับประทานวิตามินซีขณะให้นมบุตรอาจไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นกับเด็กทารก

      ผลข้างเคียง

      ผลข้างเคียงของการใช้กรดแอสคอร์บิก

      การรับประทานกรดแอสคอร์บิกในขณะรับประทานยาอื่น สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นไปได้ยาก และไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากใช้ยานี้แล้วเกิดปัญหาใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

      ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาจมีออกซาเลต (Oxalate) ในปัสสาวะเพิ่มขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน แสบร้อนกลางอก ปวดท้อง เหนื่อยล้า หน้าแดง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ง่วงซึม และหากรับประทานวันละ 1 กรัม หรือมากกว่านั้น อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้อีกด้วย การฉีดยาวิตามินซีขนาดสูงเข้าทางหลอดเลือดดำนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น วิธีการฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดจึงไม่สมควร และไม่ปลอดภัย

      ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

      ปฏิกิริยาของยา

      ปฏิกิริยากับยาอื่น

      กรดแอสคอร์บิกอาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

      ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

      กรดแอสคอร์บิกอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

      ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

      กรดแอสคอร์บิคอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีอาการและโรคต่อไปนี้

      • ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (Deficiency of glucose – 6 – phosphate dehydrogenase) หรือความเสี่ยงในการเกิดโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก (Hemolytic anemia)
      • มีประวัติเป็นโรคนิ่วในไต
      • ภาวะออกซาเลตในปัสสาวะสูง (Hyperoxaluria) และ การเผาผลาญออกซาเลต (oxalate metabolism)
      • ธาลัสซีเมีย (Thalassemia)

      ขนาดยา

      ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนการใช้ยานี้

      ขนาดยากรดแอสคอร์บิกสำหรับผู้ใหญ่

      สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนาดยาในการใช้ยากรดแอสคอร์บิก ไฮโดรคลอไรด์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพิ่มเติม ขนาดยาที่แนะนำในบางกรณีมีดังนี้

      • สำหรับเป็นอาหารเสริม 50-200 มก./วัน
      • สำหรับโรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) 100-250 มก. วันละ 1-2 ครั้ง เป็นเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
      • สำหรับการเพิ่มการขับธาตุเหล็ก 100-200 มก./วัน
      • สำหรับภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือด (Methemoglobin)  300-600 มก./วัน แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ

      ขนาดยากรดแอสคอร์บิกสำหรับเด็ก

      สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนาดยาในการใช้ยากรดแอสคอร์บิก ไฮโดรคลอไรด์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพิ่มเติม ขนาดยาที่แนะนำในบางกรณีมีดังนี้

      • สำหรับเสริมอาหาร 35-100 มก./วัน
      • สำหรับโรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) 100-300 มก. แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง ต่อวัน เป็นเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
      • สำหรับภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือด 300-600 มก./วัน แบ่งเป็นยามือเล็กๆ

      รูปแบบของกรดแอสคอร์บิก

      ความแรงและรูปแบบของกรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี) มีดังนี้

      • แคปซูลแบบออกฤทธิ์นาน  500 มก.
      • ยาเม็ด  50 มก. 100 มก. 250 มก. 500 มก. 1 กรัม
      • ยาเม็ดแบบเคี้ยว  100 มก. 250 มก. 500 มก. 1 กรัม
      • ยาเม็ดแบบออกฤทธิ์นาน  500 มก. 1 กรัม 1.5 กรัม
      • ยาเม็ดฟู่  1 กรัม

      กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

      หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

      กรณีลืมใช้ยา

      หากคุณลืมรับประทานยาควรรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้รับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

      หมายเหตุ

      Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด



      ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

      เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

      ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


      เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 22/07/2020

      ad iconโฆษณา

      คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

      ad iconโฆษณา
      ad iconโฆษณา